บทที่ 285 : ลาก่อน (1)
บทที่ 285 : ลาก่อน (1)
ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา
ท้องฟ้าสีเทา
ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยแบบนี้...ที่นี่คือห้องรอ
"......"
ฉันกระพริบตาช้า ๆ
ตอนนี้ไม่มีบาดแผลใด ๆ บนร่างกายของฉัน
กระดูกที่ถูกแยกออกเป็นหลายร้อยชิ้น เส้นเลือดที่แตกกระจายจนเลือดพุ่งออกมาจากร่างกาย และกล้ามเนื้อที่ถูกฉีกขาดจนถึงขีดจำกัด...ตอนนี้ฉันกลับมาเป็นปกติราวกับว่าไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน
ฉันรอดชีวิตมาได้
สุดท้ายฉันก็ไม่ตาย
'ฮึ'
ฉันยิ้มอย่างขมขื่นและยืดหลังให้ตรง
ไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ หลงเหลืออยู่ ฉันกลับมาเป็นปกติ
ฉันรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ฉันวางฝักมีดไว้ข้างเตียงแล้วออกจากห้องไป
ห้องรับแขกในตอนนี้นั้นว่างเปล่า ฉันหันไปมองดูนาฬิกา...ตอนนี้เป็นเวลา 14:45 น.
หลังจากเคลียร์ชั้นที่ 30 ได้แล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมตัวสำหรับงานปาร์ตี้
'มันจะมีงานปาร์ตี้หลังสงครามหรือเปล่า?'
มีผู้รอดชีวิตค่อนข้างน้อย
มีคนรอดชีวิตประมาณ 20 คน
แล้วตอนนี้ล่ะ? ฉันไม่สามารถมองหน้าพวกเขาได้ ข้อความที่แจ้งเตือนการเสียชีวิตยังคงอยู่ในใจฉัน แม้ในขณะที่ฉันกำลังไปที่จัตุรัส
ฉันออกมาที่จัตุรัส แน่นอนว่าครั้งนี้ไม่มีงานปาร์ตี้
จัตุรัสบนชั้นสามว่างเปล่า ไอเซลกำลังเคลื่อนรถเข็นผ่านประตูห้องเก็บของที่เปิดอยู่กระพือปีกของเธอไปมา
[ท่านโลกิ!]
ไอเซลที่กำลังเข็นรถบินเข้ามาหาฉันทันที
[ตื่นแล้วเหรอคะ? ฉันดีใจมาเลยนะคะที่ท่านปลอดภัย! ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ? ]
"ก็อย่างที่เห็น"
ฉันพยักหน้า
ตราบใดที่ไม่ตาย ไม่ว่าบาดแผลใด ๆ ก็จะหายเป็นปกติ
“นั่นเป็นของที่ระลึกเหรอ?”
ฉันมองเข้าไปในรถเข็น
ในรถเข็นมีสิ่งของต่าง ๆ เริ่มจากเสื้อผ้า จดหมาย ตุ๊กตาหมี ถ้วยเหล็ก อุปกรณ์เย็บผ้าไปจนถึงหนังสือ
[ค่ะ นายท่านสั่งให้เอาไปเก็บ]
ไอเซลเกาหัวเบา ๆ
[มีเจ้าของไอเท็มเพียงไม่กี่คนเท่านั้น น่าจะแปดคนหรือเปล่านะ? คนอื่น ๆ ไม่สามารถเก็บของในห้องเก็บของได้]
“มีคนตายไปกี่คน?”
[13 คนค่ะ]
ฮีโร่เสียชีวิตเกินครึ่ง
แน่นอนว่าไม่มีการจัดปาร์ตี้หรืออะไรแบบนั้น
'ของที่ระลึกของทั้งแปดคนถูกเอาเข้าไปในห้องเก็บของ และอีกห้าคน…'
พวกเขาจะถูกลืมไปช้า ๆ
ฉันไม่สามารถช่วยได้ พื้นที่ในการจัดเก็บมีจำกัด
[คุณอยากจะตามฉันเข้ามาไหมคะ ประตูเปิดอยู่นะคะตอนนี้? ]
"เอาสิ"
ฉันเดินตามไอเซลเข้าไป
ทางเข้าหอจดหมายเหตุตั้งอยู่ในส่วนที่เงียบสงบของจัตุรัส ฉันเดินตามไอเซลไปช้า ๆ
ทันทีที่ฉันเข้าไป กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ก็ลอยเข้ามาในอากาศ
ฉันเคยได้กลิ่นมันมาก่อน มันเป็นกลิ่นที่คุ้นเคย แต่ฉันไม่อยากจะคุ้นเคยกับมัน มันเป็นกลิ่นที่เป็นของที่ระลึกจากฮีโร่ที่ตายไปแล้ว
ภายในมีโครงสร้างคล้ายกัน ตู้โชว์ที่ทำจากไม้และมีของที่ระลึกวางไว้ในแต่ละส่วนของตู้โชว์
"แล้วข้าควรจะทำยังไงต่อไป?!"
ฉันได้ยินเสียงใครบางคนกำลังตะโกน
ฉันเบนสายตาไปตามเสียงนั้น
คิชาช่านั่งอยู่ตรงมุมห้องเก็บของ
“นี่ไม่ใช่ความตายที่คู่ควรกับนักรบ ฮีโร่หรืออะไรทั้งนั้น...หากมันจะเป็นเช่นนี้…”
คิชาช่าพึมพำทั้งน้ำตา
“ทำไมพวกเจ้าต้องทิ้งข้าไว้ลำพัง…ฮึก…”
ฉันสบตากับคิชาช่าที่กำลังร้องไห้อยู่
"เจ้าเองเหรอ?"
“ปาร์ตี้เธอ...เหลือเท่าไหร่?”
"เหลือเพียงข้า พี่น้องข้าตายไปหมดแล้ว”
ฉันปิดปากของฉันแน่น
“ข้าขาดความเหมาะสม ข้าไม่สามารถเป็นผู้นำได้ และข้าปกป้องใครไม่ได้”
"ฉันขอโทษ……"
คิชาช่าส่ายหัวของเธอ
"ไม่ ข้าไม่ตำหนิเจ้าหรอก หากไม่ใช่เพราะเจ้า พวกเราคงถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว ทุกอย่างเป็นเพราะข้าตัดสินใจทั้งหมดเอง”
"......"
"ข้าอยากอยู่ที่นี่ลำพังสักพัก"
คิชาช่านั่งเงียบ ๆ ต่อหน้าช่องที่ใช้เก็บของที่ระลึกของพี่น้องเธอ
ฉันหันหลังแล้วไปที่ช่องถัดไป มองเห็นด้านหลังของอีดิส โรเดอริก และอีกสองคนยืนอยู่
'มีฮีโร่จากปาร์ตี้ที่ 2 เสียชีวิตด้วยเช่นกัน'
เด็กผู้หญิงที่มักจะเดินไปมาไม่ได้อยู่ที่นั้น คนที่เสียชีวิตอาจจะเป็นเธอสินะ
เธอชื่อริรินี่รึเปล่า?
ไอเซลกำลังเก็บอุปกรณ์เย็บผ้าและตุ๊กตาหมีไว้ที่ช่องด้านบนของตู้โชว์ ดูเหมือนว่าจะเป็นของเด็กผู้หญิงคนนั้น
ฉันมองดูแผ่นหลังของพวกเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเริ่มเดินอีกครั้ง
ตู้โชว์ด้านซ้ายสุด สมาชิกของปาร์ตี้ 1 เว้นแต่คาทีโอรวมตัวกันที่มุมโถงทางเดิน
"ตื่นแล้วเหรอครับหัวหน้า?"
เวคิสสังเกตเห็นฉันจึงหันกลับมามอง
ใบหน้าของเขาไม่แตกต่างจากปกติ เขาแค่สงบมากกว่าเดิมเท่านั้น
“ยัยเด็กที่ยิงธนูยืนกรานอย่างหนักแน่นว่าเราจะต้องจัดพิธีไว้อาลัย แต่เราต้องการฝึก…”
เนเรสซ่าเตะเข้าที่หน้าแข้งของเวคิส
เวคิสขมวดคิ้ว
"เธอทำอะไร? มันเจ็บนะ"
“ไอ้สารเลวไม่มีหัวใจ”
เนเรสซ่าหันไปว่าเวคิส
เวคิสไม่ตอบอะไร เขาแค่กอดอกและหันหน้าไปทางอื่นเท่านั้น
“แม้ว่าเธอจะอยู่มานานแต่ก็ยังไม่ใช่พระเจ้า เมื่อมีการต่อสู้เกิดขึ้น ย่อมมีเหยื่อ มีคนแพ้ หากยึดติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดก็จะไม่มีวันสิ้นสุด ฉันคิดว่าการแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลาแบบนี้เป็นหนทางการไว้ทุกข์ให้เธอมากกว่า”
“แค่เพียงวันเดียว เพียงวันเดียวเท่านั้น”
เจนน่าพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“เธอเสี่ยงชีวิตต่อสู้เคียงข้างฉัน และเธอตายเพื่อปกป้องเรา แค่วันเดียวทำให้เธอไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ ฉันไม่ได้หมายความเบบนั้น”
เวคิสขมวดคิ้ว
“ฮานมาที่นี่สิ ฉันแน่ใจว่าพี่ออลก้าก็กำลังรอนายอยู่เหมือนกัน”
“คนตายจะไปรอได้ยังไง… อุ้บ!”
เนเรสซ่าทนไม่ไหว เธอต่อยเข้าไปในท้องของเวคิส
เวคิสขมวดคิ้วและถอยออกไป
“นี่มัน…เจ็บนะยัยบ้า”
“ขอหน่อยเถอะไอ้เฮงซวย”
ฉันผ่านเวคิสกับเนเรสซ่า
ที่ด้านบนสุดของตู้โชว์ สิ่งของของออลก้าถูกบรรจุอย่างเป็นระเบียบอยู่ในตู้กระจกสี่เหลี่ยม
เสื้อคลุมขนสัตว์ ผ้าพันคอขนสัตว์ที่หรูหรา และพัดสีสันสดใส นี่เป็นของขวัญที่ฉันมอบให้เธอเพื่อแลกกับการวิจัย ทุกอย่างอยู่ในสภาพที่ดีราวกับว่าได้รับการดูแลอย่างดีเป็นประจำ
หากเป็นนายท่านก็จะสามารถดูวิดีโอและภาพประกอบจากช่วงชีวิตของฮีโร่ได้ แต่ฉันเป็นเพียงฮีโร่ธรรมดาเท่านั้น ฉันจึงไม่สามารถทำแบบนั้นได้
“คงจะดีถ้าฉันได้ขึ้นไปชั้นที่ 35 อีกครั้ง”
เจนน่ากล่าว
จากนั้นเธอก็เปิดตู้และหยิบซองจดหมายสีขาวออกมา
“จดหมายของพี่ออลก้า ฉันคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่นายจะอ่านมันก่อน ดังนั้นฉันจึงตั้งใจจะเอาจดหมายนี้ให้นาย”
“จะให้ฉันอ่านเหรอ?”
"ใช่”
ฉันเปิดซองจดหมายโดยไม่พูดอะไร
เท่าที่ฉันจำได้ พินัยกรรมนี้พวกเราเขียนก่อนขึ้นไปบนชั้นที่ 20
เมื่อเวลาผ่านไป ฉันก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเรื่องนี้มากนัก อาจจะเป็นเพราะฉันคิดว่าพวกเราไม่มีใครที่จะต้องมาเปิดอ่านพินัยกรรมของใคร
ฉันหยุดและไม่ได้เปิดซองจดหมาย
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด หลังจากตระหนักว่าฉันได้มายังโลกนี้แล้ว ฉันตัดสินใจว่าจะไม่สนใจว่าใครจะอยู่หรือใครจะตาย ฉันวางแผนที่จะก้าวไปข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น
'......นี่มันวุ่นวายจริง ๆ '