ตอนที่แล้วChapter 695 ให้เงิน แล้วรับเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 697 ขอเพียงเข้ารอบสองได้ ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว

Chapter 696 ยิ่งทรงพลัง ยิ่งท้าทาย


ถังเหรินที่พูดคุยกับจุนซ่างเซียวไม่นาน จากนั้นก็เร่งรีบจากไป.

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กลับไปมือเปล่า ได้นำเม็ดยารวมวิญญาณ 100,000 เม็ด เม็ดยาฟื้นฟู 10,000 และเม็ดยาถอนพิษ 10,000 กลับไปด้วย.

ส่วนกระบี่หานเฟิง ถังเหรินไม่คิดจะขายในเวลานี้.

เพราะกำลังลังเลอยู่ว่าจะนำไปประมูลหรือไม่?.

หากเป็นอาวุธระดับสูงทั่วไป นายน้องถังไม่ลังเลเลยที่จะนำไปขาย ทว่ากระบี่หานเฟิงนั้นกับเป็นผลงานที่สมบูรณ์.จำเป็นต้องครุ่นคิดสักนิด.

หลังจากที่ถังเหรินจากไปแล้ว จุนซ่างเซียวมอบเงินให้กับลี่ลั่วฉิว ให้นางกระจายไปยังสาขาต่าง ๆ ตลอดจนซื้อทรัพยากรฝึกฝนกลับมา.

“ไม่มีปัญหา.”

หลังจากมีเงินทุนแล้ว ลี่ลั่วฉิวที่นำไปจัดการทันที.

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องโถง เอ่ยออกมาว่า “นิกายมีทรัพยากรพอแล้ว ตอนนี้คงต้องมุ่งเน้นไปยังงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร.”

การแข่งขัน เหลือไม่ถึงสองเดือนแล้ว.

กล่าวตามตรง หลี่ชิงหยางและพวกที่ผ่านเขตแดนลับเป็นตาย ยกระดับขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ชั่วระยะเวลาที่เหลือต้องการจะตัดผ่านระดับก็นับว่ายาก.

“หรือว่าเดินทางก่อนเวลา ไปยังภูผาทมิฬดี.”จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงเบา.

เดินทีเขาต้องการจะเดินทางก่อนเวลาหนึ่งเดือน ตอนนี้ศิษย์หลักได้ยกระดับแล้ว การจะออกเดินทางตอนนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา.

อีกอย่าง.

เขาเองก็เพิ่งตัดผ่านระดับ.

เหลือเวลาฝึกไม่ถึงเดือน ถึงจะฝึกฝนอย่างหนัก ก็ไม่สามารถยกระดับได้อีก สู้ไปก่อนเวลาดูความคึกคักของผู้คนอีกว่า.

“ตัดสินใจแล้ว.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “สามวันหลังจากนี้ออกเดินทาง.”

“เจ้านิกาย.”

ในเวลานั้น เสียงแหลมสูงที่ดังขึ้น หลิวหว่านซีที่ก้าวเข้ามา “คนงานของโรงอาหารไม่พอเป็นอย่างมาก เมื่อไหร่ท่านจะหาพ่อครัวเพิ่มล่ะ.”

แม้นว่าบิดานางโอวหยางจุนจะมาช่วยแล้ว แต่งานก็ยังมากจนเกินไปเพราะศิษย์ที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ เดือน.

ด้วยการทดสอบรับศิษย์ทุกเดือน ยิ่งนานไป งานของโรงอาหารก็มากขึ้นทุก ๆ วันเป็นธรรมดา.

“สาวน้อย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ทุกคนต่างก็ชื่นชอบในฝีมือของเจ้าและบิดาของเจ้า หากเปลี่ยนพ่อครัวคนอื่น ๆ รสชาติจะได้อย่างงั้นรึ?”

“ไม่มีปัญหา ข้าจะสอนพวกเขาเอง!”หลิวหว่านซีเอ่ย.

ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาจากด้านนอก เผยยิ้มออกมา “เจ้านิกาย ข้าคิดว่าน่าจะก่อตั้งหออาหาร ให้สาวน้อยเป็นผู้บริหารก็น่าจะดี.”

“มีเหตุผล!”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“อ๋า?”

หลิวหว่านซีที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต “งั้นก็หมายความว่าข้าจะมีหอเป็นของตัวเองอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ดีใจอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

หลิวหว่านซีเร่งรีบเอ่ยกล่าวออกมา “ดีใจ ดีใจ!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “พรุ่งนี้ข้าจะประกาศ ก่อตั้งหออาหาร ให้เจ้าเป็นรองถางจู่ ส่วนถางจู่ให้บิดาเจ้ารับหน้าที่ก็แล้วกัน.”

หลิวหว่านซีทีเดิมทีตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ยิ้มค้างไปในทันที.

นางไม่ได้สนใจตำแหน่งอะไรนัก ทว่าไม่ค่อยชอบนัก ไม่ค่อยต้องการให้บิดาของนางเหนือกว่า.

หลังจากที่งานประลองอาหารจบลง แม้นว่าจุนซ่างเซียวจะให้บิดาและบุตรสาวปรับความเข้าใจกัน ทว่าทั้งสองก็ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากันได้ดีเท่าใด โดยเฉพาะหลิวหว่านซีที่เผยความเย็นชาออกมาตลอดเวลา ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย.

นอกจากนี้ด้วยการเตรียมอาหาร ทำให้โอหยางจุนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับบุตรสาว ทว่าก็ยังไม่ค่อยคืบหน้าอะไรมากมายนัก.

“มีความเห็นอะไรอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“ข้า...”หลิวหว่านซีที่หยุดและเอ่ยออกมาว่า “ไม่มีความเห็นอะไร!”

“ให้เป็นไปตามนี้.”

จุนซ่างเซียวที่กังวลว่าหลิวหว่านซียังเด็กเกินไป ไม่สามารถที่จะให้นางรับหน้าที่ถางจู่ได้ ดังนั้นจึงให้โอวหยางจุนเป็นถางจูหออาหารแทน.

สิ่งสำคัญที่สุด คือให้บิดาและบุตรสาวได้มีโอกาสร่วมมือกันมากขึ้น.

......

เช้าวันถัดมา.

หลังจากทำกายบริหารเสร็จ จุนซ่างเซียวก็ทำการประกาศก่อตั้งหออาหารขึ้น.

โดยมีโอหวยางจุนเป็นถางจู่ รองถางจูก็คือหลิวหว่านซี สมาชิกมีหม่าหยงหนิง ดำหนึ่งดำสองเป็นการชั่วคราว.

จุนซ่างเซียวที่ได้แจ้งสองพี่น้องหนิงเป็นการเฉพาะ การทดสอบขึ้นเขาครั้งหน้า ให้หาคนที่มีความสามารถในการทำอาหาร โดยจะได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ.

เมื่อทำเช่นนี้แล้ว.

สมาชิกหออาหารก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไม่ต้องสงสัย.

“ศิษย์น้องหลิว ยินดีด้วยที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองถางจู่!”

“ใช่แล้ว ๆ น่าอิจฉาจังเลย.”

“เมื่อไหร่ ข้าจะได้เป็นถางจู่บ้าง?”

ในโรงอาหาร ลี่เฟย เถียนซีและศิษย์อีกหลายคนที่มาล้อมรอบหลิวหว่านซีแสดงความยินดี.

“หากเจ้าไม่ถูกไล่ออก.”

ซูเซียวโม่ที่ก้าวเข้ามา “พวกเจ้าก็จะมีโอกาสได้เป็นอาวุโส!”

“มีเหตุผล!”

แววตาของลี่เฟยและเถียนซีที่เป็นประกายทันที.

สำหรับนิกายนิรันดรแล้วยังมีหลายอย่างที่ยังขาดอยู่ อย่างเช่นอาวุโส ที่ตอนนี้มีเพียงแค่สี่คนเท่านั้น.

กล่าวตามหลักแล้ว.

สถานะของอาวุโสย่อมสูงกว่าถางจู่อย่างแน่นอน.

“ว่าแต่.”

ลี่เฟยเอ่ย “ศิษย์พี่ แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะได้เป็นอาวุโสล่ะ?”

“ไม่ต้องรีบ.”

จุนซ่างเซียวก้าวเข้ามา พร้อมกับเผยยิ้ม “รอให้นิกายทรงพลังก่อน ทุกคนย่อมมีโอกาสเป็นอาวุโส.”

“ฟิ้ว!”

ทุกคนที่เร่งรีบยืนขึ้นมา “คารวะเจ้านิกาย!”

“นั่งลงได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“เจ้านิกาย.”

ซูเซียวโม่ที่เผยท่าทางตื่นเต้นกล่าวออกมาว่า “หลังจากนี้พวกเรามีโอกาสได้เป็นอาวุโสอย่างงั้นรึ?”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “แต่ว่า ต้องดูผลงานของพวกเจ้าก่อน.”

ที่จริงหลี่ชิงหยางและอีกหลายคนด้วยพลังบ่มเพาะเวลานี้ สามารถให้รับตำแหน่งอาวุโสอย่างไม่มีปัญหา ทว่าเขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะว่าการเป็นศิษย์หน้าที่หลักของพวกเขาก็คือบ่มเพาะนั่นเอง การต้องรับหน้าที่การงานด้วยอาจทำให้การบ่มเพาะล่าช้าได้.

......

คืนวันนั้น.

ลู่เชียนเชียนที่ยืนอยู่คนเดียวบนยอดเขา ชุดสีขาวที่ลมโกรกพัด ดูราวกับนางเซียนที่กำลังมาเยือนพื้นโลก.

“กำลังคิดอะไร?”

จุนซ่างเซียวไม่รู้ว่าปรากฏขึ้นมาด้านหลังเมื่อไหร่.

ลู่เชียนเชียนไม่ได้หันหลังกลับไป นางเอ่ยออกมาว่า “เจ้านิกายต้องการเข้าร่วมงานประลองพยัคฆ์มังกรจริง ๆ รึ?”

“ในเมื่อรับปากเจ้าสมาคมอี้แล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถกลับคำพูดได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรนั้นถือเป็นการแข่งขันระดับสูงที่สุดของทวีป มีนิกายที่แข็งแกร่งมากมายเข้าร่วม.”

“ยิ่งแข็งแกร่ง ก็ยิ่งท้าทาย.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ตอนแรกที่รับปากปรมาจารย์อี้เพราะว่าเห็นแก่ศิลาวิญญาณ จึงคิดจะนำศิษย์เข้าร่วม หลังจากรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ แล้ว ทำให้เขาตระหนักได้ว่านี่คืองานประลองที่มีชื่อเสียงมาก ทำให้เขาต้องเข้าร่วมจริง ๆ!

ต้องไม่ลืมว่ามีคนไม่น้อยที่จ้องมองหาเรื่องเขาอยู่ ไม่พอใจเจ้านิกายจุนอย่างมากมาย เวลานี้เขาจึงต้องการใช้การแข่งขันครั้งนี้แสดงพลังให้กับทุกคนได้เห็น!

งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร.

เหมาะที่จะใช้ประกาศศักดาเป็นอย่างมาก!

และเพราะเป็นงานใหญ่ ทำให้ระบบกระตุ้นภารกิจขึ้นเช่นกัน หากว่าชนะเลิศก็จะได้รับคะแนนมากมาย!

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “มีนิกายระดับหนึ่งมากมายเข้าร่วม.”

“เช่นนั้นก็ยิ่งดี.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

การประลองกับนิกายไป่เหอเซิ่ง เขาได้รับประสบการณ์แล้ว ตอนนี้การประลองกับนิกายระดับหนึ่ง ก็จะได้รับรู้ว่าพวกเขาอยู่ใกล้หรือห่างกับอีกฝ่ายเท่าใด.

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “นิกายระดับหนึ่งนั้นมีประวัติความเป็นมายาวนาน หากนิกายของเราต้องรบด้วย อาจจะย่ำแย่ก็ได้.”

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา“เจ้าเป็นศิษย์พี่หญิงใหญ่ ไม่ควรถอดใจก่อนที่จะเริ่ม ไม่งั้นอาจะทำให้คนอื่น ๆ หมดกำลังใจไปด้วย.”

“.....”

ลู่เชียนเชียนที่กลายเป็นเงียบ.

นางเคยเป็นศิษย์นิกายไท่เสวียนเซิ่ง ย่อมเข้าใจเรื่องราวของนิกายระดับหนึ่งดี ความจริงคำพูดของนาง ต้องการสื่อว่า ไม่สามารถที่จะประมาทความแข็งแกร่งอีกฝ่ายได้.

“ในเมื่อเจ้านิกายต้องการเข้าร่วม งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร ศิษย์จะทำให้เต็มที่.”ลู่เชียนเชียนเอ่ย.

นางกล่าวจบและก้าวจากไป.

เห็นร่างที่งามงดจากไปในความมืดแล้ว จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “สตรีผู้นี้รับรู้เกี่ยวกับนิกายระดับหนึ่งมากทีเดียว.”

ระบบเอ่ย “ดังนั้น ศิษย์ของโฮสน์ ดูเหมือนว่าจะไม่มีคนปรกติ.”

......

เช้าวันถัดมา.

หลิวหว่านซีที่เตรียมอาหารแต่เช้า เพราะว่าวันนี้เจ้านิกายจะนำศิษย์พี่ไปยังจังหวัดจงจุน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด