Chapter 678 ท้ายที่สุดก็ไปสักที
พวกเขาที่ได้ยินข่าวลือมาเหมือนกัน ที่จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกไปไกล่เกลี่ยนิกายใหญ่ทั้งสอง แม้แต่ต้านการโจมตีทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิยุทธ์ ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงไม่น้อย.
ก่อนหน้าคิดว่าแค่ข่าวลือ ทว่าเมื่อเห็นเจ้านิกายเฟิงซาและนิกายซั่งเฟิงเผยความสุภาพต่ออีกฝ่าย ทำให้พวกเขาเชื่อในทันที.
ขอเพียงไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย พวกเขาย่อมต้องคล้อยตามอยู่แล้ว.
สำหรับแร่นั้น ถึงจะหายากในจังหวัดอื่น ทว่ากับเป็นสิ่งที่ธรรมดาเป็นอย่างมากในจังหวัดเป่ยโม่ ทำให้หลากหลายนิกายหาได้เสียดาย.
หากว่าสามารถสร้างสัมพันธ์กับนิกายประเมินสามA ด้วยแร่ นับว่าคุ้มค่ามาก.
แน่นอน.
เจ้านิกายจุนเองก็ไม่รักษาภาพของตัวเองแม้แต่น้อย ไม่เกรงใจเลยที่รับผลประโยชน์ทุกอย่างที่คนอื่นยื่นให้.
ในคืนนั้น มีงานเลี้ยงในเมืองหวงซาที่จัดเลี้ยงให้เขา แม้แต่มีเจ้านิกายต่าง ๆ มากมายเดินทางมามอบแร่ให้กับเขาด้วย.
มีเจ้านิกายหลายแห่งที่ไม่ได้อยู่ในเมืองแห่งนี้ด้วย.
หากแต่หลังจากได้รับข่าวและการรับเชิญ กับเดินทางมางานเลี้ยงนี้ในทันที.
ในเวลานี้ภายในตึกมีการจัดงานเลี้ยงที่หรูหราไม่น้อย เจ้านิกายนับสิบที่เดินทางมายังงานเลี้ยงพูดคุยธุรกิจกัน.
พูดไปแล้วก็น่าขำขันไม่น้อย.
ครึ่งเดือนที่แล้ว พวกเขาที่แยกกันออกเป็นสองฝั่ง แม้แต่ตัดสินใจต่อสู้เพื่อยึดครองเหมืองแร่ อย่างเอาเป็นเอาตาย ทว่าวันนี้ ตอนนี้กับนั่งรวมกันอย่างสงบ.
งานเลี้ยงเริ่มแล้ว.
เจ้านิกายจุนที่ยกแก้วกล่าวขอบคุณทุกคน.
พร้อมกับเสนอต้องการที่จะร่วมการค้ากับนิกายทั้งสิบ เพื่อที่จะซื้อแร่ส่งไปยังนิกายนิรันดร.
เจ้านิกายซ่ง ที่รู้สึกเศร้าใจอยู่เล็กน้อย.
ก่อนนี้เขาที่คิดว่าจะผูกขาดเพียงคนเดียว ไม่คาดคิดเลยว่าจะต้องแบ่งปันกันนิกายอื่น ๆ ด้วย.
“ไม่มีปัญหา!”เฟิงเฟยซาที่กล่าวตอบกลับทันที.
นิกายอื่นเองก็เช่นกัน.
ในความเห็นของพวกเขานั้น การทำธุรกิจกับนิกายนิรันดร ไม่เพียงแค่ได้ผลกำไรเท่านั้น ยังได้สร้างสายสัมพันธ์กับนิกายที่มีศักยภาพสูงอีกด้วย.
นิกายศักยภาพสามA.
เป็นนิกายที่มีอนาคตที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง.
กับนิกายเช่นนี้แน่นอนว่าย่อมต้องสร้างมิตรมากกว่าเป็นศัตรู.
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “จุนโหมวย่อมไม่เอาเปรียบทุกคนแน่นอน แร่ทั้งหมดไม่ว่าจะมากเท่าไหร่ ก็จะรับซื้อในราคาตลาด.”
เขาต้องการทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา เพราะว่าหลังจากนี้นิกายนิรันดรต้องการพัฒนาอย่างยั่งยืน แม้นว่าจะได้รับมาฟรีได้แต่กับไม่ใช่เรื่องเหมาะที่จะได้รับในระยะยาว.
การใช้พลังในการกำราบผู้อื่น ไม่สามารถได้รับความเชื่อใจ ดังนั้นเขาจึงต้องทำการค้าที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เที่ยงธรรม.
“มา! ดื่ม!”
“ดื่ม!”
จุนซ่างเซียวและเหล่าเจ้านิกายของจังหวัดเป่ยโม่ต่างก็ดื่มสุราอย่างเป็นกันเอง.
หากว่าเจ้านิกายจังเหวัดซีเป่ยเหอ จังหวัดตงเป่ยลู่แม้แต่จังหวัดตงเห่า เห็นเข้าคงต้องปาดน้ำตาอย่างแน่นอน.
ในดินแดนของพวกเขา เจ้าคนนี้กับใช้กำลังเข้าขู่ แม้แต่ใช้พลังที่เหนือกว่าสะกดข่ม แต่จังหวัดเป่ยโม่กับพูดคุยหัวเราะเป็นกันเอง!
“นึกว่าจะใช้กำลัง คาดไม่ถึงเลย ท้ายที่สุดข้าก็เดาผิด.”ระบบที่เอ่ยพลางทอดถอนใจ.
ระบบที่เข้าใจจุนซ่างเซียวที่สุด ที่ชอบหาเรื่องเขาไปทั่ว กระทั่งเกรงว่าจะสร้างศัตรูไปทั้งจังหวัดเป่ยโม่เป็นอย่างมาก.
เหมือนกับเหตุการณ์ที่จังหวัดตงเป่ยลู่และจังหวัดตงเห่าคือตัวอย่างที่ดีที่สุด.
ท้ายที่สุด?
ไม่เพียงแค่เข้าไปไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของคนในจังหวัดเป่ยโม่ ยังร่วมดื่มกันกับพวกเขาราวกับญาติพี่น้อง.
“ชายคนนี้ ยากจะคาดเดาจริง ๆ.”ระบบเอ่ย.
......
ติ๊ง! ติ๊ง!
ขณะที่ดื่มสุรานั้น เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เป็นเสียงของการหลอมอุปกรณ์ที่เสร็จแล้วนั่นเอง.
หลังจากได้แร่ฟรีจากหลายนิกาย เขาก็หลอมกระบี่เจิ้นหยางมากมาย และยังมีโล่เหล็กกล้าลึกล้ำและอุปกรณ์อื่น ๆ อีกไม่น้อย.
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่ขับพิษสุราออกด้วยพลังวิญญาณ กล่าวในใจ “ถึงเวลากลับแล้ว.”
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวรวบรวมพลังที่จุดตานเถียนก่อนปลดปล่อยออกมาเสียงดังกึกก้อง “จุนโหมวคงต้องขอตัวกลับแล้ว!”
เสียงที่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ผู้คนทั่วจังหวัดเป่ยโม่ ที่หลับอยู่ถึงกับสะดุ้ง.
ใครกลับ?
ผู้คนมากมายที่กลายเป็นงงงวย.
ฟิ้ว ------
บนท้องฟ้า จุนซ่างเซียวที่มีเสี่ยวหลงขี่อยู่บนไหล่ พุ่งออกไป กลายเป็นริ้วแสงหายลับขอบฟ้า ใบหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยความสุข.
เฟิงเฟยซาและเจ้านิกายซ่งที่จ้องมองเขาจากไป เอ่ยออกมาว่า “ท้ายที่สุดก็ไปสักที!”
เรื่องของจุนซ่างเซียวนั้น พวกเขารับรู้มาก่อน ทำให้เรียนรู้ในการรับมือ การที่เขาไปยังจังหวัดต่าง ๆ ไม่ค่อยมีเรื่องดีนัก.
โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่จังหวัดตงเป่ยลู่ ที่เกือบทำลายนิกายจื่อหานไป.
และยังมีที่จังหวัดตงเห่า ไม่เพียงแค่ประลองกับนิกายไป่เหอเซิ่ง ทว่ายังทุบตีศิษย์นิกายอื่น ๆ เกือบทุกนิกายในจังหวัดดังกล่าว.
ขณะที่เขาปรากฏขึ้นที่จังหวัดเป่ยโม่ เมืองหวงซา เฟิงเฟยซาและคนอื่น ๆ ก็เข้าใจได้ในทันที ว่าต้องต้อนรับขับสู้อีกฝ่ายให้ดี.
อาวุโสซุยนิกายฉื่อหัว เกือบที่จะถูกสังหารไปแล้ว!
ยิ่งทำให้พวกเขามั่นใจ จุนซ่างเซียว ไม่สามารถที่จะหาเรื่องได้เลย!
......
นิกายนิรันดร.
เรื่องของเย่ซิงเฉินที่ค่อย ๆ เงียบลงช้า ๆ.
ครึ่งเดือนมานี้ ฮุ่ยเอ๋อที่ไม่เข้ามาสร้างความรำคาญกับเขาแต่อย่างใด เหมือนกับค่อย ๆ หายไปอย่างสมบูรณ์.
เขาไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องคู่หมั้นอะไรเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเหตุการณ์เมื่อชาติที่แล้วยิ่งทำให้จิตใจของเขารู้สึกย่ำแย่อย่างแท้จริง.
เพราะว่าเปิดใจให้สตรี ทำให้เขาต้องตกตายไป.
ในชาตินี้ เขาจะไม่มีทางทำอะไรผิดพลาดซ้ำโดยเด็ดขาด.
“ฟู่ ฟู่!”
เย่ซิงเฉินที่หมกตัวอยู่ในหอคอยเก็บประสบการณ์ชั้นที่ห้า กลั่นดวงวิญญาณ หลัก ๆ ก็เพื่อจะทำให้จิตวิญญาณของเขาสงบลง ทำให้เขาไร้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ.
“การไล่ตามวิถียุทธ์ ไม่จำเป็นต้องโหดร้ายไร้อารมณ์ความรู้สึก ควรตระหนักถึงเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา ฝึกฝนอย่างมีความรู้สึกอย่างงั้นรึ?”คำพูดของจุนซ่างเซียวที่ดังก้องในหัวของเขา.
“เจ็ดอารมณ์หกปรารถนาอย่างงั้นรึ?”
เย่ซิงเฉินที่กำหมัด กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าไม่ต้องการ!”
“อ๊าก ----”
ดวงวิญญาณที่ถูกกัดกร่อนไปจนถึงขั้นสุด ยากที่จะทนได้ จนทำให้เขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด.
......
เช้าวันถัดมา.
จุนซ่างเซียวที่กลับถึงนิกาย.
ส่วนเรื่องของเย่ซิงเฉินและฮุ่ยเอ๋อนั้น เขาเลือกที่จะเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ.
หลังจากที่คาดเดาได้ว่าศิษย์ของเขาคนนี้อาจเป็นยอดฝีมือจุติ เจ้านิกายจุนก็เข้าใจว่าทำไมฝ่ายตรงข้ามจึงไม่ยอมรับคู่หมั้นคนนี้.
เย่ซิงเฉินก็คือเย่ซิงเฉิน ไม่ใช่เป่ยอาหนิว.
ในเมื่อทั้งสองไม่ใช่คนเดียวกัน ย่อมไม่มีความรู้สึกผูกพันต่อกัน ไม่สามารถบังคับฝืนใจได้.
“ชิงหยาง.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องโถง เอ่ย “หลายวันที่ข้าจากไป มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”
“เรียนเจ้านิกาย.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย “ทุกอย่างปรกติ.”
“โอ้ว.”
จุนซ่างเซียวที่ตอบรับ เอ่ยออกมาว่า “ใช่แล้ว ข้าจำได้ว่าเจ้าเองก็มีคนรักอยู่เหมือนกันใช่หรือไม่?”
“อืม.”หลี่ชิงหยางตอบรับ.
คนรักของเขานั้นเป็นเพียงสตรีชาวบ้านธรรมดา บิดาและตระกูลเขาไม่ยอมรับ แม้แต่กีดกัน.
“ตอนนี้เจ้าก้าวไปถึงกษัตริย์ยุทธ์แล้ว ทำไมไม่ลองไปหาล่ะ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“ยังไม่พอ.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย “ศิษย์ต้องการที่จะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้!”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาพร้อมกับตบไปที่ไหล่ของเขา ให้กำลังใจ “เอาล่ะ ตั้งใจเข้าล่ะ.”
......
หลังจากนั้น จุนซ่างเซียวก็เรียกลี่ลั่วฉิวมา พูดคุยเกี่ยวกับการขยายสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเป่ยโม่ที่เขาเพิ่งกลับมา.
“จังหวัดเป่ยโม่อยู่ไกลจากจังหวัดซีเหนียนหยางมาก จำเป็นต้องใช้เวลาสักหน่อย.”ลี่ลั่วฉิวเอ่ย.
“อืม.”
จุนซ่างเซียวกล่าว “ร้านอาหารสัตว์กำลังขยาย นิกายของพวกเราก็ต้องการเงินทุนมากเข้าไปอีก.”
แน่นอนว่าเขาที่ต้องการที่จะทำธุรกิจที่จังหวัดเป่ยโม่ด้วย การซื้อแร่ย่อมต้องใช้เงินมหาศาล ดังนั้นจึงต้องหาเงินทุนเพิ่มมากขึ้น.
“อืม.”
ลี่ลั่วฉิวที่พยักหน้ารับ.
กิจการภายในรับผิดชอบโดยหลี่ชิงหยาง ส่วนกิจการภายนอกนั้นดูแลโดยนาง.
ส่วนอาวุโสทั้งสี่ เจียงเซี่ย สองพี่น้องหนิงและเหล่าเกอ หลัก ๆ แล้วทำหน้าที่สอนศิษย์.
จากนั้นเขาก็ไปพบกับซ่างกวนซินเหยา ให้นางศึกษาค่ายกล ตลอดจนวิถียุทธ์ และสร้างทักษะยุทธ์ขึ้นมาให้มาก.
จุนซ่างเซียวที่ช่วยเหลือนางอยู่ด้านหลัง เพื่อที่จะให้นางสร้างวิชาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ หลัก ๆ ก็เพื่อนำไปแลกวิชาสุดยอดในฟังก์ชันหอตำรานั่นเอง.
“ติ๊ง! ติ๊ง!”
กระบี่เจิ้นหยาง ดาบสะบั้นเมฆา โล่เหล็กกล้าลึกล้ำ ที่เสร็จเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ.
จำนวนในเวลานี้ แต่ละชนิดมีมากกว่าพันชิ้นแล้ว.
จุนซ่างเซียวที่ใส่ราคา พร้อมกับแจ้งไปยังศิษย์ ว่าสามารถแลกเปลี่ยนด้วยคะแนนสนับสนุนที่ได้จากการทำภารกิจ.
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ภารกิจในหอภารกิจมีคนกระหายในการทำมากขึ้น.
“เฮ้อ!”
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว จุนซ่างเซียวก็นั่งอยู่ในห้องโถง “กว่าจะถึงงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกร ช่างที่รอนี้น่าเบื่อจริง ๆ.”