ตอนที่แล้วChapter 649 ท้าประลองนิกายหลักทั้งจังหวัดตงเห่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 651 เซียวจุ้ยจื่อ ปะทะ มู่หรงซิน

Chapter 650 วันนี้ ข้าจะมาแก้ไขชำระความขุ่นเคืองของพวกเรา


เจ็ดบุตรแห่งกระบี่.

นี่คือหนึ่งในตำแหน่งอันทรงเกียรติของศิษย์อัจฉริยะในนิกายอี้เจี้ยนเซิ่ง.

มีเพียงศิษย์ที่เข้าใจวิถีกระบี่ได้แล้วเท่านั้น ถึงจะได้ตำแหน่งนี้.

คนที่จะเป็นบุตรแห่งกระบี่ ไม่เพียงแค่เป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกาย หากแต่เมื่อพวกเขามีพลังบ่มเพาะเพียงพอ ในวันข้างหน้าย่อมกลายเป็นอาวุโสได้อย่างง่ายดาย.

ดังนั้น.

กล่าวได้ว่าบุตรแห่งกระบี่นั้น ก็เหมือนได้มอบตำแหน่ง ว่าที่อาวุโสให้กับพวกเขาไปแล้วนั่นเอง.

“เจ้านิกาย.”

โจวหงที่แววตาลุกโชน เอ่ยออกมาว่า “ศิษย์ขอออกไปสู้!”

เจ็ดศิษย์นิกายอี้เจี้ยนเซิ่ง แผ่เจตจำนงกระบี่ที่แข็งแกร่งออกมา ทำให้เขาจริงจังและปรารถนาที่จะสู้เป็นอย่างมาก!

“ออกไป.”

โจวหงที่ก้าวออกไปยังลานยุทธ์.

กระบี่ในมือของเขาที่สั่นไปมาเล็กน้อย ราวกับรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับเจ้านายของมัน.

“กึก.”

โจวหงหยุด.

เจตจำนงการต่อสู้ที่แผ่ออกมา ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

“หืม?”

บุตรแห่งกระบี่ทั้งเจ็ดของนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งขมวดคิ้วพร้อม ๆ กัน.

พวกเขาที่สัมผัสได้ถึง ท่าทางของอีกฝ่ายที่เหมือนกับตนมาก!

“ไม่คาดคิดเลยว่า นิกายนิรันดร จะมีมือกระบี่พรสวรรค์ด้วยเช่นกัน.”อาวุโสนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งเผยความประหลาดใจออกมา.

นอกจากมือกระบี่แล้ว พวกเขายังมีมือดาบด้วย.

หม่าหยงหนิงที่กอดอก ยืนอยู่ข้าง ๆ ศิษย์คนอื่น ๆ กำลังกอดดาบสั้นที่เป็นเหมือนปังตอของเขาเอาไว้!

“น่าเสียดาย.”

เขาที่ส่ายหน้าไปมา “ไม่มีมือดาบ.”

......

บนลานยุทธ์.

แม้นว่าโจวหงจะไม่ได้ปะทุอำนาจกระบี่ออกมา ทว่าด้วยร่างกายที่นิ่งมั่นคงเป็นระเบียบแหลมคม ก็ทำให้มือกระบี่นิกายอี้เจี้ยนเซิ่งรับรู้ตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว.

มือกระบี่.

คนผู้นี้คือมือกระบี่อย่างแน่นอน!

เหล่าชาวยุทธ์ที่รับรู้ด้วยเช่นกัน.

ในทวีปชิงหยุนนั้น มีมือกระบี่อยู่ไม่น้อย เพราะว่าท่าทางที่สง่างามของพวกเขาที่เหมือนกันเกือบทุกคน ทำให้พวกเขาสามารถแยกแยะได้โดดง่าย.

โจวหงและเจ็ดบุตรแห่งกระบี่ เริ่มสู้กัน.

พวกเขาที่ตั้งท่ารักษาระยะห่างระหว่างกัน นิ่งงันเต็มไปด้วยความสงบ.

หลังจากผ่านสองสามนาที.

ชาวยุทธ์หลายคนทำท่าทางหาวหวอด ๆ แม้แต่สูดหายใจลึกทำตาปรือ ๆ.

จุนซ่างเซียวที่จับจ้องอย่างมั่นคง เขาที่สัมผัสได้ถึงสิ่งที่คนอื่น ๆ ไม่เห็น อำนาจกระบี่ของพวกเขาที่เข้าปะทะกัน.

การต่อสู้กันของมือกระบี่ ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอะไรมากมาย พริบตาเดียวที่พวกเขาเคลื่อนไหว สามารถที่จะตัดสินชัยชนะกันได้ในทันที.

“เคร้ง!”

“เคร้ง!”

พริบตานั้น บุตรแห่งกระบี่ทั้งเจ็ดก็ชักกระบี่.

ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!

ในเวลานั้น กระบี่ที่เหวี่ยง คมกระบี่เจ็ดริ้วประกายปล่อยแสงสีขาวพุ่งแหวกห้วงมิติออกมา!

คนทั้งเจ็ดราวกับรวมเป็นคน ๆ เดียวกัน ชักกระบี่พร้อม ๆกัน ท่าทางที่เชื่อมต่อกัน ไม่มีส่วนใหนของกระบวนท่าทางที่ผิดเพี้ยนแตกต่างกัน.

“ไม่เลว!”

อาวุโสซือ อาวุโสนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งที่เอ่ยกล่าวอย่างพึงพอใจ.

เจ็ดบุตรแห่งกระบี่ที่ฝึกฝนมานานหลายปี หลังจากนี้นี้พวกเขาจะต้องกลายเป็นอาวุโสได้อย่างแน่นอน.

เหล่าอาวุโสปัจจุบันไม่ว่าจะแข็งแกร่งเท่าใด วันหนึ่งก็ต้องร่วงโรย พวกเขาย่อมต้องฝากอนาคตไว้ให้กับคนรุ่นหลัง.

ฟู่ ฟู่!

ปราณกระบี่ทั้งเจ็ดสายพุ่งออกไป ห้วงมิติขาดสะบั้นแยกออกจากกัน.

“ทรงพลังมาก!”

“คู่ควรเป็นมือกระบี่!”

“การที่พวกเขาทั้งเจ็ดร่วมมือกัน ทำให้พลังของพวกเขาเทียบได้กับระดับกษัตริย์กระบี่!”

ผู้คนต่างอุทานออกมาเสียงดัง.

ทุกคนที่จ้องมองศิษย์นิกายนิรันดร ที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับว่าไม่คิดจะลงมือเลย.

รู้ว่าสู้ไม่ได้ เลยยอมแพ้อย่างงั้นรึ?

ท้ายที่สุดก็จะเห็นศิษย์นิกายนิรันดรพ่ายแพ้แล้วสินะ!

เหล่าชาวยุทธ์จังหวัดตงเห่าที่เผยยิ้ม.

“เคร้ง!”

ในเวลานั้น โจวหงที่ราวกับรวมเข้ากับกระบี่และฝัก ข้อมือของเขาที่สั่นเล็กน้อย ริ้วแสงกระบี่ที่ปรากฏขึ้นมากมาย สานกันไปมากลายเป็นร่างแหขนาดใหญ่!

อาวุโสซือที่ดวงตาเบิกกว้างดวงตาแทบหลุดจากเบ้าทันที.

เพราะว่า เขาเห็นศิษย์นิกายนิรันดรชักกระบี่หนึ่งลมหายใจฟันออกไปหนึ่งพันครั้ง!

นี่มันคืออะไร?

อธิบายได้ว่านี่คือกษัตริย์กระบี่ นอกจากนี้ยังเป็นกษัตริย์กระบี่ชั้นสูงอีกด้วย!

ปัง! ปัง!

ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนที่ทำลายปราณกระบี่ทั้งเจ็ด แหลกสลายหายไปทั้งหมด.

ปราณกระบี่ทั้งเจ็ดของบุตรแห่งกระบี่ทั้งเจ็ดคน หายไปในอากาศช้า ๆ.

ราวกับดอกไม้ไฟ ที่สว่างจ้างดงามชั่วพริบตาก่อนหายไป.

“เคร้ง!”

โจวหงที่เก็บกระบี่.

เหลือชะลอเล็กน้อย ก่อนที่จะคืนสู่ฝัก ใบหน้าของเขาที่สุขุมอย่างที่สุด.

“พรึด ซี่!”

“พรึด ซี่!”

บุตรแห่งกระบี่ทั้งเจ็ด บนร่างของพวกเขาปรากฏรอยกระบี่ขึ้น.

รอยกระบี่ที่ทิ้งไว้บนชุดของพวกเขาเท่านั้น ไม่ได้หมายสร้างอาการบาดเจ็บให้กับพวกเขา!

“ไม่เลว.”จุนซ่างเซียวกล่าวชม.

หนึ่งลมหายใจปล่อยปราณกระบี่ได้มากมาย แม้แต่ควบคุมไม่ให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ นี่คือการควบคุมวิถีกระบี่ที่น่าหวาดกลัวจริง ๆ!

พรสวรรค์กระบี่ของเขาที่ยกระดับสูง ไม่ต้องบอกเลยว่าเขาก้าวหน้าไปได้สูงขนาดใหน.

แน่นอน นี่เพราะความอุตสาหะของโจวหงที่ฝึกฝนกระบี่อย่างบ้าคลั่งด้วย.

จุนซ่างเซียวที่เติบโตด้วยความโกง ไม่สามารถนำไปเทียบอีกฝ่ายที่เพียรฝึกฝนได้เลย.

บุตรแห่งกระบี่นิกายอี้เจี้ยนเซิ่งที่ยืนนิ่งงันเป็นไก่ไม้.

พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หมายชีวิตพวกเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงตายกันหมดแล้ว!

“เจ้าชนะ.”

ทั้งเจ็ดที่เก็บกระบี่ ก่อนที่จะหันหน้ากลับลงเวที.

โจวหงเองก็กลับลงมาเช่นกัน เขาที่ยังคงสุขุม ไร้ซึ่งอารมณ์ผันผวนใด ๆ.

การก้าวออกไปประลองไม่ใช่เพื่อชัยชนะ ทว่าเขาต้องการเปรียบและลับคมวิถีกระบี่ ให้สามารถก้าวล้ำไปยังเส้นทางดังกล่าวได้ไกลมากขึ้น.

เช่นนั้น ต่อสู้ถึงจะบรรลุอย่างงั้นรึ?

ประสบการณ์บางอย่าง แน่นอนว่าต้องหาจากการต่อสู้เท่านั้น.

“ติ๊ง!ติ๊ง!”

มือกระบี่ทั้งเจ็ดที่ก้าวลงเวทีมา เสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นอีกครั้ง.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ใครต่อไป?”

“......”

ชาวยุทธ์จังหวัดตงเห่าที่เงียบใบ้กันไปในทันที.

แม้แต่บุตรแห่งกระบี่นิกายอี้เจี้ยนเซิ่งยังพ่ายแพ้ พวกเขาก็ไม่คิดว่าศิษย์ของตัวเองจะเอาชนะได้อีกต่อไป!

“ในเมื่อไม่มีใครสู้แล้ว.”

จุนซ่างเซียวจ้องมองเฉิงฮุยซิน เอ่ยออกมาเล็กน้อย “งั้นก็เริ่มการต่อสู้สุดท้ายได้เลย.”

เขาได้เพิ่มจำนวนชนะของภารกิจมหากาพย์พอแล้ว ด้วยคะแนนระดับนี้ทำให้เขาพึงพอใจแล้ว ต่อไปคือการจบภารกิจให้สมบูรณ์!

“เซียวจุ้ยจื่อ!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ออกไปสู้!”

“กึก!”

เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวขึ้นเวที ยืนอยู่กลางลานยุทธ์.

ตลอดมาเขาฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายที่แข็งแกรงยกระดับสูงขึ้น ถึงแม้นว่าจะใช้ศาสตร์ปิดพลังระงับมันเอาไว้ ทว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นทรงพลังจนน่าประหลาดใจ!

“เขานะรึ?เซียวจุ้ยจื่อที่ถูกมู่หรงซินถอนหมั้น?”

“เด็กคนนี้ดูไม่เลวเหมือนกัน หากแต่ธิดาตระกูลมู่หรงไม่ชอบเขา ดูเหมือนว่านางต้องการดีเยี่ยมยิ่งกว่านี้อีกรึ?”

“ข้าได้ยินมาว่าสองสามปีที่แล้วรากวิญญาณของเขาและพลังบ่มเพาะของเขาหายไปหมด.”

“เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่สงสัยเลยว่านางถึงได้ถอนหมั้น.”

เสียงพูดคุยของผู้คนดังงุ้งงิง เซียวจุ้ยจื่อที่เงยหน้าขึ้นมองป้ายนิกาย“ไป่เหอเซิ่ง” พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า “มู่หรงซิน ข้ามาตามสัญญาสามปีแล้ว.”

สามปีที่แล้ว ข้อตกลง ที่เขาจะเดินทางมาที่นี่.

เพื่อนำสิ่งที่เขาหายไป กลับคืนมา!

ฟิ้ว----

ร่างที่งามระหง ก้าวออกมาด้วยท่าทางที่ลึกล้ำ กระโดดนุ่มนวลราวกับผีเสื้อโบยบินร่อนลงบนลานยุทธ์.

มู่หรงซินที่สวมชุดที่เข้ารูป ดูปราดเปรียวทรงพลัง เห็นรูปร่างทรวดทรงที่สมบูรณ์แบบของนาง ทำให้แววตาของทุกคนต้องจดจ้องมองเขม็งด้วยอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาได้เหมือนกัน.

“สตรีผู้นี้ ก็ดูไม่เลวเลย อ๊า!”

ผู้คนที่จับจ้องเซียวจุ้ยจื่อ และมองนางเป็นสายตาเดียวกัน.

ทั้งสองที่ดูเหมาะสมครองคู่กันเป็นอย่างมาก หากแต่พวกเขากับไม่สามารถก้าวเดินมาบรรจบกันได้ เวลานี้พวกเขาที่เป็นดั่งเส้นขนานเท่านั้น ดูเหมือนว่านี่คือชะตาที่กำหนดไว้แล้ว.

“วันนี้.”

เซียวจุ้ยจื่อจ้องมองมู่หรงซินเอ่ยออกมาอีกครั้ง “เจ้าและข้าจะต้องชำระแค้นที่มีต่อกัน.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด