Chapter 697 ขอเพียงเข้ารอบสองได้ ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว
งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรถือว่าเป็นการแข่งขันระดับทวีป เจ้านิกายจุนย่อมให้ความสำคัญ จุนซ่างเซียวที่เตรียมนำศิษย์ที่ดีที่สุด 25 คนไปด้วยในครั้งนี้.
ลู่เชียนเชียน หลี่ชิงหยาง ศิษย์สายในกลุ่มแรก หลังจากนั้นก็เป็นหลงจื่อหยาง ซ่งเสวียนโจวและอีกหลายคน.
และยังมีศิษย์ปิดประตูที่เติบโตเร็วที่สุด เหออู่ตี้ตามไปด้วย.
แน่นอนต้องเป็นศิษย์ระดับสูงของนิกายนิรันดร์แน่นอน ด้วยรากวิญญาณและพลังบ่มเพาะ ถึงจะเป็นทั่วทวีป พวกเขาก็อยู่ในระดับสูงที่สุด.
กล่าวได้ว่า เพราะมีขีดจำกัดจำนวนการเข้าร่วม.
ไม่เช่นนั้นเจ้านิกายจุนคงจะนำศิษย์ที่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์ไปด้วยทั้งหมด.
“ศิษย์พี่!”
ที่ด้านหน้าประตู ศิษย์ทุกคนที่มาส่ง ตะโกนเสียงดัง “พวกเราจะรอคอย โปรดนำชัยชนะกลับมา!”
เมื่อมาถึงเชิงเขา ซูเซียวโม่ที่หันหลังกลับตะโกนออกมาเสียงดัง “ศิษย์น้องหลิว อย่าลืมเตรียมอาหารชั้นยอด ไว้ฉลองชัยเมื่อพวกเรากลับมา!”
ยังไม่แข่งขันเลย แต่คิดจะฉลองแล้ว.
หากมีคนได้ยิน จะต้องกล่าวหยันอย่างแน่นอน.
ระหว่างทาง จุนซ่างเซียวที่เอ่ยเตือนทุกคน “การเดินทางไปยังจังหวัดจงจุนเพื่อเข้าร่วมงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร ถือว่าเป็นหนึ่งการทดสอบ พวกเจ้าจะต้องตั้งใจให้หนัก.”
“รับทราบ!”
ศิษย์ทุกคนที่ตอบรับเสียงดัง.
แววตาของเย่ซิงเฉินที่เผยท่าทางคาดหวังด้วยเช่นกัน.
เขาจำได้ในชาติที่แล้ว แม้ว่าจะได้ยินเรื่องงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรเช่นกัน ทว่าก็ไม่ได้เข้าร่วม ในชาตินี้เขาที่เข้าร่วมในฐานะศิษย์นิกายนิรันดร เขาจะต้องกระทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียใจ.
“พี่อาหนิว!”
ในเวลานั้น มีเสียงที่แว่วมาเข้าหูของเขาเป็นเสียงของฮุยเอ๋อ “หวังว่าท่านจะกลับมาโดยปลอดภัย.”
ใบหน้าของเย่ซิงเฉินที่กลายเป็นดำมืดทันที.
สตรีผู้นี้ นานแล้วไม่ได้ติดต่อกับเขา วันนี้กับเริ่มเอ่ยกับเขาอย่างงันรึ?!
ฮุยเอ่อรู้ว่าพี่อาหนิวนั้นสูญเสียความทรงจำ ดังนั้นหลังจากเข้าร่วมนิกายนิรันดร ก็ทำตัวห่าง ๆ เฝ้ามองอย่างห่วง ๆ ศึกษาวิถียุทธ์และวิถีอาหารอย่างตั้งใจ.
บางครั้ง ขณะฝึกฝนวิถียุทธ์ นางที่คอยมองเย่ซิงเฉินอยู่ในมุมเล็ก ๆ แม้แต่หลบหน้าไม่ให้อีกฝ่ายเห็นแต่ก็เฝ้ามองไม่เคยตัดใจ.
“เจ้าจะหลบหน้าเขาทำไมกัน?”ลี่ลั่วฉิวที่สอบถามนาง.
ฮุยเอ๋อที่กล่าวตอบเสียงเบา “พี่อาหนิวอาจจะเกลียดข้า ดังนั้นข้าจึงต้องซ่อนตัวจากเขา.”
“......”
ลี่ลั่วฉิวที่พูดไม่ออกเหมือนกัน.
ทั้งสองทั้งที่หมั้นหมายกันแล้ว แต่กับคอยหลบหน้าหลบตา ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ต้องหลบหลีกกันเช่นนี้นะรึ?
“หากเป็นข้านะ.”
ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ ยกปืนพกอินทรีทะเลทรายออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยจิตสังหาร “ข้าจะใช้ปืนจ่อศีรษะ ถามออกไปว่าเขาจะแต่งกับข้าไหม หากไม่แต่งข้าจะระเบิดสมองของเขาไปเลย.”
“ว้าว ๆ!”
หลิวหว่านซีที่เอ่ยปากกล่าวเสียงดัง “ถางจู่ลี่ โหดร้ายอ่ะ!”
“ใช่!”
เหยาเมิ่งหยิงเอ่ย “โหดร้าย!”
ลี่ลั่วฉิวที่เก็บปืนพก.“เรื่องความรู้สึกนั้นจะต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็มีแต่ความเสียใจที่รอคอยอยู่.”
“ถางจู่ลี่ แลดูมีประสบการณ์!”หลิวหว่านซีเอ่ย.
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ในอดีตเมื่อครั้งเป็นมือสังหารนั้น ข้ามีภารกิจมากมาย และสังหารบุรุษไร้หัวใจไปนับไม่ถ้วน.”
......
ตูมมม!
ตูมมม!
ภายในป่าเขาที่ทึบหนา ได้ยินเสียงระเบิดดังก้อง จนพื้นที่รอบ ๆ สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง.
“กึก กึก!”
จากนั้น ก็ปรากฏบุรุษคนหนึ่งที่แบกสัตว์วิญญาณเผยร่างเปลือยด้านบน ดูไม่ต่างจากคนเถื่อน.
ชายคนนี้อายุไม่ได้มากมายนัก ทว่าร่างกายของเขานั้นกับเต็มล้นไปด้วยกล้ามเนื้อจนล้นออกมา ไม่ต้องบอกเลยว่าพวกเขาฝึกฝนกลั่นร่างกายอย่างหนัก.
“ศิษย์พี่.”
สตรีผู้หนึ่งนั่งอยู่บนต้นไม้ แทะแอปเปิล ขณะกล่าวออกมาว่า “อาจารย์เพิ่งให้คนส่งจดหมายมา ให้ท่านรีบเตรียมตัว เข้าร่วมงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรได้แล้ว.”
“พรึด โครม!”
ชายกล้ามใหญ่ที่ทิ้งสัตว์วิญญาณไปด้านหน้า ก่อนที่จะนั่งลงบนร่างของมัน ส่ายหน้าไปมา เอ่ยออกมาว่า “รู้แล้ว.”
เขาไม่สนใจที่จะเข้าร่วมงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรอะไรนัก เขาต้องการที่จะฝึกฝนอยู่ด้านในป่าเขา ยังสนุกมากกว่า.
“อาจารย์ยังเอ่ยเพิ่มด้วยว่า.”
สตรีคนดังกล่าวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์นิกายนิรันดร เซียวจุ้ยจื่อ ก็เข้าร่วม เขามีกายเนื้อที่แข็งแกร่งมาก จะเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมของท่าน.”
“งั้นรึ?”
ชายคนเถื่อนที่แววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที.
......
ภายในป่าไผ่.
บุรุษผู้หนึ่งที่ยืนนิ่งใบหน้าแววตาที่เปี่ยมล้นด้วยความอหังการ.
เคร้ง!
พริบตานั้น กระบี่ที่ถูกชักออกจากฝักกระบี่!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ริ้วแสงกระบี่ปรากฏขีดตัดบนอากาศ ต้นไผ่รอบ ๆ ที่ขาดเป็นชิ้น ๆ ทันที.
ริ้วแสงกระบี่ที่ส่องสว่างพริบตาเดียว จากนั้นก็หายไป.
“วิถีกระบี่ของศิษย์พี่ใหญ่ยกระดับขึ้นอีกแล้ว!”
“ครั้งนี้จะต้องเป็นที่จับตามองของทุกคนในการประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรอย่างแน่นอน นิกายกระบี่วิญญาณของพวกเราจะต้องโดดเด่นที่สุดเป็นแน่!”
“ต้องได้ที่หนึ่งแน่.”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!”
ผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มหนึ่งที่เอ่ยพูดคุยกันอยู่พื้นที่ไกลออกมา.
ชายคนดังกล่าวเมื่อเก็บกระบี่ก็ก้าวเดินเข้ามา เอ่ยกล่าวเสียงเบา “หวังว่างานประลองพยัคฆ์มังกร จะมีคู่ต่อสู้ที่สูสีกับวิถีกระบี่ของข้า.”
......
“เจ้านิกายน้อย งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรไม่ถึงสองเดือนก็จะเริ่มแล้ว ไม่บ่มเพาะต่ออย่างงันรึ?”
บนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหมอก เสียงของศิษย์คนหนึ่งที่ดังขึ้น.
“ฮึ.”
ผู้เยาว์คนหนึ่งที่นอนอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ เบ้ปากเอ่ยกล่าวออกมาว่า “ด้วยความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้ ยังต้องบ่มเพาะต่ออีกรึ?”
“ได้ยินจากเจ้านิกายว่า งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร มีนิกายระดับหนึ่งมากมายเข้าร่วม เจ้านิกายน้อยไม่ควรที่จะประมาท.”ศิษย์คนดังกล่าวเอ่ย.
นายน้อยคนดังกล่าวครุ่นคิดและเอ่ยออกมาว่า “พวกสามัญชนทั้งหลาย ให้ข้าเอาจริงสักหกส่วน ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว.”
“......”
ศิษย์คนดังกล่าวที่กลายเป็นเงียบ.
เจ้านิกายน้อยที่มีพรสวรรค์ที่ไม่มีใครโต้เถียงได้ และเป็นหนึ่งในสุดยอดผู้เยาว์ในทวีปชิงหยุนอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงแค่ค่อนข้างบ้าคลั่ง ยังโอหังเป็นอย่างมาก.
“เฮ้อ.”
ชายหนุ่มคนดังกล่าวที่ยื่นแขนออกไป กล่าวออกมาว่า “งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร หากไม่มีคู่ต่อสู้เลย คงน่าเบื่อน่าดู.”
......
งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เหล่าสุดยอดพรสวรรค์ของแต่ละนิกายที่เวลานี้กำลังเตรียมตัว.
ด้วยการประลองระดับทวีป ไม่เพียงแค่ผู้ชนะจะสร้างชื่อเสียงให้กับนิกาย ยังพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองไปด้วย แน่นอนว่าไม่มีใครที่จะเกียจคร้านสักคน.
ในเวลาเดียวกัน.
นิกายต่าง ๆ มากมายต่างก็เดินทางตรงไปยังจังหวัดจงจุนกันไม่ขาดสาย.
ในเวลานี้ ยอดฝีมือจากจังหวัดต่าง ๆ ก็เดินทางมาเพื่อชมการแข่งขันด้วยเช่นกัน.
สำหรับเจ้านิกายจุน แม้นว่าจะนำศิษย์เดินทางมาก่อนเวลา ทว่าสองสามวันมานี้เขาก็ยังคงอยู่ในจังหวัดซีเหนียนหยาง.
เพราะว่ายังมีเวลาเหลือเฟือ ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบ เขาต้องการไปยังเมืองบัญชาสวรรค์ก่อน เพื่อแวะเวียนสถาบันบัญชาสวรรค์และสมาคมรับรองสิทธิ์
นิกายนิรันดรที่ออกไปต่อสู้ แน่นอนถือว่าเป็นตัวแทนของคนทั้งจังหวัดซีเหนียนหยาง ดังนั้นมู่ซ่างหงที่ออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี.
นอกจากนี้ เจ้าสมาคมอี้ยังจัดงานเลี้ยงต้อนรับ พร้อมกับพูดคุยเกี่ยวกับงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรด้วย ตลอดจนให้รายระเอียดต่าง ๆเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมแข่งขัน ของนิกายใหญ่ต่าง ๆ.
โอ้วสวรรค์.
งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรมีนิกายเข้าร่วม 200 แห่ง.
นิกายระดับหนึ่งมีห้าแห่ง นิกายระดับสองสิบแห่ง นอกนั้นเป็นนิกายระดับสามและสี่.
ดูเหมือนว่า 30% จะเป็นนิกายจากจังหวัดจงจุน.
กล่าวได้ว่านิกายระดับสามหรือสี่ของจังหวัดจงจุน มีพลังไม่ได้ด้อยกว่านิกายระดับสองของต่างจังหวัดเลย!
“ไม่มีนิกายระดับห้าเลยรึ?”จุนซ่างเซียวที่ตกใจ.
เจ้าสมาคมอี้เอ่ย “นิกายระดับห้าที่เข้าร่วมงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร หลายร้อยปีมานี้ไม่ปรากฏเลย.”
จุนซ่างเซียวยกสุราขึ้นดื่ม เผยท่าทางประหลาดใจ “ดูเหมือนว่าทุกนิกายเข้าร่วม จะมีระดับเหนือกว่านิกายนิรันดรของข้าทั้งหมด ดูเป็นปัญหาจริง ๆ.”
“เจ้านิกายจุน.”
เจ้าสมาคมอี้กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ขอเพียงเข้ารอบสองได้ ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว!”