บทที่ 22 : รางวัลมากมาย, รากจิตวิญญาณระดับสวรรค์
บทที่ 22 : รางวัลมากมาย, รากจิตวิญญาณระดับสวรรค์
[การประเมินโชค: สีม่วง การประเมินพรสวรรค์: ระดับสูงสุด การประเมินความสามารถพิเศษ: สายเลือดวิหคสีชาด การประเมินศักยภาพ: อัจฉริยะระดับสูงสุด!]
[ขอแสดงความยินดีโฮสต์ คุณสมบัติของทายาทโฮสต์ได้รับการประเมินอัจฉริยะระดับสูงสุด โฮสต์ได้รับรางวัล: เม็ดยาแก่นสวรรค์ระดับสูงสุดเก้าขวด, เม็ดยาวิญญาณสีม่วงเก้าขวด, โลหิตวิหคสีชาดหนึ่งหยด, ทักษะการเพาะปลูกระดับปฐพีเเบบสุ่ม, ทักษะการต่อสูเบบสุ่ม, และคะแนนโชคลาภ 300,000 คะแนน!]
[เม็ดยาแก่นสวรรค์: ระดับสูงสุด ยาที่ดีที่สุดสำหรับสำหรับผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ สูตรยาหายากมาก ทั้งวัสดุที้ใช้ปรุงยาก็หายากเช่นเดียวกัน มีทั้งหมดเก้าขวด….บรรจุขวดละ 100 เม็ด!]
[เม็ดยาวิญญาณสีม่วง: ระดับสูงสุด ยาพิเศษสำหรับผู้ฝึกตนอาณาจักรควบแน่นแกนกลาง มีทั้งหมดเก้าขวด….บรรจุขวดละ 100 เม็ด!]
[โลหิตวิหคสีชาด: หยดโลหิตที่เหลือจากวิหคสีชาดในตำนาน เมื่อผู้ฝึกตนคุณสมบัติธาตุไฟดูดซับมัน, จะสามารถเพิ่มความเร็วของการฝึกทักษะการต่อสูธาตุไฟได้….เเละเมื่อถูกดูดซับโดยผู้สืบสายเลือดวิหคสีชาดหรือสายเลือดที่ใกล้เคียง ผู้ดูดซับจะสามารถปลุกพลังสายเลือดได้!]
เมื่อเห็นรางวัลนี้ สีหน้าเย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่สดใสขึ้นมา
และเขาก็รู้สึกพึงพอใจมากที่จ้าวชิงเกอได้ให้กำเนิดบุตรคนแรกของเขาซึ่งเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ
เเละเขาสังเกตเห็นว่าเธอได้รับสืบทอดพรสวรรค์ของเย่หวู่ชางและสายเลือดของจ้าวชิงเกอมาไว้ด้วยกัน
การประเมินความเป็นอัจฉริยะระดับสูงสุดไม่ใช่แค่คำพูดเลื่อนลอยอย่างแน่นอน
และเม็ดยาแก่นสวรรค์ระดับสูงสุดคือสิ่งที่เขาและเย่ว์รู่ชวงต้องการอย่างแท้จริงในตอนนี้
สำหรับเม็ดยาวิญญาณสีม่วงนั้น จ้าวชิงเกอจะเป็นคนใช้พวกมันหลังจากที่เธอบุกทะลวงเข้าสู่อาณาจักรควบแน่นแกนกลาง
เมื่อถึงเวลานั้นการฝึกฝนของเธอก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ
สำหรับโลหิตวิหคสีชาดนั้นเย่หวู่ชางกำลังวางแผนที่จะมอบมันให้กับจ้าวชิงเกอด้วย
เขาเชื่อว่าหลังจากที่จ้าวชิงเกอกินมันแล้ว…..สายเลือดวิหคสีชาดของเธอจะต้องถูกปลุกอย่างเเน่นอน
หลังจากได้รับรางวัลจากบุตรสาวคนที่สามของเขาเสร็จสิ้นแล้ว เย่หวู่ชางก็มองไปที่บุตรคนที่สี่ของเขาอีกครั้งหนึ่ง
นี่คือบุตรคนที่สองของเขาและเย่ว์รู่ชวงที่เป็นเด็กผู้ชาย และเขายังเป็นนายน้อยคนที่สองที่สืบทอดเลือดสายตรงของตระกูลเย่
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ทายาทคนที่สี่กำเนิดมาได้สำเร็จ การประเมินโชค : สีม่วงเข้ม การประเมินพรสวรรค์: ระดับสูงสุด การประเมินความสามารถพิเศษ: ร่างกายศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุ การประเมินคุณสมบัติ: อัจฉริยะระดับสูงสุด!]
[ขอแสดงความยินดีโฮสต์ คุณสมบัติของทายาทโฮสต์ได้รับการประเมินอัจฉริยะระดับสูงสุด โฮสต์ได้รับรางวัล: ชิ้นส่วนร่างวิญญาณ 3 ชิ้น, ต้นสมบัติใต้พิภพ, โลหิตคุนเผิงหนึ่งหยด, ทักษะการต่อสู้เบญจธาตุระดับปฐพีขั้นสูงสุดหนึ่งชิ้น และคะแนนโชคลาภ 400,000 คะแนน!]
[ต้นสมบัติใต้พิภพ: รากจิตวิญญาณระดับสวรรค์ ต้นไม้ล้ำค่าที่เกิดระหว่างสวรรค์และโลก มันจะเติบโตทุกๆสิบปี และออกผลใต้พิภพ 36 ผล…..ในแต่ละผลสามารถช่วยพัฒนาความก้าวหน้าในการฝึกตนจากอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่อาณาจักรปราการสวรรค์ได้ หลังจากปลูกแล้วจะสามารถเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานวิญญาณได้ 30% ภายในรัศมี 10 ลี้, 20% ภายในรัศมี 100 ลี้ และ 10% ภายในรัศมี 1,000 ลี้!]
[โลหิตคุนเผิง: หลังจากการดูดซับ มันสามารถปลุกพลังบางส่วนของคุนเผิงได้ ปรับปรุงพรสวรรค์ ความเข้าใจในทักษะการเพาะปลูกคุณสมบัติธาตุน้ำและทักษะการต่อสู้ธาตุน้ำ!]
นี่มันยอดเยี่ยมมาก!
ดวงตาของเย่หวู่ชางเปล่งประกายขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นต้นสมบัติใต้พิภพหรือโลหิตคุนเผิงต่างก็เป็นของหายากและยอดเยี่ยม
โดยเฉพาะต้นสมบัติใต้พิภพ….ด้วยสิ่งนี้ตราบใดที่ยังมีผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์มากพอ, เขาก็จะสามารถสร้างผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์สามสิบหกคนได้ในทุกๆสิบปี
หากตระกูลเย่พัฒนาต่อไปอีกสองสามทศวรรษความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ทั้งหมดจะไปถึงระดับที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอน
ส่วนโลหิตของคุนเผิงนั้น เขาวางแผนที่จะใช้มันเอง
…….
หลังจากเยี่ยมภรรยาสาวทั้งสองคนและปลอบโยนพวกเขาแล้ว, เย่หวู่ชางก็จากไป
เขาตั้งชื่อบุตรสาวคนที่สามของเขาว่า เย่จื้อหลัน และบุตรชายคนที่สี่ของเขา เย่จือเฟิง
หลังจากนั้น เขาก็แทบรอไม่ไหวเเล้วที่จะปลูกต้นสมบัติใต้พิภพในสวนหลังบ้านของเขาเอง
เเละเนื่องจากเขากลายเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของตระกูลเย่…..ตอนนี้ทั้งตระกูลเย่จึงไม่กล้าเลินเล่อต่อเขาแม้แต่นิดเดียว
แม้แต่เย่เหว่ยหวู่และคนอื่นๆ ก็ยังระมัดระวังขณะที่พูดกับเขาเช่นเดียวกัน
ส่งผลให้เรือนหลักประจำตระกูลที่ถูกสร้างขึ้นให้เขานั้นมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ…..เเละไม่มีเรือนอื่นใดอยู่ในรัศมีหลายสิบลี้นี้เลย
ซึ่งสิ่งนี้ยังบ่งบอกถึงความเคารพที่คนในตระกูลมีต่อเขาอีกด้วย
แน่นอนว่า เย่หวู่ชางพอใจกับสิ่งนี้และยอมรับมันด้วยความยินดี
หลังจากนั้นการปลูกต้นสมบัติใต้พิภพก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานวิญญาณโดยรอบ
ตระกูลเย่ทั้งหมดต่างรู้สึกว่าพลังงานวิญญาณมากมายเริ่มปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสนใจเรื่องนี้…เพราะพวกเขาต่างรู้ว่านี่อาจเป็นฝีมือผู้นำตระกูลของพวกเขา
แต่มันก็มีสิ่งที่ทำให้เย่หวู่ชางประหลาดใจอยู่เล็กน้อย….นั่นคือบนยอดต้นสมบัติใต้พิภพที่ระบบให้นั้น มีผลของต้นสมบัติใต้ที่พิภพโตเต็มที่อยู่แล้วสามสิบหกผล
เมื่อเห็นสิ่งนี้, เขาก็ถึงกับพูดไม่ออก และเลือกเด็ดมาหนึ่งผลทันที
หลังจากนึกถึงการทำงานอย่างหนักและการอุทิศตนของผู้อาวุโสเย่เหว่ยหวู่สำหรับตระกูลในช่วงหลายปีแห่งความตกต่ำนี้
มันจึงไม่เเปลกที่เขาอยากจะตอบแทนผู้อาวุโสสูงสุดเป็นการส่วนตัวด้วยผลต้นสมบัติใต้พิภพต่อหน้าผู้อาวุโสคนอื่นๆ
เเละยามที่ผู้อาวุโสเย่เหว่ยหวู่ได้รับผลต้นสมบัติใต้พิภพจากเย่หวู่ชางนั้น….เขาก็รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังฝันอยู่
พรสวรรค์ของเขานั้น ถือว่าไม่ได้โดดเด่น…..ดังนั้นการที่เขาสามารถฝึกจนถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ได้เเบบนี้ ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างยิ่งแล้ว
ณ ตอนนี้…..เขามีเวลาชีวิตเหลือไม่ถึงยี่สิบปี, ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดที่จะบุกทะลวงอาณาจักรปราการสวรรค์ด้วยซ้ำไป
ความหวังเดียวของเขาคือการจะได้เห็นตระกูลเย่เติบโตขึ้น มีพลังที่เทียบเคียงหรือเหนือกว่าราชวงศ์ต้าเซี่ยในช่วงชีวิตของเขาก็เท่านั้นเอง
นอกจากนี้เขายังต้องการเห็นเย่จือหลาน….บุตรชายคนโตของเย่หวู่ชาง ผู้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์แห่งสวรรค์และโลก…..ว่าเขาจะมีความยิ่งใหญ่มากเพียงใดในอนาคต!
เพราะงั้นแล้วสำหรับเขาการทะลุผ่านอาณาจักรปราการสวรรค์นั้นเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
แต่ในยามนี้ ด้วยการปรากฏตัวของผลต้นสมบัติใต้พิภพ…..เขาก็ตระหนักได้ว่าอาณาจักรปราการสวรรค์นั้นอาจจะอยู่ไม่ไกลอย่างที่เขาคิด
ชั่วครู่หนึ่งเขารู้สึกตื่นเต้นมากจนน้ำตาไหลออกมา
เมื่อเห็นสิ่งนี้เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า
"ผู้อาวุโส ไม่จำเป็นต้องตื้นตันเช่นนี้เลย…..อนาคตที่ไร้ขีดจำกัดของตระกูลเย่ของเราก็ขึ้นอยู่กับการทำงานหนักของท่านเช่นกัน”
“ไม่ต้องพูดถึงแค่อาณาจักรปราการสวรรค์….ครานี้ตระกูลเย่จะพัฒนาจนถึงอาณาจักรพระราชวังสีม่วง อาณาจักรสำแดงกฎเกณฑ์ อาณาจักรถ้ำสวรรค์ และอาณาจักรอื่นๆที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ไกลเกินเอื้อม…..หากแต่วันหน้ามันจะอยู่ในอุ้งมือของเรา!”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เย่เว่ยหวู่ก็สงบลงเเละพยักหน้าอย่างมั่นคงไร้ข้อสงสัย
เขาไม่สงสัยในคำพูดของเย่หวู่ชางอีกเเล้ว
หากเย่หวู่ชางเป็นเข็มนำทางพร้อมพลังของเย่จื้อซินและเย่จือหลาน…..อนาคตของตระกูลเย่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน
เเละหลังจากทะลวงผ่านอาณาจักรปราการสวรรค์….อายุขัยของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งเขาจะสามารถมีชีวิตได้อีกสี่ร้อยปี
เมื่อรู้ถึงสิ่งนี้, ผู้อาวุโสทั้งสี่ที่อยู่ข้างๆต่างอดไม่ได้ที่จะอิจฉา
เเละเมื่อเห็นความอิจฉาของคนรอบๆ…..เย่หวู่ชางก็ไม่ลังเลและหยิบผลต้นสมบัติใต้พิภพออกมาอีกหลายลูก
แน่นอนว่าเมื่อเห็นผลต้นสมบัติใต้พิภพอีกหลายผล…..ผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างก็รู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
พวกเขาต่างมุ่งมั่นที่จะฝึกฝนอย่างรวดเร็วเพื่อไปถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ให้ได้
……………………