ตอนที่แล้วบทที่ 29: การซุ่มโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31: การรับเป็นศิษย์

บทที่ 30: แมลงวิญญาณมรณะ


บทที่ 30: แมลงวิญญาณมรณะ

หากเขาสามารถทำได้อีกครั้ง ซูฟ่านก็จะปฎิเสธเย่เสี่ยวเหยาอย่างแน่นอนในครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน และถอยออกไปเล็กน้อยหลังจากนั้น ซึ่งนั่นจะปลอดภัยกว่า

การเป็นเพื่อนกับเย่เสี่ยวเหยามันอันตรายเกินไปจริงๆ

จิตใจของซูฟ่านกำลังเต้นแรงในขณะนี้ เขากำลังคิดว่าจะแก้ไขวิกฤติในปัจจุบันได้อย่างไร

ในขณะนี้ ซูฟ่านได้รับการส่งสัญญาณจากเย่เสี่ยวเหยา

“ศิษย์น้องซู ข้าขอโทษที่ลากเจ้าเข้ามามีเอี่ยวในเรื่องนี้ด้วย”

“หลังจากที่ข้าต่อสู้กับผู้ฝึกตนมารขอบเขตแก่นแท้ทองคำทั้งห้าเสร็จแล้ว ในช่วงที่เกิดความสับสนวุ่นวาย เรือเหาะก็คงจะพาเจ้าไปไกลพอสมควรแล้ว”

“เป้าหมายของพวกมันคือข้า พวกมันจะไม่ไล่ตามเจ้าแน่”

“ไม่ต้องห่วงฉัน ข้าหนีเองได้”

เมื่อได้ยินการเสียงของเย่เสี่ยวเหยา สีหน้าของซูฟ่านก็แย่ลงเรื่อยๆ โดยคิดว่าถ้ามีคนไล่ตามเขา เขาก็คงจะเสร็จมันแน่

ก่อนที่ซูฟ่านจะสามารถตอบสนอง เย่เสี่ยวเหยาก็เริ่มโจมตีโดยตรง

“ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ทองคำห้าคนแล้วมันยังไงกัน!” เย่เสี่ยวเหยาพูดอย่างหยิ่งยโสในขณะที่กระบี่ทั้งห้าที่อยู่รอบตัวเขาก่อตัวเป็นแนวกระบี่ทันที

“การพิพากษาเปลวเพลิง สังหารหมู่ห้าทิศทาง!”

แนวกระบี่ขนาดใหญ่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างโดยทันที มันดักผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ทองทำทั้งห้าไว้ภายในนั้น

ในเวลาเดียวกัน เรือเหาะก็กำลังพาซูฟ่านบินไปยังทิศทางของนิกายเทียนฉัวโดยทันที

ในเวลานี้ แสงสีแดงก็แวบขึ้นมาในดวงตาของผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ทองคำคนหนึ่ง

“เล่ยซือ ไปจัดการกับเจ้าเด็กขอบเขตฝึกปรารคนนั้นซะ รีบจบการต่อสู้ให้เร็ว เราจะรีบมารีบไป!”

“เข้าใจแล้ว!”

ผู้ฝึกตนมารหลุดพ้นจากค่ายกลกระบี่โดยตรงและไล่ตามซูฟ่านไปติดๆ

ใบหน้าของเย่เสี่ยวเหยาเปลี่ยนไปโดยทันที เขาสร้างการโจมตีหลักและรีบดีดตัวออกจากวงล้อม

“อยากจะช่วยเพื่อนรึ? ไม่มีทาง!”

ผู้ฝึกตนมารขอบเขตแก่นแท้ทองคำสี่คนขัดขวางเส้นทางของเย่เสี่ยวเหยาไว้

ความเสียใจแล่นผ่านใบหน้าของเย่เสี่ยวเหยา

“เจ้าหนู เจ้าไม่ต้องกังวลไป เจ้าเด็กน้อยนั่นแปลกมาก เขาจะไม่ตายลงที่นี่แน่นอน เจ้าจงมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ก็พอแล้ว”

เย่เสี่ยวเหยาพยักหน้าในใจ จากนั้นเขาก็มุ่งความสนใจไปที่ผู้ฝึกตนมารทั้งสี่คนพร้อมกับเปล่งจิตสังหารออกมา

“วันนี้จะไม่มีพวกเจ้าคนใดรอดกลับไปได้!”

ท้องฟ้าสว่างไสวด้วยเปลวเพลิง และแสงกระบี่ก็ปรากฎทั่วเต็มอากาศ

...

ซูฟ่านนั่งอยู่บนเรือเหาะ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น เขาเฝ้าดูอีกฝ่ายที่ตามเขามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกโมโหในใจ

“หากได้รับโอกาสอีกครั้ง ข้าจะไม่มีวันออกไปจากนิกายได้อย่างแน่นอน”

เมื่อผู้ฝึกตนมารเข้ามาใกล้มากขึ้นแล้ว ซูฟ่านก็ตระหนักได้ว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

“ให้ตายเถอะ ผู้ฝึกตนขอบเขตฝึกปราณต้องมาสู้กับผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ทองคำ นี่มันบ้าชัดๆ”

ไข่มุกวิญญาณปรากฏขึ้นในมือของซูฟ่านและหุ่นเชิดมังกรตัวเล็กๆ ก็ลอยอยู่ข้างๆ เขา

“ไม่คิดเลยว่าจะต้องใช้มันเร็วเช่นนี้”

ไข่มุกวิญญาณมังกรปล่อยแสงสีเขียวสดใสออกมา เงามังกรยาวร้อยเมตรโผล่ออกมา จากนั้นมันก็ฝังตัวเข้าไปในหุ่นเชิดมังกรอย่างรวดเร็ว

“แกว้กกกก!!!”

พร้อมกับเสียงร้องมังกรที่สั่นสะเทือนท้องฟ้า หุ่นเชิดมังกรที่มีความยาวหนึ่งร้อยเมตรก็ปรากฏขึ้น ผู้ฝึกตนมารที่ไล่ตามมาหยุดตามโดยทันที

ชายที่มีใบหน้ามืดมนและโหดเหี้ยมมองดูหุ่นเชิดมังกรที่มีความยาวร้อยเมตรด้วยแววตาประหลาดใจ

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าผู้ฝึกตนขอบเขตฝึกปราณจะมีสมบัติวิเศษที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ข้าช่างโชคดีจริงๆ”

ในสายตาของผู้ฝึกตนมาร แม้ว่าหุ่นเชิดมังกรจะมีพลังอยู่ที่ขอบเขตก่อเกิดรากฐานขั้นสูงสุดเท่านั้น แต่มันก็ยังคงเป็นขอบเขตก่อเกิดรากฐาน

ซูฟ่านได้เพิกเฉยต่อผู้ฝึกตนมารแล้ว และกำลังมุ่งเน้นไปที่การสร้างผนึกมือลึกลับ นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายของเขาแล้ว

“ไอ้สารเลว เจ้าจะต้องชดใช้ให้ข้าด้วยชีวิต”

หลังจากเสร็จสิ้นวิธีการลับ ซูฟ่านก็หายใจเข้าลึกๆ

ในขณะนี้ หินวิญญาณ 5,000 ก้อนที่ซ่อนอยู่ภายในหุ่นเชิดก็สลายลงไปอย่างรวดเร็ว และพลังปราณวิญญาณจำนวนมหาศาลก็พุ่งทะลักออกมา

ทันใดนั้น ออร่าของหุ่นเชิดมังกรก็ได้พุ่งทะลุขอบเขตก่อเกิดรากฐานขั้นสูงสุดและไปถึงขอบเขตแก่นแท้ทองคำขั้นต้น

โดยไม่พูดอะไรอีก ซูฟ่านออกคำสั่งสุดท้ายโดยทันทีเพื่อสังหารผู้ฝึกตนมารที่อยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นจึงหลบหนีอย่างรวดเร็วไปยังนิกายเทียนฉัว

การระเบิดที่เกิดจากการต่อสู้ที่อยู่ข้างหลังเขาดังก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้า

“ให้ตายเถอะ ข้าจะสร้างมันเพิ่มอีกเป็นสิบแน่เมื่อข้ากลับไป!”

ด้านหลังซูฟ่าน ผู้ฝึกตนมารที่กำลังต่อสู้กับหุ่นเชิดมังกรมองไปที่ซูฟ่านที่หลบหนีไปในระยะไกลแล้วพร้อมกับแววตาเยาะเย้ย เขาสะบัดนิ้วชี้ของเขาในขณะที่ใช้ประโยชน์จากการล่าถอยของศัตรู

แมลงวิญญาณมรณะสีดำบินตรงไปหาซูฟ่านอย่างรวดเร็ว “เด็กน้อยขอบเขตฝึกปราณอย่างเจ้าไม่สามารถหลบหนีไปจากวิชาของข้าได้หรอก!”

“ถ้าเจ้าต้องการจะหลบหนี เจ้าก็ไปหลบหนีในชีวิตหน้าเอาก็แล้วกัน”

เขาเห็นแล้วว่าซูฟ่านได้เปิดใช้งานกลไกการทำลายตนเองของสิ่งประดิษฐ์และทำให้หุ่นเชิดมังกรสามารถครอบครองพลังขอบเขตแก่นแท้ทองคำได้

ในขณะนี้ ซูฟ่านที่กำลังหลบหนีเพื่อเอาชีวิตรอดก็รู้สึกดีใจมาก เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขารอดพ้นจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิด

“เมื่อข้ากลับไปที่นิกายเมื่อไหร่ ข้าจะไม่ออกไปไหนอีกแล้ว”

ก่อนที่ซูฟ่านจะพูดต่อ ความรู้สึกหนาวสั่นก็ทำให้ซูฟ่านได้สติขึ้นมาโดยทันที

'โล่วิญญาณดิน' 'โล่วิญญาณไฟ' 'คุ้มครองวิญญาณ' 'โล่วิญญาณแสง'

สิ่งประดิษฐ์ป้องกันสี่ชิ้นหมุนวนไปรอบๆ ซูฟ่านอย่างรวดเร็ว

“วิชาคำสาปวิญญาณ?”

ทันทีที่ซูฟ่านพูดจบ เขาก็เห็นแสงคล้ายเงาดำทะลุเข้ามาในกระจกตาของเขาโดยทันที

“ให้ตายเถอะ ข้ายังคงโดนโจมตีอยู่”

ในทันที สิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ซูฟ่านก็สูญเสียการควบคุม

ร่างกายของซูฟ่านค่อย ๆ ลอยไปทางชั้นเมฆด้านล่าง

ในขณะที่ซูฟ่านหมดสติ เขาก็ได้เปิดใช้งานวิชาตัวเบาบนเสื้อคลุมขอบเขา

.....

ภูเขาหมอกเมฆาตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศหวู่ มันถูกปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณตีนเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์และเก็บรวบรวมสมุนไพรขาย

ทีมรวบรวมสมุนไพรกำลังค้นหาโสมหิมะในภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ

“หยาน้อย นี่เป็นครั้งแรกของเจ้าที่นี่ ในภูเขาหมอกเมฆาของเรา มีกฎเกณฑ์มากมายในการรวบรวมสมุนไพร” ชายสูงอายุพูดกับเด็กชายวัย 8 ขวบ

“ท่านปู่เพียงแค่พูดมันมา ตราบใดที่ข้าสามารถหาเงินได้และทำให้น้องสาวกับข้ากินข้าวอิ่มได้ ข้าก็เต็มใจยอมทำทุกอย่าง” เด็กน้อยพูดอย่างตรงไปตรงมา โดยนึกถึงสิ่งที่พ่อของเขาพูดกับเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

“ในภูเขาหิมะ แค่ฟังคำพูดของปู่ฉางซาน แล้วลูกจะอยู่รอดได้”

“ในภูเขาหิมะ จงคำนับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเซียนเมื่อเจ้าพบกับพวกเขา” ชายชรากล่าว

“เมื่อเจ้าเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายบนภูเขาหิมะ อย่าเป็นคนสุดท้ายที่จะวิ่งหนี หรือหากเจ้าทำไม่ได้จริงๆ แค่กระโดดลงไปจากภูเขาก็พอ อย่างน้อยเจ้าก็จะมีโอกาสรอดมากกว่า”

“เมื่อความแข็งแกร่งของเจ้าไม่แข็งแกร่งพิ จงอย่าเก็บสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดที่เจ้ารวบรวมมาได้เพื่อตัวเจ้าเอง จงมอบมันครึ่งหนึ่งให้กับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมก่อน”

ชายชราเล่ากฎการเอาชีวิตรอดบนภูเขาหิมะให้เด็กน้อยฟังทีละข้อและเด็กน้อยก็ท่องจำกฎเหล่านั้นเป็นอย่างดี

“เจ้าเป็นเด็กดี จงใช้ชีวิตให้ดี และอย่าปล่อยให้ความหวังของพ่อเจ้าสูญเปล่า”

ชายชราลูบหัวเด็กน้อยอย่างเสน่หา และคิดว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าอีกฝ่ายเป็นหลานชายของเขาเอง

“ท่านปู่ ข้าจะจำทุกสิ่งที่ท่านสอน” เด็กน้อยพูดอย่างจริงจัง

“ดีแล้ว”

ชายชราพาเด็กน้อยไปเดินตามทีมไป เขาใช้เวลาสามชั่วโมงในการปีนภูเขาหิมะ และพวกเขาก็มีเวลาเพียงสามชั่วโมงในการรวบรวมสมุนไพร

เนื่องจากหิมะที่สะสมตลอดทั้งปีจึงทำให้อุณหภูมิเย็นลง คนธรรมดาที่อยู่บนภูเขาหิมะนานกว่าหกชั่วโมงจะต้องทนทุกข์ทรมานจากความหนาวเย็น

“ท่านปู่ ท่านเคยเห็นเซียนบ้างไหม” เด็กน้อยถาม

“ข้าเคยเห็นมาแล้ว และข้าก็เคยพูดคุยกับพวกเขาด้วยซ้ำ” ชายชราหยอกล้อกับเด็กน้อย

“ท่านปู่ ท่านปู่ แล้วเซียนมีหน้าตาเป็นอย่างไร?”

“ฮ่าฮ่า ที่แน่ๆ พวกเขาไม่ได้หน้าโง่เหมือนเจ้าแน่นอน!”

*ปู่แม่งสุดจัด

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด