ตอนที่แล้วบทที่ 171: หลานที่ไหนคิดอุบายชั่วร้ายเช่นนี้ทำให้ข้าต้องกินคนของตัวเอง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 173: ข้าร่ำเรียนแต่ฤดูใบไม้ผลิยันฤดูใบไม้ร่วง ข้าหาได้เป็นคนทั่วไปไม่!

บทที่ 172: ผู้อำนวยการใหญ่ ท่านเป็นดาวนำโชคของข้าจริงๆ!


บทที่ 172: ผู้อำนวยการใหญ่ ท่านเป็นดาวนำโชคของข้าจริงๆ!

ณ พระราชวังของนครหลวง ภายในห้องโถงใหญ่สีทองช่วงรุ่งสาง

“กระหม่อมขอน้อมนำทูลต่อฝ่าบาท กระหม่อมได้รับพระราชโองการให้กำจัดโจรปล้นสะดม! บัดนี้เป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว โจรผู้ร้ายได้ถูกกวาดล้างไปทั้งสิ้น 4,282 คน ภูมิภาคเหอเป่ยทางเหนือและพื้นที่ใกล้เคียงไม่สามารถหาโจรได้อีกต่อไป การคุกคามของโจรได้หมดสิ้นไปแล้ว กระหม่อมขอทูลให้ทรงทราบ!” หัวหน้าสำนักพิทักษ์คุณธรรมได้รายงานถึงความคืบหน้าในการกำจัดโจร

จักรพรรดินีฟังแล้วก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ท่านลุงของข้า ท่านยังสามารถกินนอนได้หรือไม่เมื่อท่านต้องสูญเสียทหารกับจอมยุทธไปมากมาย? ข้าอยากเห็นสีหน้าของท่านตอนนี้เสียจริงๆ! มันต้องเป็นภาพที่สวยงามมากแน่! ฮ่าฮ่า!

“ท่านกั๋ว ท่านทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมนัก! ข้าให้รางวัลท่านเป็นเงินหนึ่งหมื่นตำลึง ไข่มุกราตรีหนึ่งเม็ดและไข่มุกนัยน์ตามังกรสิบเม็ด! นอกจากนี้ ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับรางวัลเป็นคนละหนึ่งพันตำลึง!”

“ขอบพระทัยสำหรับรางวัลพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” หัวหน้าสำนักพิทักษ์คุณธรรมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ความสำเร็จและรางวัลนี้เหมือนกับสิ่งที่พวกเขาได้รับมาโดยไม่ต้องเสียอะไรไปเลย เพราะพวกเขาไม่ต้องเสียสละอะไร ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตหรือหลั่งเลือดและหยาดเหงื่อออกมา พวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการรับหลักฐานและแจกจ่ายเงินออกไป แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังได้รับรางวัลมากมายกลับคืนมา

พวกเขารู้สึกขอบคุณผู้อำนวยการใหญ่อย่างแท้จริง!

ทันใดนั้น หัวหน้าสำนักพิทักษ์คุณธรรมก็ตระหนักว่าการติดตามผู้อำนวยการใหญ่เป็นสิ่งที่จะทำให้เขารุ่งโรจน์ไปได้ไกล! ก่อนหน้านี้เมื่อพวกเขาพบกับปรมาจารย์สองคน เขาและพี่น้องของเขาทั้งหลายต่างก็พร้อมที่จะเสียสละตนเองเพื่ออาณาจักร ทว่าปรมาจารย์ทั้งสองกลับย้ายสนามรบออกไปนอกนครหลวงได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้ไม่มีการเสียสละและยังได้เงินทองจำนวนมากเป็นรางวัลตอบแทนอีก

ต่อมาอีกฝ่ายก็แจ้งให้เขาทราบถึงการจี้ปล้นเรือระหว่างการซ้อมรบเพื่อที่เขาจะได้รับชื่อเสียงแทน

หลังจากนั้นยังมีเรื่องความสำเร็จครานี้อีก...

ผู้อำนวยการใหญ่ ท่านเป็นดาวนำโชคของข้าอย่างแท้จริง!

ดูเหมือนว่าในอนาคตเขาคงจะได้ขยับขยายตำแหน่งเป็นแน่!

“นอกจากนี้ ยังมีบุคคลอีกผู้หนึ่งที่สมควรได้รับรางวัลอันสมเกียรติ!” จักรพรรดินียิ้มขณะมองไปทางหลินเป่ยฟาน “ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการที่ยอดเยี่ยมของท่านหลิน ราชสำนักของเราคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาโจรได้อย่างราบรื่นขนาดนี้! ท่านหลิน ท่านสมควรได้รับรางวัลเพราะการมีส่วนร่วมของท่าน!”

“การรับใช้และบรรเทาความกังวลของฝ่าบาทเป็นหน้าที่ของกระหม่อม!” หลินเป่ยฟานกล่าวเสียงดัง

“ข้ารู้ว่ายามนี้เจ้าไม่ได้ขาดเหลืออะไร ดังนั้นข้าจะไม่ตอบแทนท่านด้วยอะไรทั้งนั้น! ความสำเร็จนี้จะถูกจดจำไว้และเมื่อเจ้าสะสมได้มากพอ ข้าจะให้รางวัลท่านด้วยการเลื่อนขั้น!” จักรพรรดินีกล่าวเสียงดัง

หลินเป่ยฟานรู้ว่าจักรพรรดินีจะเก็บคุณงามความดีของเขาเอาไว้ และเมื่อมันมากพอแล้ว นางจะเลื่อนระดับให้เขา!

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” หลินเป่ยฟานตอบกลับเสียงดัง

“ฝ่าบาท ในระหว่างการกำจัดโจรนี้ จอมยุทธทั้งสิบคนที่ปรากฏตัวขึ้นได้สังหารโจรไปอย่างน้อยสองร้อยคน! เป็นเพราะพวกเขา ภารกิจเราในการกำจัดโจรจึงเป็นไปอย่างราบรื่น! ตามคำร้องขอของฝ่าบาท กระหม่อมได้นำชื่อพวกเขาติดป้ายประกาศเพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของพวกเขาไปทั่วอาณาจักรแล้ว!” หัวหน้ากั๋วยังคงรายงานต่อไป

“ท่านกั๋ว ท่านทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมนัก!” องค์จักรพรรดินีพยักหน้า

“มีหนึ่งคนในหมู่พวกเขาที่กำจัดโจร 514 คนและกลายเป็นจอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ที่ต่อสู้กับพวกโจรชั่ว! ทว่าตัวตนของบุคคลผู้นี้มีความพิเศษมาก และเงื่อนไขที่เขาเสนอมาก็เฉพาะตัวยิ่ง กระหม่อมไม่สามารถตัดสินใจได้ ดังนั้นกระหม่อมจึงต้องมารายงานต่อฝ่าบาท!”

อารมณ์ของจักรพรรดินีดียามนี้มาก “ผู้ใดกันคือจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ แล้วเขามีเงื่อนไขอะไรท่านถึงไม่อาจตัดสินใจเองได้?”

“ฝ่าบาท คนผู้นี้กล่าวว่าตนมีนามว่าเน่ย หม่าวัง แท้จริงแล้วเขามีนามว่ากระทิงยักษ์ เขาเป็นหัวหน้าผู้นำทหาร 30,000 ไปก่อกบฏและปัจจุบันเป็นผู้หลบหนีที่ราชสำนักต้องการตัว!”

ราชสำนักเกิดความโกลาหลอีกครั้ง!

พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ที่สังหารโจรมากมายจะเป็นผู้หลบหนีที่ต้องการตัว!

ซึ่งอีกฝ่ายไม่ใช่แค่ผู้หลบหนีธรรมดา แต่เป็นคนที่เคยฆ่าเจ้าหน้าที่ของราชสำนักและเป็นผู้นำการกบฏของทหาร 30,000 นาย!

“เงื่อนไขที่บุคคลนี้ร้องขอคือการยกเลิกหมายจับค่าหัวเขาและได้รับการอภัยโทษสำหรับความผิดทั้งหมดของเขา! ด้วยความร้ายแรงของเรื่องนี้ กระหม่อมจึงไม่สามารถตัดสินใจได้ ดังนั้นกระหม่อมจึงมารายงานต่อฝ่าบาท!”

สายตาของจักรพรรดินีเปลี่ยนไปเป็นจริงจัง “ท่านมีความคิดเช่นไรเสนาบดีทั้งหลาย? กล่าวความในใจของพวกท่านออกมา!”

“ฝ่าบาท ย่อมไม่ได้อย่างแน่นอน!” เสนาบดีกรมกลาโหมหลี่ไคกวงได้ยืนขึ้น “บุคคลผู้นี้ฆ่าเจ้าหน้าที่ของราชสำนักและก่อกบฏ จนเกือบจะสร้างความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ให้กับราชสำนัก อาชญากรรมของเขาร้ายแรงและมิอาจให้อภัยได้! หากเราตอบตกลงกับคำขอของเขา ยกโทษให้เขาสำหรับความผิดทุกประการ กฎหมายและอำนาจของราชสำนักจะอยู่ที่ใดกัน? ฝ่าบาทได้โปรดพินิจให้ดีด้วย!”

“ฝ่าบาทได้โปรดพินิจให้ดีด้วย!” เหล่าเสนาบดีคนอื่นๆ ก็ยืนขึ้นพร้อมกล่าวความเห็นเช่นเดียวกัน

“เสนาบดีหลี่ ท่านคิดว่าเราควรดำเนินการเช่นไร?” จักรพรรดินีกล่าวถาม

“ฝ่าบาท กระหม่อมเชื่อว่าเราควรคว้าโอกาสนี้เพื่อจับตัวเขาและนำเขาเข้าสู่การพิจารณาคดี!” หลี่ไคกวงตะโกนเสียงดัง

เขาก้มศีรษะลง ดวงตาของเขาเป็นประกายเจ้าเล่ห์

เพราะไอ้คนผู้นี้ มันถึงทำให้จู่ๆ เขาก็ต้องมารับโทษ เป็นคนที่ทำให้หลินเป่ยฟานได้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้และบุกเรือนของเขา จนทำให้เขาสูญเสียความมั่งคั่งไปในชั่วข้ามคืน

ความแค้นฝังรากลึกลงไปไม่อาจลบเลือน เขาต้องฆ่าคนผู้นี้เพื่อบรรเทาความเกลียดชังในใจเขาลงเสีย!

ยามนั้นเอง หลินเป่ยฟานก็ยืนขึ้นเช่นกัน “ฝ่าบาท กระหม่อมเชื่อว่าวิธีการของเสนาบดีหลี่ไม่เหมาะสม!”

“เหตุใดมันถึงไม่เหมาะสมกัน?” จักรพรรดินีกล่าวถาม

“ราชสำนักของเราสัญญาว่าผู้ที่กลายเป็นสุดยอดจอมยุทธผู้สังหารโจรสามารถร้องขอต่อราชสำนักได้อย่างสมเหตุสมผล! ถ้าเราเพิกเฉยต่อสัญญานี้และโยนเขาเข้าคุกไป เราจะไม่กลายเป็นตัวตลกในสายตาผู้อื่นหรือ? หากมันเกิดขึ้นจริง อำนาจและชื่อเสียงของราชสำนักก็จะลดลงมากเช่นกัน! ฝ่าบาทได้โปรดพินิจให้ดีด้วย!” หลินเป่ยฟานกล่าวเสียงดัง

“ท่านหลิน เขาเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวของราชสำนักและเป็นคนทรยศต่ออาณาจักร! ถ้าเราปล่อยเขาไปง่ายๆ แล้วมันเกิดมีผู้อื่นทำตามเล่า? ท่านจะสามารถรับผลของมันได้หรือ?” หลี่ไคกวงอุทานด้วยความโกรธ

หลินเป่ยฟานยิ้มออกมา “เสนาบดีหลี่ นั่นเป็นการพูดเกินจริงไปแล้ว! จะเกิดอะไรขึ้นหากมีผู้อื่นทำตามงั้นหรือ? เช่นนั้นพวกเขาก็จะต้องมีความสามารถในการทำเช่นนั้นก่อน ทหารธรรมดาจะสามารถฆ่านายทหารระดับสูงได้หรือ? ถ้าพวกเขาทำได้ หมายความว่านายทหารระดับสูงย่อมไร้ค่า เช่นนั้นเราก็คงไม่ต้องการตัวพวกเขาเข้ากองทัพมา!”

“หากเป็นผู้อื่นทำตาม คิดว่าคนผู้นั้นจะมีผู้ติดตามหลายหมื่นและพร้อมก่อกบฏด้วยหรือ?”

หลินเป่ยฟานหัวเราะเบาๆ “ถ้าพวกเขามีอาหารที่ดี ที่พักพิงที่ดีและได้รับค่าจ้างทหารรายเดือน ถ้าเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของพวกเขาปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี ผู้ใดกันเล่าจะเต็มใจที่จะก่อกบฏ? เหนือสิ่งอื่นใด การกบฏเป็นเรื่องที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายยิ่ง ผู้ใดกันจะหาญกล้าทำเช่นนี้?”

“ดังนั้นคำพูดของเสนาบดีหลี่จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลย!”

หลังจากถูกปฏิเสธ หลี่ไคกวงเสนาบดีกรมกลาโหมถึงกับพูดไม่ออก เขาจึงต้องเปลี่ยนวิธีการของเขา

“แล้วกฎหมายของราชสำนักล่ะ? ยังไงเขาก็ก่อกบฏ เป็นอาชญากรที่ต้องการตัวของราชสำนัก เราจะให้อภัยเขาได้เช่นไร? ใช่ เขาประสบความสำเร็จในการทำคุณงามความดี แต่ความสำเร็จของเขาไม่ได้เหนือไปกว่าความผิดของเขา!”

“อันที่จริงความสำเร็จของเขาก็ไม่ได้เหนือกว่าอาชญากรรมของเขาเลย แต่เราสามารถยกเว้นได้!”

หลินเป่ยฟานโค้งคำนับ “ฝ่าบาท ไม่ว่าจะจับหรือปล่อยเขาไป หรือดำเนินการอื่นๆ เราย่อมต้องพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบคอบ วิเคราะห์ข้อดีและข้อเสีย ก่อนจะตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อราชสำนักให้มากที่สุด!”

“ก่อนอื่นเราต้องจับเขา! ด้วยวิธีนี้ราชสำนักจะแก้ไขภัยคุกคามที่อาจบั่นทอนชื่อเสียงของเราไปได้! แต่จากมุมมองนี้ มันมีข้อเสียมากกว่าข้อดี!”

“ต่อไปคือการปล่อยเขา! แม้ว่ามันจะรักษาชื่อเสียงของเรา แต่มันก็จะทำลายกฎหมายของเราไปอย่างแน่นอน! และด้วยการที่เขาอยู่ข้างนอก ไม่ถูกลงโทษอะไร ราษฎรอาจรู้สึกไม่สบายใจนัก ข้อเสียย่อมมีมากกว่าข้อดีอีกครั้ง!”

“ดังนั้นข้าจึงมีทางเลือกที่สาม นิรโทษกรรม!”

"นิรโทษกรรม?" จักรพรรดินีครุ่นคิด “กล่าวต่อได้”

“การนิรโทษกรรมมีข้อดีหลายประการ!”

หลินเป่ยฟานยิ้ม “ประการแรก มันสามารถรักษาชื่อเสียงและอำนาจของราชสำนักได้ ทั้งยังสามารถแสดงความเมตตากรุณาขององค์องค์จักรพรรดินี กระตุ้นให้ผู้คนเลือกที่จะรับใช้ราชสำนักและอุทิศตนเพื่อการปกครองของฝ่าบาท!”

“ประการที่สอง หลังจากนิรโทษกรรมเขาแล้ว เขาจะอยู่ภายใต้การดูแลของเรา เราสามารถตรวจสอบเขาอย่างใกล้ชิด ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อราชสำนักได้ ด้วยวิธีนี้ทุกคนย่อมรู้สึกสบายใจมากขึ้น!”

“ประการที่สาม บุคคลผู้นี้มีความสามารถพิเศษในการปราบและจัดการโจรจำนวนมาก พรสวรรค์เช่นนี้ไม่ควรสูญเปล่า! เราสามารถอนุญาตให้เขารับใช้ราชสำนักต่อไป สร้างคุณงามความดีเพื่อชดใช้ความผิดที่ตนก่อ! เมื่อคุณงามความดีของเขามากพอแล้ว เราก็สามารถให้อภัยความผิดของเขาได้ ด้วยวิธีนี้ กฎหมายของราชสำนักย่อมไม่ได้รับอันตรายใด ไม่โดนดูถูกและขาดความเชื่อมัน!”

“ฝ่าบาท ท่านเห็นด้วยกับวิธีการนี้หรือไม่?”

“ท่านหลิน วิธีการของท่านช่างเป็นที่โปรดปรานของข้านัก!” จักรพรรดินีรู้สึกยินดียิ่ง “ถ้าอย่างนั้นก็ทำเช่นนี้! ทว่าใครกันจะเป็นคนดูแลเขา?”

“ฝ่าบาท ให้กระหม่อมรับผิดชอบเถิด!” กัว หัวหน้าของสำนักพิทักษ์คุณธรรมได้ก้าวไปข้างหน้าและยิ้ม “คนผู้นี้ไม่เพียงแต่มากฝีมือ แต่ยังเชี่ยวชาญในการตามตัวจากในถิ่นทุรกันดาร สำนักพิทักษ์คุณธรรมต้องการผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้!”

“ดีมาก เช่นนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของท่านกั๋ว!”

ด้วยวิธีนี้ เรื่องทั้งหมดจึงยุติ

กระทิงยักษ์ ผู้กวาดล้างโจรอย่างกล้าหาญ แท้จริงเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวของราชสำนัก ทั้งยังก่ออาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัยได้ กลับไม่ได้รับการลงโทษโดยสิ้นเชิง แต่ได้รับการนิรโทษกรรมให้อยู่ในขอบเขตการดูแลของราชสำนัก ซึ่งเขาต้องเข้าไปในสำนักพิทักษ์คุณธรรมและได้รับการคอยสอดส่องจากราชสำนัก ทั้งที่ยังคงต้องรับใช้ราชสำนักต่อไปและทำคุณงามความดีทดแทนความผิด

อาจกล่าวได้ว่าวิธีการนี้มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งมันเป็นเหมือนกับการรักษาหน้าของราชสำนักและผลประโยชน์หลักของราชสำนัก ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าวิพากษ์วิจารณ์!

เมื่อกระทิงยักษ์รู้เรื่องนี้ เขาก็มีความสุขมาก

แม้ว่าอาชญากรรมที่เขาก่อจะไม่ได้รับการอภัยโทษอย่างสมบูรณ์ แต่เขาก็ได้รับอิสรภาพกลับคืนมาแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องซ่อนใบหน้าหรือกลัวว่าจะถูกจับอีกต่อไป เขาสามารถไปพบกับพี่น้องของเขาได้อย่างเปิดเผย

แม้ว่าเขาจะต้องเข้าไปในสำนักพิทักษ์คุณธรรมและอยู่ภายใต้การดูแลของราชสำนักก้ตาม

แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง ตอนนี้เขากำลังกินข้าวจากหลวง หลายคนอยากมีโอกาสเข้าสู่สำนักพิทักษ์คุณธรรม แต่พวกเขาไม่มีเส้นสาย

ตราบใดที่เขาไม่ทำผิดพลาดอะไรอีก เขาก็สามารถมีชีวิตที่แสนสงบสุขได้

ดังนั้นเขาจึงติดตามสมาชิกท่านหนึ่งของสำนักพิทักษ์คุณธรรมและไปนครหลวงเพื่อพบท่านกั๋ว

“ข้าคือกระทิงยักษ์ ผู้ใต้บังคับบัญชา...ผู้ต้อยต่ำ ขอคารวะท่านกั๋ว!”

กั๋วตรวจสอบกระทิงยักษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ไม่เลว เจ้ามีความสามารถ! ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีความชำนาญในการติดตามตัวคนเป็นพิเศษ เจ้าพบโจรมากมายซ่อนตัวอยู่ในถิ่นทุรกันดาร สำนักพิทักษ์คุณธรรมต้องการคนอย่างเจ้า!”

"เจ้าจงพยายามให้สุดความสามารถ! ส่วนเรื่องอาชญากรรมที่เจ้าก่อ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไป เมื่อเจ้าทำผลงานได้มากพอ ข้าจะขอให้จักรพรรดินียกโทษต่อบาปของเจ้า!”

"ขอรับนายท่าน" กระทิงยักษ์รู้สึกยินดียิ่ง

“แต่เจ้าช่างมีความกล้าหาญจริงๆ! ราชสำนักกำลังค้นหาเจ้าทุกหนแห่ง แต่เจ้ากล้าที่จะมาหาและฆ่าโจร ทั้งยังกล้าที่จะเสนอเงื่อนไขดังกล่าวต่อราชสำนัก เจ้าหุนหันพลันแล่นมาก! เจ้ารู้หรือไม่ว่าชีวิตของเจ้าเกือบจะถูกริดรอนไป?” กั๋วตำหนิ

กระทิงยักษ์ตกใจมาก “แล้วด้วยเหตุอันใด…”

“ก็เป็นเพราะท่านหลินไงเล่า” กั๋วยิ้มออกมา “ถ้าไม่ใช่เพราะท่านหลินปกป้องเจ้าในราชสำนัก พูดทุกอย่างแทนเจ้า มันคงจบแล้ว! เพราะเจ้าได้กระทำความผิดฐานกบฏ ซึ่งเกือบจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อราชสำนัก โชคดีแล้วที่หัวยังอยู่บนไหล่ของเจ้า!”

“ท่านหลิน…” สายตาของกระทิงยักษ์เต็มไปด้วยความซับซ้อน อารมณ์ของเขาก็เฉกเช่นกัน

เขาจำชายหนุ่มผู้นั้นที่เขาพบเมื่อสองเดือนก่อนได้!

เขาเป็นคนลงมือแก้ไขการกบฏอย่างรวดเร็ว และยังให้เขาหนีไปอีก เป็นผู้ที่ไม่อาจรู้ได้เลยว่าคิดสิ่งใดอยู่!

แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะเป็นท่านหลินอีกครั้งที่ช่วยชีวิตเขาไว้จากราชสำนัก!

ทั้งสองได้พบกันโดยบังเอิญ ไม่มีความขุ่นเคืองหรือยินดียินร้ายกัน ไฉนอีกฝ่ายถึงใจดีกับเขาขนาดนี้?

กระทิงยักษ์โค้งคำนับด้วยความเคารพ “นายท่านกั๋ว ข้าอยากจะขออนุญาตจากท่านเพื่อลาและไปแสดงความขอบคุณต่อท่านหลิน ข้าขออนุญาตท่านได้หรือไม่?”

"ย่อมได้ เจ้ารีบไปเถอะ! ฝากความคิดถึงจากข้าไปให้ท่านหลินด้วยแล้วกัน!”

ด้วยเหตุนี้ กระทิงยักษ์จึงซื้อของขวัญที่มีค่าบางอย่างและไปที่เรือนตระกูลหลินเพื่อแสดงความขอบคุณต่อหลินเป่ยฟาน

เขาได้ให้สัตย์สาบานอีกว่า เขาจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้หนี้ชีวิตนี้ให้จงได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด