ตอนที่แล้วChapter 493 ลู่เชียนเชียน ดูแลตัวเองด้วย.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 495 สองพี่น้องหนิง

Chapter 494 โปรดให้พวกเราได้คุกเข่าขอบคุณ


หลังจากลู่เชียนเชียนจากไปแล้ว สำนักไท่กู่เจิ้งที่ดูเหมือนว่าจะขาดความมีชีวิตชีวาไปเล็กน้อย.

ทุกคนที่รู้สึกราวกับว่าขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่ง ขณะออกมาทำกายบริหาร ความรู้สึกเหมือนว่าไม่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้น.

โดยเฉพาะเจ้าสำนักจุน.

หลังจากทำการบริหารเสร็จ เขาที่นั่งอยู่ในห้องโถง บางครั้งก็ลอบมองไปยังประตู.

นางที่ชอบปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกับเอ่ยกล่าววาจาเชือดเฉือนเขาอยู่เป็นประจำ.

ทั้งสองที่มีความรู้สึกให้กันและกัน.

บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกระหว่างชายหญิงก็ได้.

เขารู้จักกับลู่เชียนเชียนมานาน แม้นว่าจะไม่ได้คิดอะไร ทว่าเมื่อคนจากไปแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมรู้สึกขาดหายเช่นกัน.

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวถอนหายใจยาว.

ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนให้อนุญาตนางออกไปหาประสบการณ์เองหรอกรึ?.

“เพียงแค่จากไป.”

ในเวลานั้นลี่ลั่วฉิวก้าวเข้ามาจากด้านนอก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าสำนักคิดถึงนางแล้วรึ?”

คำพูดดังกล่าวนั้น ไม่ได้ทำให้เจ้าสำนักจุนเก้อเขินแต่อย่างใด เขาที่เอ่ยออกมาด้วยความเศร้า “อย่างไรนางก็เป็นศิษย์หญิงใหญ่ เปิ่นจั้วจะไม่คิดถึงนางได้อย่างไร.”

ลี่ลั่วฉิว เอ่ย “ข้ามีข่าวดีจะบอก.”

“ข่าวดีอะไรอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ลี่ลั่วฉิวเผยยิ้ม “มนทลเจิ้นหยางและมนทลซีหยาง ได้เปิดสงครามกันแล้ว ทั้งสองต่างก็มีทัพฝั่งละห้าแสนคน.”

จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเป็นประกาย “เป็นข่าวดีจริง ๆ!”

มนทลเจิ้นหยางที่ต้องเปิดสงครามกับดินแดนระดับหกเหมือนกัน ตอนนี้ไม่มีเวลามาสนใจมนทลชิงหยางแน่นอน เขาก็จะสามารถพัฒนาสำนักได้อย่างเงียบ ๆ และมั่นคง.

......

“ศิษย์พี่.”

ภายในลานยุทธ์ ซูเซียวโม่ที่กล่าวเสียงเบา “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ไม่อยู่ ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่มีจิตวิญญาณยังไงไม่รู้.”

“จำเป็นต้องปรับตัว.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.

“แปะ ๆ!”

เขาที่ลุกขึ้นปรบมือเสียงดัง “อย่าขี้เกียจกัน ใครมีภารกิจก็ไปทำภารกิจ ส่วนคนไม่มีก็ไปฝึกฝนได้แล้ว.”

ศิษย์พี่หญิงใหญ่ไม่อยู่ ทำให้ศิษย์พี่รอง ต้องแบกรับภาระทุกอย่างไป.

“รับทราบ!”

ศิษย์ทุกคนที่ค่อย ๆ ปรับอารมณ์ ก่อนที่จะตั้งสมาธิฝึกฝนต่อไป.

......

เจ้าสำนักจุนหลังจากปรับอารมณ์ที่ศิษย์หญิงใหญ่จากไปได้แล้ว เขาก็เริ่มจัดการวางแผนพัฒนาสำนักต่อไป.

อย่างแรก ขยายสำนัก.

หลังจากรับศิษย์มา 5000 คน ทำให้ลานยุทธ์มีคนค่อยข้างมาก จำเป็นต้องขยายออกไปอีก.

หลี่ชิงหยางที่รับหน้าที่ออกแบบและขยายขนาดสำนัก.

จุนซ่างเซียวที่จ้องมองแบบร่างก่อสร้างของศิษย์ ที่นำเสนอ ก็เผยความประหลาดใจออกมา “เจ้าเป็นคนคิดอย่างงั้นรึ?”

“ครับ.”หลี่ชิงหยางตอบรับ.

จุนซ่างเซียวกล่าวชื่นชม “การออกแบบของเจ้า รูปแบบของนี้ จ๊าบเป็นอย่างมาก.”

“จ๊าบ?”หลี่ชิงหยางงงงวย.

“เอิ่ม”จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้อธิบายอะไรออกมา เขาที่ส่งแหวนมิติออกไป กล่าวออกมาว่า “นี่สิบล้านเหรียญ หากไม่พอค่อยบอกก็แล้วกัน.”

หลี่ชิงหยางที่มุมปากกระตุก.

ขยายสำนักด้วยเงินสิบล้านเหรียญ นี่จะต้องหรูหราอย่างแน่นอน!

เงินไม่มีความหมายใด.

สิ่งที่เจ้าสำนักจุนขาดคือพลังบ่มเพาะ และศิษย์ที่มีพรสวรรค์ระดับสูง แต่เขาไม่ได้ขาดเงิน!

......

เช้าวันถัดมา.

หลี่ชิงหยางที่ทำหน้าที่ขยับขยายสำนัก.

ศิษย์คนอื่น ๆ ก็ทำการบ่มเพาะฝึกฝนเป็นปรกติ.

เจ้าสำนักจุนหลังจากทำกายบริหารเสร็จ ก็เดินทางไปยังเมืองฮู่หยาง.

หลังจากได้รับเม็ดยารวมวิญญาณระดับกลาง สิ่งที่ขาดเวลานี้คือสมุนไพรและเมล็ดของมัน.

“เจ้าสำนักจุน!”

ในร้านยา อ้ายซางหนี่ที่เร่งรีบออกมาต้อนรับ กล่าวออกมาด้วยความซาบซึ้ง “ปกป้องเมืองชิงหยาง เท่ากับปกป้องมนทลชิงหยาง โปรดรับการคารวะจากข้า!”

“เรื่องกระจิดริด ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

อ้ายซางหนี่ที่มุมปากกระตุก.

จัดการทัพมนทลเจิ้นหยาง 300,000 แม้แต่ตัดศีรษะของไป๋รุ่ยหู่ ยังกล่าวว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เรื่องใหญ่ขนาดนี้จะเล็กได้อย่างไร อ๊าก!

“ประมุขอ้าย.”

จุนซ่างเซียวที่เปลี่ยนหัวข้อทันที “เปิ่นจั้วมาครั้งนี้ ต้องการซื้อสมุนไพรและเมล็ดสมุนไพร.”

กล่าวจบ เขาที่ยื่นรายการของสินค้าที่จะซื้อออกไป.

อ้ายซางหนี่ที่จ้องมองอย่างระมัดระวัง “เจ้าสำนักจุนวัตถุดิบเหล่านี้ ภายในร้ายของข้ามีเล็กน้อย ทว่าเมล็ดนั้นมีอยู่มากมาย.”

“ข้าต้องการทั้งหมด.”จุนซ่างเซียวที่กล่าวง่าย ๆ สบาย ๆ.

เหล่าเหว่ยและหอสมุนไพร สามารถที่จะปลูกสมุนไพรเหล่านี้ให้มีระดับสูงได้.

อ้ายซางหนี่ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ครึ่งชั่วยาม สมุนไพรและเมล็ดสมุไพรก็ถูกจัดเตรียมมาให้เขาอย่างรวดเร็ว.

“ราคาเท่าไหร่อย่างงั้นรึ?”

“เจ้าสำนักจุนที่ช่วยมนทลชิงหยางของพวกเราจากหายนะ อ้ายโหมวนั้นต้องการขอบคุณ มอบสิ่งของเหล่านี้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย!”

“เรื่องนี้......”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางลำบากใจ ก่อนจะกล่าวตอบรับ ”ตกลง.

ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากร้าน เขาได้มอบเม็ดยาฟื้นฟูและเม็ดยาบูรณาร่างกายอีกหลายสิบเม็ดให้กับอ้ายซางหนี.

บนถนน.

เจ้าสำนักจุนที่เดินอยู่บนถนน เหล่าประชาชนมากมายที่มองเห็นต่างก็จ้องมองด้วยความเคารพและนับถือเป็นอย่างมาก แม้แต่คำนับให้กับเขา.

“ทำความเคารพ!”

สตรีผู้หนึ่งที่อุ้มเด็กชายวัยสามขวบเอ่ยออกมาว่า “นั่นเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง เป็นคนที่ช่วยมนทลชิงหยางของพวกเรา!”

“ท่านแม่!”

เด็กคนดังกล่าวแววตามั่นคงเอ่ยออกมาว่า “หลังจากข้าโตขึ้น ข้าจะเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง!”

“เจ้าสำนักจุน.”

ชายชราคนหนึ่งที่คุกเข่าลง เอ่ยออกมาว่า “โปรดรับการคำนับของเหล่าฟู่ด้วย!”

เขาไม่ใช่คนพื้นที่ของมนทลชิงหยาง.

เมื่อร้อยปีที่แล้วเขาได้ย้ายครอบครัวมาที่นี่ เหตุผลก็เพราะบ้านเกิดเดิมเกิดสงครามนั่นเอง.

สำหรับชายชราแล้ว เข้าใจถึงความโหดร้ายของสงครามดีกว่าทุกคน เขาจึงให้ความสำคัญกับชีวิตที่สงบสุขมาก!

ดังนั้นเขาจึงคุกเข่าด้วยความซาบซึ้ง เพราะรู้สึกขอบคุณเจ้าสำนักจุนเป็นอย่างมาก!

“ปู่ รีบลุกขึ้นเร็วเข้า.”

จุนซ่างเซียวที่โบกมือ ใช้พลังวิญญาณยกชายชราขึ้น.

อย่างไรก็ตาม.

ขณะนั้น.

ประชาชนคนอื่น ๆ ต่างก็คุกเข่าลงกับพื้นให้กับเขา ลงอย่างพร้อมเพรียง.

“เจ้าสำนักจุน.”ทุกคนที่คุกเข่าให้กับเขา เอ่ยออกมาว่า “ขอให้พวกเราได้คำนับขอบคุณท่านด้วย!”

“เรื่องนี้.........”

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกอักอ่วนเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะรีบจากเมืองฮู่หยางไป.

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาออกมายังพื้นที่โล่ง มีเงาสองร่างที่ซ่อนตัวอยู่ กระโดดออกมา ร่างกายที่แผ่พลังวิญญาณที่หนักหน่วงออกมา!

กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้น เป็นระดับกษัตริย์ยุทธ์อย่างแน่นอน!

ตูมมม!

ตูมมม!

จุนซ่างเซียวที่หันหน้าจดจ้องมองไปยังทั้งสองทันที ก่อนที่จะโจมตีสวนการโจมตีของคนทั้งสอง.

ครืนน! ครืนน! ครืนน!

เงาร่างทั้งสองที่ถูกกระแทกร่างกายครูดไปกับพื้น ก่อนจะยั้งเท้าเอาไว้ได้ แววตาของพวกเขาที่เผยความไม่อยากเชื่อออกมา.

พวกเขาที่ซ่อนตัวอยู่ ก่อนที่จะลอบโจมตีออกไป แต่เป็นพวกเขาที่ถูกกระแทกลอยออกมา!

จุนซ่างเซียวที่เก็บฝ่ามือกลับมา แค่นเสียงเย็นชา “ทั้งสอง คงจะตามเปิ่นจั้วมานานแล้วสินะ?”

ใช่แล้ว.

ตามมาตั้งแต่ในเมืองฮู่หยางแล้ว.

“เจ้าสำนักจุน” ทั้งสองที่สวมชุดดำมีอายุราว ๆ 30 ปี ยกมือประสานไปด้านหน้า “เป็นคนที่แข็งแกร่งจริง ๆ พวกเราสองพี่น้องขอชื่นชม!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าเป็นคนของมนทลเจิ้นหยางรึ?”

“ไม่.”

“เป็นคนของนิกายโม่ซาอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ใช่.”

“คนของหอเทพสังหารอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ใช่.”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

ที่เอ่ยไปนั้นก็คือศัตรูของเขา หากไม่ใช่แล้ว ใครส่งพวกเขามากัน?

“เจ้าสำนักจุน.”

ชายชุดดำที่ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “พวกเราสองพี่น้องไม่มีสำนัก ตระเวนไปรอบโลกไม่มีหลักแหล่ง ตอนนี้ต้องการเข้าร่วมเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง!”

“หะ?”

จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นงงงวย.

จู่ ๆก็มีสองกษัตริย์ยุทธ์มาขอเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหลือเชื่อเล็กน้อย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด