ตอนที่แล้วChapter 623 ในนิกายนิรันดรไม่มีใครสนใจพวกนาง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 625 ชะตา

Chapter 624 หลิงหยวนเสวี๋ยผู้อหังการ


เฉิงฮุยซินได้ยินมาบ้าง ว่าเจ้านิกายนิรันดรยังเป็นผู้เยาว์ และมีนิสัยโอหังเป็นอย่างมาก.

ตอนนี้มาถึงที่นี่แล้ว หลังจากที่ได้ประสบ ก็บอกได้ว่า ไม่ใช่แค่เขา ทว่าทั้งนิกายนั้นเต็มไปด้วยคนอหังการ.

“เจ้านิกายจุน!”

เฉิงฮุยซินที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องโถง แค่นเสียงเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าเฉิงจะไม่เข้าไปในห้องโถงก็ได้ ที่มาในวันนี้ หวังว่าสัญญาสามปีของศิษย์ท่านกับศิษย์ของข้าจะถูกยกเลิกไป.”

ดูเหมือนว่าการที่นางมาในครั้งนี้ ก็เพื่อเรื่องนี้นั่นเอง.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “อาวุโสเฉิงในอดีตนำคนมายกเลิกงานหมั้นที่มนทลชิงหยาง ตอนนี้ก็เดินทางมากยังมนทลชิงหยางอีกครั้งเพื่อยกเลิกคำสัญญา ดูเหมือนว่านิสัยของนิกายไป่เหอเซิ่งที่กระทำการเช่นนี้ ต้องการให้ทุกคนทั่วยุทธภพดูแคลนอย่างงั้นรึ?!”

คำพูดที่จี้ใจดำ ตำหนินิกายของนางอย่างชัดเจน.

เฉิงฮุยซินที่โกรธเกรี้ยวอย่างหนัก “จุนซ่างเซียว กับการประลองที่ไร้ความหมาย คิดจะทำให้ศิษย์ของข้าเสียเวลาบ่มเพาะ หากเจ้าต้องการสู้ ก็ไปหานิกายอื่น.”

“รู้แล้ว.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “อาวุโสเฉิงกำลังดูแคลนศิษย์นิกายนิรันดรสินะ.”

“ไม่ได้ดูถูก”

เฉิงฮุยซินเอ่ย “แต่มันคือความจริง.”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจากห้องโถง มือที่ขัดหลัง เผยยิ้มเล็กน้อย “อาวุโสเฉิงกล่าวเช่นนี้ คิดว่าศิษย์ที่นำมานี้ นอกจากมู่หรงซิน ข้าคิดว่าไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะประลองกับศิษย์ของข้าสักคน ไม่เว้นแม้แต่ศิษย์ใหม่.”

เฉิงฮุยซินที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.

ศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งที่มองบน.

ศิษย์นิกายนิรันดรดูจากกลิ่นอายแล้ว เพียงแค่อาจารย์ยุทธ์ คิดได้ไง กล่าวว่าเหนือกว่าบรรพชนยุทธ์!

“ไม่ยอมรับอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “งั้นมาประลองกันหน่อยเป็นไง.”

ตั้งแต่ที่เนินเขาแล้ว คำพูดของพวกนางที่ดูแคลนพวกเขา จุนซ่างเซียวล้วนแต่ได้ยินชัดเจน.

คิดว่าศิษย์ของข้าไม่คู่ควรจะประลองกับศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งอย่างงั้นรึ?

ก็ดี.

เปิ่นจั้วไม่ได้สนใจที่จะรังแกสตรี ทว่าเพื่อที่จะแสดงความเหนือกดข่มอีกฝ่าย ก็คงทำได้แค่เพียงทุบตีอีกฝ่ายให้ยอมรับเท่านั้น.

เฉิงฮุยซินเอ่ย “เจ้านิกายจุน เหล่าเฉิงมาในครั้งนี้ เพื่อยกเลิกสัญญาประลอง ไม่ได้นำศิษย์มาท้าประลอง.”

“ก็ได้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ชนะศิษย์นิกายนิรันดรได้ ค่อยพูดอีกครั้ง.”

“ต้องการประลองจริง ๆ รึ?”

“แน่นอน.”

“ตกลง.”

เฉิงฮุยซินเอ่ย “ได้ยินมาว่าศิษย์นิกายนิรันดรมีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา นิกายไป่เหอเซิ่งเองก็ต้องการคำชี้แนะเช่นกัน.”

“หลิงหยวนเสวี๋ย ออกไปสู้!”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

การจัดการเหล่าสตรี แน่นอนว่าไม่สามารถส่งหลี่ชิงหยางหรือเย่ซิงเฉินออกไปได้ เขาจึงต้องส่งศิษย์สตรีออกไปเช่นกัน.

ในเมื่อไม่สามารถพูดคุยกันดี ๆ ได้ ก็มีเพียงแค่เริ่มต้นด้วยการประลองเท่านั้น.

......

ลานยุทธ์.

ศิษย์นิกายนิรันดรที่ยืนอยู่รอบ ๆ.

หลิงหยวนเสวี๋ยที่ก้าวออกไป.

อาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายรึ?

เฉิงฮุยซินเอ่ยออกมาเบา ๆ “หลินเอ๋อ เจ้าออกไปสู้กับนาง.”

“ค่ะ!”

ศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่ง เจียวหลินเอ๋อที่ก้าวออกไป.

นางเป็นศิษย์อาวุโส 11  แม้นว่าจะไม่ใช่ศิษย์สายตรง ทว่าพรสวรรค์ไม่ได้โดดเด่นนัก แต่ก็มีความแข็งแกร่งบรรพชนยุทธ์ขั้นที่หก.

“เรื่องนี้.....”

หลิงหยวนเสวี๋ยกล่าวออกมาเสียงเบา “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ให้คนอื่นออกมาเถิด.”

“น่าขัน!”

หลินเอ๋อที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ด้วยกลิ่นอายของเจ้า เพียงแค่อาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย คิดว่ามีปัญญาเอาชนะบรรพชนยุทธ์ขั้นหกได้อย่างงั้นรึ?”

“จริง ๆ.”

หลิงหยวนเสวี๋ยเอ่ย “เจ้าไม่สามารถชนะข้าได้ ทางที่ดี...”

นางหยุดและมองไปยังศิษย์ของนิกายไป่เหอเซิ่งทั้งหมด ขมวดคิ้วและเอ่ยออกมาว่า “ควรให้พวกนางทั้งหมดเข้ามาพร้อมกัน ทั้งหมดเลยดีกว่า!”

เฮ้อ.

นี่คือสตรีที่ขี้อายคนนั้นรึ?

จากตอนที่เข้าร่วมนิกายนิรันดร นางที่ได้รับอิทธิพลจากจุนซ่างเซียว ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นคนโอหังไปสะแล้ว.

เป็นอะไรที่น่าเศร้านัก!

“ศิษย์พี่หญิงเสวี๋ยดูเหมือนว่าจะยังไม่พอใจ!”

“ด้วยความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ ต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งถือว่าเสียเวลา เข้าไปพร้อมกับนั้นล่ะดีแล้ว.”

เหล่าศิษย์ของนิกายนิรันดรที่เริ่มเอ่ย พลางหัวเราะเยาะ ดูแคลนพวกนางมากขึ้นและมากขึ้น.

เมื่อวาน เจ้านิกายที่ได้สั่งการ ว่าคนของนิกายไป่เหอเซิ่งมา จะต้องแสดงท่าทางอหังการดูแคลนพวกเขาให้จงหนัก.

กับคำสั่งเจ้านิกาย ทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องอดกลั้น.

ในเวลานี้พวกเขาที่เอ่ยกล่าวยั่วยุ สร้างความโกรธให้อีกฝ่ายทันที.

เป็นความจริง เมื่อศิษย์นิกายนิรันดร กล่าวหยันดูแคลน เหล่าศิษย์นิกายไป๋เหอเซิ่งที่ได้รับการทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็ก เวลานี้ต้องกัดฟันแน่น.

หลินเอ่อที่โกรธเกรี้ยว “ไม่จำเป็นต้องถึงมือศิษย์พี่ แค่ข้าก็เพียงพอแล้ว!”

“ก็ดี.”

หลิงหยวนเสวี๋ยที่แสดงท่าทางช่วยไม่ได้ออกมา.

กฎเกณฑ์เดิม.

ทั้งสองฝ่าย ที่ขานชื่อกันก่อน.

เจียงเซี่ยที่เป็นกรรมการ ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง “เริ่มได้!”

ฟู่ ฟู่!”

หลินเอ๋อที่ระเบิดพลังบรรพชนยุทธ์ออกมา ยังไม่ได้ใช้ทักษะยุทธ์เลยด้วยซ้ำ ก็สัมผัสได้ถึงสายลมที่รุนแรงพุ่งมา.

ตูมมมมม ----

ร่างของนางที่ลอยกระเด็นตกเวทีทันที.

หลินหยวนเสวี๋ยที่ยืนอยู่ตำแหน่งเดิม ก่อนที่จะชักหมัดกลับ เอ่ยออกมาช้า ๆ “เจ้าปล่อยให้ข้าชนะแล้ว.”

“นี่มัน....”

เฉิงฮุยซินถึงกับตื่นตะลึง.

สตรีที่ดูอ้อนแอ้น เห็นชัดเจนว่ามีพลังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย ทำไมเอาชนะหลิงเอ๋อได้เพียงแค่หมัดเดียว!

“เจ้านิกาย.”

หลิงหยวนเสวี๋ยเอ่ย“ให้ข้าต่อสู้ต่อหรือไม่?”

“อืม.”จุนซ่างเซียวทีเผยยิ้ม.

หลิงหยวนเสวี๋ยที่หันหน้าไปมอง กวาดตามองศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งทั้งหมด กล่าวออกมาเสียงเบา “พวกเจ้าทั้งหมดขึ้นมาพร้อมกันเลยหรือไม่?”

คำพูดที่แสดงว่า พวกเจ้ารวมกันมาเลย มันเสียเวลาที่จะต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง!

“อาจารย์ ข้าเอง!”

ศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งคนหนึ่งที่เอ่ยอาสา.

“ไป.”

เฉิงฮุยซินที่เอ่ย.

ท้ายที่สุด เมื่อขานชื่อเสร็จ ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ ฝ่ายตรงข้ามก็ถูกหลิงหยวนเสวี๋ยซัดลอยกระเด็นออกไป.

ไม่ขยับ เพียงแค่แรงอัดอากาศ ก็เอาชนะอีกฝ่ายได้แล้ว!

“ไม่ใช่แล้ว!”

หลังจากเฝ้ามอง นางที่สะดุ้ง “สตรีผู้นี้ไม่ใช่อาจารย์ยุทธ์ แต่เป็นกษัตริย์ยุทธ์!”

“รู้แล้วรึ?”

หลิงหยวนเสวี๋ยที่เกาศีรษะไปมา ก่อนที่จะปลดปล่อยกลิ่นอายกษัตริย์ยุทธ์ออกมา ทั่วร่างของนางกลิ่นอายที่หนักหน่วงแผ่ออกไปรอบ ๆ!

ก่อนหน้าศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งอีกหลายคนที่ต้องการทดสอบ เวลานี้สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของอีกฝ่าย ถึงกับยืนเป็นไก่ไม้ทันที.

ศิษย์นิกายระดับสอง พวกเขามีความแข็งแกร่งไม่เลว ทว่าต่อหน้ากษัตริย์ยุทธ์ ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือ!

“จริง ๆ”หลิงหยวนเสวี๋ยที่กล่าวท้าอีก “พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเลย.”

จุนซ่างเซียวถึงกับมุมปากกระตุก.

การแสดงของนางช่างอหังการน่าดูชม และยังยั่วยุอีกฝ่ายไม่หยุดอีกด้วย.

“เจ้านิกายจุน!”

เฉิงฮุยซินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สตรีผู้นี้ควรจะเป็นอาวุโสนิกายนิรันดร ให้แกล้งมาเป็นศิษย์ประลองกับศิษย์นิกายข้า นี่ไม่เกินไปหน่อยรึ?”

“ขออภัย นางคือศิษย์สายใน ไม่ใช่อาวุโส.”

จุนซ่างเซียวที่ยักไหล่ “นิกายไป่เหอเซิ่ง หากไม่ต้องการยอมรับความพ่ายแพ้ ก็ไม่ต้องประลอง ทำไมต้องหาข้อแก้ตัวด้วยล่ะ?”

“กึก ซี่!”

เฉิงฮุยซิ้นที่กำหมัดแน่น.

ปรกติแล้วจักรพรรดิยุทธ์นั้นมีจิตใจที่มั่นคง ทว่าเมื่อมาถึงนิกายนิรันดรแล้ว กับพบกับท่าทางอหังการของจุนซ่างเซียวและศิษย์ ทำให้นางแทบบ้าคลั่งไปเลยทีเดียว.

“พวกเจ้าเจ็ดคนออกไป!”

“ค่ะ!”

ยกเว้นมู่หรงซิน ศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งเจ็ดคนที่ก้าวออกไป.

พวกนางคนที่มีระดับพลังสูงสุดคือบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ต่ำสุดบรรพชนยุทธ์ขั้นเจ็ด เวลานี้ยืนประจำตำแหน่งที่ต่างกัน.

แน่นอน.

ไม่สามารถบอกว่าใช้กำลังคนเข้าข่ม ต้องไม่ลืมว่าอีกฝ่ายคือกษัตริย์ยุทธ์.

“ก่อตั้งค่ายกล!”

หลังจากเริ่มแล้ว สตรีคนหนึ่งที่แค่นเสียงเย็นชา.

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

คนทั้งหกที่แยกย้ายไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน ล้อมวงหลิงหยวนเสวี๋ยเอาไว้ ก่อเป็นค่ายพลพิเศษ.

“ค่ายกลเจ็ดดาราคว้าดวงจันทรา.”

จุนซ่างเซียวที่ได้ยินเสียงของเหล่าเจิ้นเอ่ย “เป็นการคิดค้นขึ้นโดยยอดฝีมือ ที่ใช้บรรพชนยุทธ์เจ็ดคนร่วมมือกัน ทำให้มีพลังเทียบเท่ากับกษัตริย์ยุทธ์....”

ตูมมมม!

ตูมมมม!

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ หลิงหยวนเสวี๋ยที่รวมพลังที่ฝ่ามือทั้งสอง ก่อนที่จะใช้หมัดถล่มปฐพี และอีกข้างใช้แสงเจ็ดสีทำลายล้าง จัดการค่ายกลบรรพชนยุทธ์ทั้งเจ็ดให้พังทลายลงในทันที.

เหล่าเจิ้นที่มุมปากกระตุก.

เมื่อกี้บรรยายสรรพคุณยังไม่เสร็จ ต้องถอนคำพูดก่อนแล้ว!

“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุนสำเร็จ ได้รับ 5000 แต้ม!”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนนิกาย : 13743 / 20000.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด