Chapter 809 ไม่มีเจตนาดีอย่างแน่นอน
เหล่าสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าปรกติ อย่าว่าแต่ให้เฉือนสองจินเลย แม้ว่าจะเฉือนสิบจินก็ยังยินดี.
ดังนั้นวัตถุดิบในการกลั่นเม็ดยาสัตว์ระดับกลางสามารถจัดการได้แล้ว ต้องไม่ลืมว่า สัตว์ห้าแสนตัว แน่นอนว่าสามารถทำให้เขาเปิดตลาดได้อีกมากโข.
นอกจากนี้
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้พอที่สองจินอยู่แล้ว.
รอให้อีกฝ่ายตระหนักได้ถึงผลของเม็ดยาสัตว์ก่อน เขาจะเพิ่มจำนวนเนื้อไปจนถึงสิบจิน เพื่อนำไปขายทั่วแผ่นดิน.
เพียงแค่หลอกราชาสัตว์จื่อหลินสักเล็กน้อย ไม่เพียงแค่มีสัตว์ขี่ ทว่าตอนนี้ยังสามารถเปิดฟาร์มสัตว์ ไม่ต้องออกไปล่าและซื้อเนื้อสัตว์จากด้านนอกจำนวนมากมา.
สิ่งที่เรียกว่าการเฉือนเนื้อรักษาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง แน่นอนว่ามันไม่มีอยู่จริง.
ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเม็ดยาสัตว์ระดับกลางเท่านั้นเอง ที่ช่วยยกระดับให้อีกฝ่ายดูดซับพลังได้เร็วขึ้น.
“โฮสน์ช่างหลอกลวงอีกฝ่ายได้ลึกล้ำจริง ๆ”ระบบกล่าว.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ได้มีอันตรายต่อชีวิตพวกเขา ถึงจะเจ็บหน่อย แต่ก็แลกมากับการดูดซับพลังวิญญาณได้มากขึ้นกว่าเดิม ซ้ำยังแข็งแกร่งมากกว่าเดิมด้วย จะเรียกว่าหลอกลวงได้อย่างไร?”
“....”ระบบที่ไม่กล่าวตอบอะไร.
แม้นว่าจุนซ่างเซียวจะใช้แผนการ ทว่าก็ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งต่อเผ่าสัตว์จริง ๆ.
ถึงแม้นว่าราชาสัตว์จื่อหลินจะรู้ความจริง และต่อต้านการเฉือนเนื้อ ทว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็คงยังต้องการอยู่.
เพราะว่ายังไงก็เป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นนั่นเอง.
เผ่าสัตว์ที่โหยหาความแข็งแกร่งทุกตัว.
ด้วยเหตุนี้.
เหล่าสัตว์ในเทือกเขาไท่กู่ในเวลานี้ที่ผูกผ้าพันแผลกันทุกตัว ยืนเข้าแถวรับเม็ดยาสัตว์ด้วยใบหน้าเปี่ยมความสุข.
ราชาสัตว์จื่อหลินที่ยืนอยู่บนยอดเขา จ้องมองเผ่าพันธุ์ตัวเองที่แข็งแกร่งขึ้นทุก ๆ วัน เขาที่กล่าวปฏิญาณในใจเงียบ ๆ “วันหนึ่ง ราชาผู้นี้จะนำพาพวกเจ้ากลับมายิ่งใหญ่!”
......
“นิกายนิรันดรออกสินค้าใหม่แล้ว ได้ยินมาว่าเม็ดยาคราวนี้ ห้าสิบวันไม่ต้องกินอาหารเลย!”
“ลึกล้ำขนาดนั้นเลยรึ?”
“ไป ไป พวกเราไปดูกัน!”
เมื่อมีวัตถุดิบเพียงพอจุนซ่างเซียวก็เริ่มวางขายสินค้ากระจายไปยังร้านต่าง ๆ ในแต่ละมนทล.
แน่นอนว่าเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก.
ต้องไม่ลืมว่าในเทือกเขาไท่กู่มีฟาร์มสัตว์เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงแค่เตรียมหญ้าระงับหิวเพียงพอ ก็สามารถสนับสนุนความต้องการได้อย่างไม่มีปัญหา!
เกี่ยวกับธุรกิจเม็ดยาสัตว์ จุนซ่างเซียวมอบให้ลี่ลั่วฉิว ตอนนี้เขาได้นำหลิวหว่านซีเดินทางไปยังเมืองจักรพรรดิต้าจุน เพื่อเข้าร่วมงานประลองเทพอาหารที่จะจัดขึ้นในอีกหนึ่งเดือน.
ในเวลาเดียวกันเขาได้นำเหยาเมิ่งหยิงและราชาสัตว์จื่อหลินเดินทางไปด้วย.
โลลิน้อยที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับหลิวหว่านซี จึงต้องการเดินทางไปเชียร์ศิษย์พี่นั่นเอง.
ส่วนถางจู่จื่อนั้น เป็นคนอาสามาเป็นผู้คุ้มกันให้ด้วยตัวเอง ทว่าเป้าหมายจริง ๆ ของเขานั้นก็เพื่อตามมากินอาหารของหลิวหวานซีนั่นเอง.
“จื่อหลิน.”
ระหว่างทาง จุนซ่างเซียวที่กล่าวย้ำเตือนอีกฝ่าย“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เปิ่นจั้วไม่อนุญาตให้เจ้าระเบิดเสื้อผ้าตัวเอง!”
“อืม.”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่กล่าวในใจ“หากไม่ต่อสู้ ราชาผู้นี้ไม่มีทางระเบิดเสื้อผ้าหรอก!”
“ใช่แล้ว.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในทวีปชิงหยุนนั้นมีสัตว์ร้ายมากมาย เจ้าที่สามารถนำเหล่าสัตว์ร้ายมาได้เพียงแค่ห้าแสนเองรึ? นอกจากนี้ผู้ช่วยสูงสุดเพียงจักรพรรดิขั้นสูง ไม่มีแม้แต่ระดับครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์เลยรึ?”
เรื่องนี้ทำให้เขาสงสัย มานานแล้ว.
แม้นว่าทวีปชิงหยุนจะไม่ได้เหมือนกับยุคโบราณแล้ว ทว่าถึงจะมีราชันย์ได้แค่เก้าคน.
ทว่าระดับปราชญ์ก็ยังสามารถมีได้ไม่จำกัด.
จื่อหลินเอ่ยกล่าว“ด้วยความแข็งแกร่งของข้าไม่สามารถฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดได้ นับว่ายากจะได้รับการยอมรับจากเผ่าอื่น ๆ.”
จุดสูงสุดของเขาไม่ใช่ก่อนที่จะถูกผนึก ทว่าเป็นระดับที่อยู่ที่ดินแดนพิภพเบื้องบน.
เป็นความจริงว่าเขาหนีหายนะมาที่นี่ ราชันย์สัตว์จื่อหลินจึงถูกสะกดพลังบ่มเพาะอย่างน่าอนาถ ทำให้พลังของเขาเทียบได้กับระดับปราชญ์ยุทธ์.
แน่นอนว่าในทวีปชิงหยุนนั้นก็มีสัตว์วิญญาณที่มีความแข็งแกร่งเทียบได้กับระดับปราชญ์ยุทธ์อยู่ด้วย.
ทว่ากายเนื้อของพวกเขาไม่อาจเทียบกับจื่อหลินได้ แต่พลังก็ไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่าย เป็นเรื่องปรกติที่พวกเขาย่อมไม่รับฟังคำสั่งของเขา นอกจากนี้ยังไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับทั้งโลกด้วย.
กล่าวให้ถูก.
ในเวลานั้นมีสัตว์วิญญาณไม่น้อยที่ไม่ได้คิดจะเคลื่อนไหวอะไร.
หากว่าสัตว์วิญญาณเหล่านั้นเข้าร่วมกับราชาสัตว์จื่อหลิน ไม่มีทางที่ราชาสัตว์จื่อหลินจะถูกผนึกเอาไว้.
แม้นว่าเผ่าสัตว์นั้นไม่ได้ฟังคำสั่งมนุษย์ ทว่าพวกมันก็มีอิทธิพลเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ของตัวเองที่ต้องดูแล พวกมันดูแลดินแดนของตัวเอง แบ่งปันเขตปกครองมาตั้งแต่ในอดีตแล้ว.
ราชาสัตว์จื่อหลินไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในทวีปชิงหยุน การที่ไม่ได้รับการยอมรับเป็นเรื่องธรรมดา.
และแผนการครองแผ่นดินของเขาในครั้งก่อน เพียงแค่เริ่มต้น กับต้องถูกผนึกเอาไว้ก่อนจะเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ.
“น่าสงสารจริง ๆ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“เฮ้อ.”
ราชาสัตว์จื่อหลินถอนหายใจ.
โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงเรื่องราวในอดีต เขาก็อดไม่ได้เกือบที่จะน้ำตาไหลออกมา.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากเปลี่ยนเป็นข้า เป้าหมายแรกจะต้องพิชิตเผ่าตัวเองก่อน จากนั้นค่อยคิดที่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่.”
“เจ้าต้องการที่จะให้เผ่าสัตว์ของพวกเราสังหารกันและกันรึอย่างไร?”ราชาสัตว์จื่อหลินเอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา.
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา กล่าวออกไปว่า“เจ้าไม่ได้คิดหรือว่า แผนการบุกแผ่นดินใหญ่ของเจ้ารั่วออกไปอย่างตั้งใจ เพราะว่ามีคนปล่อยข่าวออกไปหรอกรึ?”
ระบบเอ่ย “เริ่มแหลอีกแล้ว.”
“เรื่องนี้.....”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่กลายเป็นเงียบ.
จุนซ่างเซียวที่ตบไปที่ไหล่ของเขา “เจตจำนงของทุกสิ่งมีชีวิตนั้นน่ากลัว หัวใจเองก็อันตราย พวกเขากลัวว่าเจ้าจะบุกพิชิตทวีปไว้ได้ ดังนั้นจึงได้ปล่อยข่าวออกไปเพื่อกำราบเจ้าไงล่ะ.”
“กึก ซี่!”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่กำหมัดแน่น เอ่ยออกมาว่า“ราชาผู้นี้ต้องการทำเพื่อทุกคน เพื่อไม่ให้เผ่าสัตว์ถูกรังแก แต่พวกเขากับระแวงพวกเดียวกันเองอย่างงั้นรึ?!”
“ดังนั้น.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “มีเพียงแค่กำราบทุกคนก่อนเท่านั้น มีเพียงมีความแข็งแกร่งที่สงบทุกคนได้ เจ้าถึงจะตะโกนคำว่า”เผ่าสัตว์ไม่เคยเป็นทาส“ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าก็จะถูกพวกเดียวกันแทงข้างหลักก่อนที่จะเริ่มอะไร.”
“ไม่ผิด!”
ราชาสัตว์จื่อหลินเอ่ย “รอราชาผู้นี้คืนกลับสู่ความแข็งแกร่งก่อน ไม่มีทางที่จะให้เป็นเหมือนเดิม!”
“ตอนนี้เจ้าเป็นถางจู่โถงไว้ทุกข์นิกายนิรันดร แน่นอนเปิ่นจั้วจะต้องช่วยเจ้ารวบรวมเผ่าพันธ์ตัวเอง ให้เจ้าได้กลายเป็นราชาสัตว์ที่แท้จริงในทวีปชิงหยุน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ระบบ“......”
เจ้าคนนี้ไม่มีเจตนาดีอย่างแน่นอน!
[灵堂 Língtáng ห้องโถงไว้ทุกข์
灵兽 líng shòu สัตว์วิญญาณ]
“นั่นมัน....”
ราชาสัตว์จื่อหลินแทบทรุด “ข้าเป็นถางจู่หอสัตว์วิญญาณ ไม่ใช่หอไว้ทุกข์!”
“อย่าได้ใส่ใจ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
อักขระเพียงน้อยนิด กับทำให้ความหมายเปลี่ยน จะไม่ใส่ใจได้อย่างไร!
“เจ้านิกาย!”
ในเวลานั้น หลิวหว่านซีที่ชี้ไปยังด้านหน้า “มีคนล้มลงนอนอยู่.”
จุนซ่างเซียวที่ใช้จิตสัมผัสออกไปตรวจสอบ ผู้ผู้เยาว์อายุ 12-13 ปี นอนอยู่บนพื้น หายใจหอบ ๆ คล้ายว่าจะบาดเจ็บ.
“เจ้านิกาย.”
หลิวหว่านซีคาดเดา “หรือว่าเขาพบเข้ากับสัตว์ร้ายอย่างงั้นรึ?”
“ไป ไปดูกัน.”
เพราะว่าผ่านทางมาเห็นผู้เยาว์ ที่เวลานี้กำลังซีด กุมท้องตัวเอง กล่าวออกมาเสียงเบา“โอย...หิวจริง ๆ....”
จากนั้นก็หมดสติไป.
“เจ้านิกาย!”
หลิวหว่านซีที่กล่าวด้วยความประหลาดใจ “เขาหิวจนเป็นลม!”
“..........”จุนซ่างเซียวถึงกับหมดคำจะพูดไปทีเดียว.
ทั่วป่าเขาเต็มไปด้วยผลไม้มากมาย คาดไม่ถึงว่าจะหิวจนเป็นลม ช่างมากความสามารถสะจริง.
......
“แก๊ก ๆ.”
ภายในถ้ำ กองไฟที่ถูกจุดขึ้น.
ชายหนุ่มที่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยท่าทางงงงวย ก่อนที่จะจ้องมองไปสตรีที่น่ารักด้านหน้า กล่าวขณะเผยยิ้มออกมา “ข้ามีข้าวผัด หากเจ้าหิว......”
“ฟิ้ว!”
กล่าวยังไม่จบด้วยซ้ำ ข้าวผัดก็ถูกชิงไปทันที.
“กึก!”
ชายหนุ่มไม่ต้องใช้ตะเกียบ ใช้มือจ้วงเข้าปากอย่างรวดเร็ว.
เขาที่กินข้าวผัดจนหมดไม่มีเหลือ พร้อมกับเลียริมฝีปาก “ชั่วชีวิตข้าไม่เคยกินข้าวผัดที่ดี.....”
เด็กหนุ่มที่พล่ามเป็นเวลานาน.
ขณะที่ใจเย็นลงก็กล่าวขอบคุณหลิวหว่านซีอย่างสุภาพ “ขอบคุณผู้มีพระคุณที่มอบอาหาร!”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลออกไป ยกมือเอ่ยออกมาว่า“เจ้าอายุยังไม่มาก การจะปีนต้นไม้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แล้วทำไมถึงกับหิวจนหมดสติ.”
“เอิ่ม.....”
เด็กหนุ่มที่เกาศีรษะไปมา กล่าวออกมาว่า“เพราะว่า.... เพราะว่าข้าขี้เกียจตั้งแต่เด็ก....”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เพราะว่าขี้เกียจ ทว่าเจ้ากับมีชีวิตมาจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าครอบครัวของเจ้าจะร่ำรวยมาก.”
“ก็พอตัว.”ชายหนุ่มที่เอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าวผัดที่ช่วยชีวิตเจ้าได้ มีราคา 100,000 เงิน ข้าคิดว่าไม่แพง.”
“เจ้านิกาย.....”
“อาหารที่อร่อยขนาดนี้ ชั่วชีวิตข้าไม่เคยกิน กล่าวได้ว่าเป็นตับมังกรและไขกระดูกหงส์ก็ไม่ปาน หนึ่งแสนถือว่าถูก อย่างน้อยก็ต้อง 1 ล้านเงิน!”
“ฟิ้ว!”
ชายหนุ่มโบกมือ นำตั๋วเงินหนึ่งล้านออกมา กล่าวอย่างจริงจัง “นำไปได้เลย!”
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ปรากฏหน้าเขา ยกมือตบที่บ่า “เปิ่นจั้วเห็นเจ้ามีแววไม่น้อย ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเรามาเป็นสหายกันเป็นอย่างไร?”
“......”
ราชาสัตว์จื่อหลินที่มุมปากกระตุก.
หากไม่เพราะว่าหลิวหว่านซีที่อ้อนวอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ้าคนนี้คงไม่ถูกช่วย ทว่าเมื่ออีกฝ่ายจ่ายออกมาหนึ่งล้าน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเลยรึ?!