Chapter 644 มาตามนัด
ในอดีตเขาเคยนำศิษย์ไปยังนิกายเซิ่งชวน ซึ่งนำคนจำนวนไม่น้อยออกไปสู้ ตอนนี้ไปท้าทายนิกายไป่เหอเซิ่งจำนวนคนมากกว่าเดิม มีทั้งอาวุโสและถางจู่ด้วย.
อาวุโสมีเจียงเซี่ย สองพี่น้องหนิงและเหล่าเกอ.
ถางจู่ก็คือเจิ้นเต๋อจวิน.
ส่วนปราชญ์มารอู๋จิวและไท่จางเหล่านิกายจื่อหานเองก็ถูกนำมาด้วย.
แม้นว่าจะไม่นับว่าเข้าร่วมนิกาย แต่ในฐานะคนรับใช้จุนซ่างเซียวที่ควบคุมต้นกำเนิดวิญญาณ เขาสามารถควบคุมเจตจำนงของอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์.
ส่วนลี่ลั่วฉิวและเหล่าเหว่ยไม่ได้นำมาด้วย ต้องดูแลนิกายจัดการเรื่องต่าง ๆ นั่นเอง.
การท้าทายนิกายไป่เหอเซิ่ง จุนซ่างเซียวให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก.
ตราบเท่านิกายนิรันดรได้รับชัยชนะ เขาก็จะยกระดับไปยังอีกเขตแดนยุทธ์ทันที.
อย่างไรก็ตาม.
ขณะลงมาจากเทือกเขาไท่กู่ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ปรากฏขึ้น.
เป็นเซี่ยกวนคุนนั่นเอง.
ที่ด้านหลังของเขานั้นเป็นประมุขของเมืองชิงหยาง ตลอดจนผู้ฝึกยุทธ์และคนทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่ลูกเล็กเด็กแดงที่ส่งเสียงจอแจ.
นิกายไป่เหอเซิ่งนั้นอยู่ไกล เซี่ยกวนคุนที่เป็นเจ้าเมืองไม่สามารถเดินทางไปได้.
หนำซ้ำ ที่นั่นยังเป็นนิกายระดับสอง ไม่ใช่สถานที่ ที่ตัวเขาจะไปได้ ดังนั้น จึงได้เดินทางมาเพียงส่งจุนซ่างเซียวเท่านั้น.
ประมุขอ้ายเมืองฮูหยาง ตลอดจนเจ้าเมืองทั้งเจ็ดเองก็มาด้วยเช่นกัน.
“เจ้านิกายจุน!”
เซี่ยกวนคุนหยุด ยกมือประสานไปด้านหน้า “เซี่ยโหมวและคนอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปด้วยได้ แต่หวังให้นิกายนิรันดรสามารถได้รับชัยไร้เทียมทาน กวาดไปทั่วสารทิศ!”
“ไร้เทียนทาน!”
“กวาดไปทั่วสารทิศ!”
เหล่าประชาชนเมืองชิงหยางที่ตะโกนเสียงดัง.
เซี่ยกวนคุนไม่ได้แจ้งพวกเขา ทว่าทุกคนก็เต็มใจจะมา ครั้งหนึ่งนิกายนิรันดรที่ลุกขึ้นยืนปกป้องพวกเขา ไม่ให้พวกเขาได้กลายเป็นทาส!
ที่เชิงเขาเวลานี้มีผู้คนมากมายกว่าหนึ่งแสนคนก็ว่าได้ ตะโกนเสียงดังสนั่นก้องไปทั่วสวรรค์ชั้นฟ้า.
ถึงแม้นว่าทั่วหล้า.
เหล่าสำนักนิกายต่าง ๆ ไม่ยอมรับนิกายนิรันดร.
ทว่าในมนทลชิงหยางแห่งนี้ นิกายแห่งนี้เปรียบเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา!
“บุตรชาย!”
ประมุขหลี่เอ่ย “อย่าทำให้นิกายนิรันดรเสียหน้า!”
หลี่ชิงหยางที่จ้องมองบิดาที่มีผมขาวแซม เขาที่เอ่ยกล่าวในใจ “ท่านพ่อโปรดวางใจ บุตรของท่านจะปกป้องนิกายด้วยชีวิต!”
ประมุขซ่งเองก็มาส่งซ่งเสวียนโจวเช่นกัน.
ในเวลานี้ ขอเพียงแค่ได้บิดามารดาคนใหน มีบุตรเป็นศิษย์นิกายนิรันดร ก็จะรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก!
ผู้คนมากมายของมนทลชิงหยางที่สนับสนุนนิกายนิรันดร ทำให้จุนซ่างเซียวรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก.
สำหรับเขาแล้วมีคนท้องถิ่นสนับสนุน ก็เพียงพอแล้ว.
“ทุกท่าน!”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกล่าวเสียงดัง “นิกายนิรันดรจะนำชัยชนะกลับมายังมนทลชิงหยางแน่นอน!”
ผู้คนมากมายที่จับจ้องมอง จุนซ่างเซียวที่กำลังนำกองกำลังที่ทรงพลังน่าเกรงขามมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก แม้จะออกไปไกลแล้ว ก็ยังได้ยินเสียงตะโกนตามหลัง “นิกายนิรันดรไร้เทียมทาน กวาดไปทั่วสารทิศ!”
คำพูดที่ปลุกใจดังกึกก้อง ทำให้ศิษย์ทุกคนเลือดลมเดือดปุด ๆ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชน!
นิกายไปเหอเซิ่ง พวกเราพร้อมสู้แล้ว!
......
นิกายไป่เหอเซิ่ง จังหวัดตงเห่า.
ในเวลานี้ บนเส้นทางเทือกเขา มีกลุ่มชาวยุทธ์มากมายที่เดินทางมา นอกจากนี้ยังมีนิกายระดับสี่จากจังหวัดตงเป่ยลู่เก้านิกายนำขบวนคนมาด้วย.
เหล่ากลุ่มอิทธิใหญ่อื่น ๆ มองเห็น ก็เผยแววตาตื่นตกใจ.
เหล่าชาวยุทธ์จังหวัดตงเป่ยลู่ส่วนมากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุน้ำแข็ง น้อยครั้งจะเดินทางออกมาด้านนอก มากมายถึงเพียงนี้.
“เมื่อไม่นานมานี้จุนซ่างเซียวนำศิษย์บุกไปเกือบทำลายวังจื่อหาน นับว่าสร้างศัตรูไปทั่วจังหวัดตงเป่ยลู่ เก้านิกายมายังนิกายไป่เหอเซิ่งครั้งนี้ คงจะมาดูเรื่องขายหน้าของอีกฝ่ายละมั้ง.”
“มีเหตุผล!”
ทุกคนที่เห็นด้วย.
“นิกายที่จู่ ๆ ก็เพิ่งเติบโต ไม่เพียงแค่กล้าบุกไปยังจังหวัดตงเป่ยลู่ ทว่ายังกล้าท้ายทายนิกายไป่เหอเซิ่งนิกายระดับสองอีก.”
“ได้ยินว่าจุนซ่างเซียวยังเด็กนัก คาดว่าน่าจะมีอายุเพียง 20 ปี คนหนุ่มก็เลือดร้อนเป็นธรรมดา เป็นเรื่องปรกติที่เขาจะหาเรื่องคนไปทั่ว.”
“แต่หากไม่มีเจ้าเด็กนี่ พวกเราจะได้มาเห็นเหล่านิกายใหญ่มารวมตัวกันเช่นนี้ได้อย่างไร.”
ระหว่างเดินทางไปยังนิกายไป่เหอเซิ่ง เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่พูดคุยกัน ตลอดเส้นทางผู้คนมากมายดูคึกคักเป็นอย่างมาก.
พวกเขาคิดอย่างไรกับนิกายนิรันดร?
โทษที ก็เพียงแค่นิกายที่ประเมินตัวเองสูงเกินไป เป็นเพียงแค่ตั๊กแตนขวางรถม้าเท่านั้น!
“โบ้ว!”
“โบ้ว!”
ในเวลานั้น ที่เชิงเขา ได้ยินเสียงของหมาป่าหอนดังขึ้น ผู้คนมากมายที่หันกลับไปมองเป็นสายตาเดียวกัน.
ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!
หมาป่าที่นำหน้ามานั้นดูทรงพลังน่าเกรงขาม จนทำให้ชาวยุทธ์บางคนต้องถอยหลังผงะหลบออกไปอย่างรวดเร็ว.
“หมาป่าวายุอย่างงั้นรึ?”
เหล่ากลุ่มชาวยุทธ์ที่เผยแววตาประหลาดใจออกมาทันที.
“นั่นไม่ใช่หมาป่าวายุ.”
เหล่าชาวยุทธ์ที่มีความรู้หน่อยขมวดคิ้วไปมา ก่อนเอ่ยออกมาว่า “นั่นหมาป่าเฮอริเคน!”
หมาป่าเฮอริเคน?
เหล่าชาวยุทธ์ที่เผยแววตาประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
นี่คือหมาป่าระดับสูงสุด การที่กำราบมาเป็นสัตว์ขี่ได้ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา หนำซ้ำยังเป็นจำนวนมากอีกด้วย เรื่องนี้พวกเขายิ่งตกใจเข้าไปอีก!
“นี่คือคนของนิกายนิรันดร!”
“ใช่แล้ว พวกเขาเคยนำทัพหมาป่าบุกจังหวัดตงเป่ยลู่ ข้าจำได้!”
“วิ้ง วึ้ง พวกเขากำราบหมาป่าเฮอริเคนได้มากมายขนาดนี้ นิกายแห่งนี้มีความสามารถขนาดใหนกัน.”
กวี๊ก-
ในเวลาต่อมา บนท้องฟ้าได้ยินเสียงนกกระเรียนร้องหวีดดัง.
กลิ่นอายความเย็นที่แผ่ซานลงมาจากบนท้องฟ้า ทำให้ผู้คนรอบ ๆ อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน.
พวกเขาที่เงยหน้าขึ้นมอง เห็นนกกระเรียนสีขาวบริสุทธ์ ที่สะบัดปีกอย่างนุ่มนวลร่อนลงมา.
“กระเรียนอมตะ เหมันต์ศักดิ์สิทธิ์!”
“นี่มันวิหคหายากของจังหวัดตงเป่ยลู่ไม่ใช่รึ?!”
ทุกคนที่อ้าปากหวอ.
กระเรียนอมตะ เหมันต์ศักดิ์สิทธิ์มีขนาดร่างกายไม่ใหญ่นัก ทำให้บรรจุคนได้ไม่มาก และไม่ค่อยเห็นใครใช้ในการเดินทางนัก ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ต้องมองพลางกลืนน้ำลาย.
นี่คือสัตว์หายาก ที่แทบจะพบได้สักครั้งในชั่วชีวิตคนหนึ่ง ๆ เลย.
“มีคนอยู่บนนั้น!”
ผู้คนมากมายที่จ้องมองเห็นลู่เชียนเชียนที่ยืนอยู่บนกระเรียนอมตะ ดวงตาต้องเบิกกว้างกลมโต.
สตรีในชุดสีขาว ที่งดงาม ราวกับเทพธิดากำลังมาเยือนโลกมนุษย์.
“งดงามนัก!”
“เป็นศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งอย่างงั้นรึ?”
“ร่างกายของนางแผ่กลิ่นอายความเย็นออกมา ควรจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุน้ำแข็งจังหวัดตงเป่ยลู่!”
ขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิด.
พวกเขาคาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยในจังหวัดตงเป่ยลู่จะมีสตรีที่งดงามเช่นนี้.
ในเวลานั้น ผู้ฝึกยุทธ์มากมายพบว่าเจ้าวังจื่อหานและนิกายต่าง ๆ ของจังหวัดตงเป่ยลู่เผยแววตาหวาดหวั่น ดังนั้นพวกเขาก็พอคาดเดาว่านางต้องมีสถานะสูงเป็นอย่างมากในจงหวัดตงเป่ยลู่.
กวี๊ก ----
ในเวลานั้น เสียงของเหยี่ยวทมิฬก็ดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง.
พวกเขาเห็นเพียงจุนซ่างเซียวยืนอยู่บนหลังของเหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูร กำลังร่อนลงมาจากบนท้องฟ้า.
ในเวลานั้น ผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่ส่งเสียงเซ็งแซ่ ดวงตาแทบหลุดจากเบ้า.
“จุนซ่างเซียว!”
บางคนจำได้ เขาที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
“นี่มัน!”พวกเขาที่มุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า “เจ้าคนนี้กำราบวิหคยักษ์ได้อย่างคาดไม่ถึง?”
ฟิ้ว!
ฟิ้ว!
หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆ ที่ขี่หมาป่าเฮอริเคน สนามพลังวายุที่โบกสะบัดแหวกแยกอากาศไปด้านข้างพัดเป่าให้เสื้อผ้าของชายยุทธ์มากมายถูกลมโกรกเสียงดังผับ ๆ.
เพียงไม่นาน.
ที่ด้านหน้าทางเข้านิกายไป่เหอเซิ่งก็ปรากฏคนบนหมาป่าหลายร้อยคน.
“หมาป่าเฮอริเคนตัวใหญ่ทรงพลังขนาดนี้เลยรึ?”
“แต่เทียบกับนิกายระดับสองแล้ว เกรงว่าคงจะเดินทางมาให้อีกฝ่ายทุบตีอย่างแน่นอน.”
เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่เอ่ยกล่าวเหยียดหยันเป็นอย่างมากเสียงดังหึ่ง ๆ.
เพราะว่าศิษย์นิกายนิรันดรมีหมาป่าเฮอริเคน พวกเขาอดไม่ได้เลยที่จะเต็มไปด้วยความอิจฉา.
“พรึด ซี่!”
“พรึด ซี่!”
เหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูรที่ร่อนลงช้า ๆ ที่ด้านหน้าประตู.
จุนซ่างเซียวที่ตะโกนเสียงดัง “เปิ่นจั้วนำศิษย์มาตามสัญญาสามปีแล้ว!”