บทที่ 20 : สายเลือดวิหคสีชาด
บทที่ 20 : สายเลือดวิหคสีชาด
เสียงฝีเท้าของเขาขยับ, จากนั้นก็ปรากฏตัวในส่วนลึกของนิกายดาบสังหารวารี….ซึ่งเป็นลานเล็กๆที่ดูลึกลับทันที
ในไม่ช้า, ด้วยการนำทางโดยระบบ ….เขาก็มาถึงคุกใต้ดิน
ในคุกใต้ดินนี้, มีหญิงสาวหลายสิบคนในช่วงวัประมาณยี่สิบปี….พวกเธอทั้งหมดต่างถูกคุมขังอยู่
ดูจากการแต่งกายแล้ว พวกเธอดูเหมือนจะเป็นหญิงสาวธรรมดาจากตระกูลทั่วไป
ในบรรดาหญิงสาวหลายคน….ในที่สุดเย่หวู่ชางก็มองเห็นคนที่เขากำลังตามหา
เเละเมื่อเปิดใช้งานดวงตาแห่งโชคชะตา เขาก็มองเห็นโดยตรงถึงคุณสมบัติของหญิงสาวคนนี้
[จ้าวชิงเกอ การประเมิณโชค: สีแดง, คุณสมบัติ : ขั้นสูง, อาณาจักรควบแน่นแกนกลางขั้นที่หนึ่ง, พรสวรรค์: สายเลือดวิหคสีชาด คาดว่าจะตื่นขึ้นมาในอนาคต]
[แนะนำ: หญิงสาวจากตระกูลเล็ก ๆ ที่ถูกผู้นำนิกายดาบสังหารวารีจับตัวมาที่นี่ ซึ่งเขาบังเอิญฝึกฝนเคล็ดวิชาปีศาจและวางแผนที่จะใช้เธอเพื่อฝึกฝน!]
ดวงตาแห่งโชคชะตาได้ให้ข้อมูลเเก่เขาอย่างสมบูรณ์
ปรากฎว่าผู้นำนิกายดาบสังหารวารีได้ฝึกเคล็ดวิชามารที่ต้องใช้เลือดของหญิงสาวเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
เเละเพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจ….เขาสามารถกำหนดเป้าหมายได้เฉพาะหญิงสาวที่มาจากตระกูลธรรมดาเท่านั้น
น่าเสียดาย ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จในการฝึกฝน…..เขาดันมาถูกเย่หวู่ชางฆ่าตายเสียก่อน
……….
ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว เย่หวู่ชางก็เปิดคุกใต้ดินและกล่าวอย่างใจเย็น
"นิกายดาบสังหารวารีถูกทำลายแล้ว…..ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนเป็นอิสระ ออกไปจากที่นี่ได้เลย!"
เมื่อได้ยินดังนี้, สาวๆหลายคนก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
อย่างไรก็ตามจ้าวชิงเกอ ซึ่งเป็นหนึ่งในหญิงสาวเหล่านี้กลับปรับตัวเข้ากับสถาณการณ์ได้อย่างรวดเร็วและชักจูงให้คนอื่นๆแสดงความขอบคุณ
"ขอบคุณท่านผู้ยิ่งใหญ่มากที่ช่วยพวกเรา…..พวกเราซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง!"
ในขณะนี้, เธอได้ประทับใจในความเเข็งเเกร่งและรูปลักษณ์ของเย่หวู่ชางเช่นกัน
ในฐานะผู้ฝึกตน, เเน่นอนว่าเธอรับรู้ได้ถึงความผันผวนของการต่อสู้ข้างนอกได้อย่างชัดเจน……มันชัดจนเเทบจะเหมือนว่าเธอได้เห็นการต่อสู้นั้นจริงๆ
เเละเธอไม่เคยคาดหวังเลยว่า….นิกายดาบสังหารวารีอันยิ่งใหญ่จะถูกทำลายล้างในเวลาเพียงหนึ่งวัน
เเถมยังถูกทำลายชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะคนนี้
ผู้เชี่ยวชาญที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านั้น……เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือเขาก็เปรียบเสมือนไก่ที่อยู่ในปากสุนัข
ถูกฆ่าอย่างง่ายดายด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว
ฉากที่เย่หวู่ชางตัดศีรษะผู้นำนิกายดาบสังหารวารีเเละคนอื่นๆนั้นยังฝังลึกอยู่ในใจของเธออยู่เลย
เธอรู้ดีกว่าใครก็ตามที่ถูกจับมาที่นี่…..จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องสังเวยเพื่อฝึกเคล็ดวิชามาร, ชะตากรรมของเธอสามารถจินตนาการได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม, โชคชะตากลับเล่นตลก…..เมื่อจู่ๆร่างที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเเละช่วยเหลือเธอ
……….
ณ ขณะนี้
เย่หวู่ชางเหลือบมองจ้าวชิงเกอและพยักหน้าน้อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือพรสวรรค์…..เธอก็โดดเด่นมาก
ดูจากรูปร่างหน้าตา….เธอก็คงจะได้คะแนน 92 คะแนน
แน่นอนว่าที่ยังคงเป็นเช่นนี้….เพราะมันคือก่อนที่เธอจะสามารถปลุกสายเลือดวิหคสีชาดของเธอขึ้นมาได้
หากสายเลือดของเธอตื่นขึ้นมา….รูปร่างหน้าตาของเธอคงจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
เเละหลังจากอ่านคุณสมบัติของจ้าวชิงเกอแล้ว…..เย่หวู่ชางก็มีความคิดที่จะรับเธอเป็นภรรยารอง
อย่างไรก็ตาม, เขาไม่ได้พูดออกมาในตอนนี้
เขาไม่เคยบังคับใคร…..เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือหัวใจที่ยินดีตอบรับ
เเต่เมื่อเห็นเย่หวู่ชางจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา….ใบหน้าของจ้าวชิงเกอก็แดงเล็กน้อยด้วยความรู้สึกเขินอาย
จนกระทั่งตกเย็นเย่หวู่ชางและจ้าวชิงเกอก็ส่งเด็กสาวหลายคนลงมาจากภูเขา
และสมาชิกตระกูลเย่ที่ได้รับหมายก็ถูกเรียกให้เข้ามาที่นี่
แม้ว่าพวกเขาจะตกใจที่ได้เห็นสภาพทรุดโทรมของนิกายดาบสังหารวารีและร่างกายของผู้ฝึกตนหลายคนที่ตกตายลง…..เเต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับข้อเท็จจริงนี้
ในยามนี้ความตกใจในใจของพวกเขาได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว
พวกเขาไม่เคยคาดหวังเลยว่าผู้นำตระกูลลึกลับคนนี้จะมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
คนคนเดียวทรงพลังมากกว่านิกายทั้งนิกาย…..สิ่งนี้น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก
เเละด้วยการล่มสลายของนิกายดาบสังหารวารี, ทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขาจึงตกเป็นของตระกูลเย่โดยธรรมชาติ
ด้วยทรัพยากรมากมายเเบบนี้ เย่เหว่ยหวู่จึงมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนดังในอดีตภายในสามปี
และเขายังรู้ด้วยว่าถ้าเย่หวู่ชางยังอยู่…..คงจะมีกองกำลังไม่เกินสองกองกำลังในราชวงศ์ต้าเซี่ยที่จะกล้าเผชิญหน้ากับตระกูลเย่
เพราะหากไม่มีผู้ฝึกตนในอาณาจักรพระราชวังสีม่วง…..กองกำลังใดจะเทียบได้กับตระกูลเย่ในตอนนี้กัน?
……..
หลังจากนั้น
บนเนินเขาเล็กๆเย่หวู่ชางและจ้าวชิงเกอกำลังยือยู่ด้วยกัน
หลังจากใช้เวลาร่วมกันมาทั้งวัน, ทั้งสองก็สนิทกันมากขึ้น
“น้องจ้าว, ยามนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว……ข้าสงสัยว่าเจ้ามีแผนการในอนาคตอย่างไร” เย่หวู่ชางเอ่ยถามตรงๆ
เมื่อได้ยินสิ่งนี้….การแสดงออกของจ้าวชิงเกอก็หม่นหมองลง
“ข้าจะมีแผนอะไรได้, แม้ว่าข้าจะกลับไปหาตระกูลจ้าว ข้าก็คงหนีไม่พ้นชะตากรรมที่ต้องแต่งงานกับคนอื่นๆโดยตระกูล…. ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเหตุการณ์นี้คู่สมรสของข้าก็คงจะไม่ดีเช่นกัน”
ข้อความนี้มิใช่เรื่องโกหก, เพราะแม้ว่านี่จะเป็นโลกนิรันดร์ แต่ชื่อเสียงของหญิงสาวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
เมื่อได้ยินสิ่งนี้เย่หวู่ชางก็เงียบไปครู่หนึ่งและไม่ปิดบังความคิดของเขาอีกต่อไป
“ชิงเกอ…..ข้าอยากจะรับเจ้าเป็นภรรยารอง, เจ้าจะเต็มใจหรือไม่?”
เย่หวู่ชางไม่ใช่คนโง่, จากการเห็นสายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมา เขาก็มองเห็นความเสน่หาในดวงตาของเธอเช่นกัน
ดังนั้น, โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่ยอมให้หญิงสาวพูดก่อนในเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะพูดด้วยตัวเอง
เเละทันทีที่เขาพูดจบ จ้าวชิงเกอก็ตัวสั่นไปทั้งตัว…..จากนั้นใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย
แม้ว่าเธอจะเขินอาย, แต่ก็เห็นได้ว่าเธอมีความสุขมาก
"ข้าเต็มใจ!"
แน่นอนว่าจ้าวชิงเกอตกลง
เเละเธอรู้ว่าเย่หวู่ชางมีภรรยาเเล้ว
ด้วยความแข็งแกร่งเเละพรสวรรค์ของอีกฝ่าย….เธอจึงไม่คัดค้านที่จะเป็นภรรยารอง
ความจริงที่เธอไม่กล้าสารภาพความรู้สึกของเธอกับเย่หวู่ชาง, เพราะเธอกลัวว่าจะถูกหัวเราะเยาะที่ประเมินตัวเองสูงเกินไป
ตอนนี้เมื่อเย่หวู่ชางเป็นฝ่ายเอ่ยปาก…..เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
เเละเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ เย่หวู่ชางก็ยิ้มเบาๆ…แล้วจับมือเล็กๆของเธอไว้
“หากเจ้าเต็มใจ โปรดไปพักอยู่ที่ตระกูลเย่สักพัก, แล้วเมื่อทุกอย่างลงตัว….ข้าจะพาเจ้าไปที่ตระกูลจ้าว เพื่อส่งเทียบเชิญอย่างเป็นทางการ”
"แม้ว่าเจ้าจะเป็นภรรยารอง, แต่สิ่งที่ข้าเย่หวู่ชางมอบให้ในฐานะภรรยารอง…..ย่อมไม่ขาดมืออย่างแน่นอน!"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้จ้าวชิงเกอก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก
ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น….ก่อนจะจูบเย่หวู่ชางบนแก้มอย่างกล้าหาญ จากนั้นก็รีบวิ่งหนีไป
เมื่อเห็นสิ่งนี้, เย่หวู่ชางก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสแก้มของเขาเบาๆแล้วฉีกยิ้มออกมา
………………………