Chapter 20: ซุ่มยิง
ฉินหรานหัวเราะเมื่อได้ยินความเงียบจากอีกปลายสาย เขารู้สึกอยากหัวเราะจริง ๆ ไม่ได้แค่แกล้งทำเพื่อให้อีกฝ่ายขัดเคือง เป็นอีกครั้งที่เขาเป็นฝ่ายคุมเกม
กำลังคนอาวุธครบมือจำนวนเหนือกว่านั้นไม่นับเป็นอะไรเลยเมื่อเทียบกับความโลภของคนผู้หนึ่ง ใช่ พันตรีซาหลูข่าเป็นคนโลภมาก นั่นเป็นจุดอ่อนของเขา ฉินหรานสามารถฉวยโอกาสจากเรื่องนี้ได้ เขามั่นใจว่าเขาทำได้ เขารอให้อีกฝ่ายตอบกลับมา
"แกต้องการอะไร?" ซาหลูข่าถามหลังจากผ่านมาครู่หนึ่ง ฉินหรานรู้สึกได้ถึงความโกรธของชายคนนี้แม้จะอยู่คนละฝั่งสายโทรศัพท์ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
สำหรับเขา ซาหลูข่าก็เป็นบอสตัวหนึ่งที่เขาต้องฆ่าเพื่อไปต่อในเกม ไม่มากหรือน้อยไปกว่านี้
"ผมต้องการอะไร? นั่นเป็นคำถามที่ดีมากเลยท่านนายพัน มีอะไรที่ผมจะต้องการในเมืองห่วย ๆ นี่เหรอ? อืม อย่างแรกเลยก็ ออกไปจากที่นี่ ผมต้องการออกไปจากเมืองบ้า ๆ ที่ถูกพระเจ้าลืมแห่งนี้!" ฉินหรานดำเนินตามแผนของตนซึ่งก็คือแสร้งทำเป็นว่าเขาเป็นผู้รอดชีวิตจากสงครามและปรารถนาจะหนีออกไปจากที่นี่
"คืนอัญมณีของฉันมา และฉันจะพาแกออกไปจากที่นี่" ซาหลูข่ารับปากคำขอของฉินหรานอย่างรวดเร็ว
"ตกลง ผมจะรอคุณที่ฐานที่มั่นเก่าของอีแร้งตอนตะวันตก!" ฉินหรานตอบโดยไม่หยุดคิดสักวินาที
พันตรีนั่นวางสายไป ฉินหรานมองหน้าจอก่อนที่จะรีบเอาแบตเตอรี่ออก จากนั้นก็หดตัวเข้าไปที่ข้าง ๆ ซากกำแพงแห่งหนึ่งแล้วหลับตาลง เขารู้ว่าเขามีการต่อสู้ที่ยากลำบากรอเขาอยู่ ดังนั้นเขาต้องพักให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนที่ตกลงกับซาหลูข่าว้น่ะเหรอ
แน่นอนว่าเป็นการโกหกทั้งหมดเลย
ตัดสินจากความรู้สึกคุกคามอย่างแรงกล้าที่เขาได้รับจากชายคนนั้น บอกว่าคนผู้นี้ไม่ใช่คนที่ร่วมมือด้วยง่าย ๆ ยังเบาไป คนผู้นั้นคงไม่ยอมทำตามง่าย ๆ หลังจากสิ่งที่ฉินหรานทำลงไปกับเขา เขาต้องลงมือแก้แค้นแน่ ๆ แต่เพราะว่าเขายังต้องการอัญมณีพวกนั้น เขาจะส่งกำลังคนทั้งหมดมาไม่ได้ น่าจะส่งทีมชั้นยอดมาทีมหนึ่ง ในทีมนั้นย่อมต้องมีมือขวาของซาหลูข่าด้วย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาน่าจะเป็นศัตรูที่เก่งกาจ ฉินหรานเองก็ไม่ได้คิดจะถอยกลับ
หากต้องเผชิญหน้ากับทั้งกองทับด้วยสกิลที่เขามีตอนนี้มันคงจะยาก แต่ว่าเขาคิดว่าเขาสามารถจัดการกับกำลังคนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งได้ แผ่นการของเขาต้องใช้ออกอย่างสมบูรณ์เพื่อให้เขาคืบหน้าต่อไปในเกม
"เขาสามารถหาฉันเจอภายในเวลาไม่นาน!" ฉินหรานคิดกับตัวเองขณะพักสายตา
ตอนที่เขาเจอโทรศัพท์ในห้องของอีแร้ง เขาก็เห็นแล้วว่ามันดูต่างไปจากโทรศัพท์ทั่วไป มันดูเรียบง่ายและทนทานกว่าปกติมาก อีกอย่าง ในเมืองที่เกิดสงครามเช่นนี้ ไม่มีเครื่องมือสื่อสารชิ้นไหนปลอดภัยหรอก จากสถานการณ์และการที่โทรศัพท์ยังใช้การได้ มันต้องเป็นของที่ซาหลูข่าให้อีแร้งมาเพื่อให้มันติดต่อกับเขาได้ จากหน้าตาแล้วโทรศัพท์เครื่องนี้น่าจะมีการตัวติดตามสัญญาณเอาไว้ซาหลูข่าจะได้จับตามองอีแร้งได้ นี่เป็นเหตุผลให้ฉินหรานคอยเอาแบตเตอรี่ออกทุกครั้งที่เขาใช้งานโทรศัพท์เสร็จ
เขาไม่อยากดึงคอลลีนเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังต้องมีสถานที่ปลอดภัยที่สามารถมุ่งหน้าไปหาได้ในกรณีฉุกเฉิน เพราะนี่มันก็เพิ่งวันที่สองในเกมเอง
"วันนี้คงเป็นวันที่ยาวนานมากแน่ ๆ!"
เห็นการแจ้งเตือน [ภารกิจหลัก: มีชีวิตรอบให้ครบ 7 วัน, 1/7] เปลี่ยนเป็น [2/7] ฉินหรานรู้สึกถึงความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ที่อาบไล้ใบหน้าของเขา เขาถอนหายใจเบา ๆ
...
"แกระบุตำแหน่งไอ้หนูท่อนั่นได้หรือยัง" ซาหลูข่าวางโทรศัพท์แล้วหันไปหาผู้ช่วยของเขา
"ผมระบุตำแหน่งของมันได้แล้วครับ มันอยู่แถว ๆ วิลล่าการ์เด้น!" ผู้ช่วยตอบอย่างรวดเร็ว
"ดีมาก ส่งตำแหน่งให้แฮงก์ แล้วส่งทีมออกไปกำจัดไอ้หนูท่อนั่นแล้วเอาของของฉันกลับมา! จำไว้ ฉันต้องการของกลับมาในสภาพไร้รอยขีดข่วน!" ซาหลูข่าพยักหน้าสั่งผู้ช่วยของเขา
"ครับ ท่าน!" ผู้ช่วยทำความเคารพก่อนจะรีบนำข้อความไปบอกต่อ
"ไอ้ตัวสารเลวน้อย แกคิดว่าแกขู่ฉัน พันตรีซาหลูข่า ได้งั้นเหรอ?" ซาหลูข่าพูดด้วยเสียงเย็นเยียบในขณะมองไปที่จุดสีแดงบนอุปกรณ์ติดตามสัญญาณ
...
ภายใต้แสงสว่างจ้าจากดวงอาทิตย์ รถบรรทุกคันหนึ่งปรากฏขึ้นที่ระหว่างถนนบรอดเวย์ที่หกและถนนไปวิลล่าการ์เด้น บนรถมีสัญลักษณ์พิเศษที่ได้รับอนุญาตให้ผ่านถนนทุกเส้นโดยสะดวก กลุ่มผู้ชายสิบคนกระโดดลงมาจากรถอย่างคล่องแคล่วแล้วยืนเรียงแถวข้ารถ จากนั้นผู้ชายอีกคนก็ลงมาจากที่นั่งข้างคนขับและผู้ชายทั้งสิบคนก็ทำความเคารพเขาอย่างพร้อมเพรียง
"ภารกิจจากพันตรีซาหลูข่า: ระบุตำแหน่งและกำจัดเป้าหมาย เป้าหมายเป็นผู้ชาย มีอาวุธ ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้ ระบุตำแหน่งของมัน กำจัด แล้วยึดทุกอย่างในความครอบครองของมัน! ย้ำอีกครั้ง ระบุตำแหน่งและกำจัด!" ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง
รถบรรทุกกลับออกไป เสียงเครื่องยนต์ดังไปตามทาง
ผู้ชายคนนี้ดูเข้มงวดและโหดเหี้ยม เขาคือแฮงก์ และในฐานะมือขวาของซาหลูข่า เขาตระหนักดีถึงความสำคัญของภารกิจนี้ ถ้าพวกเขาล้มเหลวในการกำจัดเป้าหมาย ตัวเขากับลูกน้องก็ไม่จำเป็นต้องรอให้กองกำลังของรัฐบาลมาจัดการหรอก พันตรีแห่งกองกำลังกบฏคงจะจัดการพวกเขาก่อนแล้ว ต่อให้ซาหลูข่าจะจัดเตรียมของเล่นอันตราย ๆ ไว้เล่นงานพวกเขา แต่พวกระดับสูงก็จะไม่สนใจ แฮงก์รู้อยู่เต็มอกว่า ถ้าหากเขาล้มเหลว เขาจะตาย ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังเป็นพิเศษในการทำภารกิจนี้
"สไนเปอร์ ปืนกล ไปหาจุดซุ่มยิง! ที่เหลือแบ่งเป็นกลุ่มละ 4 คนแล้วเริ่มค้นหา!"
"ครับ ท่าน!" ทหารทั้งหมดแยกย้ายทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว สไนเปอร์ขยับขึ้นที่สูงเพื่อความได้เปรียบ ในขณะที่ปืนกลและผู้ช่วยขนย้ายกล่องกระสุนและปักหลักที่พื้นที่โล่งท่ามกลางเศษซากปรักหักพังเพื่อติดตั้งปืนกล ที่เหลืออีกแปดคนรวมทั้งร้อยโทแฮงก์แยกเป็นสองกลุ่มแล้วเข้าไปในเขตวิลล่าการ์เด้นเพื่อหาคน
ฉินหรานที่เห็นทุกอย่างนี้จากจุดซ่อนตัวขมวดคิ้ว เขาคิดว่าตัวเองประเมินศัตรูไว้สูงมากแล้ว ที่ไหนได้ นั่นยังสูงไม่พอเลยด้วยซ้ำ
"พวกโจรนั่นเทียบกับทหารพวกนี้ไม่ได้เลย!" ฉินหรานมองทีมค้นหาทั้งสองทีม และจากนั้นก็มองสไนเปอร์เข้าประจำจุดบนตึกที่หลังคาถูกระเบิดทิ้งไปบางส่วนอย่างเงียบเชียบ
ฉินหรานลงมือไม่ได้เลย! ไม่ว่าจะทำอะไร สไนเปอร์ก็เด็ดหัวเขาได้
"ฉันต้องกำจัดมือซุ่มยิงก่อน!" พอตัดสินใจได้ เขาก็ใช้สกิล [อำพราง] แล้วเคลื่อนที่ไปตามซากปรักหักพัง ใช้เศษซากพวกนี้เป็นที่กำบังในขณะมุ่งหน้าไปหาสไนเปอร์เหมือนแมวตัวหนึ่ง
ฉินหรานจงใจเลือกตำแหน่งครึ่งทางระหว่างถนนที่หกและวิลล่าการ์เด้น เขาตั้งใจให้ซาหลูข่าตามเขาเจอที่ตรงนี้ ตอนที่เขากับคอลลีนผ่านเส้นทางนี้คราวก่อนประทับแน่นอยู่ในใจเขา ก่อนจะเกิดสงคราม มันเคยเป็นว่าที่ถนนธุรกิจที่กำลังก่อสร้าง จากนั้นการต่อสู้ก็ปะทุขึ้น เศษซากตึกที่ถล่มลงมากระจัดกระจายเต็มพื้นที่ไปหมด ทำให้มันกลายเป็นจุดซ่อนตัวและลอบสังหารที่ดีมาก ฉินหรานทำความคุ้นเคยกับพื้นที่นี้แล้วหลังจากได้พักผ่อน มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเขาที่จะรับมือกับกลุ่มทหาร
นอกจากการพยายามจดจำสภาพเส้นทางและพื้นที่ ฉินหรานยังใช้สกิล [อาวุธปืน (ปืนกลเบา) (พื้นฐาน)] ที่มอบความรู้มากมายให้เขาวางแผนจัดการกับอะไรต่าง ๆ รับมือกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับอาวุธปืน
อย่างเช่นสไนเปอร์ที่ตรงหน้าเขานี่
ข้อได้เปรียบของสไนเปอร์คือสามารถสังหารศัตรูได้จากระยะไกลและยังยากที่จะจับตัวได้ ถ้าสไนเปอร์เก่งพอและคุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศ เขาจะสามารถกำจัดทหารติดอาวุธทั้งกลุ่มได้จากระยะไกล อย่างไรก็ตาม สไนเปอร์คนนี้ไม่ได้มีข้อได้เปรียบด้านสภาพภูมิประเทศแบบที่ฉินหรานมี
ฉินหรานจับตามองทุกการเคลื่อนไหวของสไนเปอร์อยู่ สไนเปอร์คนหนึ่งจะทำอย่างไรถ้าเกิดว่าเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น?
ฉินหรานยืนอยู่ในเงามืดในมือถือปืนไรเฟิลดัดแปลง เขาเล็งไปที่สไนเปอร์ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร สกิลอาวุธปืนสอนเทคนิคการใช้ปืนที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้เขา ทำให้เขาสามารถทำสิ่งที่คนอื่นมักจะล้มเหลวสำเร็จได้อย่างง่าย ๆ แม้ว่าสกิลระดับ [พื้นฐาน] จะไม่ได้ทำให้เขาเป็นมืออาชีพ แต่ก็เพียงพอใช้ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาควบคุมการหายใจและประคองปืนนิ่ง ๆ เล็งผ่านกล้องอย่างระมัดระวัง
ในที่สุด เขาก็เหนี่ยวไก
ปัง!
ปืนยิงออกไปแล้วแต่ฉินหรานไม่ได้อยู่เฉย เขาไม่เข้าไปตรวจดูด้วยซ้ำ เขากอด [M12] ไว้แล้วกลิ้งตัวไปข้าง ๆ ไถลตัวไปที่ซากปรักหักพักกองถัดไปอย่างรวดเร็วแล้วมุ่งตรงไปที่เป้าหมายถัดไป
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ขณะที่ฉินหรานกลิ้งตัว ปืนกลก็ถูกยิงมาที่จุดที่เขาเคยอยู่ กำแพงหนาที่ฉินหรานพิงอยู่ก่อนหน้านี้ถล่มลงมาในพริบตา โชคดีที่ฉินหรานหนีออกมาก่อนแล้ว
"เกิดอะไรขึ้น?" แฮงก์ตะโกนใส่วิทยุคลื่นสั้นหลังได้ยินเสียงปืน เขามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเขาและทีมกำลังค้นหาตัวฉิีหรานอยู่อีกด้าน
"มือซุ่มยิงร่วงไปแล้ว!" ผู้ช่วยของมือปืนกลตอบ
"อะไรนะ!" แฮงก์อึ้งไป เขากำลังจะถามต่อตอนที่...
ปัง!
ก่อนที่ผู้ช่วยมือปืนกลจะทันตอบ ก็มีเสียงปืนอีกนัด คราวนี้แฮงก์มองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ผู้ชายคนหนึ่งในทีมค้นหาที่สองถูกยิงเข้าที่หัว
"มีสไนเปอร์! ก้มต่ำไว้!" แฮงก์ตะโกน
เมื่อตระหนักได้ว่าพวกมันเองกำลังถูกลอบสังหาร ทั้งทีมก็รีบลดตัวต่ำซ่อนตัวจากรัศมีสายตาของสไนเปอร์
ในพริบตาเดียว ทีมค้นหาหมอบตัวลงซ่อน ทิ้งให้มือปืนกลและผู้ช่วยของเขาต้องปกป้องตัวเอง
.
.
.
.