บทที่ 279 : เริ่มการล่า (5)
บทที่ 279 : เริ่มการล่า (5)
ถ้าเป็นแค่น้ำทะเลธรรมดา มันก็คงจะแค่เฉียดเรือไป
แต่นี่ สิ่งที่มังกรน้ำพ่นออกมามันคือเปลวไฟ และเพียงแค่สัมผัสพื้นผิวเรือก็เป็นอันตรายได้แล้ว
‘บ้าเอ๊ย’
เปลวไฟลุกโชนออกมาจากด้านข้างของเรือ
ไม่นานควันก็เริ่มปกคลุมท้องฟ้า
นี่เป็นจุดบอดสินะ
ฉันไม่ได้คำนึงถึงวิธีการใช้งานปืนใหญ่ไฮดรอลิกของเจ้ามังกรนั่นว่ามันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะพ่นไฟออกมาได้ด้วย
<ฮ่าฮ่าฮ่า!>
มังกรน้ำมองมาที่ฉันพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากปากของมัน
สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
‘ถ้าฉันคิดให้รอบคอบมากกว่านี้อีกสักหน่อย’
ฉันกัดริมฝีปากแน่นและครุ่นคิดหาทางรอด
ศีรษะของเจนน่าโผล่ขึ้นมาจากน้ำ และจ้องมองไปที่เรือที่กำลังลุกไหม้
“หา? ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นแบบนั้นล่ะ!”
ฉันหรี่ตาลง
ไฟไหม้ลามไปที่ดาดฟ้าเรือเหาะ
บนดาดฟ้านั้น เหล่าฮีโร่และสัตว์ประหลาดกำลังปะปนกันในการต่อสู้นองเลือด
เงือกจากใต้ทะเลกำลังปีนขึ้นไปด้านข้างของเรือเหาะและปีนขึ้นไปบนดาดฟ้า
มังกรน้ำพ่นลมหายใจหนัก ๆ แล้วกลับลงไปในน้ำ
ขณะเดียวกัน สัตว์ประหลาดตัวอื่น ๆ ก็ขึ้นจากน้ำไปด้วย เวคิสซึ่งเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเหตุการณ์ประหลาดนี้ขมวดคิ้ว
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
“มันพ่นไฟของออลก้าออกมา”
“อะไรนะ? มันทำแบบนั้นได้ยังไง?”
ตราบใดที่ปืนใหญ่ไฮดรอลิกยิงออกมาด้วยน้ำและอากาศในปอด ก็ไม่มีอะไรที่มันทำไม่ได้
เพียงแต่ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เท่านั้นเอง
<ฮาน!>
น้ำเสียงที่ร้อนรนดังมาจากหูของฉัน
เสียงของคิชาช่า
<ฉันไม่ได้คิดเรื่องไฟไหม้เรือมาก่อน! และที่สำคัญพวกเราว่ายน้ำไม่เป็น! เราต้องทำยังไงต่อไปดี? >
“รอก่อน”
ฉันมองไปรอบ ๆ
ตอนนี้เจ้ามังกรตัวนั้นลงไปอยู่ในน้ำลึก
‘มันไปที่นั่นเพื่อรักษาบาดแผลสินะ?’
โดยปกติแล้ว ฉันจะไล่ตามและจัดการมัน แต่นาทีนี้ฉันทำแบบนั้นไม่ได้
แต่ถ้าไม่รีบจัดการเสียก่อน...
“คาทีโอ!”
เรือเหาะลอยมาจากอีกฝั่ง
คาทีโอกระโดดออกจากห้องนักบิน
“ฉันมาแล้ว!”
“ไปที่รูปปั้นเทพธิดา แล้วรอที่นั่น”
“แล้วนายล่ะ?”
“พวกเราจะอยู่ที่นี่”
ฉันมองย้อนกลับไป
“เวคิส เนเรสซ่า ไปกับคาทีโอ”
“นายกำลังจะบอกว่าให้พวกเราสามคนจะเข้าไปสู้เหรอ?”
“ใช่”
หากรูปปั้นถูกครอบครอง พวกเราก็คงจะเละเป็นโจ๊ก
การหายใจใต้น้ำเป็นเรื่องสำคัญ หากถูกขัดจังหวะ การโจมตีจะกลายเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเราต้องจัดการเรื่องนี้ให้รัดกุม
อีดิสได้รับคำสั่งให้ฝึกว่ายน้ำและการต่อสู้ใต้น้ำ แต่ค่าสถานะความสามารถของเธอนั้นไม่ได้สูงนัก หากเรือพังและถูกลากลงน้ำ เธอจะถูกโจมตีทันที
“ฉัน…”
“เงียบเถอะออลก้า…ไม่ใช่ความผิดของเธอ”
ออลก้าก้มศีรษะลง
“ตอนนี้ทุกอย่างมันบิดเบี้ยวไปหมด เราแค่ต้องทำให้มันเข้าที่เข้าทาง”
บู้ม!
เรือเหาะที่เวคิสและเนเรสซ่าโดยสารออกเดินทางแล้ว
ต่อจากนั้น ข้อความสถานะที่ผิดปกติของเหล่าฮีโร่ก็ปรากฏขึ้นทางด้านขวา บ่งบอกถึงความกลัวและบาดเจ็บ
ไม่นานข้อความก็เปลี่ยนไป
[ ‘เจริล (★★★)’ กลับมาสู่อ้อมแขนของเทพธิดาแล้ว! จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาจะถูกจดจำตลอดไป]
[ ‘ชูร์แกน (★★★)’ กลับมาสู่อ้อมแขนของเทพธิดาแล้ว! จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาจะถูกจดจำตลอดไป]
มีคนเสียชีวิตสองคน
‘นี่มันไม่เหมือนที่ฉันคิดไว้’
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เหล่าฮีโร่ก็มารวมตัวกันทันที
ขณะที่ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างหน้า พวกเขาก็ต้องระวังไฟที่อยู่ข้างหลัง อีดิสพยายามอย่างหนักเพื่อรับมือกับปัญหานี้ แต่เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะไปต่อไม่ไหว
<นี่มันอะไรกัน……!>
“ฉันเสียใจ มันเป็นความผิดพลาดของฉันเอง”
<ผิดพลาด? >
“พวกเราจะไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้ ทิ้งเรือลำนั้นซะ พาเฟรียซิสขึ้นเรือเหาะหนีไป หากทนไม่ไหวก็โยนรูปปั้นเทพธิดาทิ้งไปได้เลย แต่อย่าเพิ่งรีบตายล่ะ”
<เดี๋ยวก่อน ฉันไม่เข้าใจ!>
ฉันตัดการสื่อสารอย่างรวดเร็ว
คาทีโอจะจัดการส่วนที่เหลือ ส่วนฉันแค่จัดการปัญหาตรงหน้า
“นี่…เพราะฉันใช่ไหม?”
“เธอพูดอะไร?”
ผิวของออลก้าซีดลง
“มันพ่นเวทย์ไฟของฉันออกมา”
“แล้ว…”
“เวทมนตร์ของฉันเป็นต้นเหตุให้เรือลุกเป็นไฟ…”
[ ‘เอริล (★★)’ กลับคืนสู่อ้อมแขนของเทพธิดาแล้ว! จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเธอจะถูกจดจำตลอดไป]
[ ‘ริรินี่ (★★★)’ ตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก ความแข็งแกร่งทั้งหมดจะลดลง 50%]
‘มันพุ่งเป้าไปที่คนที่อ่อนแอก่อน’
ฮีโร่ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาก็กำลังจะตาย
สัตว์ประหลาดต่างแห่กันไปที่เรือและโจมตีอย่างต่อเนื่อง พวกมันไม่สนใจรูปปั้นที่อยู่ท้ายเรือด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าความตั้งใจของพวกมันคือการทำลายล้างเหล่าฮีโร่ก่อนที่จะยึดครองรูปปั้นเทพธิดา
“เพราะฉัน…….”
“พี่ออลก้า”
เจนน่าลดเสียงลง
“ไม่มีใครรู้ว่ามันจะจบลงแบบนี้ ไม่เป็นไรนะพี่ ไม่มีใครโทษพี่หรอก จริงไหม? ไม่มีอะไรผิดหรอก เราแค่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่านั้น”
“แต่มันเป็นความผิดของฉัน เพราะฉัน….”
“…ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ”
เจนน่าถอนหายใจ
“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงต่อดี? ดูเหมือนสัตว์ประหลาดจะลงไปในน้ำ และมันก็ดูอันตรายมาก”
ทุกอย่างถูกทำลายเมื่อเกิดเพลิงไหม้ที่ด้านหลังดาดฟ้าเรือ
ไม่มีทางที่จะดับไฟไปพร้อมกับรับมือกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างหน้า สุดท้ายก็กลายเป็นการต่อสู้ระยะประชิดโดยไม่มีทางออก ในระยะประชิดย่อมมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อผิดพลาดอันแสนเจ็บปวด
ฉันกัดฟันแน่น จนรู้สึกถึงรสขมของเลือด
ฉันกลืนเลือดลงคอ มันยังไม่จบ หากทุกอย่างพังทลายลง มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลก
‘โดนโจมตีเหมือนกันสินะ’
เหตุผลที่มันไม่โจมตีพวกเราในน้ำ ก็เพราะมันไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
ไม่มีทางที่มันจะพ่นไฟออกจากคอแล้วหนีไปได้อย่างปลอดภัย ข้างในร่างกายมันคงถูกเผาจนไหม้เกรียมไปหมดแล้ว
ฉันคิดถึงเรื่องนี้ พร้อมคำนวณสถานการณ์ของพวกเรากับศัตรู และคิดแผนรับมือ
สุดท้ายนี้ ฉันก็คาดเดาสถานการณ์บนเรือได้แล้ว
สัตว์ประหลาดเข้ายึดครองเกือบทั้งดาดฟ้า และเรือก็กำลังจมลงอย่างช้า ๆ
ฉันถอนหายใจแล้วเอามือปิดหู
“อีดิส”
<……>
“รูปปั้นเทพธิดานั้นย้ายไปที่เรือเหาะได้เลย”
<แล้วนาย… >
“พวกเราจะจัดการมันเอง ถ้ายังแบกอะไรที่ไม่สำคัญเอาไว้ พวกเราก็จะถูกฆ่าซะเองนะ”
อีดิสไม่ตอบ
ฉันจึงพูดต่อ
“เธอไม่ได้เป็นคนบอกฉันเองเหรอว่าเธอจะไม่ยอมให้สมาชิกของเธอตาย? อยากให้พวกเขาถูกฆ่าตายรึไง?”
<...อื้อ>
อีดิสตอบอย่างไม่เต็มใจ
ฉันตัดการสื่อสาร
“คือ…”
“ถ้าจะเอาแต่คร่ำครวญก็หยุดซะ”
“แต่ว่า……!”
ฉันดึงคอเสื้อของออลก้า
ใบหน้าของเธอเข้ามาใกล้ฉัน
“ฉันเป็นคนตัดสินใจส่งเธอไปทำภารกิจนี้ ฉันต้องรับผิดชอบ”
“ฉันต่างหากที่บังคับให้นายพาฉันเข้ามา!”
“ไม่มีใครบังคับใครทั้งนั้นแหละ”
ดวงตาของออลก้าเบิกกว้าง
ฉันยิ้มและคลายมือออก
ออลก้าทรุดตัวลงในน้ำ ราวกับว่าเธอสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมด
“...อ่า สองคนนี้บรรยากาศเริ่มดีขึ้นแล้วสินะ”
เจนน่าพึมพำ
“เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรเนี่ย?”
ออลก้าโกรธ
ฉันหัวเราะ
“ฉันคิดว่าเรี่ยวแรงเธอน่าจะกลับมาแล้วนะ”
“น่ารำคาญ!”
“พวกเราจะจบภารกิจนี้เอง”
“อะไรนะ?”
“มองไปที่หน้าต่างภารกิจสิ”
ฉันมองไปทางขวา
หน้าต่างวัตถุประสงค์ภารกิจแสดงขึ้น
[ชั้นที่ 35]
[ประเภทภารกิจ - ยึดครองพื้นที่]
[เป้าหมาย - ???]
[เป้าหมายพิเศษ - ช่วย NPC ‘เฟรียซิส อัล รักนา’ ให้รอดชีวิต]