ตอนที่แล้วตอนที่ 58 แผนร้าย..
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 60 ทุกคนรับดาเมจอย่างรุนแรง

ตอนที่ 59 ความสามารถในการดื่มที่น่าทึ่ง


“ไง โอเคแล้วใช่มั้ย?”

หลังจากดื่มเหล้าสามแก้วลงท้องไป ซูเหวิน ก็ยกยิ้มขึ้นมา

เขามองทุกคนด้วยสีหน้าไม่แดง หรือหัวใจเต้นแรงเลยแม้แต่น้อย

“เอ่อ...คอแข็งไม่น้อยจริงๆ ยอดเยี่ยมมาก!”

ทุกคนเองได้ดู ซูเหวิน ดื่มเหล้าสามแก้วหมดในคราวเดียว

ในขณะที่แอบดีใจก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจไปในเวลาเดียวกัน

เมื่อพูดถึงการดื่มเหล้าของ ซูเหวิน มันเป็นไปอย่างเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ไม่มีการละเลย หรือผิดเพี้ยนเลย (หมายถึงมารยาทการดื่ม)

ดูแล้ว.. เขาไม่เหมือนคนที่ไม่เคยดื่มเหล้า

“มามา มา ทุกคนมากินข้าวกันก่อนเถอะ!”

ในเวลานี้ จ้าวหลิ่ง ในฐานะเจ้าภาพเมื่อเห็นว่าอาหารทั้งหมดถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะครบหมดแล้ว จึงร้องเรียกทุกคน

เมื่อเขาพูดแบบนี้ ทุกคนก็ไม่เกรงใจแล้ว และพากันขยับตะเกียบทันที

ทันทีที่ ซูเหวิน กินไปได้แค่สองคํา ติงอวี่ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาเพื่อคารวะเหล้าเขาอีกครั้ง

“มาเถอะน่า เพื่อนร่วมชั้น ซู ในที่สุดเราก็ได้พบกันในเมืองม่อ ฉันอยากจะดื่มเหล้าแก้วนี้ให้กับนาย”

ทัศนคติของเขาดูมีความกระตือรือร้นมากเป็นพิเศษ

ก่อนที่ ซูเหวิน จะทันได้พูดอะไรไป เขาก็ดื่มมันหมดในอึกเดียว

เมื่อเห็นอีกฝ่ายดื่มไปจนหมดแก้วแล้ว ซูเหวิน ก็ไม่อยากเสียมารยาท ดังนั้นเขาจึงดื่มหมดแก้วในอึกเดียวเช่นกัน

“ฮ่าๆ นี่ถือว่าเราเจอกันครั้งแรกเลย”

“มาเถอะ น้องซู หลังจากดื่มแก้วนี้แล้ว คุณกับฉันเรานับว่าเป็นเพื่อนกันแล้ว”

ในเวลานี้สามีของ หวงอิ๋ง ก็เข้ามา และคารวะเหล้าด้วย

ซูเหวิน ยิ้ม และดื่มอีกแก้วโดยไม่ลังเล

หลังจากนั้นทันทีก็ตามด้วย ซุน จื่อเซียน, เพื่อนของ บอสจ้าว และแม้แต่ หวงอิ๋ง ก็ยกเหล้าขึ้นดื่มให้ ซูเหวิน อย่างต่อเนื่อง

สําหรับเรื่องนี้ ผู้ใดมา ซูเหวิน ก็ย่อมไม่ปฏิเสธ

“ผมไม่ค่อยได้ดื่มมานานแล้ว ไม่คิดเลยว่าเหล้ามันจะรสชาติดีเช่นนี้จริงๆ”

หลังจากทุกคนผลัดกันคารวะไปรอบหนึ่งแล้ว ในที่สุด ซูเหวิน ก็ยกยิ้ม แล้วพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

พูดได้แค่คำเดียวว่า เจ๋ง!

ทันใดนั้นทุกคนก็ตกตะลึงแล้ว

พวกเขาเห็น ซูเหวิน ดื่มไปเจ็ดหรือแปดแก้วให้แล้ว แต่สีหน้าของเขาก็ยังดูสงบ ไม่เปลี่ยนสีเลยแม้แต่น้อยก็ต่างพากันสงสัยแล้วว่า ตัวเองมองผิดหรือไม่

แก้วที่ทุกคนใช้ในการดื่มครั้งนี้ไม่ถือว่าใหญ่ แต่ก็ไม่ถือว่าเล็ก

เต็มแก้ว ก็ต้องมีอย่างน้อยๆ 250 มล.

