ตอนที่แล้วChapter 646 ล่วงเกินแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 648 เปลี่ยนวิธี

Chapter 647 ใครไม่ยอมรับ ก็ขึ้นเวทีมาสู้.


นิกายไป่เหอเซิ่งที่ส่งศิษย์ออกมาสองคน ยังไม่ได้แสดงความสามารถมากมาย ก็พ่ายแพ้แล้ว ทำให้เหล่าชาวยุทธ์ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

พวกเขาที่เห็นว่าซ่งเสวียนโจวนั้นมีพลังบ่มเพาะบรรพชนยุทธ์ขั้นที่หกชัด ๆ ทำไมถึงได้เอาชนะบรรพชนยุทธ์ขั้นสูงได้ แม้แต่เอาชนะได้อย่างง่ายดายเลยรึ?

ความจริงศิษย์ที่จุนซ่างเซียวนำมา ล้วนแต่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์ทั้งนั้น การจะเอาชนะพวกเขาได้นั้นช่างง่ายดายนัก.

มีเพียงส่งสิทธิ์ระดับสูงของนิกายไป่เหอเซิ่งออกมาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นไม่มีทางที่จะสู้กันได้.

มู่ซ่างหงที่งงงวยเล็กน้อย.

เขาคิดไม่ถึงแม้แต่น้อย นิกายนิรันดรจะเอาชนะศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งได้ง่ายดาย และยังชนะสองคู่แล้วด้วยซ้ำ เหลือเชื่อไปแล้ว.

“ท่านพ่อ.”

มู่หงเหลียนที่ส่งเสียงผ่านพลังวิญญาณมายังหูของเขา “ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ.”

ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ?

เรื่องธรรมดา?

เดี๋ยวนะ!

ธิดาของข้าส่งเสียงผ่านพลังวิญญาณ? นี้นางตัดผ่านไปยังระดับกษัตริย์ยุทธ์ได้แล้วรึ?!

การส่งเสียงผ่านพลังวิญญาณ

มีเพียงกษัตริย์ยุทธ์เท่านั้นที่ทำได้.

มู่หงเหลียนไม่เพียงตัดผ่านระดับ ทว่ายังตัดผ่านระดับมาสองสามเดือนแล้ว.

ทว่าเจ้านิกายออกคำสั่ง ให้ระงับพลังบ่มเพาะ ให้คนอื่น ๆคิดว่าพวกเขามีพลังบรรพชนยุทธ์เท่านั้น.

วันนี้เจ้านิกายจุนไม่เพียงนำศิษย์มายังนิกายไป่เหอเซิ่ง ทว่ายังเล่นบทหมูกินเสืออีกด้วย เก็บงำพลังก่อนตบหน้าอีกฝ่ายคืนอย่างรุนแรง!

ซ่งเสวียนโจวชนะสองรอบติด นี่ก็เท่ากับตบหน้าพวกเขาไปสองฉาดแล้ว.

เพราะไม่มีใครคิดว่าพวกเขาแข็งแกร่ง จึงสามารถเอาชนะบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายได้อย่างง่าย ๆ.

ไม่ต้องรีบ.

การแสดงเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนเอ่ยออกมาว่า “อาวุโสเฉิง ศิษย์ของนิกายท่านอ่อนแอจนเกินไป จะส่งออกมากี่คนก็เหมือนเดิม.”

ซ่งเสวียนโจวเอาชนะศิษย์สองคนนิกายไป่เหอเซิ่ง เพิ่มความสำเร็จขึ้นอีก.

เขาที่หวังให้ฝ่ายตรงข้ามส่งศิษย์ออกมาสู้อีก เพื่อเพิ่มความสำเร็จให้มากขึ้นเรื่อย ๆ.

“โอหังเกินไปแล้ว!”

“คิดว่าศิษย์ตัวเองแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?”

“ศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งนั้นมีทักษะค่ายกล หากว่าใช้ค่ายกลดาราคว้าจันทราแล้ว ไม่ต้องบอกเลยว่าแข็งแกร่งขนาดใหน หากส่งออกมาได้เจ็ดคนล่ะก็ ศิษย์ของเขาถูกฝังอย่างแน่นอน.”

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์จังหวัดตงเห่าที่พูดคุยกันเสียงดัง.

เฉิงฮุยซินที่นำศิษย์ไปทำลายสัญญาที่มนทลชิงหยาง คนเหล่านี้ไม่รู้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ารู้ว่าค่ายกลดาราคว้าจันทรานั้นถูกศิษย์นิกายนิรันดรทำลายไปแล้ว.

“เจ้านิกายจุน.”

อาวุโสนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งแค่นเสียงเย็นชา “ในเมื่อมั่นใจถึงเพียงนี้ มาประลองกับศิษย์ของนิกายข้าเป็นอย่างไร?”

เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว.

แทบจะทุกคน ถูกนิกายนิรันดรลบหลู่เกียรติอย่างแรง.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ตกลง.”

ขอเพียงให้ทุกคนรู้ความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดร ใครสนใจว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นใครกัน.

หนำซ้ำ.

ชายชราผู้นี้พูดอวดโอ่ตอดเล็กตอดน้อยเขาอยู่ตลอด.

คิดว่าฝึกฝนวิถีกระบี่แล้วจะชนะศิษย์ของเปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?

“เอาแล้วไง!”

“นิกายนิรันดรในวันนี้ ไม่เพียงแค่ท้าประลองนิกายไป่เหอเซิ่ง ทว่าท้าทายนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งด้วย!”

“ร้ายกาจ ร้ายกาจนัก!”

ผู้ชมไม่น้อยที่เผยความชื่นชม ทว่าบนใบหน้านั้นที่จริงเผยความดูแคลนเหยียดหยันเอาไว้ได้วย.

มู่ซ่างหงที่ปวดกระหมับขึ้นมาทันที “เจ้านิกายจุน ไฉนถึงได้บ้าบิ่นขนาดนี้!”

ท้าทายนิกายไป่เหอเซิ่งก็เกินพอแล้ว นี่ยังคิดจะท้าทายนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งอีก นี่คิดว่าจะจัดการนิกายระดับสองทั้ง 2 ได้อย่างงั้นรึ??

ความจริงเจ้านิกายจุนเข้าใจดี ว่าความแข็งแกร่งโดยรวม นิกายระดับสองนั้นแข็งแกร่ง.

หากแต่ศิษย์ของเขาแข็งแกร่งพอ ทำให้เขามั่นใจในตัวเอง!

“หลิงเฟย!”

อาวุโสนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกไปสู้กับศิษย์นิกายไท่กู่เจิ้ง.”

“ครับ.”

หลิงเฟยที่กระโจนขึ้นเวที ดวงตาที่แหลมคม จดจ้องมองเผยให้เห็นว่าเขาคือมือกระบี่!

ฟู่ ฟู่---

ขณะที่เขาก้าวไปถึงลานยุทธ์ อยู่ห่างจากซ่งเสวียนโจวไม่กี่เมตร กลิ่นอายที่แหลมคมปะทุขึ้นมาทันที.

“เจ้าหนูนี้น่าจะบรรพชนกระบี่ขั้นที่เก้า!”ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งเอ่ยชม.

อีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง “ได้ยินมาว่าหลิงเฟย ของนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งนั้น เป็นศิษย์สายใน แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แม้แต่มีรายชื่อในผังผู้กล้าชั้นปฐพีด้วย.”

หลายคนที่ได้ยิน ต่างก็เผยความเคารพออกมา.

ศิษย์สายในนิกายระดับสอง และยังมีชื่อในผังผู้กล้าชั้นปฐพี ไม่ต้องบอกเลยว่าสุดยอดเพียงใด!

ผู้กล้าชั้นปฐพี?

เย่ซิงเฉินที่สนใจขึ้นมาทันที.

ทว่า โจวหงที่ก้าวออกมา “เจ้านิกาย ศิษย์ขอออกไปสู้!”

“ยังไม่จำเป็น.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ศิษย์นิกายอี้เจี้ยนเซิ่งยังมีอีกมากมาย คนแรกให้ซ่งเสวียนโจว.”

“ครับ.”

เขาที่กวาดตามองไปยังศิษย์ของนิกายอี้เจี้ยนเซิ่ง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายกระบี่ ทำให้ร่างกายของเขาพลุ้งพล่านขึ้นมาทันที!

มือกระบี่ที่แท้จริง ไม่ได้สนใจว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้.

สิ่งเดียวที่สนใจที่สุด คือการได้พบกับคู่มือที่เหมาะสม แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว!

หลิงเฟยเอ่ย “โปรดแสดงอาวุธ.”

“ฟิ้ว!”

ซ่งเสวียนโจวที่โบกมือ นำกระบี่หานมั่งออกมา.

ศิษย์ที่เดินทางมายังนิกายไป่เหอเซิ่ง ล้วนแต่มีกระบี่หานมั่งระดับกลางทุกคน.

แน่นอนว่าอาวุธที่ศิษย์ของเขาได้รับนั้น ไม่ใช่จุนซ่างเซียวมอบให้โดยเฉพาะ แต่เป็นพวกเขาที่ใช้คะแนนสนับสนุนจากภารกิจซื้อจากเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ.

นอกจากทรัพยากรที่ได้รับในทุก ๆ เดือนคงที่ ศิษย์ของเขาสามารถได้รับเม็ดยา อาวุธและอีกหลายอย่าง ผ่านการใช้แต้มสนับสนุนนิกายที่ได้จากการทำภารกิจ.

“กระบี่ไม่เลว.”

หลิงเฟยที่เห็นกระบี่หานมั่ง ก็เอ่ยออกมาเล็กน้อย “น่าเสียดาย ยังด้อยกว่ากระบี่ของข้า.”

เคร้ง--

กล่าวจบ เขาก็ชักกระบี่ออกมา.

กระบี่สีฟ้ายาวสามฉื่อ((1ฉื่อ =0.33 m) ที่ใบกระบี่แผ่กลิ่นอายที่แหลมคมออกมา เหล่าชาวยุทธ์ที่จับจ้องมอง รับรู้ว่ามันมีคุณภาพที่ไม่เลวเลย.

มือกระบี่หากว่ามีกระบี่ชั้นยอด ก็จะยิ่งทำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!

หลังจากหลิงเฟยนำกระบี่ออกมา ผู้ชมจังหวัดตงเห่าที่บอกได้เลยว่าซ่งเสวียนโจวนิกายนิรันดรต้องพ่ายแพ้แน่!

ทำไม?

เพราะมือกระบี่บรรพชน นั้นเหนือกว่าบรรพชนยุทธ์เป็นอย่างมาก!

“เริ่มได้ยัง.”หลิงเฟยกล่าวด้วยความภาคภูมิ.

ซ่งเสวียนโจวที่ไม่ได้ปฏิเสธ เขาที่ถือกระบี่หานมั่งพุ่งเข้าไป.

ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!

อีกฝ่ายที่ยกกระบี่ชี้ไปด้านหน้าแผ่ไอเย็นออกมา!

เกล็ดน้ำแข็งที่แผ่ออกไปรอบ ๆ ขณะเขาก้าวไปด้านหน้า กระบี่สีฟ้าที่ตวัด สร้างปราณสีขาวราวกับเส้นไหมพุ่งออกไปทันที.

ความแข็งแกร่งของหลิงเฟยนั้นเหนือกว่าศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งก่อนหน้านี้มาก!

ปัง! ปัง! ปัง!

ทว่าเวลานั้นริ้วแสงกระบี่ที่พุ่งออกไปปะทะกับปราณเส้นไหมสีขาว แตกสลายไปในทันที.

“อะไรนะ?”

หลิงเฟยที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.

ฟิ้ว!

ซ่งเสวียนโจวที่ใช้ท่าเท้าเหยียบเมฆาพุ่งเข้าไปปรากฏที่ด้านหน้าของอีกฝ่าย กระบี่หานมั่งวางไว้บนบ่าข้างลำคอของเขา “เจ้าแพ้แล้ว.”

“นี่มัน....”ทุกคนที่ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที.

ศิษย์ของนิกายอี้เจี้ยนเซิ่งที่ใช้ไปเพียงกระบวนท่าเดียว ลูกทำลายไป แม้แต่ไม่สามารถตอบสนองอะไรได้ จนพ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็ว.

“น่ารังเกียจ!”

แม้หลิงเฟยจะไม่ยินดี แต่ก็รู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้แล้ว.

ไม่ต้องบอกเลยว่ากระบี่วางอยู่บนคอแล้ว หมายความว่าเขาไม่มีพลังต้านทานอีกฝ่ายได้เลย.

ก่อนหน้านี้เขารับรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีพลังเหนือกว่าเขาท่วมท้น ทำลายกระบวนท่าของเขาได้อย่างง่ายดาย ก็ทำให้เขาพ่ายแพ้ไปแล้ว!

“ติ๊ง! เอาชนะศิษย์นิกายอี้เจี้ยนเซิ่ง 1.”

จุนซ่างเซียวที่ตกใจขึ้นมาทันที.

ในภารกิจมหากาพย์ไม่ใช่ว่า เฉพาะศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งหรอกรึ? แล้วนี่เขาเอาชนะศิษย์นิกายอี้เจี้ยนเซิ่ง ก็ถูกนับด้วยอย่างงั้นรึ?

ระบบเอ่ย “ทั้งสองนิกายถือว่าเป็นพันธมิตรกัน การเอาชนะก็ถูกนับเช่นกัน.”

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

จุนซ่างเซียวทีเผยยิ้ม เอ่ยออกมาว่า “หากใครไม่ยอมรับ สามารถขึ้นเวทีสู้ได้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด