ตอนที่ 74 นัดหมาย
“ปัง!”
พร้อมกับเสียงตบโต๊ะที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้อง
ในที่สุด ประธานจ้าว ที่มีสีหน้ามืดมนมากก็พูดแล้ว
“ฉันอยากถามพวกคุณว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ศิลปินนับสิบคนในบริษัทเรา ศิลปินนับสิบคน.. เผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่ปรากฏขึ้นมา พวกคุณกลับไม่ออกไปพูดอะไรเลย? หรือนี่มันไม่ควรมีการแถลงการณ์ แสดงท่าทีจุดยืนของเรา?”
“ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องอื้อฉาวนี้?”
“หลักฐานที่ว่านี้ ..มันมาจากไหน?”
“ใครส่งวิดีโอ ประวัติการสนทนา รูปภาพอนาจารเหล่านี้ออกไป?”
“ปกติ.. ฉันที่ไม่กล่าวอะไรกับศิลปินที่รับผิดชอบ เพราะศิลปินนั้นควรใส่ใจกับภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่นี่หรือที่ใส่ใจภาพลักษณ์ตัวเอง!”
ประธานจ้าว กวาดสายตามองด้วยอารมณ์เดือดดาล พลางตะคอกเสียงดังออกไป
ในท้ายประโยค เขาตบโต๊ะติดต่อกันอีกหลายครั้งเพื่อระบายความไม่พอใจ
จะเห็นได้ว่าเวลานี้เขาโกรธแค่ไหน
แต่นี่เป็นเรื่องปกติ
ในฐานะบริษัทบันเทิง สิ่งที่กลัวมากที่สุดไม่ใช่การขาดการลงทุน หรือความร่วมมือ แต่เป็นเรื่องศิลปินในสังกัด ที่อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องอื้อฉาว หรือมีการกระทำผิดที่เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันในหมู่ศิลปินภายใต้บริษัท
เพราะทันทีที่มีเรื่องอื้อฉาวหลุดออกมา
ผลที่ตามมานั้น ..มันร้ายแรงเกินไป
ไม่ต้องพูดถึงภาพลักษณ์ของศิลปินที่เสื่อมเสียอย่างมาก
พรีเซนเตอร์สินค้ามากมาย การถ่ายละครก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วยเช่นกัน
ในเรื่องของความร่วมมือ นักลงทุนก็พากันถอนทุนออกแล้ว แม้กระทั่งอาจจะถูกฟ้องร้องด้วยซ้ำ
ในขณะนี้ จู่ๆ บริษัท จินหวง ถูกเปิดเผยว่ามีศิลปินนับสิบคนในสังกัดมีพฤติกรรมที่ไม่ดี ผลของเรื่องนี้คุณเองก็สามารถจินตนาการได้?
“จ้าว...ประธานจ้าว เรื่องนี้เราเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!”
“ก็คือ เรื่องนี้เราแทบไม่ทันได้เตรียมป้องกันอะไรเลย ทั้งยังไม่ทันได้สืบเสาะหาว่าใครเป็นคนทํา”
“อย่าพูดถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง, เพราะแม้กระทั่งเรื่องศิลปินในบริษัท ฉันเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาทำสิ่งเลวร้ายเหล่านี้…”
เมื่อเผชิญหน้ากับคําถามของประธาน ผู้ถือหุ้น และผู้บริหารระดับสูงทุกคนก็ทําอะไรไม่ถูก และมีอารมณ์ที่หงุดหงิดมากเช่นกัน
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป และมันยังมีศิลปินเข้าไปเกี่ยวข้องมากเกินไป
พวกเขายุ่งเหยิงมาระยะหนึ่งแล้ว
แล้วที่ไหนจะมีเวลาไปสืบเสาะหาตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง?
“ฉันไม่สนใจว่าคุณจะใช้วิธีใด พูดง่ายๆ ก็คือค้นหาให้ฉันทันทีว่าใครเป็นคนทำ”
“มีศิลปินหลายคนถูกเปิดเผยพร้อมกันนี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และแน่นอนว่ามีตัวคนบงการอยู่เบื้องหลัง หรือพวกคุณจะรอกินลมต่างข้าวกัน!” (1)
ประธานจ้าว กล่าวต่อ
สีหน้าของเขายิ่งมายิ่งดูหดหู่มากขึ้น
ในเวลาเพียงวันเดียว ชื่อเสียงของบริษัทก็เสียหายอย่างหนัก
ถ้ายังปล่อยให้เรื่องมันดําเนินต่อไปอีก สิ่งต่างๆ มันจะพัฒนาต่อไปเป็นยังไง?
ในเวลานี้เอง
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้องประชุมผู้บริหารดังขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นผู้ช่วยหญิงเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“ไม่ค่อยดีแล้วคะ ท่านประธาน”
“มีโทรศัพท์โทรเข้ามาขอสายท่าน ท่านรีบรับสายเถอะค่ะ”
ผู้ช่วยดูมีสีหน้าเป็นกังวลมาก
จากนั้นเธอรีบยื่นโทรศัพท์ในมือให้กับ ประธานจ้าว
อย่างไรก็ตาม เขามองไปที่โทรศัพท์มือถือที่ผู้ช่วยส่งมา
จ้าว เทียนซิง ไม่เพียงแต่ไม่รับ แต่กลับดุด่าทันทีไปว่า : “นี่เป็นวันแรกของคุณที่บริษัทหรือเปล่า และคุณเข้าใจกฎของบริษัทหรือไม่กัน?”
“แล้วฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้ว ระหว่างการประชุมอย่าได้เข้ามารบกวน ฉัน คุณนี่มันทำเป็นหูทวนลมหรือไง?”
จ้าว เทียนซิง โกรธมาก และเขารู้สึกไม่พอใจมาก
การกระทําของผู้ช่วยหญิงในการบุกเข้ามาในห้องประชุมผู้บริหารโดยตรงนั้น ไม่ต่างอะไรกับการราดน้ำมันบนกองเพลิง
“แต่...แต่สายนี้มาจากประธานของ ช่านซิง เอนเตอร์เทนเมนท์”
“เขาบอกว่าศิลปินทั้งสิบคนของบริษัท จินหวง ที่ถูกเปิดเผยออกมานั่นคือเขาเป็นคนจัดการให้เกิดขึ้น เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับ จินหวง”
“เขายังพูดต่ออีกว่า หากคุณไม่รับสายภายในสามนาที เขายังมีเรื่องเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ จินหวง ให้ได้ต้องตื่นตระหนก..อีกครั้ง”
ผู้ช่วยหญิงรีบบอกกล่าวอย่างรวดเร็ว
เรื่องแบบนี้ใครสนใจเรื่องจะถูกดุด่าบ้าง?
ทันทีที่เธอพูดคํานี้ออกมา เธอก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจ ..โดยตรง
“อะไรนะ เสี่ยวหลิง เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไร ศิลปินของบริษัทเราที่ถูกเปิดเผยออกไป เป็นฝีมือของ ช่านซิง?”
“เป็นพวกเขา เป็นพวกเขาจริงๆ นะเหรอ?”
“แล้วนี่มันเป็นไปได้ยังไง ช่านซิง มีข้อมูลเกี่ยวกับศิลปินภายในบริษัทของเรามากมายไปได้อย่างไร?”
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนในที่เกิดเหตุก็แสดงสีหน้าไม่เชื่อออกมา
จ้าว เทียนซิง แทบจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เขามองผู้ช่วยหญิง และถามด้วยความไม่อยากเชื่อไปว่า : “คุณ... เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?”
…........
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก และในพริบตาเดียวก็มาถึงวันถัดไป
วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนคอนเสิร์ตออลสตาร์จะเริ่มขึ้น
ในวันเดียวกันนี้.. ก็เป็นวันที่ ซูเหวิน ได้นัดพบกับประธานของบริษัท จินหวง
หลังจากที่เขาโทรไปเมื่อวานนี้ อีกฝ่ายก็ต้องมาต่อให้ไม่อยากมาก็ตาม
ถนนกว่างหยวน ที่ชั้นห้าของ โรงน้ำชา เซียนเฮ่อ
ในห้องส่วนตัวสุดหรูห้องหนึ่ง ซูเหวิน รองประธานเผิง และถานอี้ สามคนกําลังนั่งรอบโต๊ะกาแฟขนาดใหญ่ ดื่มชา และพูดคุยกันไป รอการมาถึงของผู้คนจาก บริษัท จินหวง
แม้แต่ ถานอี้ ที่ดูมีสีหน้าเศร้าหมองเมื่อวานนี้ ก็ยังดูผ่อนคลายมากขึ้นในวันนี้
“ประธานซู ไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านจะเก่งขนาดนี้”
“พอทันทีที่ลงมือ จินหวง ก็ไม่สามารถตอบโต้กลับได้ และนี่ถือว่าเป็นการระบายความโกรธแทนผม ผม ถานอี้ ต้องขอบคุณท่านแล้ว”
จู่ๆ ถานอี้ ที่ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ซูเหวิน ก็กล่าวพลางหัวเสียงดังออกมา
เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมา แล้วยกดื่มให้เกียรติแก่ ซูเหวิน หนึ่งแก้ว
ทุกวันนี้ เพราะกลัว ภาพถ่าย และวิดีโอจะถูกเผยแพร่ออกไป จนมันทำให้ตัวเขาเองแทบกินไม่ได้ นอนไม่หลับ
และก็เกือบจะดุด่าบรรพบุรุษของ จินหวง ไปแล้ว
มาในครั้งนี้ ประธานซู ช่วยเขาระบายความโกรธที่มันอัดอั้นอยู่ใจ แล้วที่นี่จะไม่ให้เขามีความสุขไปได้อย่างไรกัน จริงไหม?
“ใช่แล้วๆ ประธานซู ท่านสมควรแล้วที่เป็นประธานของ ช่านซิง เราและเป็นดวงที่นำโชคใหญ่มาให้กับเราจริงๆ!” (ช่าน 燦 : เจิดจ้า, สว่างไสว / ซิง 星 : ดาว)
“ฉันไม่คิดเลยว่าท่านยังแอบสืบ จินหวง อย่างลับๆ และได้ความลับที่ไม่มีใครรู้มาได้มากมายขนาดนี้ นี่มันช่างเหลือเชื่อมาก”
รองประธานเผิง ที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
สําหรับ ซูเหวิน ตอนนี้เขาทั้งตกใจ และก็ชื่นชมอีกฝ่าย
เขา เผิงหลิน ทํางานเป็นรองประธานที่ ช่านซิง มานานหลายปี กลับไม่รู้เลยว่า บริษัท จินหวง มีข้อมูลที่รั่วไหลมากมายขนาดนี้
นานแค่ไหนแล้วที่ ประธานซู เข้ามาบริหารบริษัท?
และด้วยข่าวที่เขาสามารถขุดคุ้ยออกมาได้มากมายนี้ จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง?
“ฮ่าฮ่า นี่แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
“ถ้า จินหวง กล้าคุกคามคนของ ช่านซิง เรา ในฐานะประธาน ผมเองย่อมต้องเติมเต็มสีสัน(2)ให้แก่พวกเขาเล็กน้อย..”
“และดูเหมือนว่าอีกไม่นานจะมีการแสดงดีๆ ให้ได้ดู!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคําชม และคําเยินยอของทั้งสอง ซูเหวิน เขากลับยกยิ้มเบาๆ ขึ้นมาอย่างไม่สนใจ
ไม่มีทาง…
ด้วยการมีอยู่ของระบบ บางสิ่งอย่างมันก็ทำได้ง่ายมาก อย่างที่เห็นอยู่นี้
ระหว่างที่พูด ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้นในห้องส่วนตัว
ทันทีหลังจากนั้น ก็เห็นบริกรสาวพาชายสวมสูทหลายคนเดินเข้ามา
ผู้ชายเหล่านี้ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยสี่สิบ
พวกเขาทุกคนดูมีออร่าของผู้นำอยู่บนตัว
ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของ จินหวง ไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ในหมู่พวกเขาคนที่ยืนอยู่หน้าสุด ถ้าไม่ใช่ จ้าว เทียนซิง ประธานของบริษัท จินหวง แล้วจะเป็นใครไปได้?
“ฮ่าฮ่า! รองประธานเผิง เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้วจริงๆ”
“ฮ่าฮ่าๆ น้องถาน ปรากฎว่าคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย!”
ทันทีที่พวกเขาเข้ามา ประธานจ้าวแห่งจินหวง มองไปที่ รองประธานเผิง และถานอี้ ในทันที แล้วพูดไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“ฮ่าฮ่า นั่นสิ เราไม่เจอกันนานจริงๆ..”
เมื่อเห็นว่าคนที่รอคอยในที่สุดก็มาถึงแล้ว รองประธานเผิง ก็ลุกขึ้นยืน และพูดด้วยรอยยิ้มออกไปแบบเดียวกัน
ถานอี้ ก็ถือโอกาสนี้ ลุกขึ้น แล้วพูดว่า : “ใช่! เรื่องนี้ยังไงผมก็ต้องอยู่ด้วย”
“คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว แต่วันนี้กลับเป็นวันยกเลิกสัญญากับ ช่านซิง และไปเข้าร่วมกับ จินหวง”
“และถ้าผมไม่ได้มาพบเจอคุณวันนี้ ถ้าเกิดคุณโพสต์ ภาพถ่าย และวิดีโอของผมบนอินเทอร์เน็ตไปด้วยความโกรธ ผมก็ดูเหมือนจะโชคร้ายตามศิลปินในค่าย จินหวง ของคุณไป แล้วคุณล่ะ คุณ.. คิดแบบนั้นเหมือนกันกับผมไหม ประธานจ้าว?”
ถานอี้ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
มีความรู้สึกประชดประชันอย่างรุนแรงในน้ำเสียงของเขา
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่กลัวภัยคุกคามจากอีกฝ่ายเลย
แน่นอนว่าพวกเขาที่ล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าในโลกธุรกิจ ประธานจ้าว และคนอื่นๆ มีหรือจะฟังคำพูด และน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการประชดประชันของ ถานอี้ ไม่ออก?
ทันใดนั้น ใบหน้าของทุกคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็พลันเปลี่ยนไปทันที และความโกรธในใจของพวกเขาก็เริ่มเพิ่มสูงขึ้นมา…
(1)[กินลมต่างข้าว / ดื่มลมตะวันตกเฉียงเหนือ (喝西北风)] - อดอยาก/ไม่มีอันจะกิน
(2)[ให้สี, เติมสีสัน (给点颜色看看)] - หมายถึง ลงโทษ สอนบทเรียน หรือแสดงความแข็งแกร่งของคุณต่ออีกฝ่าย