Chapter 658 นิกายนิรันดรไม่อาจยั่วยุได้
ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวที่ปลดปล่อยพลังออกมา ทำให้เหล่าจักรพรรดิยุทธ์ยุทธ์ทั้งห้ารับรู้ว่าเขาคือผู้ฝึกยุทธ์ปิศาจ!
โดยเฉพาะกลิ่นอายสะกดข่ม ทำให้หัวใจของพวกเขาหวั่นไหว!
คนผู้นี้แข็งแกร่ง และอันตรายมาก!
“ตาย!”
ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวที่เผยยิ้มชั่วร้ายออกมา.
เมฆสีดำที่โหยหวนพวยพุ่ง เป็นปราณความมืดที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
“แย่แล้ว!”
จักรพรรดิยุทธ์ทั้งห้าที่สั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น.
ภายใต้อำนาจสะกดข่มที่บดทับลงมา พวกเขาไม่สามารถขยับได้ เห็นได้แค่แววตาที่หวาดผวากับพลังความมืดที่น่าขนลุก!
“ไม่......”
เสียงหดหู่ที่ก้องกังวานไปทั่วท้องฟ้า ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน.
ตูมมมม!
ตูมมมม!
ตูมมมม!
เสียงระเบิดดังกึกก้องดังกังวานไปทั่วท้องฟ้า.
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่กำลังไล่ล่ากลุ่มคนหน้ากาก เงยหน้าขึ้นมองฟ้า ก่อนที่จะเห็นเลือดเนื้อบดที่ล่วงหล่นราวกับห่าฝน.
“แฮก ๆ!”
ซูเซียวโม่และลี่เฟย ตลอดจนศิษย์คนอื่น ๆ ที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้ามา.
ห้าจักรพรรดิยุทธ์ ถูกสังหารโดยคนรับใช้ของเจ้านิกายอย่างคาดไม่ถึง อีกทั้งยังถูกจัดการอย่างง่ายดายรวดเดียวจบอีกด้วย!
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา “ห้าจักรพรรดิยุทธ์ตายไปแล้ว น่าสงสารจริง ๆ.”
ห้าจักรพรรดิยุทธ์ถูกสังหารด้วยฝีมือปราชญ์ปิศาจอู๋จิว วิชาที่โหดร้ายรุนแรง แน่นนอนว่าเขาคือปราชญ์ที่พลังบ่มเพาะหล่นลงมาเป็นจักรพรรดิยุทธ์ ทว่าเขาก็ยังถือว่าเป็นปราชญ์ยุทธ์ที่ยังมีทักษะอันทรงพลัง!
ตูมมมม!
อีกฝั่งหนึ่งไท่จางเหล่านิกายจื่อหานและชายผู้นำหน้ากากที่ที่ตัดสินกันได้แล้วเช่นกัน ชายผู้นำหน้ากากที่ถูกผลักถอยออกไปหลายก้าว.
ที่จริงพลังของทั้งคู่ที่ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย.
เหตุผลนั้นเป็นเพราะปราชญ์ปิศาจอู๋จิวสังหารห้าจักรพรรดิยุทธ์ไป สร้างความตกใจ จนเขาไม่สามารถตั้งสมาธิได้.
การปะทะกันของยอดฝีมือ.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ การตัดสินแพ้ชนะนั้นตัดสินเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ.
“พรึด ซี่!”
“พรึด ซี่!”
ที่ด้านหน้าเหล่าศิษย์นิกายนิรันดรที่ไล่สังหารชายชุดดำที่กำลังหนี เพียงไม่นานก็ถูกสังหารไปทั้งหมด.
หลี่ชิงหยางที่นำเหล่าศิษย์น้อง เก็บเกี่ยวสินสงครามทั้งหมด.
การต่อสู้ของศิษย์นิกายนิรันดร ที่ง่ายดายราบรื่น.
ชายหน้ากากชุดดำ ผู้ใต้บังคับบัญชาพันกว่าคน และห้าจักรพรรดิยุทธ์ถูกสังหารทั้งหมด เหลือเพียงแค่ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์คนเดียว.
ทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว จนเขาไม่สามารถยอมรับได้!
“สหาย.”
จุนซ่างเซียวกอดอก เอ่ยออกมาว่า “เปิ่นจั้วต้องการเชิญเจ้าไปพูดคุยที่นิกายนิรันดร ไม่รู้ว่าสนใจหรือไม่?”
คำพูดที่ดูคุ้น ๆ.
หากแต่เปลี่ยนฝั่งมาเป็นอีกฝ่ายเป็นคนกล่าว!
“จุนซ่างเซียว!”
ชายชุดดำที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้าสังหารคนของข้ามากมาย วันข้างหน้าเหล่าฟู่จะเอาคืนเป็นสองเท่า!”
ฟิ้ว!
ห้วงมิติที่สั่นไหว ร่างกายของเขาที่รอดผ่านห้วงมิติหายไปในทันที.
นี่คือ...ตัดผ่านมิติหนี!
ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ที่มีพลังควบคุมมิติ ยากที่จะขวางทางได้.
ที่จริงไม่เพียงแค่ไท่จางเหล่าวังจื่อหานที่เขารู้สึกหวาดหวั่น ยังมีปราชญ์ปิศาจอู๋จิวอีกคนที่แปลกประหลาด ดังนั้นการหนีจึงเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด.
ผู้ใต้บังคับบัญชาและห้าจักรพรรดยุทธ์ไม่สามารถที่จะนำกลับได้ แค่นนี้ก็เศร้าเกินพอแล้ว.
ที่น่าขันที่สุด ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใครที่แน่ชัด ทว่าเพื่อที่จะมาหาเรื่องนิกายนิรันดร ถึงกับส่งครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์และห้าจักรพรรดิยุทธ์ออกมา.
น่าเสียดาย คนรับใช้ของจุนซ่างเซียวนั้นแข็งแกร่งมาก ในเมื่อมาแล้ว ก็มีเพียงแค่ ความพ่ายแพ้ที่รอคอยอยู่.
......
ฟู่ ฟู่ ---
ศพที่นอนกองถูกนำมาเผาไฟสลายกลายเป็นเถ้า แหวนมิติถูกหลี่ชิงหางและคนอื่น ๆ เก็บมาทั้งหมดแล้ว.
จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับทรัพยากรที่ได้รับมา ขณะสีคางไปมา กล่าวเสียงเบา “เป็นใครมาจากใหนกัน?”
ส่งสี่จักรพรรดิยุทธ์ออกมาเมื่อครั้งอยู่ที่จังหวัดซีเป่ยเหอครั้งแรก จากนั้นก็ส่งยอดฝีมืออีกหลายคนมาครั้งที่สอง เขาที่ไม่คิดว่า อีกฝ่ายนั้นเป็นเพียงแค่นิกายทมิฬธรรมดาทั่วไป.
“จูเหริน.”
ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวที่ถือหน้ากากที่แปลกประหลาดก้าวเข้ามา “หน้ากากนี้ดูเหมือนว่าจะคุ้น ๆ.”
“โอ้ว?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เคยเห็นมาก่อนอย่างงั้นรึ?”
“ไม่เคยเห็น.”
ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวเอ่ย “หากแต่เคยได้ยิน.”
เขาที่ใช้ชีวิตมายาวนาน หากแต่ก็เพิ่งออกมาจากสุสาน ในเมื่อได้ยิน อธิบายได้ว่าองค์กรนี้ มีมานานอย่างน้อยก็ 3000 ปีแล้ว!
“เล่ามา.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวเอ่ย “ข้าได้ยินมาครั้งหนึ่ง ในอดีตนิกายมาร ราชันย์มารเป็นคนก่อตั้ง เมื่อครั้งที่เขาร่วงหล่นตกตายไป ยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งก็แยกออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะถูกนิกายใหญ่ทำลายล้าง พวกเขาได้เปลี่ยนเป็นนิกายทมิฬ เพื่อปกปิดตัวตนจึงได้สวมใส่หน้ากากที่แปลกประหลาดเอาไว้.”
เรื่องนี้ไม่ได้บันทึกเอาไว้ในตำราใด ๆ.
ที่เป็นเช่นนั้นเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้นิกายล่มสลายนั่นเอง.
จุนซ่างเซียวที่เปลี่ยนเป็นเงียบ“บางทีพวกเขาที่มาหาเรื่องนิกายนิรันดรของพวกเรา อาจจะเป็นกลุ่มของนิกายมาร สมาชิกที่รอดชีวิตที่แยกตัวออกมาอย่างงั้นรึ?”
“เรื่องนี้ก็ยากจะกล่าว.”
ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวที่วิเคราะห์ตามข้อมูล ไม่สามารถที่จะยืนยันได้ บางทีเพราะว่าเรื่องนั้นผ่านมานานแล้ว สมาชิกที่รอดพ้นของนิกายมารเองก็แฝงตัวเข้าไปในนิกายใหญ่ ๆ ทั้งนิกายมารและนิกายธรรมะอีกด้วย.
จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด “ครั้งแรกส่งคนมาลักพาตัวจุ้ยจื่อและซิงเฉิน ตอนนี้ต้องการเชิญข้า พวกเขามีเป้าหมายอะไร?”
ระบบเอ่ย “นิกายของโฮสน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามีคนมากมายที่จับตาต้องการรู้ความลับ ก็เป็นเรื่องธรรมดา.”
จุนซ่างเซียวที่ราวกับเข้าใจได้ในทันที.
ทว่ากับไม่สามารถยอมรับได้ ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในที่มืด ส่วนเขานั้นอยู่ในที่แจ้ง ไม่รู้อะไรเลย.
หากว่าคนกลุ่มนี้คือผู้รอดชีวิตของนิกายมารดังที่ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวเอ่ย เรื่องมันอาจจะดูร้ายแรงอยู่เล็กน้อย หากยังเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็เสียเปรียบอยู่ไม่ใช่รึ?
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่เลิกคิด กล่าวออกมาว่า “กลับนิกาย.”
“เจ้านิกาย.”
ซูเซียวโม่ชี้ไปยังเหล่าสัตว์ร้ายธาตุวายุที่เวลานี้กำลังนั่งหมอบสั่นบนพื้น “จัดการอยางไรกับพวกมัน?”
สัตว์ขี่ที่เหล่าคนหน้ากากชุดดำขี่มา พวกมันที่หวาดผวา ด้วยกลิ่นอายของเหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูรที่ปลดปล่อยออกมา จนขาแข้งอ่อนไปหมด.
“นำกลับไปฝึกที่นิกาย.”
หอขี่หมาป่าที่กำลังขาดสัตว์ขี่ แม้นว่าสัตว์ร้ายธาตุวายุเหล่านี้จะไม่สามารถเทียบหมาป่าเฮอริเคนได้ แต่อย่างน้อยก็ยังถือว่าใช้ได้เหมือนกัน.
กลุ่มคนชุดดำที่ไม่รู้เป็นใครมาจากใหน ทว่าดูเหมือนว่าพวกเขาจะนำส่งสัตว์ขี่จำนวนไม่น้อยมาให้เจ้านิกายจุนใช้แล้ว.
......
ฟู่ ฟู่ ---
สายลมที่โบกพัดผ่านสนามรบ ทุกอย่างที่หายไปไร้ซึ่งร่องรอยใด ๆ.
ผ่านไปนานเหมือนกัน.
เก้านิกายระดับสี่จากจังหวัดตงเป่ยลู่ที่เพิ่งออกจากนิกายไป่เหอเซิ่ง มาถึงพื้นที่ดังกล่าวทีละกลุ่ม ๆ.
“นิกายนิรันดรน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!”
“คาดไม่ถึงเลยว่ากษัตริย์ยุทธ์มากมายแม้แต่จักรพรรดิยุทธ์อีกตั้งหลายคนยังถูกสังหารไปทั้งหมด!”
“ที่น่าสงสัยผู้ฝึกยุทธ์ปิศาจคนนั้น ความแข็งแกร่งลึกล้ำเกินจะกล่าว!”
การต่อสู้ของนิกายนิรันดร กับกลุ่มคนหน้ากาก เจ้านิกายทั้งเก้าได้ส่งจิตสัมผัสออกมาจากพื้นที่ไกลออกมา พวกเขาได้พบเห็นปราชญ์ปิศาจอู๋จิวสังหารห้าจักรพรรดิยุทธ์ด้วย.
ในเวลานั้น.
พวกเขาที่ตระหนักได้ในทันที.
ศิษย์ที่เจ้านิกายจุนนำมานั้น ความแข็งแกร่งร้ายกาจน่าเกรงขามมาก!
หากเป็นการต่อสู้ที่ผ่านมา เป็นการต่อสู้เป็นตายกับนิกายไป่เหอเซิ่ง เกรงว่านิกายต่าง ๆ ของจังหวัดตงเป่ยลู่คงเสียหายอย่างหนักแน่!
“น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว.”
เจ้าวังจื่อหานที่ลอบคิดในใจ “น่ากลัวจริง ๆ!”
ในอดีต จุนซ่างเซียวนำศิษย์บุกไปสังหารพวกเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งยอดฝีมือออกไป ไม่เช่นนั้นนิกายของเขาคงพังทลายไปเรียบร้อยแล้ว.
ที่จริง เจ้านิกายจื่อหานไม่รู้ในเวลานั้น พลังบ่มเพาะของพวกเขาไม่ได้สูง แต่เวลานี้ ทุกคนล้วนแต่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์แล้ว.
“นิกายนิรันดร ไม่สามารถล่วงเกินได้!”
การต่อสู้เมื่อสักครู่ เจ้านิกายทั้งเก้าที่รับรู้อย่างแท้จริงเกี่ยวกับนิกายนิรันดร แม้แต่รู้สึกหวาดผวา ฝังอยู่ในใจไปแล้ว!
