ตอนที่ 70 เพื่อนร่วมชั้นรับความเสียหาย 100,000 แต้ม
“หือ?”
“..มันจะดีเหรอ?” ซูเหวิน อึ้งไปเล็กน้อยแล้ว
ให้ดื่มน้ำของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย?
คือเขาก็ไม่ได้รังเกียจนะ..
เพียงแต่เดี๋ยว เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็ต้องดื่มมันด้วย!
เราผู้ชายเมื่อโตขึ้นย่อมต้องใส่ใจเรื่องสุขอนามัยด้วย จริงไหม?
“ไม่เป็นไร ดื่มเถอะ!”
“จริงๆ แล้วฉันเพิ่งจิบไปก่อนหน้านี้ แบบว่าถ้าคุณไม่รังเกียจ..”
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ในขณะพูดไปใบหน้าเนียนของเธอก็เริ่มขึ้นสีแดงเล็กน้อยแล้ว
“เอ่อ...โอเค!”
“งั้นก็ขอบคุณนะ”
ถ้า เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย พูดแบบนี้
ซูเหวิน แม้เขาจะอยากปฏิเสธก็ยากที่จะปฏิเสธแล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเขาปฏิเสธออกไป ก็เกรงว่า เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย จะเกิดคิดไปว่าตัวเขารังเกียจเธอเปล่าๆ
จากนั้นเขาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่อีกฝ่ายส่งมาให้
นี่เป็นแก้วน้ำสีชมพู
มันสวยมาก และน่ารักมาก
บนตัวแก้วน้ำยังมีลายตุ๊กตาหมี
เมื่อมองไปที่แก้วน้ำใบนี้ ดูเหมือนว่าแม้แต่การจิบน้ำสักอึกเดียวก็ยังเป็นบาป
แต่ ซูเหวิน เขากระหายน้ำมาก ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรแล้ว
เขาเปิดฝาแล้วจิบไปสามอึกใหญ่ๆ
อึก.. ฮ่าาาา!
ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ได้ดื่มมันไปก่อนหน้านี้หรือไม่
แต่ด้วยเหตุใดไม่รู้ ซูเหวิน ถึงคิดไปได้ว่า น้ำนี้.. ดูเหมือนจะมีรสหวานเป็นพิเศษ
คือเขา..คิดไปเองหรือเปล่า?
จากนั้นเขารีบส่ายศีรษะ และรีบโยนความคิดนี้ออกไป
เขาไม่อยากกลายเป็นคนแปลกๆ ต่อหน้าอีกฝ่าย
ต่อมาเขารีบปิดฝา แล้วคืนแก้วน้ำให้กับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย
อย่างไรก็ตาม มีบางเรื่องที่ ซูเหวิน ..ไม่รู้
เขาที่แค่ดื่มน้ำไปเท่านั้น
เพียงแต่ในวินาทีนั้นที่ชั้นหนึ่งของโรงอาหารทั้งหมดพลันเงียบลงทันที
และในทันทีทันใดนั้นเอง
บูม!
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายปะทุขึ้น..
“แม่งเอ้ยย! ฉันเห็นอะไรวะ? ซูเหวิน ดื่มน้ำจาก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เขา..เขาดื่มน้ำจาก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย จริงๆ?”
“พระเจ้า! นั่นคือแก้วน้ำของ ดอกไม้งาม เซี่ย และฉันเห็น ดอกไม้งาม เซี่ย จิบมันไปก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยตาฉันเอง”
“ดอกไม้งาม เซี่ย เธอสวยงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ แล้วมันเป็นเกียรติแค่ไหนที่ได้ดื่มน้ำจากแก้วที่เธอดื่ม..”
“อ่าาา~ ซูเหวินคนนี้ เขาได้ช่วยกาแล็กซีเอาไว้ในชีวิตก่อนหน้านี้หรือไม่? หากไม่ งั้นเขามันมีดีอะไร?”
เหล่าเพื่อนร่วมชั้นต่างพาพูดคุยกัน และมองมาอย่างใจจดใจจ่อ
โดยเฉพาะกับหนุ่มๆ
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ซูเหวิน กับดอกไม้งาม เซี่ย จะใกล้ชิดสนิทสนมกันถึงขนาดนี้ และที่คาดไม่ถึงคือ พวกเขาถึงขนาด ดื่มน้ำจากแก้วเดียวกัน…
ทันใดนั้น ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขารับความเสียหาย 100,000 แต้ม แบบติดคริติคอล
พวกเขาพากันมองไปที่ ซูเหวิน ทีละคนๆ ด้วยตาแดงก่ำ
และแทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปฆ่าอีกฝ่าย ..ให้ตาย
แล้วจากนั้นก็ก้าวขึ้นไปนั่งกินข้าวร่วมกับ ดอกไม้งาม เซี่ย และดื่มน้ำในแก้วนั้น แทนเขา…
ในขณะนี้ หาก ซูเหวิน รู้ความคิดภายในใจของพวกเขา เขาคงไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะ หรือร้องไห้ก่อนดี
และในขณะที่ทุกคนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยานั้น
ซูเหวิน เซี่ย ซินเหยา และคนอื่นๆ ก็กินข้าวกลางวันเสร็จไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็พากันออกจากโรงอาหารไป ภายใต้สายตาอิจฉาของ เพื่อนร่วมชั้น
“เพื่อนร่วมชั้น ซู ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกันคุณ”
เพียงแต่..หลังจากออกมาจากโรงอาหารได้ไม่นาน
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็พูดขึ้นพยายามหยุด ซูเหวิน ให้อยู่ต่อ
“เรื่องอะไรเหรอ?” ซูเหวิน สับสน
“อืม...ก็ จริงๆ มันก็ไม่มีอะไร”
“แค่อยากจะบอกว่าต่อไป คุณไม่ต้องเรียกฉันว่า เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย แล้ว พอได้ยินคุณพูดว่า เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย แล้วมันฟังดูแปลกๆ นะ”
“คุณเรียกฉันว่า เสี่ยวเหยา เถอะ ซิ่วซิ่ว ..จี้หยวี่ คนอื่นๆ ก็เรียกฉันแบบนี้”
“และฉันก็จะไม่เรียกคุณว่า เพื่อนร่วมชั้น ซู อีกต่อไปเช่นกัน แต่จะเรียกคุณว่า เสี่ยวเหวิน เป็นไง?”
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ออกจะหน้าแดงเล็กน้อยขณะพูด
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา วัง ซิ่วซิ่ว จี้หยวี่ ก็เห็นด้วยมาก : “ใช่ใช่ใช่ พวกเราก็คิดแบบนี้เหมือนกัน”
หลังจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันมานาน การที่เรามักจะเรียก ‘เพื่อนร่วมชั้น’ อยู่เสมอๆ มันก็ฟังดูแปลกจริงๆ
ซูเหวิน เองตะลึงงันไปเล็กน้อย แต่จากนั้นเขาก็คิดเช่นกัน จึงพยักหน้าพูดว่า : “โอเค.. เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย”
เซี่ย ซินเหยา : “......”
วัง ซิ่วซิ่ว : “......”
จี้หยวี่ : “......”
…........
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และพริบตาเดียวก็มาถึง ..ช่วงบ่าย
ซูเหวิน ไม่มีเรียน พอหลังจบคาบสุดท้ายเขาก็กลับไปที่หอพักแล้ว
“นาย(主人 มันแปลได้หลายความ)โทรมาแล้ว โทรมาแล้ว รีบรับสาย ทำไมยังไม่รีบรับสาย~”
ไม่นานหลังจากที่เขากลับมาที่หอพัก โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เป็นสายจาก บริษัท ช่านซิง เอนเตอร์เทนเมนท์
ด้วยความสงสัย ซูเหวิน จึงกดรับโทรศัพท์
“มีอะไรงั้นเหรอ รองประธานเผิง?” ซูเหวิน ถาม
“ท่านประธานซู เมื่อวานมีเรื่องที่ผมลืมเล่าให้ท่านฟัง เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการคัดเลือก..”
“อีกไม่กี่วัน ช่านซิง เราเตรียมที่จะจัดคอนเสิร์ตออลสตาร์ครั้งใหญ่ขึ้นที่เมืองม่อ, ไม่ทราบว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพของรองประธานเผิงดังขึ้นมา
“คอนเสิร์ต?” ซูเหวิน แปลกใจเล็กน้อย
“มัน..เป็นเรื่องปกติที่บริษัทบันเทิงจะจัดคอนเสิร์ตไม่ใช่เหรอ? เรื่องแบบนี้ คงไม่จําเป็นต้องรายงานให้ผมทราบเป็นพิเศษจริงไหม?”
ซูเหวิน พูดต่อ เห็นได้ชัดว่าเขาประหลาดใจมาก
“ปกติก็เป็นเช่นนั้น..”
“แต่ ประธานซู คุณเพิ่งเข้ารับตําแหน่งไม่ใช่เหรอครับ?”
“นอกจากนี้ คอนเสิร์ตออลสตาร์ครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก ก็เลยคิดว่า ควรจะแจ้งให้กับ ท่านประธาน ทราบดีกว่า”
รองประธานเผิง ยิ้มหัวเราะเบาๆ เขาดูพูดอย่างระมัดระวังมาก
แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นไปตามที่ ประธานซู กล่าวไว้จริงๆ เพราะมันดูเหมือนว่าไม่จําเป็นต้องแจ้งให้เขาทราบโดยเฉพาะก็ได้
แต่ใครจะไปรู้ว่า ประธานซู เขาจะมีอารมณ์แบบไหนยังไง?
เมื่อคอนเสิร์ตออลสตาร์ในครั้งนี้คอนเฟิร์มแล้ว พวกเขาจะดําเนินการทันที
จากนั้นจะมีการประชาสัมพันธ์อย่างท่วมท้นบนสื่อในทุกแพลตฟอร์มหลักๆ ทั้งหมด
ตอนนั้น.. ถ้า ประธานซู เกิดเห็นข้อความประชาสัมพันธ์
เมื่อรู้ว่าตนที่ซึ่งเป็น ประธาน.. กลับไม่รู้เรื่องนี้ และกลายเป็นผูกปมในใจขึ้นมามันคงจะกลายเป็นเรื่องไม่ดีแน่
เขาเลยรู้สึกว่า ..โทรไปดีกว่า
ในเรื่องนี้ ซูเหวิน ย่อมไม่พูดอะไรมาก
เขาพยักหน้ากล่าวว่า : “ไม่เป็นไร ต่อไปเรื่องแบบนี้พวกคุณควรทําอย่างไร ทําไปได้เลยไม่ต้องถามความเห็นผม”
จากนั้นพูดคุยกันอีกสองสามคํา ซูเหวิน ก็วางสายไป
ต้องยอมรับว่า บริษัท ช่านซิง เอนเตอร์เทนเมนท์ มีประสิทธิภาพในการทำงานรวดเร็วดีจริงๆ
แค่วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พวกเขาคุยโทรศัพท์เสร็จ
เรื่องเกี่ยวกับการจัดคอนเสิร์ตออลสตาร์ที่เมืองม่อ ก็ปรากฏอย่างรวดเร็วตามสื่อต่างๆ ทั้งโต๊ะข่าว พาดหัวข่าว... และอื่นๆ
และด้วยความเร็วดุจสายฟ้า มันได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองม่ออย่างรวดเร็ว
ชั่วขณะหนึ่ง มันไม่เพียงแต่ในเมืองม่อเท่านั้น
แม้แต่ในมหาวิทยาลัยเทียนเวย ก็สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย
ในตอนเช้า ซูเหวิน ขณะอยู่ในชั้นเรียน!
โทรศัพท์ของเขาก็สั่นไม่หยุด
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาตรวจดู ปรากฎว่ามันมาจากกลุ่มเพื่อนใน VX ซึ่งมันทำเอาเขาอดยิ้มออกมาไม่ได้
กลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มอื่นใด
แต่เป็นกลุ่มเล็กๆ หกเจ็ดคนที่ก่อตั้งขึ้นโดย ซูเหวิน มี เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย จูเหยี่ยน วัง ซิ่วซิ่ว และคนอื่นๆ
มีคนไม่มาก แต่มีความกลมกลืน และโดยปกติมันก็มักจะสงบ
แต่วันนี้ จู่ๆ กลุ่มนี้ก็ดูมีชีวิตชีวามาก ซึ่งทำให้ ซูเหวิน ค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยแล้ว
แล้วพอดูข้อความก็ยังเป็น 99+
มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ซูเหวิน จึงลองเข้าไปในกลุ่ม
นั่นจึงทำให้เขารู้ว่าใครๆ ในเวลานี้ก็กำลังพูดถึงคอนเสิร์ตออลสตาร์
วัง ซิ่วซิ่ว : “ฮ่าฮ่า ยังไงฉันก็ตัดสินใจแล้ว คอนเสิร์ตออลสตาร์ครั้งนี้ ฉันจะไป”
จี้หยวี่ : “นั่นยังจะพูดอีก ที่เหลือคงยังไม่ได้ไปดูสิท่าว่าเทพแบบไหนที่มาเข้าร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ โจวมู่, เสิ่นเยวี่ย, จาง หานหาน, เซี่ยกุน, กู้ อวิ๋นเฟิง... ให้ตาย ฉันนับไม่หมดด้วยซ้ำ ทั้งหมดที่มาต่างเป็นดาราใหญ่ทั้งนั้น”
เซี่ย ซินเหยา : “จาง หานหาน เป็นนักร้องหญิงคนโปรดของฉัน ถ้าเธอมา ฉันยินดีจะไปดูด้วย”
จูเหยี่ยน : “สําคัญที่สุดครั้งนี้ ไม่ใช่ว่า ถานอี้ จะเข้าร่วมคอนเสิร์ตด้วยเหรอ? หลังจากเข้าวงการมาพี่ชายก็กลายเป็นดาราใหญ่ แถมยังเป็นนักร้องอีกคนที่ได้ชื่อว่า เทพเจ้าแห่งเพลง และตอนนี้ก็กลายดาราดังที่ฮอตที่สุดในประเทศ!”
จี้หยวี่ : “ใช่ ใช่ ฉันก็ชอบ ถานอี้ มากที่สุดแล้ว ฉันกําลังคิดว่าถ้าพวกเขาสามารถมาที่มหาวิทยาลัยเทียนเวย และจัดคอนเสิร์ตอีกครั้งขึ้นที่นี่ได้คงจะดีไม่น้อย”
เหอ เหวินเฟิง : “เชี้ยยย เธอ.. บ้าไปแล้วใช่ไหม?”
เหอ เหวินเฟิง : “นักร้องเหล่านี้แต่ละคนเป็นนักร้องชั้นนําของประเทศ จ้างสักคนก็ยังเป็นเรื่องยาก เชิญพวกเขาทั้งหมดมาร้องเพลงให้เธอที่มหาลัย มันคงเป็นไปได้?”
จูเหยี่ยน : “ใช่ๆ ซึ่งก็คือ.. เธอมันต้องบ้าไปแล้ว”
เมื่อเห็นว่าทุกคนพูดคุยอะไรกัน อีกทั้งบทสนทนาที่ดูคึกคักนี้
มันยิ่งกระตุ้นความสนใจของ ซูเหวิน
เขาจึงถามลงไปว่า : “พวกคุณอยากให้ดาราดังเหล่านี้มาจัดคอนเสิร์ตที่มหาลัยเราจริงๆ เหรอ?”
จี้หยวี่ : “โอ้.. นั่นมันจะให้พูดอีกเหรอ ใครล่ะไม่อยากเจอคนดัง?”
วัง ซิ่วซิ่ว : “ใช่แล้วๆ นั่นคือไอดอลของเรา เห็นบนโทรศัพท์จะไปตื่นเต้นเท่ากับเห็นคนจริงๆ ไปได้ยังไงจริงไหม?”
ซูเหวิน : “เสี่ยวเหยา แล้วคุณล่ะ?”
เซี่ย ซินเหยา : “แน่นอน.. หากสามารถดูคอนเสิร์ตได้โดยที่ไม่ต้องออกไปไหน ใครจะไม่อยากดูล่ะ?”
ซูเหวิน พยักหน้า แล้วพูดว่า : “อืม งั้นก็ให้พวกเขามา!”