Chapter 601 คลื่นสงัดลมสงบ
[ 风平浪静 [fēngpínglàngjìng] คลื่นสงัดลมสงบ หรือหมายถึง ปลอดภัยไร้กังวล/มีสวัสดิภาพ]
ในเวลานั้นปรากฏร่าง ๆ หนึ่งมาขวางพวกเขา สี่จักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลายทั้งสี่ถึงกับสะดุ้งตกใจใบหน้าเปลี่ยนสี.
กลิ่นอาย แรงกดดันนี้.
พวกเขาที่ตระหนักได้ว่า ผู้เยาว์คนนี้เป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน!
“ผู้ยอดเยี่ยมเป็นใครอย่างงั้นรึ?”
จักรพรรดิยุทธ์นิกายโม่ซาที่เร่งรีบประสานมือกล่าวออกมา.
“จุนซ่างเซียว.”
จุนซ่างเซียว?
เจ้านิกายนิรันดร?
สี่จักรพรรดิยุทธ์ที่เผยแววตาตื่นตะลึง.
พวกเขาที่ได้รับข้อมูลมาว่า เขามีระดับกษัตริย์ยุทธ์สองวิถี แล้วจะมีทักษะบินได้อย่างไร!
จักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งกล่าวสอบถามออกไป “เจ้าคือจุนซ่างเซียวอย่างงั้นรึ?”
ซูมมมม--
ฝ่ามือของเจ้านิกายจุนที่สะบัดออกไปเบา ๆ ทว่ากับเกิดเสียงดังกึกก้องตบไปยังใบหน้าด้านซ้ายของอีกฝ่าย กระแทกร่างของเขากระเด็นหล่นลงพื้นทันที.
ตูมมมมม!
พื้นดินเป็นหลุม ใหญ่ยักษ์ขึ้นมา!
ใบหน้าของจักรพรรดิยุทธ์คนดังกล่าวไม่เพียงเป็นรอย ทั่วร่างของเขาที่ราวกับปวดร้าวไปหมด จนหมดสติไปในทันที.
“แฮก ๆ!”
อีกสามคนที่ดวงตาเบิกกว้างหวาดผวาขึ้นมาทันที.
จัดการจักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลายได้ในทันที คน ๆ นี้คือครึ่งก้าวปราชยุทธ์อย่างงั้นรึ?!
ไม่ใช่!
ห้วงมิติที่สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนนี้ ที่เขาโจมตีออกมา เขาควบคุมพลังมิติได้อย่างหมดจด หรือว่า.....
“ปราชญ์ยุทธ์!”
ทั้งสามที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
ตูมมม!
ตูมมม!
ตูมมม!
จุนซ่างเซียวที่ไม่รอช้า สะบัดมือ ตบทั้งสาม ล่วงหล่นลงพื้นทันที.
การเดินทางมาครั้งนี้ ทั้งสี่กำลังปรึกษากัน ว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะขู่นิกายนิรันดร์ได้ผล เพื่อนำศิลาวิญญาณกลับมา.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรพรรดิยุทธ์หอเทพสังหารที่พบกันระหว่างทาง ได้เสนอที่จะช่วย โดยขอส่วนแบ่งเป็นศิลาวิญญาณด้วย.
ด้วยเหตุนี้.
พวกเขาที่วางแผนกันอยู่ ไม่ได้พุ่งไปยังเทือกเขาไท่กู่ทันที.
และน่าเสียดายที่ไท่จางเหล่าวังจื่อหาน เข้าไปสร้างปัญหากับนิกายนิรันดรก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร!
“พรึด โครม!”
“พรึด โครม!”
สี่จักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลายที่นอนเรียงอยู่บนลานยุทธ์ ต้นกำเนิดวิญญาณของพวกเขาถูกจุนซ่างเซียวเก็บไป.
หากนับรวมไท่จางเหล่าวังจื่อหาน ห้าคนนี้ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งมาก สามารถที่จะกวาดล้างไปทั่วสารทิศได้เลย.
“เจ้านิกาย.”
เหล่าเหว่ยเอ่ยถาม “จะให้พวกเขามาเป็นคนสวนอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา “จักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลายดูมีราคาเป็นอย่างมาก หากนำไปเรียกค่าไถกับสองนิกายปิศาจน่าจะคุ้มกว่านำมาเป็นทาส.”
การควบคุมไท่จางเหล่าวังจื่อหาน เพราะพวกเขาขัดแย้งกันอย่างรุนแรงแล้ว.
แต่นิกายปิศาจระดับสามนั้นต่างกัน.
หากเขาสังหารสี่จักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลาย จะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงจนต้องตกตายกันไปกันข้างหนึ่งแน่.
และหากให้พวกเขากลายเป็นทาสอยู่ที่นี่ พวกเขาเองก็คงไม่ยอมแพ้เช่นกัน.
ทางเลือกที่ดีที่สุด การเรียกค่าไถ่จะช่วยเพิ่มทรัพยากรให้กับนิกายมากขึ้น.
หลังจากคำนวณเสร็จสรรพ สี่จักรพรรดิยุทธ์ที่ถูกนิกายนิรันดร์จับนี้ จะต้องให้นิกายปิศาจทั้งสอง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจ่ายค่าไถ่เท่านั้น.
เหล่าเหว่ยเอ่ย “จักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลาย ถือเป็นสุดยอดฝีมือ นิกายโม่ซาและหอเทพสังหารย่อมยินดีที่จะจ่ายค่าไถอย่างแน่นอน.”
“เอาตัวไป!”จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงดัง.
ฟิ้ว!
ฟิ้ว!
ซูเซียวโม่และลี่เฟยวิ่งเข้ามา ก่อนที่จะลากทั้งสี่ที่หมดสติออกไป.
คนแรกครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์ ต่อมาเป็นสี่จักรพรรดิยุทธ์ขั้นปลาย ทำให้พวกเขารู้สึกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก.
ใช่แล้ว.
กับสุดยอดฝีมือนั้น ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปได้แต่แหงนหน้ามอง หากแต่พวกเขากับคุมตัวไปขังได้อย่างสบาย ๆ.
“ฟิ้ว!”
ด้วยค่ายกลคุ้มสำนักใช้การไม่ได้แล้ว มู่ซ่างหงที่ร่อนลงมายังที่ลานยุทธ์.
“เจ้าเมืองมู่.”
จุนซ่างเซียวยกมือประสาน “ขอบคุณที่ช่วยเหลือ จุนโหมวซาบซึ้งยิ่งนัก.”
เป็นความเคารพอย่างแท้จริง.
ไท่จางเหล่าที่โจมตีมาทันทีทันใด ไม่ได้ให้โอกาสเขาได้ซื้อสินค้าในระบบแม้แต่น้อย หากไม่มีมู่ซ่างหงยื่นมือเข้าช่วย เกรงว่าครั้งนี้นิกายนิรันดรคงพบหายนะใหญ่แน่.
ต้องรีบ ต้องแข็งแกร่งให้เร็วกว่านี้.
สถานการณ์เช่นนี้ ไม่สามารถยอมให้เกิดขึ้นได้อีก!
มู่ซ่างหงเอ่ย “ที่จริงข้าไม่ลงมือ นิกายนิรันดร์ของเจ้าก็คงไม่มีปัญหา.”
ไม่ต้องกล่าวถึงพลังบ่มเพาะของจุนซ่างเซียวที่ระเบิดออกมา กล่าวถึงเสี่ยวหลงที่พุ่งออกไปนั้น.
ด้วยพลังของมันที่ทุ่มสุดตัว มู่ซ่างหงก็คาดว่าน่าจะรับมือกับฝ่ามือนั้นได้.
อย่างไรก็ตาม ถึงจะไม่ได้เข้าปะทะกับฝ่ามืออากาศดังกล่าวนั้น เวลานี้มันกับได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน.
จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาอีกครั้ง “ขอบคุณสถาบันบัญชาสวรรค์ และสมาคมรับรองสิทธิ์ ที่ลอบช่วยอยู่.”
ยอดฝีมือสถาบันบัญชาสวรรค์และสมาคมรับรองสิทธิ์ที่บินออกมา เอ่ยกล่าวด้วยท่าทางอักอ่วน “นิกายนิรันดร์สามารถแก้ปัญหาครั้งนี้ได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าเมืองมู่อีก พวกเราไม่จำเป็นเลย ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง.”
เพียงแค่ทุกคนมีเจตนาที่ดี ก็ยอดเยี่ยมแล้ว.
จุนซ่างเซียวไม่สนว่าพวกเขาจะช่วยหรือไม่ เขาได้ยกมือประสานไปด้านหน้า “กลับไปแจ้งผู้อำนวยการซือถูและเจ้าสมาคมอี้ด้วย บุญคุณครั้งนี้จุนโหมวจะจดจำเอาไว้ หลังจากนี้หากมีเรื่องอะไรที่นิกายนิรันดรทำได้ ถึงจะบุกน้ำลุยไฟ ก็จะไม่ลังเลย.”
เขาที่เอ่ยกล่าวออกมาด้วยความจริงใจ!
ฟิ้ว!
จุนซ่างเซียวที่อุ้มเสี่ยวหลงที่หมดสติขึ้นมา “สัตว์พันธสัญญาของข้าบาดเจ็บหนักไม่น้อย คงไม่สามารถที่จะอยู่รับรองทุกท่านได้นาน.”
“......”
มู่ซ่างหงที่มุมปากกระตุก ที่จริงเขาต้องการอยู่ เพื่อตรวจสอบบุตรเขยสุดเฮงคนนี้อีกสักหน่อย.
อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสอีกมาก.
มู่ซ่างหงยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “เจ้านิกายจุน เช่นนั้นขอตัว.”
เขาและผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสององกรค์ ก็บินจากไปยังขอบฟ้าไกล กลิ่นอายที่ลึกล้ำปกคลุมนิกายนิรันดร์ ค่อย ๆ สลายหายไป.
เกี่ยวกับเรื่องครึ่งก้าวปราชญ์ยุทธ์และยอดฝีมือจากสองนิกายปิศาจบุกรุกดินแดนครั้งนี้ เพียงแค่วันเดียวก็กระจายไปทั่วจังหวัดซีเหนียนหยางแล้ว ทำให้สั่นสะเทือนไปทุกหย่อมหญ้า!
สิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันนั้น หาได้เกี่ยวข้องกับไท่จางเหล่าวังจื่อหานถูกทุบตี แต่เป็นเรื่องที่จุนซ่างเซียวทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น!
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้านิกายจุนใช้ทักษะเทวะ อันเชิญจิตวิญญาณบรรพชนมาประทับร่าง ทำให้พลังเพิ่มขึ้นกลายเป็นปราชญ์ยุทธ์!”
“โอ้วสวรรค์ มีเรื่องที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ด้วยรึ?!”
“ในอดีตนั้นที่งานรับศิษย์ร้อยสำนัก เจ้านิกายจุนบอกว่านิกายนิรันดรนั้นสืบทอดมาจากนิกายโบราณ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่คำพูดโม้เหม็นแล้ว!”
“ไม่แปลกใจเลยว่าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แท้จริงแล้วได้รับมรดกจากนิกายโบราณนี้เอง.
เรื่องที่จุนซ่างเซียวแต่งขึ้นในครั้งนั้น เวลานี้มันได้กลับมาแพร่สะพัดอีกครั้ง.
เพราะคงมีเพียงเรื่องดังกล่าวนี้เท่านั้น ถึงจะสมเหตุสมผล ว่าทำไมนิกายนิรันดร์ถึงได้เติบโตรวดเร็วในเวลาอันสั้น.
ขณะเดียวกันข่าวคราวดังกล่าวได้กระจายไปด้านนอกดินแดน เมื่อเหล่านิกายใหญ่ได้ยิน แน่นอนต่างก็พูดคุยกันไปมา สงสัยว่าพวกเขานั้นได้รับมรดกจากโบราณจริงหรือไม่?
ต้องไม่ลืมว่าเรื่องในยุคโบราณนั้นค่อนข้างมีข้อมูลน้อยนิด โดยเฉพาะเรื่องเมื่อหมื่นปีที่แล้ว.
หากนิกายนิรันดร์ได้รับมรดกตกทอด เกรงว่าคงเป็นนิกายที่มีประวัติความเป็นมานับหมื่นปีแน่ ในเวลานั้นมียอดฝีมือมากมายราวกับดอกเห็ด และมีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ที่คนในยุคปัจจุบันเทียบไม่ได้เลย!
ดังนั้นการที่อีกฝ่ายเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง เรื่องสืบทอดนิกายโบราณ บางทีก็ดูเหมือนว่าจะมีเหตุผลที่สุด.
และการที่พวกเขาตั้งนามนิกายว่า นิรันดร์ เช่นนี้ เพราะพวกเขาสืบทอดมาจากนิกายโบราณหลายหมื่นปี ก็ไม่นับว่าโอหังแต่อย่างใด.
คำพูดจาโม้แหลกลานในเวลานั้น ยิ่งทำให้คนอื่น ๆ เชื่อมากขึ้นว่าเป็นจริงตามนั้น ไม่เว้นแม้แต่เจ้าเมืองมู่.
......
“จู่เหริน!”
ในห้องหนังสือ เซียวโม่เซียนที่ยกน้ำชามาเสิร์ฟ “น้ำชาได้แล้ว.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่รับน้ำชา ขณะยกขึ้นมือของเขาที่สั่นไปมา จนทำให้ถ้วยและที่วางปะทะกันไปมา เสียงดังกึก แก๊ก.
การทุบตีครึ่งปราชญ์ยุทธ์ก่อนหน้านี้น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก หากแต่ตอนนี้ไม่มีแรงแม้แต่ยกน้ำชาขึ้นจิบ ผลของยันต์จักรวาลดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดาเลย.
เจ้านิกายจุนที่เวลานี้อ่อนแรงไม่มีแม้แต่ผูกไก่ได้.
อย่างไรก็ตาม.
เขาไม่ได้โศกเศร้าอะไร.
การที่ยกระดับเป็นปราชญ์ยุทธ์ สั่งสอนไท่จางเหล่าวังจื่อหานได้ นับว่าคุ้มค่ามาก.
หนำซ้ำ.
เขาที่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์ แต่กับสามารถกลายเป็นปราชญ์ยุทธ์ได้ชั่วคราว ทำให้เขาได้รับประโยชน์มากมาย.
“จู่เหริน.”
เซียวโม่เซียนจ้องมองเสี่ยวหลงที่นอนอยู่ในรังขนาดเล็ก เอ่ยกล่าวเสียงแข็ง “เจ้าจิ้งจกน้อยตื่นเมื่อไหร่ ท่านต้องสั่งสอนให้หนัก!”
ข้าปรารถนาดีที่จะช่วยเขาต้านฝ่ามือร่วมกัน แต่กับถูกไล่และด่าว่า!
จุนซ่างเซียวเอ่ย “สาวน้อย เสี่ยวหลงกังวลว่าเจ้าจะได้รับบาดเจ็บ แม้นว่าจะใช้วิธีรุนแรงไปบ้าง ทว่ากับมีเจตนาดี.”
“ฮึ.”
เซียวโม่เซียนที่เบ้ปาก “เขาต้องฉวยหาโอกาสรังแกข้าอยู่แล้ว!”
