Chapter 615 ราชันรัตติกาลผู้เกรี้ยวกราด.

ผังผู้กล้าอันดับล่าสุด ผังมนุษย์ลำดับที่ 100 นามฉินฮวยหยู เมืองเหล่ยอวิ๋น จังหวีซีหนานเหอ.

เย่ซิงเฉินและเซียวจุ้ยจื่อ ทั้งสองที่ขี่หมาป่าเฮอริเคน มุ่งหน้าด้วยความเร็วสูง.

ตระกูลฉิน.

คือหนึ่งในตระกูลใหญ่ของเมืองเหล่ยอวิ๋น ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ด้อยว่าสำนักระดับหกเลย.

ฉินฮวยหยู ทายาทสายตรงตระกูลฉิน ที่ได้อันดับหนึ่งร้อยผังมนุษย์ ทำให้ทั้งตระกูลเต็มไปด้วยความภาคภูมิ.

ดังนั้น คนทั่วไปต้องการเข้าพบนั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย.

เย่ซิงเฉินที่มาถึงตระกูลฉิน พูดเพียงไม่กี่คำ เอ่ยออกมาว่า “ข้าต้องการท้าประลอง ฉินฮวยหยู ให้เขาออกมาประลองเร็วเข้า.”

“คิดจะท้าประลองนายน้อยของพวกเรา เจ้าคู่ควรอย่างงั้นรึ?”

“คิดว่าตัวเองเป็นใคร มีคุณสมบัติใด กล้าท้าประลองพรสวรรค์ผู้กล้าผังมนุษย์.”

“คิดว่านายน้อยพวกเรามารอคอยต้อนรับผู้คนทุกคนเลยรึไง คิดว่าตัวเองเป็นใคร ไสหัวไปให้พ้น.”

ผู้คุ้มกันของตระกูลฉินนั้นโอหังเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงได้ยั่วยุทำให้ราชันย์รัตติกาลให้โกรธเกรี้ยว จนต้องใช้วิธีการรุนแรง จัดการคนเหล่านั้น พร้อมกับทุบทางเข้าของตระกูลฉิน.

แม้นว่าวิธีการจะโหดร้าย ทว่าผลที่ได้ก็นับว่ายอดเยี่ยม!

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

เพียงไม่นาน จากลานด้านในตระกูลฉินก็ปรากฏผู้ฝึกยุทธ์สิบคนที่ก้าวออกมา พวกเขาที่มีพลังบรรพชนยุทธ์ เวลานี้จ้องมองด้วยความโกรธมายังผู้เยาว์ทั้งสอง.

เย่ซิงเฉินเอ่ย “ให้ฉินฮวยหยูออกมาต่อสู้.”

“สามหาว!”

ประมุขตระกูลฉินที่ก้าวออกมาจากห้องโถง ระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายปะทุพลังออกมา ก่อนใช้ทักษะพลังวิญญาณ รวมลำแสงและปล่อยออกมา.

ตูมมมมมม!

เย่ซิงเฉินที่ยกหมัดหน่อยไปยังลำแสงระเบิดออกมา.

กึก ครืนนนนนน!

ประมุขตระกูลฉินที่ถูกผลักถอยหลังออกไปหลายก้าว แววตาที่หวาดผวาออกมา “นี่เจ้ามีระดับกษัตริย์ยุทธ์อย่างงั้นรึ?!”

กษัตริย์ยุทธ์?

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลฉินที่ล้อมกรอบ เวลานี้ใบหน้าเปลี่ยนสีไปในทันที!

เย่ซิงเฉินกล่าวออกมาด้วยความเย็นชา “รีบเรียกฉินหวยหยูออกมา ไม่เช่นนั้นข้าจะทำลายตระกูลฉินของเจ้าซะ.”

โอหัง ดุร้ายเป็นอย่างมาก!

เซียวจุ้ยจื่อที่มุมปากกระตุก.

ศิษย์น้องและเจ้านิกายมีรูปแบบที่เหมือนกันจริง ๆ พวกเขาที่บ้าคลั่งเป็นอย่างมาก!

จุนซ่างเซียวที่โอหัง เพราะเขาต้องการสร้างชื่อให้น่าเกรงขาม ให้ทุกคนเข้าใจ นิกายนิรันดร ไม่สามารถยั่วยุได้.

อาจดูเหมือนกัน แต่เป้าหมายนั้นแตกต่าง.

สำหรับอดีตราชันย์รัตติกาล เขาที่เป็นคนโอหังตั้งแต่ชาติที่แล้ว เป็นนิสัยดั้งเดิมของเขา.

ในเมื่อตกลงกันไม่ได้ เขาก็คว่ำโต๊ะเจรจาทันที.

ประมุขฉินที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ ยอดฝีมือระดับกษัตริย์ยุทธ์ไม่สามารถที่จะยั่วยุได้อย่างแน่นอน!

“สหายน้อย.”

อาวุโสคนหนึ่งที่ยกมือประสานไปด้านหน้า “ทายาทสายตรงของพวกเราล่วงเกินท่านอย่างงั้นรึ?”

“ไม่.”

เย่ซิงเฉินที่ในเวลานั้นได้เผยสิทธิ์ในการท้าประลอง เอ่ยออกมาเล็กน้อย “ข้าต้องการประลองยกระดับ.”

“......”

เหล่าคนตระกูลฉินที่มุมปากกระตุกไปมาอย่างรุนแรง.

ชายคนนี้มีพลังบ่มเพาะกษัตริย์ยุทธ์ คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีอันดับ มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ซูมมมม ฟู ฟู่----

เย่ซิงเฉินที่ปลดปล่อยพลังกษัตริย์ยุทธ์ออกมา กลิ่นอายที่น่าเกรงขามกดข่มไปทั่วตระกูลฉิน สายตาของเขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้ารีบ ให้เจ้าเด็กนั่นออกมาเร็ว ๆ.”

สะกดข่ม.

จนทุกคนต้องสั่นสะท้าน.

ก่อนหน้านี้ตระกูลฉินที่ต้องการคิดว่าคนผู้นี้กำลังเข้าใจผิดอะไรหรือไม่ ท้ายที่สุดก็ต้องหวาดผวา ต้องไปเรียกฉินฮวยหยูให้ออกมา.

ปัง!

ปัง!

บนลานยุทธ์ พลังวิญญาณที่บ้าคลั่งกระจายออกไปรอบ ๆ.

เพียงหนึ่งหมัด ก็ทำให้ฉินฮวยหยูหมดสติไปทันที.

“ขยะ.”

เย่ซิงเฉินก็จากตระกูลฉินไปในทันที.

ฟู่-

ทุกคนในตระกูลฉินที่พ่นลมหายใจด้วยความเบาใจ.

ฉินฮวยหยูที่พ่ายแพ้ ถูกเตะออกจากลำดับผังมนุษย์ พวกเขาไม่ได้เศร้าแต่อย่างใด เพราะว่าคนที่จากไปนั้น น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง!

......

ตูมมม---

เมืองโม่ ในลานยุทธ์แห่งหนึ่ง หมัดเย่ซิงเฉินที่กระแทกอีกหนึ่งผู้กล้าลอยออกไป ก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ขยะจริง ๆ.”

จากนั้น ก็ก้าวจากไป.

เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวตาม พลางส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้.

เย่ซิงเฉินเอาชนะไปสองคน ตอนนี้อยู่ในลำดับ 99 ผังมนุษย์.

การเลื่อนลำดับนั้น จะต้องท้าประลองและเข้าไปแทนที่ตำแหน่งดังกล่าว.

เย่ซิงเฉินที่ไล่ทุบตีคนอื่น ๆ ครึ่งเป็นครึ่งตายเพื่อแย่งลำดับมา.

ใช่แล้ว.

หลังจากนี้ไป เกรงว่าคนเหล่านี้คงอยู่ในสภาพอนาถยากจะฟื้นฟู.

เซียวจุ้ยจื่อนั้นวางแผนที่จะยกระดับเหมือนกัน หากแต่ทุกคู่ที่ไปกับทำได้แค่มองเย่ซิงเฉินที่ทุบตีฝ่ายตรงข้ามอย่างหมดสภาพที่จะรับประลองกันคนอื่นได้อีก.

เพียงแค่ไม่กี่วัน.

ทั้งสองที่ผ่านไปหลายจังหวัด ท้าประลองไปกว่า 20 คน.

ไม่จำเป็นต้องถาม ด้วยพลังบ่มเพาะกษัตริย์ยุทธ์ ขอเพียงแค่ต่อสู้ ก็ทุบยอดพรสวรรค์ผังมนุษย์ให้พ่ายแพ้หมดรูปได้อย่างง่ายดาย.

“เจ้าได้ยินไหม เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคนที่โอหัง ท้าทายผู้กล้าพรสวรรค์ผังมนุษย์ไปที่ละคน พวกเขาเอาชนะไปกว่า 20 คนแล้ว!”

“แน่นอน นอกจากนี้ข้ายังรู้ด้วยว่า คนผู้นั้นก็คือศิษย์นิกายนิรันดร นาม เย่ซิงเฉิน!”

“นิกายใหม่นี้ ไม่เพียงแค่เจ้านิกายที่ร้ายกาจ ศิษย์ของเขาก็ร้ายกาจด้วย!”

เหล่าชาวยุทธ์ที่ได้แต่พูดคุยกัน ลำดับผังผู้กล้านั้นจะทำการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆเดือน เพราะว่าพวกเขาเองก็ต้องการดูเหมือนกันว่า เย่ซิงเฉินนั้นจะไปได้ไกลแค่ใหน.

......

นิกายนิรันดร.

ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง เอ่ยออกมาว่า “เจ้านิกาย ผังผู้กล้าล่าสุด เย่ซิงเฉินที่ไม่มีระดับ ตอนนี้ยกระดับไปยังผังมนุษย์ลำดับ 45 แล้ว.”

“...”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เพียงแค่ครึ่งเดือน เขาได้ท้าทายยอดพรสวรรค์ไป 55 คน ดูเหมือนว่าจะรวดเร็วเป็นอย่างมาก.”

หากว่าพวกเขามีเหยี่ยวทมิฬสันเขาอสูร เกรงว่าเย่ซิงเฉิน ที่ตะเวนไปยังดินแดนต่าง ๆ คงจะเร็วยิ่งกว่านี้.

“เจ้านิกาย.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ในการประลองแต่ละครั้ง เขาที่ทำร้ายคู่ต่อสู้อยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตาย หากเป็นเช่นนี้ เกรงว่าจะยั่วยุความโกรธเกรี้ยวผู้คนมากมาย.”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดและเอ่ยออกมาว่า “หากไม่มีพลัง ก็ควรที่จะยอมรับอย่างนอบน้อม.”

ศิษย์เป็นอย่างไร เจ้านิกายก็เป็นเช่นนั้น!

......

“โอ้วสวรรค์ เจ้าคนนี้ไม่เคยเห็นในอันดับมาก่อน ข้ามผ่านห้าสิบลำดับแล้ว ความเร็วนี้มัน เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เลยหรือไม่?”

การประกาศอันดับผังผู้กล้าล่าสุด พวกเขาที่เห็นอันดับเย่ซิงเฉิน ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์มากมายต้องดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

การประลองยังคงดำเนินต่อไป.

ครึ่งเดือนหลังจากนั้น อันดับที่เปลี่ยนไป.

เย่ซิงเฉินจากอันดับ 45 ได้มาอยู่ในลำดับสองแล้ว เขาที่ทำให้หลากหลายจังหวัดต้องสั่นสะเทือน.

เพียงแค่สามสิบวัน.

ก็มาอยู่ในลำดับสองแล้ว ความเร็วนี้มันเกินจะพรรณนาแล้ว!

......

เมืองหลวง จังหวัดซีเป่ยเหอ.

ในเวลานี้ ที่ด้านนอกสนามการแข่งขันมีชาวยุทธ์กว่าแสนคน.

“เขาคือเย่ซิงเฉินอย่างงั้นรึ?”

“หนึ่งเดือน มาถึงอันดับสอง เป็นการยกระดับที่น่าเกรงขามมาก!”

“การประลองครั้งนี้คือท้าประลองอันดับหนึ่งผังมนุษย์ หากเขาชนะอีก ไม่ใช่ว่าเขาชนะทุกอันดับทั้งหนึ่งร้อยเลยรึ?!”

ในลานประลอง เย่ซิงเฉินที่ยืนมือขัดหลังอย่างภาคภูมิ.

หลังจากชนะอันดับสอง เขาก็เดินทางมายังเมืองหลวง เพื่อท้าทายอันดับหนึ่งผังมนุษย์ ทำให้เป็นที่พูดคุยจากผู้คนมากมาย.

“นายน้อยซุนมาแล้ว!”

ในเวลานั้น มีเสียงใครคนหนึ่งที่ตะโกนออกมา.

ในเวลานั้น บนเส้นทางเดิน เห็นผู้เยาว์ที่หล่อเหล่าผู้คนห้อมล้อมกำลังเดินเข้ามา.

ซุนเหอหยู.

ทายาทสายตรงตระกูลซุนเมืองหลวง.

อันดับหนึ่งผู้กล้าผังมนุษย์.

เหล่าพรสวรรค์ในจังหวัดซีเป่ยเหอนั้นมีไม่มากนัก ซุนเหอหยูที่อยู่ลำดับหนึ่ง แน่นอนว่าย่อมเป็นคนที่โดดเด่น ผู้คนมากมายยกย่องนับถือ.

“นายน้อยซุนแข็งแกร่งที่สุด!”

“เขาต้องชนะเย่ซิงเฉินอย่างแน่นอน!”

“หากว่าข้ามีเงินนะ ข้าจะทุ่มฝั่งน้ายน้อยซุนหมดตัวเลย!”

ทันทีที่ซุนเหอหยูมาถึง ก็ทำให้พื้นที่รอบ ๆ วุ่นวายขึ้นมาทันที.

กล่าวได้ว่าเขาที่มีลำดับหนึ่งเมืองหลวงแห่งนี้ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม.

“กึก.”

ซุนเหอหยูที่กระโดดขึ้นเวทีกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เจ้ามาถึงอันดับสองในเวลาสั้น ๆ ก็พอมีความสามารถบ้างเล็กน้อย ไม่ควรจะมาท้าทายนายน้อยผู้นี้แม้แต่น้อย รีบยอมแพ้ไปซะ แล้วข้าจะให้อภัย.”

“โอ้ย หล่อเหลา เกินไปแล้ว ไม่ไหว จะเป็นลมแล้ว!”

เหล่าหญิงสาวที่ส่งเสียเชียร์และโปรยดอกไม้ส่งยิ้มหวานให้กับซุนเหอหยูไม่หยุด.

จากนั้นพวกเขาไม่ลืมหันหน้าไปยังทิศทางของเย่ซิงเฉิน พร้อมกับเผยท่าทางดูแคลนไม่รู้สึกฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้ามาท้าทายบุรุษในดวงใจของพวกนาง รอก่อนเถอะเจ้าต้องถูกทุบอยู่ในสภาพอนาถแน่!

เซียวจุ้ยจื่อที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา “คนผู้นี้ถึงจะพอมีความแข็งแกร่งบ้าง แต่เกรงว่าคงหนีไม่พ้นที่จะถูกศิษย์น้องเย่ยำจนเละเป็นแน่.”