ตอนที่ 144 โปรหน้าใหม่
สั่งเจ้าพ่อไปเป็นไอดอล
ตอนที่ 144 โปรหน้าใหม่
จูนเป็นคนแรกที่เข้าห้องซ้อม
เมื่อประตูเปิดออก และเพื่อนร่วมทีมของเขาคนอื่นๆ ก็เข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"พี่ชาย!" ซีเจย์ทักทายอย่างร่าเริง “นายกลับมาแล้วเหรอ?”
“ใช่” จูนพูดพร้อมยืนจากพื้น
"นายดีขึ้นแล้วใช่ไหม?" เซฮุนถามด้วยน้ำเสียงกังวล “จำเป็นต้องเย็บแผลใหม่หรือเปล่า?”
“ไม่จำเป็น” จูนส่ายหน้า "ก็แค่เจ็บนิดหน่อย"
“นายควรระวังตัวหน่อยนะ” เฮซูกล่าว “นายยังอยู่ในช่วงพักฟื้นอยู่เลย”
“นอกจากนี้” เจคอบพูดต่อ "เรากำลังไปได้ดีเลย เพราะงั้นนายพึ่งพาเราได้อีกหน่อย นายทำหลายอย่างให้กับทีมนี้แล้ว”
"มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่ฉันไม่อยู่หรอ?" จูนถามเพราะพวกเขาดูมีความสุขผิดปกติ
“เราผ่านการประเมินรอบสุดท้ายมาได้สักพักแล้ว” เซฮุนกล่าวพร้อมกับดูสดใสกว่าเดิมด้วย "เราถูกเรียกให้ไปซ้อมรอบไฟนอลก่อนขึ้นสเตจจริง เสียใจที่นายไม่สามารถขึ้นสเตจร่วมกับเราได้ แต่เราก็ทำกันได้ดีมากแม้ไม่มีนายก็ตาม เมนเทอร์คอมเมนต์บวกกับเราด้วย”
"ช่าย!" ซีเจย์อุทาน “พวกเขาชอบเนื้อเพลงใหม่กับการเปลี่ยนแปลงคอนเซ็ปต์ของเรามาก”
“ทีมอื่นๆ ได้ดูผลงานของพวกนายหรือเปล่า?” จูนถาม
“มี” เจคอบตอบ “แต่พวกนั้นไม่ได้สนใจเรานัก” เขากล่าวเสริมอย่างหดหู่
“แล้วพวกนายได้ดูสเตจของ Skateboard Ride บ้างไหม?”
“อืม” ซีเจย์ตอบ จู่ๆ ก็กลายเป็นบูดบึ้ง "ผลงานของเราค่อนข้างดี แต่เราคงไม่สามารถเอาชนะทีมที่มีความสามารถขนาดนั้นได้จริงๆ โคตรไม่ยุติธรรมเลยที่มีแต่ผู้ติดอันดับสูงสุดมากมายในกลุ่มเดียว!"
“รู้สึกเหมือนเป็นการตัดสินที่เป็นเอกฉันท์ตั้งแต่ต้นแล้ว” แทคยองถอนหายใจ "แม้แต่พวกกรรมการต่างก็ชอบ 'Skateboard Ride' สุด ไงก็เหอะ ฉันยังคงรู้สึกค่อนข้างพอใจเพราะเราได้รับคอมเมนต์ที่ดี ฉันแน่ใจว่าเราจะทำได้ดีขึ้นกว่านี้อีกเมื่อจูนแร็พจริงๆ!"
“แน่นอน” เซฮุนกล่าว “ฉันได้ยินมาว่าจูนทำงานหนักมากเพื่อสิ่งนี้”
จูนกัดลิ้น ไม่คุ้นเคยกับการทำงานหนักของเขา
“เราทุกคนต่างทำงานกันอย่างหนักเพื่อสิ่งนี้” เขาพึมพำ “ดังนั้นเราจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชัยชนะ”
“เราจะไม่ให้เสียนอกจากทำให้ดีที่สุด” เซฮุนยิ้ม "ทำไมเราไม่ซ้อมกันอีกครั้งล่ะ หืม? คืนพรุ่งนี้เราจะขึ้นแสดงแล้ว ดังนั้นวันนี้เราจะได้พักเร็วๆ หน่อย ไปพักผ่อนให้เต็มที่”
“โอเคไม่มีปัญหา” ซีเจย์ กล่าว
“มาลุยกันเลย” เซฮุนเริ่ม อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มซ้อมกันต่อ จูนก็ดึงบางอย่างออกจากกระเป๋าของเขา
มันเป็นเนคไทผ้าไหมสีขาวที่เขาได้มาจากชเว พาโบล
"นี่คืออะไร?" ซีเจย์ถาม “เอาเศษผ้านี่มาให้เราทำไมล่ะ”
“เศษผ้าหรอ?” เจคอบถามด้วยสายตาเบิกกว้าง “นี่ไม่ใช่เศษผ้า คุณเห็นป้ายไหม นั่น Hermit!”
"โอ้วคุณพระ!" ซีเจย์อุทาน “Hermit? แบรนด์หรู Hermit อ่ะนะ?”
“นายพูดถูก” เซฮุนพูด "พวกนี้มันแบรนด์จาก Hermit นี่นายไปเอาสิ่งนี้มาจากไหนเนี่ยจูน? ฉันเดาว่าการผูกเน็คไทแบบนี้ต้องใช้เงินอย่างน้อยหนึ่งร้อยดอลลาร์”
จูนยักไหล่ขณะที่เขาสำรวจวัสดุที่เรียบลื่น เขาไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าของสิ่งนี้ก็เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเหมือนกัน
“มีคนให้ฉันมา” เขาตอบอย่างคลุมเครือ
“โอเค ขอบคุณคนที่ให้มาจะดีกว่า” ซีเจย์กล่าว “เขาเพิ่งจ่ายเงินกว่าพันเหรียญให้นายนะเพื่อน”
จูนถอนหายใจและเปลี่ยนหัวข้อ
“นี่จะเป็นพร็อพของเรา” เขาอธิบาย “การฝึกซ้อมโดยใช้เชือกหยาบๆ หนักๆ มันเหนื่อยเกินไป” จูนกล่าว “จากนี้ไป เราจะใช้ผ้านี่ฝึกและขึ้นแสดง”
เนื่องจากเพลงนี้มีชื่อว่า 'Tie Me Up' และมีบางช่วงในท่าเต้นที่ทำไว้ล่วงหน้าซึ่งเลียนแบบท่าเต้นการผูกเนคไท จูนจึงคิดว่าเป็นการดีที่สุดที่จะใช้ของ...ตามตัวอักษร
เดิมทีพวกเขาใช้เชือกหยาบที่จูนไปแฮ็ปมาจากตู้เสื้อผ้าของภารโรง (ซึ่งภารโรงยังคงตามหามันมาจนถึงตอนนี้) แต่มันเอาใช้ค่อนข้างยากเนื่องจากความหยาบของวัสดุ
อย่างไรก็ตามเพื่อนร่วมทีมของเขาไม่บ่นและซ้อมอย่างจริงจังกันต่อไป
นั่นเป็นสาเหตุที่จูนคิดที่จะใช้เนคไทผ้าไหม
เมื่อเสียงดนตรีบรรเลง และพวกเขาก็ทิ้งเชือกหยาบๆ ไว้ด้านข้างแล้วใช้วัสดุที่อ่อนนุ่ม
ขณะที่พวกเขาเต้นตามท่า จูนพยักตอบรับด้วยในขณะที่เขามองภาพโดยรวมในกระจก
เนคไทผ้าไหมสีขาวสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นให้กับท่าเต้นของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นสัญลักษณ์ของความสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างการยอมจำนนและการควบคุม โดยเพิ่มองค์ประกอบของความซับซ้อนและความเร้าอารมณ์ให้กับการนำเสนอโดยรวม
ขณะที่พวกเขาแสดงท่าทาง พวกเขาก็ผูกมัดตัวเองไว้ในรูปแบบที่สลับซับซ้อนด้วยสายสัมพันธ์ ทำให้เกิดช่วงเวลาที่น่าหลงใหล
“มันดีขึ้นเยอะเลยแฮะ” ซีเจย์ พูดไปหอบไปหลังจากซ้อมเต้นวนๆ ไป
“มันดูดีมากเลย” เซฮุนกล่าว “การแสดงของเราพัฒนาขึ้นอีกแล้ว ฉันเชื่อว่าเราจะทำได้ดียิ่งขึ้นบนเวที”
“ฉันเองก็ตั้งความหวังกับเรื่องนี้ไว้สูง” ซอกฮวาพูด “ตราบเท่าที่เราถ่ายทอดเนื้อเพลงของเราได้ดี ผู้ชมจะรู้สึกถึงความสิ้นหวังและพรสวรรค์ของเราอย่างแน่นอน”
“มาซ้อมร้องเพลงกันดีกว่า” เซฮุนพูด “หลังจากนั้นเราจะฝึกซ้อมรวมทั้งหมดจนถึงเย็น”
เมื่อจูนเหลือบมองเหล่าเพื่อนร่วมทีมที่มองโลกในแง่ดี เขาก็อดรู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคยในหัวใจไม่ได้
เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันรู้สึกคล้ายกับความรู้สึกที่เขาได้รับเมื่อเมนเทอร์ชื่นชมการแสดงของเขาตอนอยู่ทีม 'Skateboard Ride'
มันคือ...ความสุขใช่ไหมนะ?
จูนพยายามปฏิเสธ ทว่ามีรอยยิ้มเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่เพื่อนร่วมทีมพ่นเนื้อเพลงของพวกเขา
มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเขารู้สึกภูมิใจในตัวเด็กๆ พวกนี้มาก
พวกเขามุ่งมั่นที่จะแสดงความสามารถของตนในขณะเดียวกันก็พิสูจน์ให้ผู้คนที่ประเมินพวกเขาต่ำไปได้ประจักษ์
เมื่อท่อนของเขาใกล้เข้ามา จูนก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
ก่อนที่เขาจะเริ่มแร็พ จูนสบตากับเพื่อนร่วมทีม และพวกเขาต่างก็มองตาให้กำลังใจ ราวกับจะบอกว่า "นายทำได้!"
พูดตามตรง เซฮุนและคนอื่นๆ กังวลเกี่ยวกับจูนเล็กน้อย เขาได้รับคำวิจารณ์ที่รุนแรงที่สุดจากซุนวาย แถมเขายังไม่ได้ถูกประเมินจากพวกเขารอบก่อนหน้านี้
ยิ่งไปกว่านั้น จูนยังขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องที่เก่งมาก เรียกได้ว่าเป็นนักร้องที่เก่งที่สุดในรายการเลยก็ได้? จากสิ่งที่พวกเขาได้ยินมา ทักษะการแร็พของ จูน ขึ้นอยู่กับความปรารถนาของเขาที่จะชนะเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อจูนหลบสายตา ความมั่นใจก็เพิ่มสูงขึ้นภายในตัวเขา
จูนซ้อมแร็พตลอดทางระหว่างทางกลับไปยัง Azure และเขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการอัปเกรดทักษะ 6 ระดับ
โฟล์วของเขาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นและเขาก็ไม่ติดขัดอีกเมื่อจบผ่านแต่ละไลน์
ขณะที่จังหวะของเวิร์สที่สองเริ่มผ่านลำโพง จูนก็จ้องมองไปที่ด้านหน้า ด้วยการสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเริ่มแร็พ และถ้อยคำลื่นไหลออกมาอย่างง่ายดาย อย่างกับมือโปรหน้าใหม่ที่โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้!
เสียงของเขาซึ่งครั้งหนึ่งเคยอ่อนโยนและไพเราะได้กลายมาเป็นพลังแห่งจังหวะที่ต้องคำนึงถึง เขาถ่ายทอดไลน์ของเขาพร้อมบีทที่คมกริบ แต่ละคำคั่นด้วยจังหวะในลักษณะที่ทำให้ดูเหมือนว่าเขาเกิดมาเพื่อแร็พ
เพื่อนร่วมทีมต่างกำลังกลั้นหายใจอึ้งตะลึงตาปากค้าง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พวกเขาได้ยิน จูนไม่ใช่แค่แร็พได้ทั่วไปเท่านั้น เขาแร็พได้เทพจริงๆ! ฟังดูราวกับเขาเป็นแร็ปเปอร์โดยธรรมชาติ ใส่ถ้อยคำที่สลับซับซ้อนและคำอุปมาอุปมัยที่ชาญฉลาดลงในบทกวีของเขาได้อย่างง่ายดาย
เมื่อท่อนแร็พของจูนจบลง ความเงียบอันน่าตกตะลึงก็ค้างอยู่อย่างงั้น เพื่อนร่วมทีมต่างพูดไม่ออก อ้าจนคางแทบจะแตะกับพื้น พวกเขาคาดหวังบางสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับคือความโกลาหลล้วนๆ
ซีเจย์จ้องมองที่จูนด้วยดวงตาเบิกกว้างกรามค้าง
เชี่ยอะไรวะเนี่ย?
เขาเป็นเมพขนาดอย่างนี้มาตั้งแต่แรกเลยเหรอ?
___________________________