บทที่ 21: กำเนิดทายาทคนใหม่
บทที่ 21: กำเนิดทายาทคนใหม่
หลังจากทุกอย่างจบลงเย่หวู่ชางก็นำจ้าวชิงเกอกลับไปที่ตระกูลเย่
ปัจจุบันมณฆลเมฆาอัศนีเกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลเย่เรียบร้อยแล้ว
เเละทันทีที่เย่หวู่ชางกลับมาถึงตระกูลเย่…..เย่ว์รู่ชวงก็ประสบความสำเร็จจากการเก็บตัวฝึกตนเเล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเธอทะลุทะลวงไปสู่ระดับอาณาจักรปราการสวรรค์ รัศมีของเธอก็น่ากลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่เดิมเธออยู่ห่างจากระดับอาณาจักรปราการสวรรค์เพียงก้าวเดียวอยู่เเล้ว….ดังนั้นการที่เธอจะก้าวขึ้นไปอีกขั้นนั้น มันจึงสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
เเละหลังจากที่เย่ว์รู่ชวงออกมาจากการเก็บตัวฝึกตน เธอก็ต้องตกตะลึงยามเมื่อเห็นจ้าวชิงเกอ
จากนั้นเธอก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พร้อมจ้องมองไปที่เย่หวู่ชางด้วยความไม่พอใจ
จากนั้นเธอก็ให้จ้าวชิงเกอออกไปด้านนอกเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับเย่หวู่ชาง (ตามธรรมเนียมจะรับภรรยารองต้องถามภรรยาหลวงก่อน)
ข่าวการพัฒนาสู่อาณาจักรปราการสวรรค์ของเย่ว์รู่ชวงก็ทำให้ผู้คนในตระกูลเย่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
การที่มีผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์อีกหนึ่งคนในตระกูลเย่, สิ่งนี้จะส่งผลให้ความแข็งแกร่งของตระกูลเย่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
…….
หลังจากนั้น….เวลาผ่านก็ไประยะเวลาหนึ่ง
ในช่วงเวลานี้เย่หวู่ชางได้พาจ้าวชิงเกอไปที่เมืองหงเฟิง, ซึ่งเป็นเมืองที่ตระกูลของจ้าวชิงเกออาศัยอยู่
ตระกูลจ้าวในเมืองหงเฟิงก็ถือว่าเป็นตระกูลใหญ่เช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าเมื่อพวกเขารู้ว่าเย่หวู่ชางผู้นำตระกูลเย่ผู้มีชื่อเสียงได้มาขอแต่งงานเป็นการส่วนตัว….ตระกูลจ้าวก็เกือบจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
โชคดีที่พวกเขาสามารถปรับตัวได้ทันเวลา
เมื่ออัจฉริยะอาณาจักรปราการสวรรค์มาขอแต่งงาน, แน่นอนพวกเขาไม่มีท่าทีต่อต้าน…..กลับกันพวกเขากลับสนับสนุนและยินดีเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าจากการเกี่ยวดองกับตระกูลเย่, มันก็ส่งผลให้ตระกูลจ้าวกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองหงเฟิงอย่างรวดเร็ว
จากนั้นสามเดือนก็ผ่านไปในพริบตา
และในวันนี้มันก็มีข่าวนึงแพร่กระจายออกไป
เย่หวู่ชาง….ผู้นำตระกูลเย่กำลังจะรับภรรยารอง
เดิมทีนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่เนื่องจากเย่หวู่ชางเป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์….จึงส่งผลให้มันถูกกระจายข่าวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ชั่วขณะหนึ่ง, กองกำลังนับไม่ถ้วนต่างเดินทางมามอบของขวัญมากมาย…..มากเสียยิ่งกว่าตอนเขาแต่งงานเสียอีก
เเม้เเต่เหล่าขั้วอำนาจจากหลายมณฑลห่างไกลก็ได้ส่งตัวแทนมา ….เนื่องจากทุกคนต่างพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเย่
ในยามนี้ไม่มีใครกล้าปฏิบัติต่อเย่หวู่ชางในฐานะกองกำลังธรรมดาๆอีกต่อไป
ใครจะกล้ามองข้ามผู้ที่สามารถทำลายล้างนิกายดาบสังหารวารีและสังหารผู้เชี่ยวชาญครึ่งก้าวอาณาจักรพระราชวังสีม่วงด้วยการฟันเพียงดาบเดียว
…….
เเละหลังจากงานแต่งงานอันยิ่งใหญ่
ตระกูลเย่ก็กลับมาสู่สภาวะปกติและความเงียบสงบอีกครั้ง
เเถมหลังจากที่จ้าวชิงเกอแต่งงานเข้าตระกูลเย่….ความสัมพันธ์ของเธอกับเย่ว์รู่ชวงก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ
เเละที่พวกเธอสนิทกันมันก็ไม่ใช่เรื่องเเปลก….เพราะพวกเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการร่วมมือต่อกรพลังการต่อสู้อันชั่วร้ายยิ่งกว่าสัตว์ร้ายของเย่หวู่ชาง
อย่างไรก็ตาม, การเป็นพันธมิตรของพวกเธอกลับถูกเขาปราบปรามและแพ้พ่ายอย่างราบคาบ
เย่หวู่ชางจากไปอย่างหยิ่งผยอง โดยทิ้งภรรยาสองคนไว้เบื้องหลัง
นับตั้งแต่นั้นมาพวกเธอก็ไม่ต้องกังวลกับอาการท้องผูก การคลอดบุตรยาก หรือแม้แต่การกลืนอาหารลำบากอีกต่อไป
เเละหลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานสองเดือน…..ในที่สุดเย่หวู่ชางก็สามารถทำให้ทั้งสองคนตั้งครรภ์ได้เกือบจะพร้อมๆกัน โดยอาศัยกำลังวังชาดั่งม้าศึกของเขาเอง
หลังจากตั้งครรภ์ เย่หวู่ชางก็หยุดการฟาดฟันของเขาชั่วขณะและเริ่มการฝึกตนใหม่อีกครั้ง
เวลาผ่านไปเช่นนี้, เเละท้องของหญิงสาวทั้งสองก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของเย่หวู่ชาง ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วราชวงศ์ต้าเซี่ยในช่วงเวลาอันสั้นเช่นเดียวกัน
เเละเมื่อพวกเขารู้ว่ามีอัจฉริยะที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้อยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ย… กองกำลังจำนวนมากต่างก็ตกตะลึง
แม้แต่ตระกูลเย่ว์ก็ไม่คาดคิดว่าเย่หวู่ชางที่พวกเขาสร้างพันธมิตรจากการแต่งงานจะกลายมาเป็นอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขารู้ว่าเย่ว์รู่ชวงไม่เพียงแต่ทะลุผ่านอาณาจักรควบแน่นแกนกลางเท่านั้น…..แต่ยังประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่ระดับผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์อีกด้วย
สิ่งนี้ส่งผลให้พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการตัดสินใจของพวกเขา
เเต่ท้ายที่สุดแล้ว, สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็มีเพียงแต่ถอนหายใจ เเละยอมรับว่ามันเป็นเรื่องของจังหวะและโชคชะตาเท่านั้น
หลังจากนั้น พวกเขาก็ส่งของขวัญจำนวนมากมาเพื่อแสดงความยินดี
เเต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากเหตุการณ์นี้ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตระกูลก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ผู้คนจากตระกูลเย่ไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นแบบเดียวกันกับตระกูลเย่ว์ดังเช่นวันวาน
อีกด้าน, ชื่อของเย่หวู่ชางก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ย
บางคนถึงกับตั้งฉายาให้เขาว่าจอมดาบไร้เทียมทาน
งานเลี้ยงน้ำชาของเหล่าผู้ฝึกตน การประชุมแลกเปลี่ยน, และอื่นๆอีกมากมายได้ส่งเทียบเชิญมาให้เขา
แต่เย่หวู่ชางปฏิเสธพวกมันทั้งหมด
พูดอย่างตลกๆก็คือเขาต้องการใช้เวลาในการผลิตทายาท….และรับรางวัลเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของตัวเอง
เขาไม่มีเวลาไปทำอะไรไร้สาระอย่างอื่นหรอก
…….
หลังจากนั้น
เวลาหนึ่งปีนับตั้งแต่การทำลายล้างนิกายดาบสังหารชลธีก็ผ่านไป
ณ เวลานี้…..จ้าวชิงเกอและเย่ว์รู่ชวงก็กำลังจะเข้าสู่ช่วงคลอดบุตร
ดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของนิกายดาบสังหารวารี, บัดนี้ได้เป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลเย่เรียบร้อยแล้ว
เพียงไม่นานหลังจากกวาดล้างนิกายดาบสังหารวารี…..ตระกูลเย่ก็ย้ายคฤหาสน์มาอาศัยอยู่ที่นี่
สถานที่แห่งนี้ล้อมรอบด้วยทะเลชางเทียนทางทิศเหนือ และป่าหมื่นอสูรทางทิศตะวันออก…..สภาพแวดล้อมของที่นี่จึงดีเยี่ยมเเละเอื้อต่อการพัฒนาตระกูลเย่เป็นอย่างมาก
ในเวลาเพียงหนึ่งปี ตระกูลเย่ก็มีการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
จำนวนผู้ฝึกตนของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ในตระกูลแตะทะลุตัวเลขสองหลักในทันที
ผู้อาวุโสทั้งห้าก็ได้ก้าวเข้าสู่ขั้นปลายของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์…..เเละผู้อาวุโสสูงสุดอย่างเย่เหว่ยหวู่ก็มาถึงขั้นที่เก้าของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด, จำนวนผู้ฝึกตนในตระกูลเย่ที่มาถึงขั้นที่เก้าของอาณาจักรควบแน่นแกนกลางก็เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของตระกูลเย่….พวกเขาก็ยังขาดผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอยู่ดี
……..
ส่วนเย่หวู่ชาง
หลังจากใช้เวลาหนึ่งปี ในที่สุดการฝึกฝนของเย่หวู่ชางก็ได้ทะลุทะลวงไปสู่ขั้นที่สี่ของอาณาจักรปราการสวรรค์
หลังจากก้าวถึงขั้นอาณาจักรปราการสวรรค์แล้ว…..แม้แต่อัจฉริยะชั้นยอดที่ไม่มีใครเทียบได้ก็สามารถทะลุผ่านอาณาจักรขั้นเล็กๆไม่กี่ขั้นเท่านั้นในหนึ่งปี
นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญระดับอาณาจักรปราการสวรรค์จำนวนมากต้องติดอยู่ในอาณาจักรนี้เป็นเวลาหลายร้อยปี
เพราะหลังจากก้าวถึงระดับอาณาจักรปราการสวรรค์แล้ว พวกเขาต้องมีพรสวรรค์ ศักยภาพ ความเข้าใจ และโอกาสที่มากมายมหาศาล
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง
สำหรับคนอย่างเย่หวู่ชางที่สามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้….ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจมากเเล้ว
เเละในที่สุดท่ามกลางการรอคอยของผู้คนนับไม่ถ้วน วันครบกำหนดการคลอดของหญิงสาวทั้งสองก็มาถึง
ภายนอกห้องคลอด
ไม่เพียงแต่เย่หวู่ชางที่กำลังรอคอยอย่างกังวลเท่านั้น….เเม้เเต่ผู้อาวุโสทั้งห้าต่างก็กังวลเช่นกัน
แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาตั้งตารออยู่คือเด็กที่เกิดจากเย่หวู่ชางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลจะมีพรสวรรค์เช่นไรในคราวนี้
ด้วยพรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัวของเย่จื้อซินและเย่จือหลาน…..มันจึงไม่เเปลกที่พวกเขาจะตั้งตารอที่จะได้เห็นบุตรสายตรงคนที่สามเเละสี่
ในที่สุดเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงพร้อมเสียงร้องที่ดังออกมา
หญิงสาวทั้งสองต่างคลอดบุตรได้อย่างราบรื่น
[ติ๊ง~! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ทายาทคนที่ 3 กำเนิดขึ้นมาแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการประเมิน...]
[ติ๊ง~! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ทายาทคนที่ 4 กำเนิดขึ้นมาแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการประเมิน...]
ทายาททั้งสองคนเกิดมาพร้อมๆกัน…..ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลเย่หวู่ชางมีความสุขเป็นอย่างมาก
………………………..