ตอนที่แล้วChapter 683 ถูหนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 685 เรื่องเช่นนี้มันน่าอับอายขายหน้าจริง ๆ

Chapter 684 ต้องพัฒนาธุรกิจเสริม


จังหวัดจงจุนนั้นตั้งอยู่ใจกลางทวีปชิงหยุน เป็นดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุด มีพลังวิญญาณหนาแน่น ทำให้มียอดฝีมือนับไม่ถ้วน เป็นดินแดนสวรรค์เลยก็ว่าได้.

ในจังหวัดอื่น ๆ คนที่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์ถือว่าเป็นยอดฝีมือที่น่าเกรงขาม ทว่ากับเป็นผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปในจังหวัดจงจุน.

นั่นก็เพราะว่ามีกษัตริย์ยุทธ์มากมายอยู่เต็มไปหมด แม้แต่จักรพรรดิยุทธ์ยังเห็นทุกหนแห่งเช่นกัน.

กล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของจังหวังจงจุนนั้นมากกว่าจังหวัดอื่น ๆ หลายขั้น.

ภูผาทมิฬ ในตำราโบราณ ได้เอ่ยถึงว่าอยู่ในจังหวัดจงจุน ก่อนหน้านี้หมื่นปี เป็นสนามรบแห่งที่สองของคนฝ่ายธรรมมะและอธรรมต่อสู้กัน.

แล้วสนามรบแห่งแรกล่ะ?

แน่นอนว่าต้องเป็นที่ตั้งของนิกายราชันต์มารอยู่แล้ว.

นับตั้งแต่ทวีปชิงหยุนแตกสลาย จังหวัดจงจุนถือว่าเป็นพื้นที่ใจกลางของโลกใบนี้.

ราชันย์มารเลือกที่นี่เป็นสนามรบแห่งที่สอง นำกองกำลังของเขาเข้าต้านสุดยอดนิกายระดับสูงเวลานั้น อย่างห้าวหาญ.

“สุดยอดจริง ๆ!”

จุนซ่างเซียวที่อ่านประวัติ เผยความชื่นชมเป็นอย่างมาก.

กล้าที่จะบุกดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุด ต่อสู้กับยอดนิกายมากมาย นี่คือสุดยอดผู้กล้าที่ไม่ธรรมดา.

ระบบ“.....”

ผู้กล้าแล้วไง ต้องการศึกษาที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งทวีป รึอย่างไร?

ตามข้อความของเจ้านิกายคนแรกของนิกายปิศาจมังกรทมิฬทิ้งเอาไว้ ว่าวิชาดื่มโลหิตนั้นได้มาจากสมาชิกของนิกายมารที่รอดชีวิต จุนซ่างเซียวจึงวางแผนที่จะไปภูผาทมิฬดูเหมือนกัน.

แต่ไม่ใช่ตอนนี้

เพราะว่างานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรกำลังจะเริ่มแล้ว เขาจำเป็นต้องให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าวก่อน.

หนำซ้ำ นี่คืองานประลองนิกายระดับโลก จัดขึ้นที่จังหวัดจงจุน เมื่อการแข่งขันจบลงค่อยหาโอกาสไปดูก็ได้.

“เจ้านิกาย.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “อาวุโสโจวขอเข้าพบ.”

“เชิญ ๆ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าสมาคมส่งเขามาครั้งนี้ คงจะเกี่ยวข้องกับงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร.”

เป็นความจริง.

อาวุโสโจวที่เข้ามาในห้องโถง ก็เอ่ยกล่าวเข้าเรื่องเลย “เจ้านิกายจุน งานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรใกล้เข้ามาแล้ว นิกายของท่านเตรียมตัวพร้อมแล้วรึยัง?”

“เตรียมตัวอย่างไรบ้าง”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

อาวุโสโจวเอ่ย “เจ้าสมาคมให้มาถามว่า ท่านจะเดินทางเมื่อไหร่?”

“ยังมีเวลาอีกเดือนครึ่งไม่ใช่รึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เขาไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไร เพราะว่าตลอดหลายเดือนพวกเขาก็ฝึกฝนอย่างหนัก  ยกระดับอย่างรวดเร็ว มุ่งมั่นที่จะเอาชนะเลิศงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรอยู่แล้ว.

งานประลองระหว่างนิกายครั้งนี้ จะต้องประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน.

สำหรับเจ้านิกายจุนแล้ว ในเมื่อนิกายนิรันดรเข้าร่วม มีแต่ต้องได้ที่หนึ่งเท่านั้น.

อาวุโสโจวเอ่ย “มีนิกายมากมายเข้าร่วมงานประลองพยัคฆ์มังกรครั้งนี้ เจ้าสมาคมหวังว่าเจ้านิกายจุนจะนำศิษย์เดินทางก่อนเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางไปไม่ทันเวลา.”

จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก.

ปรมาจารย์อี้กังวลว่าเขาจะเดินทางไปไม่ทันทีอย่างงั้นรึ?

“เช่นนั้น.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วจะนำศิษย์เดินทางก่อนเวลาหนึ่งเดือนก็แล้วกัน.”

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว.”

อาวุโสโจวยกมือประสาน “โจวโหมวขอตัว.”

“อาวุโสโจวเดินทางมาไกล อยู่กินข้าวก่อนค่อยกลับดีไหม.”

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวถึงกับตะลึงไปเหมือนกัน.

ก่อนหน้าเร่งรีบเป็นอย่างมาก ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เกรงใจกันเลยทีเดียว.

......

หลังจากกินอาหารเสร็จ อาวุโสโจว ก็กล่าวลาและจากไป.

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องโถง เริ่มวางแผนทันที.

การเข้าร่วมประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรไม่เพียงแค่เห็นแก่หน้าปรมาจารย์อี้ เขายังต้องคิดถึงการสร้างชื่อเสียงของนิกายอีกด้วย.

“ยิ่งมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ การพัฒนานิกายก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น.

เวลานี้เขาที่เริ่มเปิดสาขาไปทั่ว เส้นทางการพัฒนาของเขายังคงอยู่อีกยาวไกล.

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

สาขานิกายนิรันดรและร้านขายอาหารสัตว์ก็ปรากฏขึ้นทุกพื้นที่ของจังหวัดเป่ยโม่.

ร้านเปิดใหม่ที่ดูคึกคักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่เมืองหวงซา เพราะว่าจุนซ่างเซียวเคยเดินทางมาด้วยตัวเอง ทำให้เจ้านิกายเฟิงซาและนิกายซั่งเฟิง ตลอดจนเจ้านิกายคนอื่น ๆ เดินทางมามอบของขวัญแสดงความยินดีกันมากมาย.

“เจ้านิกายมากมาย!”

“นิกายนิรันดรช่างมีชื่อเสียงจริง ๆ!”

เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่กล่าวพูดคุยกันเสียงเบา พวกเขาตระหนักได้ว่า กลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ล้วนแต่มาแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก.

เพียงแค่เปิดสาขาเปิดร้านอาหารสัตว์ก็ได้รับการตอนรับที่ดี ดูเหมือนว่าธุรกิจของนิกายนิรันดรจะราบรื่นเป็นอย่างมาก.

โดยเฉพาะข้อตกลงกับนิกายใหญ่ทั้งสิบก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการซื้อแร่เพื่อส่งมอบไปยังมนทลชิงหยาง.

ส่วนอีกคู่ค้าฝั่งหนึ่ง.

ตระกูลอ้ายก็ขยายธุรกิจออกไปไกลเหมือนกัน.

ธุรกิจหลักของพวกเขา ส่วนมากคือการเตรียมวัตถุดิบและสมุนไพรส่งมอบให้กับจุนซ่างเซียว.

แร่ใช้หลอมอาวุธและอุปกรณ์ ส่วนสมุนไพรใช้หลอมยา สองสิ่งที่เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดร.

แน่นอน.

ยิ่งความต้องการมากเท่าไหร่ เงินที่ใช้ก็ยิ่งมากเท่านั้น.

ร้านขายอาหารสัตว์ แม้นว่าจะได้รายได้ประมานหนึ่ง แต่ศิษย์ของเขาที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ความต้องการก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งรายได้และรายจ่ายจึงจำเป็นต้องยกระดับไปพร้อม ๆ กัน.

“การพัฒนานิกายก็ต้องก้าวไปพร้อมกับการสร้างธุรกิจ”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ระบบเอ่ย “ขอเพียงโฮสน์ยินดีมอบเม็ดยาระดับสูงให้กับตระกูลอ้าย ยังคิดว่าจะขาดเงินอีกรึ?”

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา “ตระกูลอ้ายโดยรวมแล้วยังอ่อนแอมาก การมอบเม็ดยาระดับสูงให้พวกเขาไปขาย มีแต่จะนำหายนะมาให้กับพวกเขา.”

“ดูเหมือนว่า.”

เขาหยุดและเอ่ย “จะต้องหาคู่ค้าที่แข็งแกร่งหน่อย.”

ระบบเอ่ย “ให้กล่าวล่ะก็ กลุ่มการค้าที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปชิงหยุน คงจะเป็นตระกูลถัง.”

“ได้ยินมาเหมือนกัน.”

จุนซ่างเซียวแม้นว่าจะเป็นมือใหม่ ทว่าก็รับรู้สถานการณ์ต่าง ๆ ในทวีปชิงหยุนเป็นอย่างดี.

ตระกูลถัง.

นี่คือตระกูลการค้าที่ร่ำรวยสืบทอดกันมาหลายรุ่นแล้ว.

ร้านศิลาวิญญาณในมนทลชิงหยาง เองก็เป็นร้านของตระกูลถัง.

ตระกูลนี้ทำการค้าขายศิลาวิญญาณเทียม ขยายออกไปทั่วทวีป.

จุนซ่างเซียวต้องการคู่ค้า ตระกูลถังจึงเหมาะสมเป็นอย่างมาก.

แล้วจะติดต่ออย่างไร.

จะเข้าไปเจรจาอย่างไร?

การบริหารนิกายและการค้านั้น ไม่ง่ายนักในการจะบริหาร.

โดยเฉพาะการติดต่อกับตระกูลการค้าที่ทรงพลัง ทว่าหากสามารถเชื่อมสัมพันธ์ได้ ก็จะได้ช่องทางการค้าที่ใหญ่โต ไม่ต้องบอกเลยว่าสามารถสร้างความร่ำรวยได้ขนาดใหน.

“น่าเสียดาย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่รู้ว่าจะติดต่อคนตระกูลถังได้อย่างไร?”

เกี่ยวกับข้อมูลคงต้องไปสอบถามลี่ลั่วฉิวก่อน!

“ตระกูลถัง?”

ถางจู่ลี่สีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า “รอสักพัก ข้าจะส่งคนออกไปหาข้อมูลทันที.”

“อืม.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ลี่ลั่วฉิวที่ออกคำสั่งให้สมาชิกหาข้อมูลโดยด่วน.

เพียงไม่นาน ข้อมูลของตระกูลถังก็ถูกส่งมา.

หอฝนพรำ ออกหาข้อมูลอยู่ทุกวัน เว้นแต่ข้อมูลที่สำคัญ นางถึงจะรายงาน เพราะว่ามันเสียเวลาทำงานอื่น ๆ.

“เจ้านิกาย.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “เกี่ยวกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับมานั้น ครึ่งเดือนที่แล้ว นายน้อยสองตระกูลถังกำลังเดินทางมายังจังหวัดซีเหนียหนาง.”

“เมื่อครึ่งเดือน ตอนนี้ผ่านมาสิบวันแล้ว?”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ “ไม่ใช่ว่าใกล้มาถึงแล้วรึ?”

“อืม.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “น่าจะยังอยู่ระหว่างทาง.”

“มีข้อมูลเฉพาะของนายน้อยรองตระกูลถังหรือไม่?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “หอฝนพรำของพวกเรายังพัฒนาไปไม่ถึงจังหวัดจงจุน ดังนั้นจึงไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้.”

“ตระกูลอ้ายควรรู้.”

จุนซ่างเซียวที่เดินทางไปยังเมืองฮู่หยางทันที.

“นายน้อยสองตระกูลถัง?”

ในร้าน อ้ายซางหนี่ที่ส่ายหน้าไปมา “ข้ารู้เกี่ยวกับธุรกิจ หากแต่เรื่องราวส่วนบุคคลนั้นไม่รู้ หากแต่บอกได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้สืบทอด.”

“หนึ่งอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “พวกเขามีผู้สืบทอดหลายคนรึ?”

“อืม.”

ประมุขอ้ายเอ่ย ”ตระกูลถังนั้นมีสาขามากมายทั่วทวีป ทายาทสายตรงนั้นมีอยู่ 23 คน เท่าที่ข้ารู้ คนที่มีอนาคตเป็นผู้สืบทอดตระกูลจริง ๆ นั้นมีมากกว่าสิบคน.

“มากกว่าสิบ?”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา “ประมุขตระกูลถังหากว่าตกตายไปทันที ไม่ใช่ว่าคงต่อสู้แย่งชิงสมบัติกันใหญ่เลยรึ?”

อ้ายซางหนี่ที่มุมปากกระตุก.

เจ้านิกายจุนของข้า คำพูดของท่านก็ตรงเกินไป!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด