จอมปราชญ์นิรันดร์ บทที่ 44 การซุ่มโจมตีที่สมบูรณ์แบบ (ฟรี 22-03-2024)
นิกายฮวนสี่ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างยิ่ง ทำให้ซูสือโม่วรู้สึกมีพลัง มันกระโดดขึ้นและพุ่งไปในแนวทแยงมุม ทะลวงไปข้างหน้าด้วยเคล็ดวิชาการเคลื่อนไหวอาชาศักดิ์สิทธิ์ข้ามช่องว่าง
ผู้อาวุโสเฉียนพร้อมกับกลุ่มรีบไล่ตาม
ณ ที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ข้างหน้าไม่ไกลมียอดเขาสูงชัน
สายตาของผู้อาวุโสเฉียนและกลุ่มเป็นประกาย
ซูสือโม่วไม่รู้จักเคล็ดวิชาเหาะเหิน อีกฝ่ายจะต้องอ้อมเพื่อที่จะผ่านยอดเขานี้ ดังนั้น พวกมันสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้รุมล้อมอีกฝ่ายได้
พวกมันอาจจะจับอีกฝ่ายทั้งเป็นก็ได้!
อย่างไรก็ตาม ทุกคนจากนิกายฮวนสี่ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุใดซูสือโม่วจึงไม่ลดความเร็วหรือเปลี่ยนทิศทาง กลับกัน มันพุ่งตรงไปยังขุนเขาด้านหน้า
"บางทีชายคนนี้อาจกำลังมองหาตำแหน่งสิ้นชีวิตของตนเอง? คนผู้นี้ปรารถนาที่จะสังหารตนเองจากการปะทะกัน?" นักรบขอบเขตสกัดปราณคนหนึ่งพึมพัม
ในขณะที่มันจบถ้อยคำ ผู้อาวุโสเฉินก็อุทานด้วยความงงงวย
ก่อนที่ร่างของซูสือโม่วจะถึงขุนเขา ที่น่าแปลกใจก็คือ คนผู้นี้หายไป!
คนของนิกายฮวนสี่รีบเร่งเข้าไปดูอย่างใกล้ชิด ปรากฎว่ามีถ้ำอยู่ที่ตีนเขานี้
ถ้ำนี้เงียบสงบ มืด ลึกเข้าไปในถ้ำ ดูราวกับว่าเป็นสัตว์ร้ายที่น่าพรั่นพรึงก้มตัวลงบนพื้นพร้อมกับอ้าปากใหญ่ที่ดุร้ายออกพร้อมกับรอให้ทุกคนจากนิกายฮวนสี่เข้าไป
จริงแล้วซูสือโม่วหนีเข้าไปในถ้ำแห่งนี้!
ถ้ำมืดและน่ากลัว แคบเล็ก ไม่ว่าจะเป็นนักรบขอบเขตสกัดปราณหรือผู้ฝึกเทพยุทธ์ขอบเขตก่อตั้งรากฐาน ไม่มีใครสามารถบินไปในอากาศได้
นี่หมายความว่านิกายฮวนสี่จะไม่มีข้อได้เปรียบใดๆ ในทางกลับกัน ซูสือโม่วกลายเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งและอาจถึงขั้นสังหารคนเหล่านี้ได้!
ทันใดนั้น ชั้นหมอกก็ปกคลุมหัวใจของทุกคนจากนิกายฮวนสี่
เดิมทีเป็นชัยชนะที่แน่นอนแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ทราบสาเหตุ ทุกคนมีลางสังหรณ์ว่าพวกมันถูกจูงจมูกไป
จะไล่หรือไม่?
ถ้าพวกมันไล่ล่าคนผู้นี้ พวกมันจะทำอย่างไร?
ความสงสัยทั้งสองนี้แวบเข้ามาในจิตใจของทุกคน
หากถ้ำแห่งนี้มีทางตัน นั่นคงเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด ทุกคนเพียงป้องกันที่ทางเข้าถ้ำ ซึ่งซูสือโม่วจะต้องสิ้นชีวิตด้วยการอดตายภายในถ้ำ
อย่างไรก็ตาม หากนี่เป็นเพียงอุโมงค์ในขุนเขา ซูสือโม่วคงหนีไปนานแล้วขณะที่นิกายฮวนสี่ยังคงป้องกันทางเข้า
นี่เป็นส่วนที่ยุ่งยากที่สุด หากถ้ำมีทางออก ผู้คนจากนิกายฮวนสี่ไม่รู้อีกด้วยซ้ำว่าทางออกอยู่ที่ใด ถ้าพวกมันแยกทางกัน ก็จะเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับซูสือโม่วที่จะโจมตีทำลายพวกมัน
อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกมันมองหาทางออกด้วยกันแต่มุ่งหน้าไปผิดทาง ซูสือโม่วคงหนีไปนานแล้วอย่างไร้ร่องรอย
"บัดซบ คนธรรมดาสามัญที่ต่ำต้อยคนนี้!" ผู้อาวุโสเฉินเดือดดาลด้วยความโกรธ พร้อมกัดฟันดุด่า
ผู้อาวุโสเฉียนครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกัดฟันแล้วกล่าวว่า "ไล่ตาม!"
หลังจากหยุดไปชั่วขณะ ผู้อาวุโสเฉียนก็กล่าวอีกครั้งว่า "เฉินปิน เรามียันต์เพื่อปกป้องเรา แม้ว่าซูสือโม่วจะเข้าใกล้เรา มันก็ไม่สามารถทำลายแนวป้องกันของเราทั้งสองได้ เราจะเป็นผู้นำกลุ่มและปกป้องกงเหลียงจิ่งและหลู่เหวินเฉิงไปด้วย"
กงเหลียงจิ่งและหลู่เหวินเฉิงเป็นผู้อาวุโสอีกสองคนจากนิกายฮวนสี่ แม้ว่าพวกมันจะเป็นผู้ฝึกเทพยุทธ์ขอบเขตก่อตั้งรากฐานแต่ไม่มียันต์ อาวุธที่พวกมันควบคุมก็เป็นระดับต่ำเช่นกัน
ในวงการเทพยุทธ์ เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ฝึกเทพยุทธ์ขอบเขตก่อตั้งรากฐานที่จะทำอะไรโดยไม่ต้องมียันต์และควบคุมอาวุธวิญญาณระดับต่ำ โดยเฉพาะนิกายขนาดเล็กเช่นนิกายฮวนสี่
นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดปรมาจารย์ปรุงยาอายุวัฒนะ ปรมาจารย์ปรับแต่งอาวุธ และปรมาจารย์พยุหะค่ายกลมีสถานะพิเศษในวงการเทพยุทธ์
หากปรมาจารย์ปรับแต่งอาวุธสามารถปรับแต่งอาวุธวิญญาณระดับกลางได้ ผู้ฝึกเทพยุทธ์ขอบเขตก่อตั้งรากฐานจำนวนมากคงจะพังหน้าประตูบ้านเพื่อเป็นเพื่อนหรือแลกเปลี่ยนกับศิลาวิญญาณเพื่อรับบริการ
ด้วยชั้นเกราะเรืองแสงบนทั้งผู้อาวุโสเฉียนกับผู้อาวุโสเฉิน พวกมันก็เข้าไปในถ้ำก่อนเป็นอันดับแรก ตามรอยเท้าของพวกมันมาอย่างกระชั้นชิดเป็นคนที่เหลือของนิกายฮวนสี่
พื้นถ้ำไม่เรียบและมีโพรงเล็กโพรงใหญ่เต็มไปหมด นักรบขอบเขตสกัดปราณมีสมบัติมากมายอยู่ในกระเป๋าเก็บของแต่คนเหล่านี้ไม่สามารถทำให้สถานที่นี้สว่างขึ้นได้
พวกมันสามารถพึ่งพาแสงจางๆ จากยันต์ป้องกันบนตัวผู้อาวุโสเฉียนกับผู้อาวุโสเฉินเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
นิกายฮวนสี่ที่เหลือที่ตามหลังผู้อาวุโสที่เหลือนั้นหน้าซีดอย่างน่ากลัว ทุกคนเครียดมากขณะที่คนเหล่านี้สำรวจบริเวณโดยรอบ ด้วยความกลัวว่าซูสือโม่วจะพลันกระโดดออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
แม้ว่ากงเหลียงจิ่งกับหลู่เหวินเฉิงจะเป็นผู้ฝึกเทพยุทธ์ขอบเขตก่อตั้งรากฐานแต่ ฝ่ามือของพวกมันก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ พวกมันกำลังเดินเข้าไปในถ้ำด้วยความกลัวและกังวลใจ
บรรยากาศเริ่มอึมครึมมากขึ้น!
ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวของต้นหญ้าหรือลมเล็กน้อยในถ้ำ ก็จะทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่ผู้คน
ผู้อาวุโสเฉียนกับผู้อาวุโสเฉินเป็นผู้นำกลุ่มที่แนวหน้า พวกมันสังเกตสิ่งที่อยู่ใต้เท้าของตนเองก่อน ตามด้วยสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่ไม่ได้เงยหน้ามองข้างบน
ภายใต้จิตใต้สำนึกของทุกคน ซูสือโม่วไม่รู้จักเคล็ดวิชาเหาะเหิน โดยปกติแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่คนผู้นี้จะปรากฏตัวจากด้านบนศีรษะ
อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ลืมไปจุดหนึ่ง
นี่คือถ้ำ
มีกำแพงศิลาอยู่บนเพดานถ้ำ!
ในขณะนี้ มีคนแนบชิดกับกำแพงศิลาบนเพดาน หรี่ตาพร้อมกับจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่ผู้คนของนิกายฮวนสี่ที่กำลังก้าวย่างอยู่ด้านล่าง
ฉับพลันนั้นเอง ผู้อาวุโสเฉียนก็หยุดสืบเท้าของตนเองพร้อมทั้งกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "มีบางอย่างผิดปกติ มีกลิ่นคาวโลหิตแรงมาก เด็กคนนี้อยู่ใกล้ๆ !"
ก่อนที่มันจะทันจบถ้อยคำ แสงอันเจิดจ้าก็ส่องเข้ามาทำลายความมืดในถ้ำ
ฉูด!
กระโหลกขนาดใหญ่กระเด็นออกไป โลหิตสดสาดกระเซ็นไปทั่วฝูงชน ทุกคนจากนิกายฮวนสี่พลันระเบิดด้วยความตกตะลึง!
"ผู้อาวุโสหลู่?"
"ผู้อาวุโสหลู่สิ้นชีวิตแล้ว!"
"มันอยู่ที่ใด?"
"ด้านบน… อาา!"
มีเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชอีกครั้งหนึ่ง หนึ่งในนักรบขอบเขตสกัดปราณเสียชีวิตทันที
ก่อนหน้านี้ ซูสือโม่วเคยยิงธนูออกไปห้าดอกและพบว่าผู้ฝึกเทพยุทธ์ขอบเขตก่อตั้งรากฐานที่เหลืออีก2คนมีกลยุทธ์การป้องกันคล้ายกับยันต์เสริม
ด้วยความสามารถปัจจุบัน มันไม่สามารถทำลายการป้องกันดังกล่าวได้
ดังนั้น การฟันของซูสือโม่วนี้มุ่งเป้าไปที่หลู่เหวินเฉิงกับกงเหลียงจิ่ง ซึ่งไม่มียันต์ที่จะปกป้อง
อย่างไรก็ตาม กงเหลียงจิ่งตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ทันใดนั้นเมื่อผู้อาวุโสเฉียนหยุดก้าวชั่วคราว มันก็ตระหนักว่ามีบางอย่างที่ไม่ค่อยถูกต้อง ดังนั้น มันจึงย่อตัวลงอย่างไม่สนใจเกี่ยวความภาคภูมิใจ ด้วยเหตุนี้ มันจึงหลีกหนีภัยพิบัติได้
เมื่อซูสือโม่วทิ้งตัวลงมาจากเพดานศิลาและต้องการไล่ตามอีกฝ่าย กงเหลียงจิ่งก็ได้วิ่งตามหลังผู้อาวุโสเฉียนกับผู้อาวุโสเฉินไปแล้วพร้อมกับหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ
ในเวลาแทบจะทันที ซูสือโม่วก็ตกลงไปท่ามกลางฝูงนักรบขอบเขตสกัดปราณ
ในถ้ำแคบเล็ก นักรบขอบเขตสกัดปราณจากนิกายฮวนสี่เกือบจะไม่มีพื้นที่ให้หลบ ด้วยความเสียขวัญ ถึงกับมีคนชนเข้ากับซูสือโม่วตอนที่พยายามจะหนี
ความน่ากลัวกับเสียงหัวเราะอันเยือกเย็นของซูสือโม่วก้องกังวานในความมืด
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า… พวกท่านต้องการจะสังหารข้าพเจ้า คนน้อยแค่นี้ยังไม่พอ!"
ฉูด! ฉูด! ฉูด!
ซูสือโม่วไม่จำเป็นต้องมองด้วยซ้ำ ด้วยดาบจันทร์ยะเยือกในมือ มันสามารถสังหารนักรบขอบเขตสกัดปราณในสถานที่นี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการสะบัดดาบอย่างไม่ใส่ใจ
พร้อมกับเสียงกรีดร้องอันน่าสมเพชของนักรบขอบเขตสกัดปราณ โลหิตก็ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่สาดกระเซ็นไปทุกที่
ในถ้ำนี้ ซูสือโม่วเป็นเหมือนพยัคฆ์ที่เคลื่อนเข้าไปในฝูงแกะ สับผู้คนทางซ้ายแล้วฟันผู้คนทางขวาอย่างอาละวาด นักรบขอบเขตสกัดปราณจากนิกายฮวนสี่ไม่สามารถตอบโต้เลยแม้แต่น้อย
แม้แต่การหลบหนีก็ยังกลายเป็นเพียงแค่ความปรารถนา!
นี่คือการซุ่มโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่นิกายฮวนสี่ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าสมบูรณ์แบบ
ซูสือโม่วใช้ความคุ้นเคยกับภูมิประเทศเทือกเขาชางหลางเพื่อหลอกล่อฝ่ายตรงข้ามเข้ามาในถ้ำลึก ที่มืดและเงียบได้สำเร็จ
ข้อได้เปรียบของผู้ฝึกเทพยุทธ์ถูกลดให้น้อยที่สุดในขณะที่ข้อได้เปรียบของซูสือโม่วได้รับการปลดปล่อยให้สูงสุด!
ผู้อาวุโสทั้งสามของนิกายฮวนสี่ยืนหยั่งรากอยู่กับพื้น หลั่งเหงื่อบนหน้าผากแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
ไม่ใช่เพราะพวกมันไม่ต้องการ
แต่เป็นเพราะซูสือโม่วเคลื่อนไหวไปโดยรอบ ท่ามกลางฝูงชนอย่างต่อเนื่อง เคล็ดวิชาการเคลื่อนไหวรวดเร็วว่องไว ถ้ำนั้นสลัวมาก หากพวกมันโจมตี จะต้องทำให้ศิษย์นิกายได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นจำนวนศิษย์นิกายลดลง ความชั่วร้ายก็ฉายแววเข้าไปในดวงตาของผู้อาวุโสเฉียน มันกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "โจมตี!"
"อะไรนะ?" ผู้อาวุโสอีกสองคนตกตะลึง
"ข้าพเจ้าบอกว่า โจมตี!"
ผู้อาวุโสเฉียนกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ตอนนี้เราไม่ต้องกังวลมากแล้ว แม้ว่าเราจะสังหารศิษย์นิกายของเราโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ทุกคนสิ้นชีวิตในมือของเจ้าเด็กคนนี้!"