Chapter 817 ศิษย์เทพอาหาร
“เจ้านิกายจุน.”
หลังจากกลับตำหนักเจ้าเมือง เจ้าเมืองหานหมดคำจะพูด “เจ้าอย่าได้ให้ข้าต้องกระทำการเช่นนี้อีกได้หรือไม่?”
แม้นว่าเจ้าเมืองจะมีสถานะสูงสุด ทว่าก็ไม่สามารถทำผิดกฎหมายได้ เวลานั้นต่อหน้าทุกคน เขาได้ปกป้องนิกายนิรันดรอย่างชัดเจน เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก.
“ครั้งหน้าไม่มีแล้ว.”จุนซ่างเซียวที่กล่าวขอโทษ.
เขาและเจ้าเมืองเมืองหานเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกัน ดังนั้นอีกฝ่ายจึงก้าวออกไปช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นแล้วราชาสัตว์จื่อหลินจะต้องได้รับการลงโทษแน่.
“มีสองหอการค้าที่ได้ชัยชนะซื้อโฆษณาครั้งนี้ วิธีการโฆษณาต้องรบกวนเจ้าแล้ว.”เจ้าเมืองหานเอ่ย.
เอ่ยถึงธุรกิจ ยอดฝีมือปราชญ์ยุทธ์ผู้นี้เผยยิ้มออกมาทันที เห็นชัดเจนว่าก่อนหน้านี้เรื่องเล็กน้อย เรื่องเงินสิคือเรื่องสำคัญ!
“ไม่มีปัญหา.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
จากนั้นเขาก็พูดคุยกับเจ้าเมืองหานเสร็จ เขาก็กลับมายังสวน ตอนนี้เห็นหลิวหว่านซีนั่งอยู่ที่ศาลา ใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ.
“กำลังคิดอะไร?”จุนซ่างเซียวที่นั่งลง.
หลิวหว่านซีที่เงยหน้าเอ่ยออกมาว่า“เจ้านิกาย ข้าขอโทษ......”
“ทำไมต้องขอโทษกัน?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“เพราะว่า.....”หลิวหว่านซีเอ่ย “สถานะของข้า ทำให้เจ้านิกายขายหน้า.”
“เด็กโง่.”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม“สถานะเจ้าคือศิษย์นิกายนิรันดร มีอะไรหน้าขายหน้ากัน?”
“ข้า....สถานะอีกอย่างของข้า.”หลิวหว่านซีเอ่ย.
จุนซ่างเซียวขมวดคิ้ว “เปิ่นจั้วเอ่ยอยู่เสมอ คนอื่นสามารถดูถูกตัวเราได้ ทว่าตัวเราห้ามดูถูกตัวเองเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วใครก็ช่วยไม่ได้.”
หลิวหว่านซีไม่ต้องการดูถูกตัวเอง ทว่านางคือบุตรนอกกฎหมาย เพียงแค่ได้ยิน ก็ทำให้หน้าเศร้าเจ็บปวดแล้ว.
“เจ้าดู.”
จุนซ่างเซียวยที่ชี้ไปยังราชาสัตว์จื่อหลินที่กำลังกินข้าวผัดอย่างอร่อย “เขาคือราชาเผ่าสัตว์ สถานะสูงส่ง ทว่าก็ยังมาเป็นศิษย์นิกายนิรันดร เจ้าเห็นเขาไม่มีความสุขรึ?”
หลิวหว่านซี“......”
“ทำไมเขาจะไม่มีความสุข? นั่นก็เพราะมีข้าวผัดของเจ้าไงล่ะ!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “สถานะราชาสัตว์นั้นต่อหน้าฝีมือทำอาหารของเจ้า ไม่มีอะไรเลย ดังนั้น สถานะของเจ้าจะสูงหรือต่ำมันไม่มีความหมาย เจ้าอย่าได้สนใจกับพวกที่บกพร่องทางใจไร้สามารถทำได้แต่ดูแคลนคนอื่นเพื่อปิดบังสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้”
เจ้านิกายที่อธิบาย หลิวหว่านซีที่เหมือนว่าจะเข้าใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นราชาสัตว์จื่อหลินกินข้าวผัดของนางอย่างอร่อย จากนั้นก็ผ่อนคิ้วที่ขมวดคิ้วลง เผยยิ้ม “ศิษย์เข้าใจแล้ว.”
“การแข่งขันนี้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าจะต้องปรับสภาพจิตใจ เอาชัยชนะเลิศมาให้นิกายนิรันดรให้ได้!”
“อืม!”
หลิวหว่านซีที่พยักหน้าหนักแน่น.
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ นำชุดสีขาวล้วนออมา“นี่คือชุดเครื่องแบบของพ่อครัวบรรพชนรุ่นก่อนเคยสวมใส่ เจ้าจงใส่มันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับนิกาย!”
ระบบเอ่ย “เห็นชัดเจนว่าซื้อมาจากร้านค้าระบบ!”
ด้วยต้องการให้หลิวหว่านซีมีความมั่นใจ เขาไม่ลังเลที่จะใช้แต้มซื้อชุดเครื่องแบบแม่ครัวในโลกเดิมของเขาเลย.
“กึก.”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่ก้าวออกมากห้อง หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว จ้องมองไปยังศาลา คิดในใจ“พวกเขากระซิบกระซาบอะไรกัน?”
......
วันแข่งขันได้มาถึงแล้ว ท้องฟ้าที่สดใส อากาศอบอุ่น.
เหล่าชาวยุทธ์ที่เดินทางไปยังพื้นที่เขตตะวันตก ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันในครั้งนี้.
จุนซ่างเซียวที่นำราชาสัตว์จื่อหลินและเหยาเมิ่งหยิงไปชมการแข่งขันด้วย.
“เจ้านิกายจุน.”
ขณะที่เขาได้ที่นั่ง ถังเหรินที่ก้าวเข้ามา ยกมือประสาน “ข้ามาเชียร์ศิษย์ของท่านโดยเฉพาะ.”
“ขอบคุณ!”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือประสานไปด้านหน้า.
เวทีการแข่งขันเป็นลานขนาดใหญ่ บนนั้นมีครัวที่แบ่งกันเป็นห้อง ๆ แต่ละห้องมีอุปกรณ์เครื่องครัวครบครัน.
ใช่แล้ว.
นี่คือการแข่งขันเทพอาหาร.
การแข่งขันบนเวทีขนาดใหญ่ที่มีการแบ่งกั้นผู้เข้าร่วมการแข่งขันด้วยผนัง ด้านบนเวทีมีตัวอักษร“เทพอาหาร”ตั้งอยู่.
ค่ายกลสะท้อนที่สาดส่องมาจากมุมต่าง ๆ ถ่ายทอดสดไปทั่วแผ่นดิน เหล่าชาวยุทธ์ที่ได้ได้เดินทางมา ต่างก็หาพื้นที่นั่งเฝ้ามองการประลองทำอาหารครั้งนี้ด้วย.
แน่นอน.
นี่ไม่ใช่การแข่งขันการต่อสู้ ดังนั้นบรรยากาศอาจจะดูสงบหน่อย.
“ตึง ตึง ตึง.....ตึง ตึง ตึง!”
ขณะที่ทุกคนรอคอยผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่สนาม ภาพก็ตัดไปโฆษณาร้านขายยาถังตานทันที.
ไม่!
การแข่งขันเทพอาการกำลังจะเริ่ม กับมีโฆษณามาขั้นซะแล้ว!
อย่างไรก็ตาม.
เหล่าผู้ชมแทบทรุดไปเหมือนกัน.
เพราะไม่ได้มีโฆษณาเดียว.
มีการโฆษณาหลายสิบสินค้า ก่อนที่ภาพจะคืนกลับมายังการแข่งขัน.
บัดซบ นี่มันงานแข่งขันเทพอาหาร หรือว่างานโฆษณากันแน่!
“ทุกท่าน.”
ในเวลานั้น ที่กลางเวทีมีชายวัยกลางคนเอ่ยกล่าวด้วยเสียงดังสดใส“ยินดีต้องกรับการแข่งขันเทพอาหารครั้งที่ 50 ข้าหวงจินต้วนผู้ดำเนินรายการ.”
“ครั้งที่ 50 อย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวถึงกับสะดุ้ง.
ถังเหรินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่สอบถามออกมา“เจ้านิกายจุน มีปัญหาอะไรรึ?”
“ไม่ใช่ครั้งที่ 49 หรอกรึ?”
“นั่นมันครั้งที่แล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาทันที
เขาจำได้เพื่อนร่วมเดินทางเฉียนปูโตวที่นำตราประทับหัวหน้ากรรมการครั้งที่ 49 ออกมา ทำให้เขาคิดว่าการประลองครั้งนี้เป็นครั้งที่ 49.
ไม่ใช่ ไม่ใช่สิ!
ในเมื่อการแข่งขันครั้งที่ 50 แล้วหัวหน้ากรรมการครั้งที่ 49 นั่นมันอะไรกัน!
“สหายถัง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “รู้จักเฉียนปูโตวหรืไม่?”
“รู้จัก”
ถังเหรินเอ่ย “เขาเป็นชายอ้วนพุงพลุ้ยที่ร่ำรวยเป็นเจ้าของเหมืองแร่และเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่.”
อ้วนพุงพลุ้ยอย่างงั้นรึ?
จากคำพูดดังกล่าว จุนซ่างเซียวตระหนักได้ในทันที เฉียนปูโตวที่ตนเห็น ไม่ใช่เฉียนปูโตวที่ถังเหรินเอ่ย!
“สัด!”
จุนซ่างเซียวแทบทรุดไปกับที่“ดูเหมือนว่าข้าจะถูกหลอกซะแล้ว!”
“ไม่ได้ดูเหมือน.”
ระบบเอ่ย “แต่ถูกหลอกจริง ๆ.”
“.....”
จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.
เคยแต่หลอกคนอื่น ไม่คิดเลยว่าจะถูกเจ้าเด็กนั่นตบตาเอาสะแล้ว.
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ถือว่าขาดทุน เพราะว่าได้รับเงินและศิลาวิญญาณมาไม่น้อย.
แต่ว่า.
ก็ทำให้จุนซ่างเซียวรู้สึกตะขิดตะขวางใจเช่นเดิม.
ในเมื่อเจ้านั่นไม่ใช่เฉียนปูโตว แล้วเป็นใครกัน?
เป็นผู้เยาว์ทั่วไปไม่ควรจะมีเงินมาก และยังจ่ายออกไปอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ อีกด้วย.
ขณะที่จุนซ่างเซียวกำลังครุ่นคิดนั้น หวงจินต้วนก็เล่าประวัติความเป็นมางานประลองเทพอาหารเสร็จ จากนั้นก็ประกาศออกมาเสียงดัง“ตอนนี้เชิญผู้เข้าร่วมแข่งขันขึ้นเวที!”
“ฟิ้ว!”
ขณะที่ผู้เข้าแข่งขันกำลังขึ้นเวที หน้าจอก็ตัดโฆษณาเป็นร้านขายยาถังตานอีกครั้ง เหล่าผู้ชมแทบตะโกนด่าออกมาเสียงดัง!
......
หลังจากโฆษณาจบลง ค่อยเห็นผู้เข้าร่วมแข่งขันก้าวเข้ามา.
หลิวหว่านซีก็เป็นหนึ่งในนั้น.
นางสวมชุดแม่ครัวที่เจ้านิกายมอบให้ พร้อมกับหมวกกระบอกทรงสูงสีขาวเด่นท่ามกลางผู้คน.
ชุดของนางที่สีขาวนวล ดูสะอาดโดดเด่นเป็นที่จับตาท่ามกลางสายตาผู้เข้าแข่งขันนับร้อย นอกจากนี้ยังมีเพียงนางที่เป็นสตรีคนเดียว!
“ไม่คาดคิดเลยว่าผู้เข้าแข่งขันจะมีสตรีด้วย!”
“สตรีนั่นเป็นศิษย์นิกายนิรันดร!”
“งั้นรึ?”
ใบหน้าของทุกคนที่เผยความประหลาดใจ เห็นชัดเจนว่าคาดไม่ถึง นิกายที่มีชื่อเสียงเร็ว ๆ นี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะมีสิทธิ์ อยู่ในวิถีอาหารเช่นนี้ด้วย!
“ศิษย์น้องหลิว ศิษย์พี่หลิว สู้ ๆ!”
ในนิกายนิรันดร หลี่ซ่างเทียน ซุนปู่เจี้ยนและคนอื่น ๆ ต่างก็ส่งเสียงเชียร์ดัง.
แม้นว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน ทว่าพวกเขาก็ยังต้องการส่งเสียงและแรงใจออกไป.
งานประลองเทพอาหาร ไม่เหมือนกับการประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรที่เป็นงานใหญ่ เหล่าผู้ชมที่มาชมธรรมดาทั่วไป ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร.
“จากนี้.”
ในเวลาต่อมา หวงจินต้วนเอ่ยเสียงดัง “เชิญศิษย์เทพอาหารขึ้นสู่เวที!”
คำพูดดังกล่าว ทำให้ทุกคนเผยความประหลาดใจสนใจขึ้นมาทันที จ้องมองไปยังทางเข้า.
เหล่าชาวยุทธ์ไม่น้อยที่สงสัยเป็นอย่างมาก ว่าคนลึกลับคนนี้ใครกัน.
“ฟิ้ว!”
ภายใต้สายตาของผู้คนมากมาย ใครคนหนึ่งที่ค่อย ๆ ก้าวออกมา.
เขาไม่ได้สูงนัก ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม.
“บัดซบ....”
หลังจากเห็นอีกฝ่าย จุนซ่างเซียวดวงตาแทบถลนออกมาทันที.
หลิวหว่านซีกุมปากด้วยความตกใจ“เป็นเขา?!”
ใคร?
คนที่เรียกตัวเองว่าเฉียนปูโตวที่ร่วมเดินทางมาพร้อมกับพวกเขานั่นเอง.
“กึก!”
ผู้เยาว์คนดังกล่าว ที่ก้าวมาอยู่ด้านหน้าหลิวหว่านซี เผยยิ้มฟันขาว “ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้ามีชื่อว่าซ่งเป้า เป็นศิษย์ของซีเหว่ยเทียน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมแข่งขันงานประลองเทพอาหาร.”
ศิษย์เทพอาหาร.
คนที่เป็นตัวเก็งที่จะได้ชัยชนะเลิศครั้งนี้.
คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแนะนำตัวเองกับผู้เข้าร่วมแข่งขันด้วยกัน.
ในเวลานั้น.
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด ที่จ้องมองหลิวหว่านซี ด้วยแววตาประหลาดใจ.
ซ่งเป้าเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง“ฝีมือทำอาหารของแม่นางหลิวนั้นแข็งแกร่งมาก ข้าอาจจะสู้ไม่ได้ ทว่าในเมื่อเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว ข้าก็จะต้องทำให้สุดกำลัง!”
คำพูดดังกล่าว ทำให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันคนอื่น ๆ ส่งเสียงดังอื้ออึง.
ศิษย์เทพอาหารบอกว่าฝีมือของสตรีคนนี้ เขาอาจจะไม่ชนะอย่างงั้นรึ?!