Chapter 620 ก่อตั้งสาขา
หลังจากรู้การมีอยู่ของนิกายทมิฬ จุนซ่างเซียวจึงต้องการข้อมูลส่วนที่ลึกเข้าไปของทวีปชิงหยุนด้วย ไม่ได้ต้องการเห็นทั้งหมด หากแต่ก็ควรจะเป็นส่วนที่สำคัญและเป็นประโยชน์ อย่างน้อยก็ทำให้เขาไม่ได้ดวงตามืดบอดในตัดสินใจกระทำเรื่องต่าง ๆ.
“นอกจากจังหวัดซีเหนียนหยาง เมืองหลวงทุกจังหวัดก็ควรจะมีสาขาของนิกายนิรันดร”จุนซ่างเซียวที่ชี้ไปยังจุดต่าง ๆ ที่ได้วงกลมเอาไว้.
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “จะต้อง สร้างในสถานที่ลับด้วยไหม?”
“แน่นอนว่ายิ่งครอบคลุมเท่าไหร่ยิงดี.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ในใจของเขานั้น ไม่เพียงแค่สร้างสาขา ทว่าเขายังต้องการให้สร้างจุดต่าง ๆ ให้ครอบคลุมโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ บนถนนสายใหญ่ ให้ทุกคนได้รู้ว่า นี่คือสาขานิรันดร!
เมืองชิงหยาง.
เจ้านิกายจุนที่มาด้วยตัวเอง พร้อมกับบอกความคิดแจ้งต่อเซี่ยกวนคุนเกี่ยวกับการเปิดสาขา.
“ไม่มีปัญหา.”
เจ้าเมืองเซี่ยเอ่ย “เอาเป็นพื้นที่ทำเลทองนี้เป็นอย่างไร.”
“ขอบคุณ!”
จุนซ่างเซียวที่วางเม็ดยากลั่นวิญญาณบนโต๊ะ “น้ำใจเล็กน้อย แสดงความนับถือ.”
เขาย่อมไม่ปล่อยให้คนรู้สึกเสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน.
กับคนคุ้นเคย เซี่ยกวนคุนย่อมไม่ปฏิเสธ ขณะที่รับเม็ดยามา เขาได้กล่าวเสียงเบา “เจ้านิกายจุน ยานี้มีผลอย่างไร?”
“หลังจากกินเข้าไปแล้ว จะสามารถกลั่นยกระดับพลังวิญญาณได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เซี่ยกวนคุนที่ตื่นตกใจ หลังจากที่กินเม็ดยาดังกล่าวเข้าไป พลังวิญญาณที่จุดตานเถียนก็เข้มข้นและบริสุทธ์ยิ่งกว่าเดิม ทำให้เขาตื่นตกใจนัก “ลึกล้ำเกินไปแล้ว!”
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
เมืองชิงหยางนั้นดูคึกคักเป็นอย่างมาก มีแผงลอยต่าง ๆมากมาย.
ในเวลานั้นมีร้านแห่งหนึ่ง ที่มีป้ายสีแดง ที่เขียนเอาไว้ว่า สาขานิกายนิรันดร!
นิกายที่แข็งแกร่ง ต่างก็มีการตั้งสาขาขึ้นเป็นธรรมดา ดังนั้นเหล่าผู้ฝึกยุทธ์จึงไม่ได้แสดงท่าทางตื่นตกใจอะไรมากนัก.
เมืองอู่หยาง เจิ้นหยางและเมืองอื่น ๆ ต่างก็มีสาขาของพวกเขาค่อย ๆ เปิดขึ้น.
ส่วนในมนทลชิงหยาง ล้วนแต่มีสาขาของนิกายนิรันดรกันหมดแล้ว จากนี้พวกเขาวางแผนที่จะเปิดในเมืองหลักของมนทลต่าง ๆ ด้วย ต้องไม่ลืมว่า การจะตั้งสาขาให้ครอบคลุมนั้น ต้องใช้ทั้งกำลังคนและทรัพยากรจำนวนมาก.
......
คฤหาสน์ผู้พิทักษ์ เมืองเจิ้นหยาง.
โจวเฉาชุนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวอ่านจดหมายบนโต๊ะ เอ่ยออกมาว่า “จุนซ่างเซียวเปิดสาขาที่มนทลของพวกเราอย่างงั้นรึ?”
“ผู้พิทักษ์.”
กุนซือคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา “พวกเขาที่เพิ่งทำลายสาขาของนิกายโม่ซาและสาขาของหอเทพสังหารไป ตอนนี้ยังเปิดสาขาไปยังมนทลต่าง ๆ ข้าคิดว่าคนผู้นี้มีความทะเยอทะยานที่ไม่ธรรมดา.”
เข้าใจผิดไปแล้ว.
เจ้านิกายจุนที่ต้องการเปิดสาขาเพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลต่างหาก.
โจวเฉาชุนที่ไม่เอ่ย.
ในเวลานี้ เขาเองก็สงสัยเช่นกัน เขาควรที่จะยอมหรือปฏิเสธเรื่องนี้ดี?
หากแต่เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายที่ทุบตีได้แม้แต่ครึ่งปราชญ์ยุทธ์ ผู้พิทักษ์โจวก็ต้องสูดหายใจลึก “เจ้าเด็กคนนี้มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราก็ไม่ควรจะหาเรื่องยั่วยุพวกเขา.”
ขัดขืนไม่ได้ ก็ควรจะประนีประนอม.
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
สาขานิกายนิรันดรก็ถูกก่อตั้งที่เมืองเจิ้นหยางเช่นกัน.
เพียงแค่ครึ่งเดือน.
แต่ละมนทลในจังหวัดซีเหนียนหยาง เจ้าเมืองแต่ละแห่ง ที่ล้วนแต่ต้องโอนอ่อนยอมให้นิกายนิรันดรมาเปิดสาขา.
สาขาของนิกายนิรันดรนั้นไม่เพียงแค่มีหน้าที่สืบข้อมูลต่าง ๆ ทว่ายังช่วยฝึกฝนเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ภายนอก ให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย.
ไม่เพียงแค่ได้รับเงินเดือน หากว่าทำงานได้ดีก็จะได้รับรางวัลพิเศษด้วย.
......
เมืองหลวงบัญชาสวรรค์.
ในวันที่ธรรมดา ๆ แต่ดูคึกคักเป็นอย่างมาก.
เหตุผลนั้นเพราะว่านิกายนิรันดรได้มาเปิดสาขาขึ้นที่เขตตะวันตกนั่นเอง.
“เจ้านิกายจุน ยินดีด้วย ยินดีด้วย!”
ประมุขฉู่ที่นำผู้ใต้บังคับบัญชามา พร้อมกับของขวัญแสดงความยินดี.
หลังจากนั้น ก็เป็นตระกุลเห่า ตระกูลจงและตระกูลใหญ่ต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี.
แม้แต่สถาบันบัญชาสวรรค์และสมาคมรับรองสิทธิ์ก็ส่งคนมา.
คนที่สำคัญที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าเมือง มู่ซ่างหง.
เพียงแค่ไม่นาน.
สาขาของนิกายนิรันดร ต่างก็มีคนสำคัญของเมืองหลวงมารวมตัวกัน.
เหล่าชาวยุทธ์ที่ได้แต่ลอบถอนหายใจ นิกายนิรันดรที่มีชื่อเสียงไปทั่วยุทธภพ พวกเขามีพลังอำนาจ เหนือเกินกว่าจินตนาการ!
......
เพราะว่าเป็นคนพื้นที่ การก่อตั้งสาขากระจายไปทั่วจังหวัดซีเหนียนหยาง แน่นอนว่าไม่ใช่ปัญหา.
อย่างไรก็ตามหากจะขยายออกนอกจังหวัด เกรงว่าจะไม่ง่ายอย่างแน่นอน.
อย่างไรก็ตาม เพราะว่าหลายเมืองเหมือนกันที่กลัวความแข็งแกร่งของนิกายนิรันดร พวกเขาย่อมยินยอม ให้อีกฝ่ายก่อตั้งสาขาขึ้นได้.
จังหวัดซีเป่ยเหอ เมืองหลวง.
นี่คือสถานที่เย่ซิงเฉินเพิ่งทุบตีผู้ฝึกยุทธ์ของที่นี่ไป นิกายนิรันดรก็มาก่อตั้งสาขาที่นี่เช่นกัน.
หากแต่ไม่มีใครมายินดีด้วยแม้แต่คนเดียว.
เหล่าชาวยุทธ์ที่ผ่านไปมาเห็นป้าย ต่างก็เผยแววตาขุ่นเคืองขึ้นมาทันที.
และอีกเรื่องที่เด่นที่สุด บนถนนนั้น ก็มีสาขาของนิกายโม่ซา และหอเทพสังหารอยู่ด้วย.
“จงใจ!”
“นี่ต้องจงใจอย่างแน่นอน!”
เจ้าสาขาของทั้งสองแห่งที่ใบหน้าบิดเบี้ยว.
ใครจะไม่รู้ ว่านิกายนิรันดรเพิ่งทำลายสองสาขาของนิกายปิศาจไป ตอนนี้มาเปิดสาขาต่อหน้า นี่ต้องเป็นการยั่วยุให้พวกเขาโกรธแน่!
ใช่แล้ว.
ยั่วยุพวกเขา.
ความเป็นปฏิปักษ์ที่เบาบางลง แต่พวกเขาก็ยังคงโกรธแค้นไม่สามารถปล่อยวางได้!
ทว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายที่ยกระดับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเขาต้องกล้ำกลืนความโกรธเกรี้ยวลงคอไป.
......
“เจ้านิกาย.”
ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง “26 สาขาก่อตั้งสมบูรณ์แล้ว.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่พยักหน้ารับ.
26 สาขา 26 จ้าวสาขา ให้สมาชิกหอฝนพรำรักษาการก่อนชั่วคราว.
“เจ้านิกาย.”
ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “หอฝนพรำของข้าต้องการสมาชิกเป็นจำนวนมาก ท่านควรจะมอบศิษย์เพิ่มให้กับพวกเรา.”
“เรื่องนี้.”
จุนซ่างเซียวครุ่นคิดและเอ่ยออกมา “มีการรับศิษย์ใหม่เข้ามาทุกเดือน หอฝนพรำจะได้รับสิทธิ์เลือกก่อน.”
“ตกลง.”
ลี่ลั่วฉิวที่พยักหน้าอย่างพอใจก่อนจากไป.
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
นิกายนิรันดรที่เปิดรับสิทธิ์เป็นครั้งที่สอง.
ข่าวเรื่องรับศิษย์ของพวกเขาที่กระจายออกไปหลายมนทล ผู้ฝึกยุทธ์มากมายรู้ว่า นิกายนิรันดรเปิดรับสมัครใครที่ผ่านการทดสอบล้วนแต่ได้รับเป็นสิทธิ์ ทำให้มีคนเดินทางมาเสี่ยงโชคไม่น้อย.
ในครั้งนี้มีคนลงทะเบียนมากมาย 6,000-7,000 คน”
หากแต่คนที่ผ่านรอบแรก มีเพียงแค่พันกว่าคน.
และการทดสอบรอบสอง ก็มีสมาชิกที่ได้รับเข้ามา 500 คน กลายเป็นศิษย์ใหม่.
การรับสมัครสิทธิ์ เจ้านิกายจุนไม่ได้เข้าร่วม เขาได้มอบอำนาจให้กับเหล่าอาวุโส ตอนนี้เขาเพียงแค่นั่งรอฟังจำนวนสมาชิกและคะแนนสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น.
เหล่าศิษย์เข้าใหม่ คนที่จัดเตรียมพื้นที่ เองก็เป็นหลี่ชิงหยาง.
ที่เป็นดั่งผู้จัดการ จัดการธุระต่าง ๆ.
ไม่ว่าจะเป็นนิกายทั่วไป หรือนิกายหลัก เจ้านิกายไม่จำเป็นต้องลงมาคุมเองทั้งหมด การที่นั่งมองภาพรวม ก็ถือว่าเป็นงานที่ถูกต้อง.
เหล่าศิษย์ใหม่ที่ได้รับการคัดเลือกเมื่อเดือนที่แล้ว นับว่ามีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก.
ทันทีที่พวกเขาปรับตัวเข้ากับระบบฝึกฝนของนิกาย พลังบ่มเพาะก็เติบโตอย่างรวดเร็ว.
ยิ่งคัดกรองศิษย์ที่มีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการสนับสนุนก็จะลดน้อยลงเท่านั้น.
เห็นชัดเจนว่าระบบคัดกรองของพวกเขานั้นมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก.
ที่เสียดายที่สุด เหมือนว่าคนที่ถูกคัดกรองออกนั้นมีอัตราที่สูงมาก.
หากแต่จุนซ่างเซียวหาได้กังวล หนึ่งเดือนรับ 200-300 คน หนึ่งปีก็รับคนได้มาจำนวนมากแล้ว.
หนำซ้ำ ถึงแม้นว่าจะไม่มีขีดจำกัดในการรับ หากรับศิษย์หนึ่งแสนคนเข้ามาพร้อมกัน ทรัพยากรในการฝึกฝนไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เพียงพอ มีแต่เสียเวลาไปเปล่า ๆ.
การค่อย ๆ รับศิษย์เข้ามา ให้สอดคล้องกับการพัฒนานิกายถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว.