ตอนที่แล้วChapter 670 ทุกคนต่างก็กังวลต่ออาหนิว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 672 ห้ามปราม

Chapter 671 ตอนนี้เจ้าจะได้รับหายนะแน่


ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวที่นำเสี่ยวจินบินพุ่งแหวกท้องฟ้า มุ่งตรงไปยังจังหวัดเป่ยโม่.

จากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปยังทิศเหนือ ค่อยข้างไกลเหมือนกัน หากไม่สามารถบินได้แล้วล่ะก็ การเดินทางทางบก เกรงว่าจะต้องใช้เวลาหลายปีเป็นแน่.

ระบบเอ่ย “โฮสน์ เย่ซิงเฉินนั้นไม่ธรรมดา.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เขาจะต้องซ่อนความลับที่เรายังไม่รู้อยู่.”

หลายวันมานี้เขาได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องของเย่ซิงเฉิน ดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวมันไม่ได้เรียบง่ายเช่นนั้น.

อย่างแรก หากเขาคือเป่ยอาหนิวหมู่บ้านถัว ทำไมถึงได้เรียกตัวเองว่าเย่ซิงเฉินล่ะ?

หากเขาสูญเสียความทรงจำ ก็ไม่ควรรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ควรจะเอ่ยออกมาครั้งแรกว่า ข้าเป็นใคร? อยู่ที่ใหน? แล้วจะเตรียมชื่อตัวเองไว้แต่เนิ่น ๆ ได้อย่างไรกัน.

หนำซ้ำ.

จุนซ่างเซียวที่เคยคาดเดา เย่ซิงเฉินน่าจะมีวิชาบ่มเพาะระดับเหนือเทวะอยู่ด้วย ทำให้เขาสามารถพัฒนาก้าวไปได้ไกลกว่ากลุ่มหลี่ชิงหยาง.

เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ชาวบ้านทั่วไปจะทำได้แน่!

หลายอย่างที่มีจุดขัดแย้ง มีข้อบกพร่องหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของเย่ซิงเฉินนั้น มีพิรุธมากมาย.

“หากเขาไม่ได้เสียความทรงจำ ทำไมถึงทำเป็นไม่รู้จักฮุยเอ๋อและชาวบ้านถัวกัน?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ระบบเอ่ย “หรือว่าจะผิดคน?”

“เป็นไปไม่ได้.”

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะเอ่ย “คนมากมายไม่ได้ตาบอด จะจำผิดได้อย่างไร.”

ระบบเอ่ย “มีความเป็นไปได้ว่า ความทรงจำไม่ได้หายไป ทว่าถูกลบออก ด้วยพลังจากภายนอก.”

“กล่าวต่อ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ระบบ “ข้าเดาว่า อาจจะมียอดฝีมือพบกับเย่ซิงเฉิน และสอนวิชาบ่มเพาะเหนือเทวะให้เขา ก่อนลบความทรงจำของเขาออกไปจนเกลี้ยง.”

“แล้วจะอธิบายชื่อเย่ซิงเฉินของเขาอย่างไรล่ะ?”จุนซ่างเซียวกล่าว.

“......”

ระบบเงียบ.

หากสูญเสียความทรงจำ แล้วจะมอบชื่ออย่างไร ถึงแม้นว่าจะปกปิดตัว ก็ไม่ควรจะมีการเตรียมการเอาไว้ขนาดนี้!

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เป็นไปได้ว่าร่างเดิมจากไป แล้วเข้ามาแทนที่เหมือนกับข้าหรือไม่?”

“โฮสน์ช่างจินตนาการจริง ๆ!”ระบบเอ่ย.

จุนซ่างเซียวกล่าว “ในเมื่อข้ายังข้ามโลกมาได้ บางทีคนอื่นก็อาจจะทำสำเร็จเช่นกัน.”

“หากเย่ซิงเฉินยึดครองร่าง ไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม การที่เขาไม่รู้จักฮุยเอ๋อและคนหมู่บ้านถัวก็ถือว่าสมเหตุสมผล.”

“ด้วยเหตุผลนี้ น่าจะอธิบายได้ดีที่สุด ว่าทำไมเขามีวิชาบ่มเพาะเหนือเทวะ นั่นเพราะว่าไม่มีใครสอนเขา ทว่าเขามีมันอยู่แล้ว!”

ระบบเอ่ย “ดูจะจริงเล็กน้อย.”

จุนซ่างเซียวกล่าวต่อ “เห็นชัดเจนว่าเย่ซิงเฉินนั้นเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์ ในความเห็นของข้า ไม่ใช่แค่การยึดครองร่าง แต่ว่า....”

ระบบเอ่ย “ยอดฝีมือจุติ!”

“ไม่ผิด.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ระบบเอ่ย “บางทีอาจเป็นยอดฝีมือจุติจากพิภพระดับสูงก็เป็นได้.”

ในเวลานี้จุนซ่างเซียวที่สงสัยในตัวเย่ซิงเฉิน เหมือนกับเหออู๋ตี้ เพราะว่าทั้งคู่นั้นมีประสบการณ์และพรสวรรค์ที่สูง ทำให้การบ่มเพาะของพวกเขานั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก!

“หากเย่ซิงเฉินเป็นยอดฝีมือจุติ เขาและเป่ยอาหนิวก็เป็นสองคน เหมือนว่าความหวังของฮุ่ยเอ๋อก็หายไปแล้ว.”ระบบเอ่ย.

“ตอนนี้ข้าไม่สามารถยืนยันได้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ดังนั้นหวังว่าฮุ่ยเอ๋อจะเป็นคนถอดใจ และไม่ทำให้อีกฝ่ายกระทำอะไรไม่ดี.”

ระบบที่กลายเป็นเงียบ.

ในเวลานั้น ก็พอจะคาดเดาได้ในที่สุด.

การคืนดีระหว่างเย่ซิงเฉิน และฮุ่ยเอ๋อ ถูกวางแผนเพื่อที่จะใช้อธิบายความสงสัยในใจของจุนซ่างเซียวนั่นเอง.

หลายวันมานี้.

เย่ซิงเฉินที่ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก แม้แต่ไม่ต้องการให้เขาเอ่ยกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวนี้อีก.

“ไม่ไช่ว่าเจ้าหาข้อมูลทั่วทวีปชิงหยุนอยู่หรอกรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย “แล้วได้ยินชื่อของยอดฝีมือที่เกี่ยวกับเย่ซิงเฉินหรือไม่?”

“ไม่.”

ระบบเอ่ย “ในทวีปชิงหยุนคนที่มีแซ่เย่นั้นมีน้อยมาก แม้แต่ในประวัติศาสตร์เองก็ไม่มีคนที่ชื่อเย่ซิงเฉินอีกด้วย.”

“หรือว่าจะเป็นชื่อปลอม?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ยอดฝีมือที่จุติได้ ต้องมีพลังบ่มเพาะระดับใด?”

“ไม่สามารถระบุได้.”

ระบบเอ่ย “บางคนไม่ต้องมีพลังบ่มเพาะสูง บางทีอาจจะบังเอิญถูกฟ้าผ่าและคืนกลับไปจุติได้.”

จุนซ่างเซียวแทบทรุดลงไปกอง “เจ้าว่าอะไรนะ?”

“ไม่ได้ยินรึไง.”

ระบบเอ่ย “ถูกฟ้าผ่าไง.”

“!”

“ใช่แล้ว.”

ระบบเอ่ย “ข้าได้ตรวจสอบชื่อของเก้าราชันย์มีหนึ่งคนที่มีนามว่า เย่ตี้(ราชันย์รัตติกาล.)”

“เย่ตี้?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ดูจะไม่ธรรมดาแล้ว.”

ในความคิดของเขา เย่ตี้(ราชันย์รันติกาล) หมิงตี้(ราชันย์แห่งแสง) ชิงตี้(ราชันย์พงไพร) ซีตี้(ราชันย์เพลิง) นามทั้งสี่นี้เป็นสุดยอดฝีมือในนิยายแนวเซียนที่เขาเคยอ่านเลย.

“ก็ใช่.”

ระบบเอ่ย “ทว่าเย่ตี้นั้นได้ร่วงหล่นจากสวรรค์ไปแล้ว.”

“โอ้ว?”

จุนซ่างเซียวที่สนใจและสงสัย “แล้วตายอย่างไร เมื่อไหร่รึ?”

“ตายมาหลายพันปีแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าตายอย่างไร.”ระบบเอ่ย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ตายนานแล้ว หากสามารถจุติ ก็คงจุตินานแล้วสินะ.”

“ที่น่าสนใจ.”

ระบบเอ่ย “เย่ตี้นั้นมีเพื่อนสาวคนสนิทนาม หลิงหยา เพียงไม่นานที่เขาตกตาย นางก็โบยบินขึ้นสู่ดินแดนเบื้องบน.”

จุนซ่างเซีวที่ไม่ได้สนใจประวัติศาตรเกี่ยวกับเหล่าราชันย์ยุทธ์แต่อย่างใด จึงเอ่ยออกมาว่า “หาข้อมูลของเจ้าต่อ หากมีอะไรเกี่ยวกับเย่ซิงเฉิน ค่อยเล่าออกมาก็แล้วกัน.”

ฟิ้ว!

ริ้วแสงที่แหวกท้องฟ้า เพียงลมหายใจเดียวก็ผ่านมาหมื่นลี้แล้ว.

......

จังหวัดเป่ยโม่.

พื้นที่แห่งนี้มีพื้นที่เจ็ดแห่งที่เป็นทะเลทราย.

เพียงแค่วันเดียว จุนซ่างเซียวก็พาเสี่ยวหลงบินมาถึง ก่อนร่อนลงที่ทะเลทรายสีเหลือง.

พื้นที่แห่งนี้มีอากาศแห้งเป็นอย่างมาก ดวงตะวันที่ส่องแสงแรงกล้า ราวกับอยู่ในเตาเผา.

“ไม่มีใครเลย.”

ตลอดเส้นทาง เขาไม่พบผู้ฝึกยุทธ์แม้แต่คนเดียว.

“ไปทางเหนือหมื่นลี้ น่าจะพบเมืองที่มีชื่อว่า เมืองหวงซา หากโฮสน์ต้องการซื้อแร่น่าจะไปดู”ระบบเอ่ย.

ระบบที่อัพเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0 ทำให้มันสามารถรวบรวมข้อมูลทั่วทวีปชิงหยุนได้มากขึ้น.

“คงเป็นอย่างงั้น.”

จุนซ่างเซียวที่ทะยานขึ้นฟ้า มุ่งไปยังทิศเหนือก่อนจะมองเห็นสิ่งก่อสร้างลิบ ๆ ที่ไกลออกไป.

แม้นว่าเมืองหวงซานั้นจะมีกำแพงเมืองที่สร้างด้วยศิลา ทว่าด้วยการที่มีทรายสาดซัดอยู่นานนับปีตอนนี้ถูกทรายจับแน่นบนกำแพงจนกลายเป็นสีเหลืองส่องประกายระยิบระยับ.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ร่อนลงที่ด้านนอกเมืองไกลออกมา ก่อนที่จะเลือกก้าวเดินเข้าไป.

เมืองหวงซานั้นใหญ่มาก เพราะว่าสภาพแวดล้อมเป็นหลัก ผู้อยู่อาศัยไม่มากนัก ทำให้เมืองแทบจะดูว่างเปล่า.

“เฮ้.”

ขณะที่จะเข้าไปในเมือง ชายวัยกลางคนที่โบกผ้า บังแดดอยู่ที่มุมเฝ้าประตูเอ่ยออกมาว่า“ไม่คุ้นหน้าเลย มาซื้อแร่รึ?”

“อืม.”

“เจ้ามาไม่ถูกเวลา เพราะว่ามีนิกายใหญ่หลายแห่งกำลังแย่งชิงยึดครองเหมืองแร่กันอยู่ กว่าครึ่งปีมานี้ในเมืองร้านขายแร่แทบจะปิดกันหมดแล้ว.”

ฟิ้ว ----

จิตสัมผัสของเขาที่แผ่ออกไป กวาดทั่วเมือง ร้านค้าขายแร่มากมายที่ปิดกันหมด.

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.

อุตส่าห์เดินทางมาซื้อแร่ด้วยตัวเอง แต่กับไม่มีสินค้าขายซะงั้น!

“สหาย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “แล้วเมืองอื่นมีขายหรือไม่?”

“เมืองหวงซาเป็นจุดขายส่งแร่ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเป่ยโม่แล้ว ที่นี่ไม่มี ที่อื่นยิ่งไม่มี”ชายวัยกลางคนเอ่ย “รอให้นิกายใหญ่สองสามแห่งตัดสินแพ้ชนะกันได้แล้ว ธุรกิจแร่ก็จะค่อย ๆ กลับมาเอง.”

“พวกเขาจะสู้กันนานเท่าใด?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ชายวัยกลางคนเอ่ย “เหล่านิกายใหญ่ดูเหมือนว่าจะมีพลังเท่า ๆ กัน จากการต่อสู้ในอดีต น่าจะใช้เวลา 2-3ปี.”

2-3ปี?

บิดาเถอะ!

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เป็นนิกายอะไร?”

ชายวัยกลางคนที่เผยเจตนาดี “สหาย ข้าขอเตือนเจ้า อย่าได้ถามอะไร ไม่เช่นนั้นจะได้รับหายนะอย่างคาดไม่ถึง.”

“ฟู่ ฟู่!”

ในเวลานั้น กลิ่นอายที่หนักหน่วงแผ่ออกมา จุนซ่างเซียวที่จดจ้องมองไปยังอีกฝ่ายด้วยแววตาเย็นชา “หากเจ้าไม่บอกข้า ตอนนี้เจ้าจะได้รับหายนะแน่.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด