Chapter 626 ความซื่อบื้อของท่าน รักษาไม่หายจริง ๆ
วังเมี่ยวฮัว.
เหล่าอาวุโสหลายคนที่เต็มไปด้วยความเศร้าใจ.
จังหวัดหนานหวงที่เกิดปรากฏการณ์พิเศษ เป็นไปได้ว่าของวิเศษกำลังกำเนิด.
เจ้าวังที่ได้ข่าว กับเขียนจดหมายไปหาจุนซ่างเซียวอย่างคาดไม่ถึง พร้อมกับเอ่ยว่า ต้องการไปด้วยกัน!
“เจ้าวัง!”
เหลิงซิงเยว่ที่อดรนทนไม่ไหว เอ่ยออกมาว่า “ยอดฝีมือจากจังหวัดต่าง ๆ มากมายที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดหนานหวงแล้ว หากพวกเราไม่รีบเดินทาง เกรงว่าจะพลาดโอกาสที่ดีที่สุดไป!”
“ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ.”
ซีจิงเสวียนเอ่ย “รอเจ้านิกายจุนมาก่อน.”
วันนี้นางสวมชุดสีฟ้า ผมดำขลับ ยาวประบ่า
หลิงซิงเยว่ที่พูดไม่ออก “เขาต้องเดินทางอย่างน้อย 3-5 วัน เกรงว่าเมื่อพวกนางไปถึงคนอื่น ๆ คงแย่งชิงของวิเศษไปหมดแล้ว.”
“ใช่แล้ว.”
จางซุนฟางฮัวเอ่ย “พวกเราออกเดินทางก่อนดีหรือไม่?”
ซีจิงเสวียนส่ายหน้าไปมา “ปรากฏการณ์ครั้งนี้ได้ดึงดูดผู้คนมากมาย คงหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้ ด้วยความแข็งแกร่งของวังเมี่ยวฮัวแล้ว อาจจะไม่สามารถรับมือพวกเขาได้.”
จางซุนฟางฮัวและเหลิงซิงเยว่กลายเป็นเงียบ.
จังหวัดหนานฮวงนั้น เปิดกว้างทำให้ผู้คนมากมายเห็นปรากฏการณ์นี้.
เหล่ากลุ่มอิทธิพลมากมายที่ได้รับข่าวครั้งนี้.
วังเมี่ยวฮัวคือนิกายระดับสี่ ยังไม่สามารถเทียบได้กับนิกายระดับสองหรือสามได้.
อย่างไรก็ตาม!
ร่วมมือกับนิกายนิรันดร จะได้รับของวิศิษย์รึ?
หรือเพราะ เจ้าวังชื่นชอบจุนซ่างเซียว?
กล่าวได้ว่าคงไม่สามารถวางใจได้ หนึ่งเหตุผลเกรงว่าคงจะหลงใหลอีกฝ่ายมากกว่า.
แม้นว่าเหล่าอาวุโสจะเศร้าใจ แต่ก็ทำได้แค่รับคำ และได้แต่ภาวนาว่าของวิเศษจะไม่ปรากฏก่อน ไม่เช่นนั้นการเดินทางครั้งนี้คงสูญเปล่า.
ฟิ้ว---
ในเวลานั้น บนท้องฟ้ากระแสงลมที่รุนแรงกำลังพัดกระหน่ำขึ้นมาทันที.
“หืม?”
จางซุนฟางฮัวและเหลิงซิงเยว่ขมวดคิ้วไปมา จิตสัมผัสของนางปล่อยอออกไป ก่อนที่จะเห็นที่ไกลออกไปเห็นริ้วแสงกำลังพุ่งตรงมาด้วยความเร็ว.
“จักรพรรดิยุทธ์รึ?”ทั้งสองถึงกับสะดุ้ง.
ฟิ้ว!
เพียงไม่นาน ขณะริ้วแสงนั้นเคลื่อนที่เข้ามาใกล้
จุนซ่างเซียวที่ปรากฎขึ้นที่ทางเข้าวังเมี่ยวฮัว ปีกทั้งสองข้าที่ร่อนสะบัดลงมา เสียงที่ใสกระจ่างเอ่ยออกมาว่า “เจ้าวังซี ข้ามาแล้ว.”
“เป็นเจ้านิกายจุน!”ซีจิงเสวียนที่ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก.
จางซุนฟางฮัวและเหลิงซิงเยว่ตื่นตะลึงงัน.
เจ้าคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะบินได้ นี่ตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิยุทธ์แล้วรึ?
ไม่ใช่!
แน่นอนว่าต้องเป็นปีกด้านหลังของเขาแน่.
บางทีนั่นคือของวิเศษที่ช่วยให้เขาบินได้!
โอ้ว เจ้าวังของข้า เขามาแล้วก็จริง แต่ท่านก็ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นก็ได้!
จุนซ่างเซียวไม่ได้มาคนเดียว ทว่าบนไหล่ของเขานั้นมีครึ่งมนุษย์เซียวโม่เซียนนั่งอยู่.
เสี่ยวหลงเองก็ต้องการมากับเจ้านายด้วย ทว่ากับถูกเจ้านิกายมอบหมายให้ดูแลนิกายไป.
เพราะว่าเขากังวล ว่ามันจะทะเลาะกับเซียวโม่เซียนไม่หยุด.
......
ภายในห้องโถง.
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามาด้านใน ยกมือประสาน “ไม่ได้เจอกันนาน เจ้าวังซียังคงงดงาม เปี่ยมเสน่ห์ยิ่งกว่าเดิมอีก.”
“ใช่ ๆ.”
เซียวโม่เซียวที่ยืนอยู่กระพริบตาให้ เอ่ยออกมาว่า “งดงามจริง ๆ!”
ซีจิงเสวียนที่ใบหน้าแดงระเรื่อ.
“ชิ.”
จางซุนฟางฮัวและเหลิงซิงเยว่ที่มองบน กล่าวในใจ “เจ้าคนนี้กะล่อนนัก.”
แม้นว่าทั้งสองจะไม่พอใจ ทว่าก็รู้สึกตื่นตะลึงกับจุนซ่างเซียวไปเหมือนกัน.
ไม่ได้เห็นอีกฝ่ายมาพักหนึ่ง กลิ่นอายของเจ้าเด็กนี้แข็งแกร่งมาก เห็นชัดเจนว่ายกระดับขึ้นเป็นอย่างมาก!
“เจ้านิกายจุน.”
ซีจิงเสวียนที่กล่าวโทษตัวเองเล็กน้อย “ในนิกายมีงานมากมายนัก กับการยกระดับเป็นนิกายไม่ได้ไปแสดงความยินดี คงจะไม่ถือสา.”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเลย.”
จุนซ่างเซียวที่ไม่ถือสา.
ซีจิงเสวียนหันไปยังทิศทางของเซียวโม่เซียน เอ่ยด้วยความสงสัย “นี่คือ?”
จุนซ่างเซียวยังไม่ตอบ เซียวโม่เซียวที่ก้าวออกไปเอ่ยก่อน “ข้าคือสัตว์พันธสัญญาของจู่เหริน!”
สัตว์พันธสัญญา?
จางซุนฟางฮัวที่ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที.
เด็กหญิงที่น่ารักคนนี้ ไม่ใช่มนุษย์อย่างงั้นรึ?
พวกเขารู้เช่นกัน ว่าสัตว์เปลี่ยนร่างเป็นกึ่งมนุษย์ได้ ทว่าจะต้องเป็นระดับสัตว์วิญญาณขึ้นไปเท่านั้น.
ดูเหมือนว่าข่าวที่ได้ยินมาจากจังหวัดตงเป่ยลู่จะไม่ผิด เจ้าคนนี้มีสัตว์พันธะสัญญาระดับจักรพรรดิยุทธ์.
เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาบุกวังจื่อหาน วังเมี่ยวฮัวก็ได้ยินมาบ้าง.
“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
ซีจิงเสวียนเอ่ย “ได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้ เจ้านิกายจุนเอาชนะไท่จางเหล่าวังจื่อหานอย่างงั้นรึ?”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ตาแก่นั่นมาหาเรื่องนิกายนิรันดร ถูกเปิ่นจั้วจัดการ ตอนนี้ยังกวาดพื้นลานยุทธ์อยู่เลย.”
จางซุนฟางฮัวและเหลิงซิงเยว่มุมปากกระตุกไปมา.
ครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ แม้แต่นิกายของพวกนางยังไม่มียอดฝีมือระดับนั้น!
ซีจิงเสวียนที่เผยความประหลาดใจ “พลังบ่มเพาะของเจ้านิกายจุนก้าวถึงระดับครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์แล้วอย่างงั้นรึ?”
เฮ้.
สาวน้อยต้องการสืบข้อมูลของข้ารึอย่างไร?
“ไม่.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “นิกายนิรันดรของข้านั้นมีมรดกโบราณ เป็นทักษะเทวะ จุนโหมวใช้วิธีดังกล่าว เอาชนะไท่จางเหล่าวังจื่อหาน.”
ตอนนี้ในยุทธ์ภพ ต่างก็พูดคุยกันเรื่องนี้ เขาจึงอธิบายไปตามเรื่องที่พวกเขาอธิบายไปซะเลย.
ซีจิงเสวียนเผยยิ้ม “นิกายของเจ้านิกายจุนตกทอดมาจากโบราณ ช่างคาดไม่ถึงจริง ๆ.”
“เจ้าวังซี พวกเรามาพูดถึงเรื่องเป้าหมายในครั้งนี้กันเถอะ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “พวกเราจะไปยังจังหวัดหนานหวงเมื่อไหร่?”
แผนการของเขานั้น ไม่เพียงแค่ต้องการเห็นสมบัติหายาก แต่เขายังต้องการค้นหาทรัพยากรยุทธ์อื่น ๆที่อยู่รอบ ๆ ด้วย.
กล่าวได้ว่าสมบัติหายากนั้นหาได้ดึงดูดความสนใจของเจ้านิกายจุนมากนัก ต้องไม่ลืมว่าสินค้าในร้านค้าระบบ นั้นต่างก็เป็นสมบัติที่ต่อต้านสวรรค์อยู่แล้ว.
เรื่องหลักที่เขาต้องการคือทรัพยากรยุทธ์ วัตถุดิบในการปรุงยาเม็ดยารวมวิญญาณ เม็ดยากลั่นวิญญาณและแม้แต่เม็ดยากษัตริย์ยุทธ์ วัตถุดิบเหล่านี้ไม่ได้มีขายในร้านค้าระบบนั่นเอง.
“เจ้านิกายจุนไม่พักอย่างงั้นรึ?”
“ไม่จำเป็น.”
“ตกลง พวกเราจะเดินทางตอนนี้เลย.”
......
เจ้าวังเมี่ยวฮัวที่ยืนอยู่ลานยุทธ์ ในเวลานั้นมีอาชาที่รูปร่างสูงใหญ่ปราดเปรียวที่ถูกศิษย์ของนางจูงมา.
“เจ้านิกายจุน.”
ซีจิงเสวียนเอ่ย กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้จ่ายไปด้วยราคาที่สูงเพื่อซื้ออาชาไล่วายุ ความเร็วไม่ได้ด้อยกว่าหมาป่าเฮอริเคนของนิกายท่านแน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าวังซีวางแผนที่จะขี่มันไปยังจังหวัดหนานหวงอย่างงั้นรึ?”
“อืม.”ซีจิงเสวียนเอ่ย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ช้าเกินไป.”
เขาที่มองไปยังเซียวโม่เซียน “แปลงกายเป็นร่างหลัก นำเจ้าวังซีไปยังจังหวัดหนานหวง.”
“อืม!”
เซียวโม่เซียนพยักหน้ารับ ก่อนที่จะกระโดดไปยังลานตรงกลาง ร่างกายของนางเวลานั้นมีริ้วแสงปกคลุม ก่อนที่จะแปลงร่างหลักเหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูรทันที.
“พรึด ซี่! พรึด ซี่!”
ปีกสีดำที่สะบัด ร่างที่ใหญ่โตปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้คน.
“ฮี่ ฮี่---”อาชาไล่วายุถึงกับตกใจร้องเสียงดัง.
จางซุนฟางหัวและเหลิงซิงเยว่ที่ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที.
เด็กสาวที่น่ารักคนนั้น เปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ร้ายที่ใหญ่ยักษ์ทันที จะไม่ทำให้พวกนางตื่นตกใจได้อย่างไร.
“เจ้าวังซี.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เชิญ.”
“นี่....”
ซี่จิงเสวียนที่ครุ่นคิด ก่อนที่จะถูกนำขึ้นไปบนหลังของเหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูร.
จางซุนฟางหัว เหลิงซิงเยว่และอาวุโสคนอื่น ๆ ต้องการตามไป ทว่ากับถูกขวางโดยจุนซ่างเซียว “โทษที สัตว์พันธสัญญาของข้า ขี่ได้เพียงเจ้าวัง พวกท่านขี่อาชาไล่วายุไปยังจังหวัดหนานหวงก็แล้วกัน.”
“เดินทาง!”
“พรึด ซี่!”
“พรึด ซี่!”
เหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูรที่สะบัดปีก ฝุ่นผงที่ลอยคลุ้งไปหมด พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า บินตรงไปยังทิศใต้ด้วยความเร็วสูง.
“เจ้าคนน่ารังเกียจนั่น!”
จางซุนฟางฮัวเอ่ย “เจ้าคนนี้จงใจขวางพวกเราแน่นอน!”
“คิดจะอยู่ลำพังกับเจ้าวังของพวกเรา ได้อย่างไร!”
“ไป รีบตามไปเร็วเข้า!”
เหล่าอาวุโสที่ขึ้นอาชาไล่วายุไป ทว่าก็ยังนับว่าช้าเมื่อเทียบกับวิหคระดับสัตว์วิญญาณ.
“พรึด ซี่!”
“พรึด ซี่!”
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูรได้บินไปไกลแล้ว.
ผมของซีจิงเสวียนที่สะบัดต้องสายลม ใบหน้าของนางที่แดงเล็กน้อย.
อาวุโสก็ไม่อยู่ นางที่อยู่กับจุนซ่างเซียวสองคน ทำให้หัวใจของนางเต้นไปมา.
“ทำอย่างไร ทำอย่างไรดี...”
หัวใจของซีจิงเสวียนเต้นไปมาอย่างรวดเร็ว อย่างช่วยไม่ได้.
“เจ้าวังซี ท่านนั่งให้มั่น.”
จุนซ่างเซียวที่กระตุ้นปีกให้ทำงาน บินออกไป พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ข้าจะนำหน้าไปดูลาดเลาก่อน.”
ฟิ้ว-
พริบตาเดียว ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย.
หากเหล่าเหว่ยอยู่ในเหตุการณ์ คงจะกุมขมับและเอ่ยออกมาอย่างผิดหวังแน่ “โหย เจ้านิกาย ความซื่อบื้อของท่านนี้ รักษาไม่หายจริง ๆ!”