หลังจากดื่มลงไปแล้ว 7-8 แก้ว หากพูดให้น้อย ก็เท่าเบียร์ 3 ขวดให้แล้ว

แต่เมื่อดูรูปลักษณ์ของ ซูเหวิน เวลานี้ เขามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?

บอกว่าดื่มเหล้าไม่เก่ง ทุกคนคงเชื่อ…

“พี่น้อง ซู ที่คุณบอกว่าดื่มเหล้าไม่เก่ง ดูเหมือนจะถ่อมตัวจริงๆ”

สามีของ หวงอิ๋ง ส่ายศีรษะพลางยิ้มหัวเราะออกมา

แม้แต่คนรุ่นเก๋าบนโต๊ะร่ำสุราอย่างเขาก็ยังต้องชื่นชมจํานวนมหาศาลที่อีกฝ่ายดื่มเข้าไป

“ชมเกินไปแล้วครับ เมื่อก่อนผมดื่มไม่เก่งจริงๆ”

“บางทีอาจจะเพราะไม่ได้ดื่มมานาน ความทนต่อฤทธิ์แอลกอฮอล์ของผมเพิ่มขึ้นเองก็ได้”

ซูเหวิน กล่าวออกไปอย่างไม่ใส่ใจ

เพียงแค่ประโยคนี้ คนทั้งปวงก็รู้สึกพูดไม่ออกแล้ว

เพียงแต่เคยได้ยินคนพูดว่าดื่มประจำถึงจะฝึกเพิ่มปริมาณการดื่มได้

ทั้งยังไม่เคยได้ยินใครพูดเลยว่าการไม่ได้ดื่มนานๆ ก็สามารถเพิ่มปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม หวงอิ๋ง ยังคงไม่ได้ลืมจุดประสงค์ของวันนี้

เธอเองไม่เชื่อว่าจะทำให้ ซูเหวิน ดื่มจนเมาไม่ได้

ดังนั้นภายใต้สัญญาณของเธอ ทุกคนถึงกับเปลี่ยนจากเบียร์เป็นเหล้าขาว และพร้อมที่จะดื่มฉลองอีกคนละแก้วหนึ่ง

พวกเขายังไม่เชื่อเช่นกันว่า ซูเหวิน เวลานี้ยังไม่เมา

แม้จะพูดออกไปแบบนี้ แต่ ติงอวี่ และคนอื่นๆ ที่ต่างก้มมองไปที่แก้วเหล้าขาวที่วางอยู่ตรงหน้า ก็พากันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นเล็กน้อยแล้ว

เบียร์ผสมกับเหล้าขาววิธีนี้เป็นวิธีการดื่มที่ทำให้มึนเมาง่ายที่สุด

มัวแต่หวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้เมา แต่ลืมคิดไปเลยว่าพวกเขาเองก็ต้องดื่มด้วย...

เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ แล้ว

มื้อนี้ทุกคนกินกันจนหนำใจจริงๆ

เมื่อมองย้อนกลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง ใบหน้าของทุกคนต่างก็แดงก่ำ พวกเขาดูไม่กระตือรือร้นเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

ติงอวี่ ซุน จื่อเซียน สองคนนั้นเมาไปเรียบร้อยแล้ว

พรรคพวกของ บอสจ้าว หลายคนก็มีบ้างที่เมาไปหน่อยๆ เช่นกัน

จนเหลือเพียง หวงอิ๋ง และสามีของเธอ ที่ในขณะนี้ พวกเขากำลังมองไปที่ ซูเหวิน ที่ยังคงนั่งด้วยสีหน้าสงบ ..อยู่ตรงข้ามด้วยความตกใจ ไปด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

“ซูเหวิน... คุณ...คุณ, คุณดื่มไปขนาดนั้นไม่เมาเลยเหรอ?”

หวงอิ๋ง กล่าวด้วยความตกใจ

เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทําไมอีกฝ่ายที่ดื่มเหล้าไปเยอะขนาดนั้น กลับยังดูมีสีหน้าปกติได้อยู่

เธอเองไม่เมา สาเหตุเพราะเธอไม่ได้ดื่มเหล้าขาวเลย

ส่วนสามีของเธอไม่ได้ดื่มอะไรมากนัก ก็เลยแค่เมาไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่.. ซูเหวิน แตกต่างออกไป

ถ้า หวงอิ๋ง จําไม่ผิด เมื่อกี้ ซูเหวิน ดื่มเบียร์ไปสิบสองแก้วได้ เหล้าขาวเองก็มากกว่าสองจินให้แล้ว(两斤多白酒, 2 จิน ประมาณ 1 กิโลกรัม / 1 กก. = 1 ลิตร)

มัน.. หมายความว่าไง?

แม้แต่ราชานักดื่ม เขาก็ต้องนอนฟุบลงไปแล้วใช่ไหม?

สามีของ หวงอิ๋ง รู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่าอีก

ในฐานะเจ้าของบริษัท การกินข้าวดื่มเหล้ากับเพื่อนฝูงถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ

แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นใครที่มีความสามารถในการดื่มได้ขนาดนี้มาก่อน..

เพราะนี่มันไม่ใช่ปริมาณที่คนปกติสามารถดื่มได้อีกต่อไปแล้ว

เมื่อเผชิญกับความตกใจของอีกฝ่าย ซูเหวิน กลับไม่รู้สึกแปลกใจใดๆ เลย

ร่างกายของเขาได้รับการยกระดับสมรรถภาพทางกายจากระบบ ในทุกๆ ส่วนของร่างกายต่างๆ ถูกยกระดับ และปรับปรุงให้ดีขึ้น ในส่วนความสามารถในการดื่มของเขาก็ย่อมต้องแตกต่างไปจากเดิมอยู่แล้ว

และนั่นคือเหตุผลที่เขากล้าดื่มเหล้าสามแก้วโดยไม่ลังเลไปในตอนแรก

ทันใดนั้น ซูเหวิน ก็มอง หวงอิ๋ง ยิ้มหัวเราะ ก่อนจะพูดไปว่า : “เพื่อนร่วมชั้น หวง.. สำหรับวันนี้ต้องขอบคุณคุณจริงๆ ที่ทำให้ผมสนุกไปกับการดื่ม ได้มากขนาดนี้”

เพื่อให้เขาดื่มเหล้าไปได้อย่างสนุกสนาน, เลยเจตนาที่จะเชิญเพื่อนมากมายมาร่วมกับเขา, นี่มันถือได้ว่าเป็นการใส่ใจผู้อื่น ได้ดีมากๆ(??)

หลังจากดูเพื่อนที่ดื่มไปด้วยกันบนโต๊ะแล้ว ซูเหวิน เองพยักหน้าอย่างพอใจ

มันจะดีกว่าถ้า ซูเหวิน ..ไม่พูดแบบนี้

พอคำพูดนี้หลุดออกมา หวงอิ๋ง แทบจะอาเจียนเป็นเลือดออกไปด้วยความโกรธทันที

เธอเชิญ ซูเหวิน มาในวันนี้ก็จะเพื่อมอมเหล้าเขา แล้วจัดการกับเขา

สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า เชิญเขามาดื่มกินจนอิ่ม และทำให้เขามีความสุข?

ในใจของเธอเวลานี้โกรธมากจริงๆ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ ได้แต่พูดไปว่า : “ฮ่าฮ่าๆ เราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน นี่มันคือสิ่งที่ควร สิ่งที่ควรอยู่แล้ว..”

อาหาร.. กินจนอิ่ม เหล้าก็หมดแล้ว

ซูเหวิน จึงยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา เที่ยงคืนกว่าแล้ว หลังจากคุยกับอีกฝ่ายอีกครั้ง สักพักเขาจึงลุกขึ้นบอกลา หวงอิ๋ง และคนอื่นๆ

เมื่อมองไปที่แผ่นหลังอันอุกอาจของ ซูเหวิน หวงอิ๋ง ก็ยิ่งทั้งโกรธ และรู้สึกเกลียดชังมากขึ้นในใจ

วันนี้ขาดทุนจริงๆ เสียทั้งฮูหยิน และรี้พลไปในคราเดียว(1)

กลยุทธ์เปล่าประโยชน์ แต่กลับทําให้ไอ้สารเลว ซูเหวิน นั้นกินอย่างสิ้นเปลือง ช่างเสียเปล่าจริงๆ

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจาก ซูเหวิน ออกจากโรงแรม ทันใดนั้นระบบก็ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจ(หัว)ของเขา

“ติ๊ง!”

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์สำหรับการทำภารกิจเข้าร่วมตามคำเชิญของ หวงอิ๋ง สำเร็จ”

“รางวัลภารกิจ : หุ้น 67% ของอาคารศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าเมืองม่อ”

“โฮสต์ โปรดไปลงนามในสัญญาโดยเร็วที่สุด เพื่อดำเนินการส่งมอบเสร็จสิ้น”

หลังจากพูดจบระบบก็หายไป…

มีสัญญาที่ต้องลงนาม, ซูเหวิน แน่นอนย่อมไม่อยากเสียเวลา

เขาเรียกหาคนรับรถโดยตรง และขับรถ Lamborghini ของเขาไปที่อาคารศูนย์การค้า

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

รอหลังจากเซ็นสัญญาเสร็จแล้ว, เขาก็ออกมาจากอาคารศูนย์การค้า

เวลานี้ เขาไม่เพียงแต่กลายเป็นประธานของบริษัท แต่เขายังได้รับบัตรสมาชิก VIP ที่มีมูลค่าหนึ่งล้านที่มีได้เฉพาะสำหรับผู้ถือหุ้นเท่านั้น

บัตรสมาชิกประเภทนี้ มีเฉพาะผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นส่วนบุคคลมากกว่า 3% เท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของมันได้

ด้วยบัตรนี้ คุณสามารถซื้ออะไรก็ได้ในอาคารศูนย์การค้า โดยจำกัดวงเงินฟรีอยู่ที่ 1 ล้าน แถมยังได้ส่วนลด 15% อีกด้วย

หนึ่งล้านสำหรับ ซูเหวิน แม้จะไม่มาก แต่ก็ไม่ควรเสียเปล่า

หลังจากเซ็นสัญญา แล้วได้รับบัตรนี้มาแล้ว

จากนั้น ซูเหวิน ก็กลับไปที่มหาวิทยาลัยเทียนเวย…

ชีวิตในมหาลัยยังคงเป็นไปตามปกติเหมือนเดิม

วันเวลาเองผ่านไปตามปกติ

วันนี้ที่สนามกีฬา

เนื่องจากเป็นชั้นเรียนพลศึกษา ซู่ เหวิน จึงก่อตั้งทีมบาสเกตบอลร่วมเล่นกับเพื่อนร่วมห้อง

พอผ่านไปสักพักก็รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย

ทุกคนจึงพากันเดินไปพักผ่อนที่สนามหญ้าด้านข้าง

“เฮ้.. ว่าก็ว่าเถอะ เหล่าซู ร่างกายของนายนี่ถูกตีขึ้นจากเหล็กหรือเปล่าว่ะ?

“เออจริง..เล่นบาสไปครึ่งชั่วโมงกลับไม่มีอาการหอบเหนื่อยเลย?”

เหอ เหวินเฟิง เองตกตะลึงไปเช่นกัน

“ใช่..ฉันดูแล้ว เหงื่อนายไม่เห็นออกเท่าไหร่เลย”

“คงไม่ใช่เพราะนายกำลังมีความรักกับ ดอกไม้งาม เซี่ย แล้ว ตัวนายก็เหมือนถูกฉีดเลือกไก่เข้าไปหรอกนะ?”

เฉินหมิง และจูเหยี่ยน ก็มองไปที่ ซูเหวิน พอเห็นอีกฝ่ายดูสงบ

ทั้งคู่เองตกใจ เลยพูดแซวไป

“ฉันก็ไม่รู้ บางทีเป็นเพราะสภาพร่างกายของฉันอาจดีขึ้นแล้ว”

ซูเหวิน ยิ้มพลางหัวเราะ และพูดกับเพื่อนไปอย่างมีความสุข

นับตั้งแต่ระบบได้ยกระดับสมรรถภาพทางกายของเขา เขารู้สึกชัดเจนว่าความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และความทนทานเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

แม้แต่การดื่ม ก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องเมา, เหมือนอย่างเมื่อสองวันก่อน

ซูเหวิน แอบคิดอย่างมีความสุขในใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นในด้านสนามกีฬา

เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง

ไม่ไกลนักเขาก็เห็นสาวสวยสวมชุดกระโปรงเอี๊ยมสีขาวสวยงาม กําลังเดินมาทางเขา

รูปร่างที่สง่างาม และมีเสน่ห์นั้น ดวงหน้าอันละเอียดอ่อนนั้นมันเหมือนมีบรรยากาศที่บางๆ เหมือนฝุ่นละอองที่พลิ้วไหวตามสายลม เธอ.. เปรียบเสมือน เอลฟ์ ที่อยู่ท่ามกลางสายหมอก ..จริงๆ

จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย?

ทันทีที่เธอปรากฏตัว เหล่าชายหนุ่มที่กำลังเล่นอยู่ในสนามกีฬาก็ราวกับต้องมนต์สะกด เหมือนจะสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว และดูเหมือนทุกคนจะถูกดึงดูดอย่างลึกซึ้ง โดย เธอ..

(1)[เสียทั้งฮูหยิน และรี้พล (賠了夫人又折兵)] - ‘周郎妙计安天下,赔了夫人又折兵’ - อุบายจิวยี่เเสนเเยบยล เสียทั้งฮูหยิน เเละรี้พล 

    สำนวนนี้ใช้เพื่ออธิบายถึงคนที่ต้องการเอาเปรียบ แต่ล้มเหลวในการใช้ประโยชน์ และประสบกับการสูญเสียแทน

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด