ตอนที่แล้วChapter 605 ความแข็งแกร่งนิกายยกระดับขึ้น.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 607 นี่คือมือดาบ

Chapter 606 กฎนิกาย


หลังจากที่มู่ซ่างหงจากนิกายนิรันดรไปแล้ว เขาก็รอคอยจุนซ่างเซียวที่จะไปหาตนตลอด ท้ายที่สุดกับไม่มีร่องรอยเลย.

ไม่ได้การแล้ว.

เขาควรจะเป็นคนเริ่มต้นเอง.

ดังนั้น เขาจึงนำมู่หงเหลียนเข้ามาพบอีกฝ่ายเอง.

ความจริงไม่ใช่ว่าเจ้านิกายจุนต้องการก้าวออกไปขอบคุณ แต่เพราะว่าก่อนหน้านี้เขายังได้รับผลข้างเคียงของยันต์จักรวาลอยู่ แม้แต่ต้องพัฒนานิกายให้สำเร็จภารกิจมหากาพย์ การจะไปเยี่ยมเยือนเจ้าเมืองมู่ จึงไม่มีเวลาที่เหมาะนั่นเอง.

หลายเดือนมานี้ มู่ซ่างหงได้ตรวจสอบจุนซ่างเซียวไม่น้อย.

โดยเฉพาะ เรื่องรักใคร่!

ท้ายที่สุดก็ทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก คนผู้นี้ที่พัฒนานิกายเป็นหลัก แทบจะไม่มีความรู้สึกรักใคร่กับใครเลย.

แน่นอน.

ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่ทำให้เขาตะลึงไม่น้อย ยกตัวอย่าง.

ประมุขผู้ดูแลนิกายจนได้รับการประเมิน 3A  แต่กับไม่มีเรื่องราวชู้สาว.

มู่ซ่างหงเองก็เป็นคนรักเดียวใจเดียว.

การที่เห็นจุนซ่างเซียวอนาคตไกลเช่นนี้ ทำให้เขาคาดหวังเป็นอย่างมาก อารมณ์ความรู้สึก แน่นอนว่าต้องเกิดจากความประทับใจกันก่อน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะส่งบุตรสาวมาฝึกฝนในนิกายแห่งนี้.

ในเมื่อนิกายนิรันดร์ยังขาดศิษย์อยู่? เขาจึงต้องการให้บุตรสาวของตัวเองเข้าร่วมนิกายด้วย.

หากแต่ลึก ๆ ในใจนั้น คือข้าขาดบุตรเขย ต้องการให้เจ้าแต่งกับบุตรสาวของข้าต่างหาก.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ขาดอย่างแน่นอน!”

พรสวรรค์ของจวิ้นจู่หงเหลียนไม่มีอะไรโต้แย้ง นอกจากนี้นิกายของเขาที่มีบุรุษมากกว่าสตรี หากเป็นสตรีแล้วถึงแม้นว่าจะมากันหลายร้อย เขาก็ยินดีต้องรับอย่างไม่ลังเล.

“หงเหลียน.”

มู่ซ่างหงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ยังไม่เข้ามาคารวะเจ้านิกายอีก.”

ในเมื่อเจ้านิกายจุนที่ให้ความสำคัญกับศิษย์ทุกคน การให้บุตรสาวมาฝึกฝนที่นี่ ทั้งสองจะเริ่มสนิทกันช้า ๆ และรอคอยให้สุกงอมในอนาคต.

เจ้าเมืองมู่ที่วางแผนไว้แล้ว เขาไม่สนใจเกี่ยวกับว่าจะมีความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์กันแต่อย่างใด.

ในความเห็นของเขา สตรีและบุรุษที่มีอายุใกล้เคียงกัน ขอเพียงไม่ใช่ญาติพี่น้อง ก็สามารถตกหลุมรักกันได้ทั้งนั้น.

ส่วนเรื่องดูแลเมืองนะรึ?

เขายังไม่แก่ ยังมีแรงเหลือเฟือ ย่อมให้ความสำคัญกับความสุขของบุตรสาวก่อน.

มู่หงเหลียนรู้ว่าบิดาให้นางเข้าร่วมนิกายนิรันดร เพราะคิดถึงตัวเอง นางที่ก้าวเข้ามายกมือประสาน “ศิษย์มู่หงเหลียน คารวะเจ้านิกาย.”

นางต้องการเข้าร่วมนิกายนิรันดรอยู่แล้ว.

ทว่าบิดาของนางยังไม่ออกมาจากการปิดด่าน นางต้องดูแลเมือง จึงได้ชะลอเวลาไปก่อน ตอนนี้สมปรารถนาแล้ว.

ส่วนความคิดอย่างอื่นของบิดานาง มู่หงเหลียนหาได้ใส่ใจ การที่นางเข้าร่วมนิกายนิรันดร ก็เพื่อต้องการแข็งแกร่ง เรื่องใด ๆ หาได้ใช่เรื่องสำคัญ.

“ติ๊ง!”

หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว จวิ้นจู่หงเหลียนที่กลายเป็นศิษย์นิกายนิรันดรอย่างเป็นทางการ.

“เจ้านิกายจุน.”

มู่ซ่างหงที่เอ่ยกล่าวออกมาว่า “บุตรสาวแก้วตาของข้าคงต้องมอบให้ท่านแล้ว.”

ถึงจะพูดเช่นนั้นออกมา แต่ก็ยากจะควบคุมอารมณ์เล็กน้อย แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่.

ความรักของบิดาและบุตรสาวก็ยากจะทำใจที่จะอยู่ห่างกันได้.

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าช้าหรือเร็ว วันหนึ่งบุตรสาวก็ต้องแต่งออกไปเขาต้องยอมรับเรื่องนี้.

เจ้าเมืองมู่!

บุตรสาวของท่าน นางเข้ามาเป็นศิษย์ ไม่ได้แต่งงาน ไม่ต้องบ่มอารมณ์ขนาดนั้น!

......

มู่ซ่างหงยังไม่จากไป ทว่ายังคงพูดคุยกับจุนซ่างเซียว.

ทั้งสองที่พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วโลก แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและกัน.

“ได้เวลาที่เหมาะสมแล้ว”

ความมืดที่คืบคลานเข้ามา มู่ซ่างหงที่ลุกขึ้นและกล่าวลา.

มู่หงเหลียน หลังจากเก็บของเข้าที่พักนางก็ออกมาส่งบิดา แววตาที่ดูสั่นไหว แต่นางก็อดกลั้นและกล่าวออกมาว่า “ท่านพ่อ.”

“บุตรสาว.”

มู่ซ่างหงที่ชะงักและเอ่ยออกมาว่า “ฝึกฝนในนิกายนิรันดรให้ดี อย่าทำให้บิดาผิดหวัง.”

อารมณ์ที่ซับซ้อนผันผวน มู่หงเหลียนที่เงียบและเอ่ยกล่าวออกมาว่า “อืม.”

มู่ซ่างหงที่จากไปแล้ว.

มู่หงเหลียนที่กวาดตามองไปรอบ ๆ ขณะที่เข้ามาในนิกาย นางยังรู้สึกทุกอย่างแปลกประหลาด.

“รุ่นพี่หญิง.”

เห่าหลิงที่ส่งเสียงออกมา “อยู่ในนิกายนิรันดร ต้องระวังศิษย์พี่ลี่ให้ดี การเตะฟุตบอลของเขานั้นไร้เหตุผลอย่างสมบูรณ์!”

พวกเขาที่ได้รับประสบการณ์มาก่อน ย่อมตระหนักได้ถึงปิศาจร้ายตัวนี้ได้.

ฟิ้ว -----------

เป็นความจริง ฟุตบอลแห่งความสุขที่พุ่งมาเป็นริ้วแสง เสียงดังกึกก้องจากลานยุทธ์.

“รุ่นพี่หญิง ระวัง.....”

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ ดวงตาของเห่าหลิงที่เบิกกว้าง เพราะว่าเป้าหมายฟุตบอลที่พุ่งมานั้นไม่ใช่มู่หงเหลียน แต่เป็นเขาต่างหาก!

“แม่จ๋า!”

เขาที่คร่ำครวญเร่งรีบหลบอย่างรวดเร็ว.

ทว่าไม่มีเวลาพอแล้ว เขาที่ถูกลูกบอลกระแทกใบหน้า ก่อนกระเด็นชนกำแพงเสียงดังสนั่น.

“......”

มู่หงเหลียนที่ยืนนิ่งงงงวยเป็นไก่ไม้ไปเลย.

วัตถุที่ลอยมานั้น แม้นว่าจะไม่ได้รวดเร็ว แต่กับดูเหมือนว่าจะไม่สามารถที่จะหลบให้พ้นได้.

เท้าชั่งทองของลี่เฟยนั้นเป็นทักษะสังหารชัด ๆ เขาที่มีความแม่นยำร้อยเปอเซ็นในการจู่โจมใบหน้า.

เมื่อเขาใช้ทักษะดังกล่าวออกมา นอกจากเจ้านิกายและศิษย์ไม่กี่คนที่หลบได้ ทุกคนล้วนแต่ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน.

......

กฎเกณฑ์ในนิกายนิรันดรค่อนข้างเข้มงวด.

มีการแบ่งแยกศิษย์ชายหญิงชัดเจน ทำให้มู่หงเหลียนไม่รู้สึกขัดเขินนัก หลายวันมานี้นางเริ่มคุ้นชินขึ้นมาบ้าง.

“เจ้านิกาย.”

ในวันหนึ่ง นางที่เข้ามาในห้องโถง “ข้าฝึกฝนวิชาเพลิงแผดเผาได้หรือไม่?”

แน่นอนว่านางหมายถึงคมเพลิงแผดเผา.

ในเวลานั้น เมื่อจุนซ่างเซียวไปยังสถานบันบัญชาสวรรค์ ได้ใช้ทักษะดังกล่าวออกมา ทำให้จวิ้นจู่หงเหลียนประทับใจเป็นอย่างมาก.

“ทักษะดังกล่าว มีเพียงบุรุษที่ฝึกได้.”

“น่าเสียดาย.”

มู่หงเหลียนที่เผยแววตาเศร้า.

“.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในนิกายมีทักษะยุทธ์ที่ไม่เลวหลายวิชา เจ้าสามารถเลือกศึกษาได้ หยวนเสวี๋ย พาหงเหลียนไปยังหอตำรา.”

“ค่ะ เจ้านิกาย.”

หลิงหยวนเสวี๋ยที่นำมู่หงเหลียนไปยังหอตำราทันที.

ภายในนั้น มีทักษะยุทธ์มากมายบนชั้น นางที่เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ “มีทักษะยุทธ์มากมายขนาดนั้นเลยรึ?”

“ศิษย์น้อง.”

“มันเป็นทักษะยุทธ์จากภายนอก.”

“เจ้านิกายนำมันมาวางไว้ให้เต็มพื้นที่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องฝึก ศิษย์นิกายของพวกเราก็ต้องฝึกทักษะของนิกายของพวกเรา.”

หลิงหยวนเสวี๋ยเอ่ยและชี้ไปยังชั้นแห่งหนึ่ง และเอ่ยออกมาว่า “นี่คือทักษะยุทธ์พิเศษของนิกายนิรันดร เจ้าสามารถเลือกฝึกฝนได้เลย.”

“อืม.”

มู่หงเหลียนที่ก้าวเข้าไปหยิบ คมวิญญาณ นี่คือทักษะพลังวิญญาณที่นางเคยเห็นมาก่อน.

คมวิญญาณแม้ว่าระดับจะไม่สูง ทว่ามันคือทักษะพลังวิญญาณ ที่กินพลังวิญญาณต่ำ แต่ทรงพลังจนน่ากลัว

จากนั้น.

มู่หงเหลียนที่จ้องมองไปยังหมัดระเบิด ฝ่ามือสะบั้นภูผา นอกจากนี้ยังมีวิชาเกราะวิญญาณ และอีกหลายวิชา ที่ทำให้นางดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น.

โดยเฉพาะแสงเจ็ดสีทำลายล้าง!

วิชานี้เป็นวิชาที่ไม่เคยเห็นในทวีปชิงหยุนมาก่อนเลย มันดูลึกล้ำเป็นอย่างมาก!

ขณะนางเลือกตำรายุทธ์ นางอดไม่ได้เลยที่จะกล่าวเสียงเบา “ไม่แปลกใจเลยว่าศิษย์พี่ทุกคนจะแข็งแกร่งขนาดนี้ มีทักษะยุทธ์ชั้นเลิศเช่นนี้นะเอง!”

“ศิษย์น้อง.”

หลิงหยวนเสวี๋ยเอ่ย “ต้องไปรับเม็ดยาบูรณะร่างกายและเม็ดยากลั่นวิญญาณด้วย ข้าจะนำเจ้าไปเอง.”

“เม็ดยาบูรณะร่างกายอย่างงั้นรึ?”

มู่หงเหลียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ “นั่นคือเม็ดยาที่ตระกูลอ้ายเมืองฮู่หยางนำออกประมูลนะรึ?”

เม็ดยาเหล่านั้น นางได้ยินมาก่อน ทว่านางไม่ได้ใส่ใจนัก แม้นว่านางจะสนใจ แต่ราคาและการได้มาก็ไม่ได้ง่ายเลย.

“ใช่แล้ว.”

หลิงหยวนเสวี๋ยเอ่ย “ในนิกายของพวกเรา ศิษย์ใหม่ทุกคนล้วนแต่ได้รับกันทั้งหมด.”

มู่หงเหลียนที่ชะงัก.

มันคือเม็ดยาที่แพงมาก แต่กับมอบให้กับศิษย์ใหม่ทุกคน อธิบายได้ว่า นิกายมีอยู่เป็นจำนวนมาก!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด