ตอนที่แล้วChapter 682 เหยาเมิ่งหยิงอาละวาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 684 ต้องพัฒนาธุรกิจเสริม

Chapter 683 ถูหนาน


หลวงจีนที่ลงเขามา จากพื้นที่นิกายปิศาจมังกรทมิฬ.

เขาที่ไล่ล่ากำจัดเหล่าผู้ฝึกตนปิศาจและผู้ฝึกตนมาร.

“ฟิ้ว!”

แมวสีขาวกำมะหยี ร่อนลงที่ไหล่ของเขา เอ่ยออกมาว่า “พวกเราจะไปที่ใหน?”

สามารถพูดได้อย่างงั้นรึ?

เป็นไปไม่ได้ว่ามันคือสัตว์วิญญาณที่มีพลังระดับกษัตริย์ยุทธ์?

ไม่เลย.

เจ้าตัวเล็กเพียงแค่สัตว์วิญญาณระดับต่ำ การที่พูดได้นั้น เป็นเพราะความสามารถพิเศษ.

แม้นว่าสัตว์ที่พูดคุยได้นั้นจะมีระดับสัตว์วิญญาณขึ้นไป ทว่าก็มีสัตว์บางสายพันธ์ที่ผ่าเหล่าเปิดเชาว์ปัญญาก่อนเวลา.

แมวถงหลิงเป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์ผ่าเหล่า.

สัตว์ตนนี้เป็นเหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป ไม่ได้แข็งแกร่งนัก ไม่ใช่สัตว์สายต่อสู้ ทว่าเกิดขึ้นอยู่ในสังคมมนุษย์ทำให้คุ้นเคยสนิทกับมนุษย์นั่นเอง.

แมวที่ดูน่ารักพูดจ้อ ทำให้ลดความน่าเกรงขามลงไปอีก.

แน่นอน.

หากจะกล่าวจุดเด่นของแมวถงหลิงควรจะเป็นสัมผัสกลิ่นที่แม่นยำสูงมากนั่นเอง.

“เอ๊ะ?”

แมวบนไหล่ของนักบวช สูดกลิ่นสั้น ๆ เบา ๆ เผยท่าทางตกใจ “ปราณมาร บางทีผู้ฝึกตนมารลงเขาไปแล้วอย่างงั้นรึ?”

มันสามารถที่จะสูดกลิ่นพลังวิญญาณได้.

“เจ้าไม่ได้บอกว่าได้รับกลิ่นแม้แต่อยู่ข้างนอกไม่ใช่รึ?”หลวงจีนคนดังกล่าวเอ่ย.

“ไม่ได้หมายความเช่นนั้น”แมวถงหลิงเอ่ย.

“หรือว่าไม่ได้ไปยังที่แห่งนี้.”

หลวงจีนคนดังกล่าวที่หยุดชะงัก ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถรับรู้ตำแหน่งร่องรอยที่ชัดเจนได้.

“แปลก.”

แมวถงหลิงเผยท่าทางประหลาดใจ “เห็นชัด ๆ ว่ามีปราณมาร ตอนนี้หายไปได้อย่างไร? หรือว่าอีกฝ่ายบินออกไปแล้ว?”

หลวงจีนคนดังกล่าวเอ่ย “ปราณมารฝ่ายตรงข้ามรุนแรงมาก ความแข็งแกร่งบางทีอาจจะเป็นจักรพรรดิยุทธ์ได้.”

“ฮึ ฮึ”

แมวถงหลิงเอ่ย “ผู้ฝึกตนมารระดับนั้นเจ้าไม่สามารถจัดการได้ ทำไมยังแส่ไปหาหายนะด้วยตัวเองด้วย.”

“นั่นก็เพราะ.”

หลวงจีนคนดังกล่าวเอ่ยอย่างหนักแน่น “นั่นเพราะเป็นหน้าที่ของอาตมา.”

“ก็ดี.”

แมวถงหลิงยกขาหน้าขึ้นเกาหนวดของมัน “เจ้าคู่ควรเป็นผู้บำเพ็ญพุทธ แต่ความใจกล้าเถรตรงเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็ว เจ้าต้องตายในมือของผู้ฝึกยุทธ์มาร แหงม ๆ.”

“อามิตตาพุด.”

หลวงจีนที่พนมมือ เอ่ยออกมาว่า “ข้าไม่ลงนรก ใครจะลงนรก.”

“......”

แมวถงหลิงเอ่ย “แล้วแต่เจ้า.”

“เฮ้ย ดูนั่น.”

“ดูอะไรกัน?”

“ในทวีปชิงหยุน.”

“คนที่ไว้ผมยาวจนถึงเอว ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย.”

หลวงจีนที่ไม่เอ่ยกล่าว ยังคงก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างสงบ.

“อาเด๊ะ? คนผู้นี้สวมจีวรด้วย หรือว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญพุทธ์?”

“การต่อสู้ของนิกายธรรมมะและอธรรม เมื่อหมื่นปีที่แล้ว ยอดฝีมือวิถีพุทธมากมายตกตายไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อย ๆ ถดถอยตกต่ำลง ไม่คาดคิดเลยว่าจะยังมีคนเลือกเส้นทางนี้อยู่.”

“แปลก เจ้าคนนี้ไว้ผมยาว ไม่ใช่ว่าต้องโกนผมล้านเตียนหรอกรึ?”

“ไม่ใช่พระปลอมหรอกรึ?”

หลวงจีนคนดังกล่าวที่ชะงัก หันหน้าพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง ไปยังผู้ฝึกยุทธ์คนดังกล่าว“อาตมา บำเพ็ญจิตใจไม่ใช่เส้นผม! บำเพ็ญจิตใจไม่ใช่เส้นผม!บำเพ็ญจิตใจไม่ใช่เส้นผม!บำเพ็ญจิตใจไม่ใช่เส้นผม!”

“ฟู่ ฟู่ ---”

เสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง สั่นก้องไปในอากาศ พลังอำนาจทะลวงที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที กังวานไกลกวาดไปทั่วพื้นที่หลายร้อยจั้ง.

ชายวัยกลางคนที่สะดุ้ง “วิชาเสียงราชสีห์คำราม!”

“อามิตตาพุด.”

หลวงจีนที่ควบคุมอารมณ์ กล่าวขอโทษ “อาตมาเสียมารยาทแล้ว.”

ฟิ้ว!

เขาสะบัดแขนเสื้อและจากไปทันที.

......

ในคืนนั้น.

หลวงจีนคนดังกล่าวที่นั่งสมาธิในถ้ำ มือหนึ่งกำลังนั่งสมาธินับลูกปะคำ พร้อมกับสวดมนต์เบา ๆ.

หมื่นปีที่แล้ว.

หลังจากคำบัญชาทำลายมาร ในครั้งนั้น ผู้นำเป็นผู้ฝึกยุทธ์บำเพ็ญพุทธ.

การต่อสู้ แม้นว่าจะจัดการกับราชันย์มารได้ ทว่ายอดฝีมือวิถีพุทธก็เสียหายอย่างหนัก จนทำให้ตกต่ำจนแทบไม่เห็นในยุคนี้.

อย่างไรก็ตามผู้ฝึกยุทธ์วิถีพุทธ์นั้น ได้รับการยกย่องเชิดชูมาจนถึงปัจจุบันเหมือนกัน.

“หง่าว-”

แมวถงหลิงที่นอนอยู่หาวหวอด ๆ.

มันกับหลวงจีนผู้นี้รู้จักกันมานานแล้ว ทุก ๆ วันมันจะนอนเกียจคร้าน ฟังอีกฝ่ายสวดมนต์อยู่เป็นประจำ.

หลวงจีนดาร์มะผู้นี้มีนามว่า ถูหนาน(ข้ามผ่านความยากลำบาก)

นามของเขานั้นได้รับจากนักบวชชราคนหนึ่ง ที่หวังที่จะให้เขาช่วยทุกสรรพสิ่ง ข้ามผ่านหายนะ.

ถูหนานไม่มีนิกาย เป็นผู้ฝึกยุทธ์เร่ร่อน.

นับตั้งแต่ก้าวเดินไปยังเส้นทางวิถีพุทธ ไม่เพียงแค่ต้องปฏิบัติตามหลักคำสอนศาสนา ยังต้องออกไปกำจัดมารด้วย เพื่อที่จะชำระล้างหายนะให้หมดสิ้นไปจากโลก.

แมวถงหลิงที่ติตามถูหนานมา ไม่ค่อยได้กินอิ่มเท่าใดในแต่ละวัน แต่ละวัน ยังดูน่าเบื่อ และดูน่าสงสารมาก.

อย่างไรก็ตาม.

เพราะว่ามีความสัมพันธ์ต่อกัน.

ดังนั้นมันจึงไม่สามารถจากไปได้ ราวกับว่าเป็นโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกพ้น.

หลังจากสวดมนต์ทำวัดเสร็จ ถูหนานก็ลืมตาขึ้นเอ่ยออกมาว่า “ได้ยินมาว่ามนทลฮวยหยางมีสำนักปิศาจมากมาย พรุ่งนี้พวกเราไปยังจังหวัดซีเหนียนหยางก็แล้วกัน.”

เขาไม่จำเป็นต้องจัดการผู้ฝึกยุทธ์มารอย่างเดียว ทว่าเขาต้องจัดการเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ปิศาจด้วยเช่นกัน.

หลายปีมานี้ เขาได้ทำลายผู้ฝึกยุทธ์ปิศาจมา นับไม่ถ้วน.

แน่นอน.

ล่วงเกินคนมากมาย เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องถูกไล่ล่า.

ดังนั้นการที่ถูหนานปรากฏขึ้นที่จังหวัดซีหวง ไม่ใช่เพราะเดินทางอย่างมีความสุข แต่เป็นการหาที่หลบภัยต่างหาก.

“ตกลง.”

แมวถงหลิงเอ่ย “หวังว่ามทนลฮวยหยางจะไม่มียอดฝีมือ ไม่เช่นนั้นพวกเราจะต้องหนีตายกันจ้าระหวั่นอีกแน่.”

“ไม่ต้องห่วง.”

ถูหนานเอ่ย “มนทลฮูหยางเป็นดินแดนระดับแปด ผู้ฝึกตนปิศาจไม่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน.”

“หวังไว้เช่นนั้น.”

แมวถงหลิงที่กล่าวในใจ “ก่อนหน้านี้ก็บอกว่ามนทลเถิงหยุนมีระดับต่ำมาก ท้ายที่สุดก็ถูกไล่ล่า เกือบได้ไปพบกับอรหันต์แล้ว!”

เช้าวัดถัดมา.

อากาศแจ่มใส.

ถูหนานนำแมวถงหลิงมุ่งตรงไปยังจังหวัดซีเหนียนหยางทันที.

......

นิกายนิรันดร.

จุนซ่างเซียวที่จ้องมองตำรายุทธ์และสมบัติที่เก็บมาจากนิกายปิศาจมังกรทมิฬ.

วิชายุทธ์นี้คือวิชาดื่มโลหิตอย่างงั้นรึ?

“เจ้าเคยเห็นมาก่อนอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ส่งตำราให้ปราชญ์ปิศาจอู๋จิว ตรวจสอบ ขณะเขาเอ่ยออกมาว่า “นี่คือวิชาวิถีมาร.”

“ดูดซับแก่นโลหิตเพื่อบ่มเพาะ เป็นวิชาที่น่าหวาดกลัว ถึงจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์มาร ก็รู้สึกน่ารังเกียจเช่นกัน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวส่ายหน้าไปมา “วิชาเหล่านี้มีน้อย เท่าที่ข้ารู้ ราชันย์มารในอดีต แม้นว่าจะฝึกฝนวิชามาร แต่ก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมา.”

“งั้นรึ?”

การที่ผู้ฝึกตนมารตรงไปตรงมา จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

เขาที่เก็บวิชาดื่มโลหิตไป ไม่ได้นำไปวางในหอตำรามให้ศิษย์ฝึกฝน ต้องไม่ลืมว่ามันใช้แก่นโลหิตในการบ่มเพาะ เป็นวิชาที่โหดร้ายมาก.

เขาที่ตรวจสอบตำราเล่มอื่น ๆ.

นอกจากนี้ยังมีบันทึกเมื่อหลายพันปีด้วย.

จุนซ่างเซียวที่ตรวจสอบโดยระเอียด พร้อมกับคัดแยกออกมา.

ต้องไม่ลืมว่า มีผู้ฝึกยุทธ์สวมหน้ากาก ที่หาเรื่องเขาอยู่ หากว่ามีร่องรอยอะไร เขาย่อมต้องไม่ปล่อยผ่าน!

การถูกจ้องหาเรื่อง ไม่หยุด การอยู่เฉย ๆ ไม่ใช่รูปแบบของจุนซ่างเซียว หากว่ามีโอกาสเขาต้องเอาคืนแน่.

เขาที่หวังว่าจะได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง

และก็พบร่องรอยบางอย่างจริง ๆ!

เป็นบันทึกของเจ้านิกายเหรินของนิกายปิศาจมังกรทมิฬ“เมื่อหลายพันปีก่อน ข้าเคยไปตรวจสอบถ้ำภูผาทมิฬ ได้รับวิชาดื่มโลหิตกลับมา เป็นไปได้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับยอดฝีมือนิกายมารที่แยกตัวออกจากนิกายราชันย์มาร.”

แม้ว่าจะเป็นเพียงข้อสงสัย ทว่าก็สามารถยืนยันได้ว่าคนของนิกายมารนั้นยังมีชีวิตกันอยู่.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ารู้จักภูผาทมิฬหรือไม่?”

“ภูผาทมิฬ?”

ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวเอ่ยอย่างจริงจัง ”ก่อนหน้านี้หมื่นปี ที่นั่นคือ สนามรบแห่งที่สอง ของนิกายฝั่งธรรมมะไล่ล่านิกายฝั่งอธรรม ตอนนี้ถูกผนึกเอาไว้ ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ต้องห้ามของทวีปชิงหยุน.

“ไม่สามารถเข้าไปได้อย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวเอ่ย “สามารถเข้าไปได้ ทว่าด้านในนั้นมีปราณมารที่แข็งแกร่งกระจายอยู่ทั่ว ยากที่คนทั่วไปจะต้านทานเอาไว้ได้.”

“มันอยู่ที่ใด?”จุนซ่างเซียวกล่าว.

ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวเงียบไปและกล่าวออกมาว่า “อยู่ในจังหวัดจงจุน.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด