ตอนที่แล้วChapter 648 เปลี่ยนวิธี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 650 วันนี้ ข้าจะมาแก้ไขชำระความขุ่นเคืองของพวกเรา

Chapter 649 ท้าประลองนิกายหลักทั้งจังหวัดตงเห่า


ต่อสู้หนึ่งต่อสิบอย่างงั้นรึ?

เป็นวิธีการ ที่โอหังเป็นอย่างมาก.

เหล่าชาวยุทธ์ผู้ชมที่ได้ยิน ก็รับรู้แล้วว่าจุนซ่างเซียวต้องการทำให้นิกายไป่เหอเซิ่งได้อาย.

เกินไปแล้วจริง ๆ!

ให้ศิษย์นิกายตัวเองสู้หนึ่งต่อสิบ กับนิกายระดับสองนี่นะ!

เหล่าผู้คนจังหวัดตงเห่าที่เห็นจุนซ่างเซียวใจกล้าหน้าด้าน ทำให้พวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก!

เฉิงฮุยซินที่กัดฟันแน่น.

ทุกสำนัก ทุกนิกายของจังหวัดตงเห่ากำลังมองอยู่ จะให้นางทนได้อย่างไร.

คนจังหวัดซีเหนียนหยางที่มากระทำเรื่องโอหังเช่นนี้ในถิ่นของพวกเขา ทำให้ผู้คนด่าทอออกมาเช่นกัน!

จุนซ่างเซียวที่ยั่วยุความโกรธของคนจังหวัดตงเห่า จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา “โลกใบนี้ช่างงดงามนัก ไฉนเลยที่จะโกรธเกรี้ยวขุ่นมัว ไม่ดี ไม่ดีเลย.”

มู่ซ่างหงที่มุมปากกระตุก.

เจ้านิกายจุนของข้า เลยเถิดไปไกลแล้ว นี่ต้องการจะสร้างศัตรูทั้งจังหวัดตงเห่าเลยรึอย่างไร!

“ชิ.”

อาวุโสนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งที่แค่นเสียง อดรนทนไม่ได้ “เจ้านิกายจุน นิกายอี้เจี้ยนเซิ่งจะรับข้อเสนอของท่านได้หรือไม่?”

“ไม่มีปัญหา.”

จุนซ่างเซียวที่กวาดตามองคนของนิกายอื่น ๆ ของจังหวัดตงเห่าทั้งหมดเอ่ยออกมาว่า “ทุกนิกายสามารถส่งศิษย์ออกมาสู้ได้ นิกายนิรันดรของข้ายินดีต้อนรับ.”

“บ้าไปแล้ว!”

“ต้องการสู้จริง ๆ เหรอ!”

“ข้าไม่เชื่อว่านิกายนิรันดรจะไร้เทียมทาน!”

เหล่ายอดฝีมือนิกายอื่น ๆ ที่รู้สึกโกรธเกรี้ยว ดวงตาที่ลุกโชน หากไม่เพราะว่านี่คือการประลองระหว่างศิษย์ พวกเขาคงกระโดดขึ้นเวทีไปด้วยตัวเองแล้ว!

“เจ้าคนนี้......”

มู่ซ่างหงที่แทบทรุดลงกับพื้น.

เขาที่จ้องมอง จุนซ่างเซียว ไม่เพียงแค่ท้าประลองนิกายไป่เหอเซิ่ง ทว่ากับต้องการประลองกับนิกายทั่วทั้งจังหวัดตงเห่าด้วย!

ผ่านมานานเท่าใดแล้ว เขาไม่เคยเห็นบุรุษคนใหนที่อหังการขนาดนี้มาก่อนเลย!

ก่อนหน้านี้ จุนซ่างเซียวบุกโจมตีจังหวัดตงเป่ยลู่ เขาก็คิดไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้ทำให้เขารู้สึกได้อย่างแจ่มแจ้งเป็นอย่างมาก!

“เจ้านิกายจุน!”

เจ้านิกายของจังหวัดตงเห่าคนหนึ่งเอ่ย “สิบต่อหนึ่ง จริง ๆ รึ?”

“แน่นอน!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “มันช่วยประหยัดเวลาได้ดี.”

“ตกลง!”

เจ้านิกายคนหนึ่งที่กล่าวเสียงดัง “ศิษย์นิกายต้าหยิง ส่งศิษย์สิบคนท้าประลองศิษย์นิกายนิรันดร!”

ในเมื่ออีกฝ่ายโอหังขนาดนี้ เขาก็ไม่สนที่จะรังแกอีกฝ่ายให้หนัก!

หนำซ้ำ.

วิธีนี้ก็เป็นอีกฝ่ายเสนอเอง.

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ศิษย์นิกายต้าหยิงที่ก้าวขึ้นเวทีพร้อมกัน.

แม้นว่านี่จะเป็นนิกายระดับสี่ ทว่าเขาก็นำศิษย์ชั้นยอดทั้งหมดมา พลังบ่มเพาะนั้นเป็นบรรพชนยุทธ์ระดับแปดและเก้าโดยเฉลี่ย!

“นิกายต้าไห่ ซุนไห่.”

“นิกายต้าไห่ กัว.....”

“ไม่ต้องแจ้งชื่อแล้ว.”

หลี่ซ่างเทียนที่ยกมือขึ้น กล่าวอย่างทนไม่ไหว “รีบเข้ามาพร้อมกันได้แล้ว.”

ศิษย์นิกายต้าไห่สิบคน แววตาที่โกรธเกรี้ยวแผ่ออกมา ปิดไม่มิด.

“แยกออกไป!”

ซุนไห่เป็นผู้นำที่สั่งการทันที.

ศิษย์เก้าคนที่แยกออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากำลังสร้างค่ายกล ล้อมกรอบลี่ซ่างเทียนเอาไว้.

“บุก!”

ฟิ้ว!ฟิ้ว!

ทั้งสิบคนที่รู้ใจกันดี ราวกับฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขาที่ระเบิดกลิ่นอายทั้งหมดออกมา.

น่าเสียดาย ยังไม่ทันทำให้ค่ายกลพวกเขาสำเร็จ ลี่ซ่างเทียนที่ใช้ท่าเท้าเหยียบเมฆาพุ่งเข้าไป หมัดขวาของเขาที่ต่อยไปยังอกของศิษย์นิกายต้าหยิงคนหนึ่งทันที!

ตูมมมมม---

ร่างของเขาที่ลอยกระเด็นออกไป ลากครูดไปกับพื้น หมดสติทันที!

ก่อนหน้านี้ต่อสู้ กับผู้ฝึกยุทธ์สตรี เขาไม่ได้ลงมือรุนแรงอะไร ทว่าต่อหน้าชาวยุทธ์บุรุษ ก็ไม่จำเป็นต้องยั้งมืออะไรแล้ว!

ตูมมม!

ตูมมม!

ลี่ซ่างเทียนที่ก้าวไปรอบ ๆ ต่อยหมัดซ้ายทีขวาที แต่ละหมัดนั้นทรงพลัง กระแทกศิษย์นิกายต้าหยิงลอยกระเด็นออกไป!

“แข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ?!”

ทุกคนที่จ้องมองด้วยแววตาตื่นตะลึง.

ในเวลานั้น ศิษย์ของนิกายต้าหยิงที่นอนสลบเกลื่อน รอบ ๆ นอกเวที.

เพียงแค่นาทีเดียว.

บนลานยุทธ์มีเพียงแค่ลี่ซ่างเทียนคนเดียว.

ความเร็ว ความแข็งแกร่ง เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์รับรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก.

ศิษย์นิกายต้าหญิง ที่นอนหมดสติด้านนอกลานยุทธ์ พวกเขาหมดสติไปทุกคน ไม่ได้แม้แต่ลงมือสักกระบวนท่าเดียว.

“ติ๊ง! เอาชนะศิษย์นิกายต้าหยิง 1.”

“ติ๊ง!......”

“ติ๊ง!......”

“ติ๊ง! เอาชนะศิษย์นิกายต้าหยิง 10.”

เสียงแจ้งเตือนที่ดังติด ๆ กัน สิบครั้งซ้อน ยังเป็นเสียงที่ไพเราะอะไรเช่นนี้ ทำให้จุนซ่างเซียวรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก!

แน่นอน!

ยิ่งเขาเอาชนะศิษย์ของนิกายต่าง ๆ มากเท่าไหร่ ความสำเร็จภารกิจก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!

ภารกิจมหากาพย์ที่หก ไม่เพียงเล็งไปยังศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่ง ทว่าได้หมายรวมทั้งจังหวัดตงเห่า!

“ต่อเลย!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากใครไม่ยอมรับ รีบส่งศิษย์ขึ้นมา!”

ในเวลานี้ ไม่มีเสียงเหยียดหยันที่ดังขึ้นมาแล้ว หลายต่อหลายคนที่รู้สึกหวั่นเกรงขึ้นมาทันที.

“ข้านิกายซินเฟิงขอรับการประลอง!”

ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!

นิกายซินเฟิงสิบคนที่ก้าวขึ้นลานยุทธ์.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ซือหม่าจงต้าออกไป.”

“ครับ!”

ซือหม่าจงต้าขึ้นไป ลี่ซ่างเทียนที่ก้าวลงมา.

ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม!

ศิษย์นิกายนิรันดรที่แสดงพลังอยู่เพียงฝ่ายเดียว ศิษย์นิกายซินเฟิงที่กระเด็นล่วงหล่นเวที ทีละคน ๆ.

เป็นอะไรที่ง่ายดายมาก เพียงวิ่งผ่านอีกฝ่าย ก็ฟุบลงไปนอนกองบนพื้นนอกเวทีแล้ว.

“ต่อเลย!”

จุนซ่างเซียวที่ยังเผยยิ้มอย่างอหังการ “ยังมีใครอีก!”

คำพูดที่กระตุ้นต่อม ความโกรธ นิกายต่าง ๆ ของจังหวัดตงเห่าเป็นอย่างมาก.

ดังนั้น พวกเขายังคงส่งศิษย์ตัวเองออกไปสู้!

พวกเขาไม่เชื่อว่าสิบคนจะเอาชนะศิษย์นิกายนิรันดรไม่ได้สักคนเลยเหรอ!

หากส่งสิบกษัตริย์ยุทธ์ออกมาพร้อม ๆ กัน อาจจะมีหวัง.

หากแต่ส่งบรรพชนยุทธ์ขึ้นไป มีแต่ช่วยเพิ่มคะแนนภารกิจให้กับจุนซ่างเซียวเท่านั้น!

ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม!

ติ๊ง!

ติ๊ง!

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นไม่หยุด.......

ซุยปู่เจี้ยน หลินเจียงหางและศิษย์อีกหลายคนที่ขึ้นเวที อัดกระหน่ำฝ่ายตรงข้าม จำนวนของชัยชนะมีมากกว่า 60 คนแล้ว.

มู่ซ่างหงที่รู้สึกงงงวยไปเลย.

เขาที่เข้าใจมากยิ่งกว่าใคร ศิษย์ที่ถูกส่งออกไปนั้น ไม่ใช่ศิษย์ระดับสูงของนิกายนิรันดรด้วยซ้ำ.

หลี่ชิงหยางและเย่ซิงเฉิงยังไม่ได้ลงมือเลย!

ศิษย์ธรรมดาในนิกาย สามารถต่อสู้หนึ่งต่อสิบ ซ้ำยังทุบตีอีกฝ่ายที่เป็นศิษย์ระดับสูงนิกายต่าง ๆ ของจังหวัดตงเห่าได้ง่าย ๆ เลยรึ?

ผ่านมาจนถึงตอนนี้.

มู่ซ่างหงที่วางใจแล้ว.

ไม่แปลกใจเลยว่าเจ้านิกายจุนอหังการปานนั้น แท้จริงก็มีความสามารถพอนั่นเอง!

สู้ สู้เข้าไป!

วันนี้ชาวยุทธ์จังหวัดตงเห่าจะได้รับรู้ ว่านิกายระดับห้าจังหวัดซีเหนียนหยางนั้นร้ายกาจเพียงใด!

ติงหลิงชุนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์.

เขาที่ได้เชิญมู่ซ่างหงมาเป็นการส่วนตัว เพื่อมาชมการประลองครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะได้กล่าวเกทับที่พวกเขา จะทุบตีนิกายนิรันดร.

ท้ายที่สุด ไม่เพียงไม่เป็นตามหวัง ยังถูกอีกฝ่ายทุบตีหมดสภาพอย่างสู้ไม่ได้เลย!

“เจ้าเมืองติง.”

มู่ซ่างหงเอ่ย “ทำให้ท่านหัวเราะเยาะแล้ว.”

ติงหลิงชุนที่เงียบสนิท แม้แต่คำรามลั่นในใจ “เจ้าพวกสารเลว จะให้บิดาขายหน้าไปถึงใหน เอาชนะให้ได้สักคนสิว่ะ!”

เหล่านิกายต่าง ๆ ของจังหวัดตงเห่าขึ้นไปนิกายแล้วนิกายเล่า ก่อนจะถูกทุบสลบเหมือดกลับมา.

เหล่านิกายต่าง ๆ ที่เป็นดั่งแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ท้ายที่สุด อาวุโสนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งก็ยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ ก่อนกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม!“เจ็ดบุตรแห่งกระบี่ ออกไปสู้!”

“รับทราบ!”

มือกระบี่เจ็ดคนที่ก้าวขึ้นเวทีไป.

คนทั้งเจ็ดมีอายุใกล้เคียงกัน ร่างกายของพวกเขาปกคลุมไปด้วยอำนาจกระบี่ที่แหลมคม ราวกับร่างกายได้กลายเป็นกระบี่ที่คมกริบไปแบเส.

“เจ็ดบุตรแห่งกระบี่!”

“นี่คือเจ็ดสุดยอดอัจฉริยะของนิกายอี้เจี้ยนเซิ่ง!”

“กล่าวได้ว่าพวกเขาทั้งเจ็ด ในอนาคตจะต้องกลายเป็นอาวุโสของนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งอย่างแน่นอน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด