ตอนที่แล้วChapter 491 ยกระดับสิ่งก่อสร้างระดับหก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 493 ลู่เชียนเชียน ดูแลตัวเองด้วย.

Chapter 492 หอรวมจิตวิญญาณ.


หลังจากยกระดับสิ่งก่อสร้างแล้ว จุนซ่างเซียวเริ่มตรวจสอบฟังก์ชันใหม่ในทันที.

ตัวอักษรคำว่า จิตวิญญาณ เขาคาดเดาว่าอาจจะเกี่ยวอะไรกับพลังวิญญาณหรือไม่? แม้แต่คาดเดาว่ามันคงเป็นฟังก์ชันในการหล่อเลี้ยงพลังวิญญาณ?

“หรือว่ามันสามารถช่วยข้าบ่มเพาะพลังวิญญาณ?”

จุนซ่างเซียวที่สงสัยและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กัน ขณะเร่งรีบตรวจสอบฟังก์ชันดังกล่าว.

หน้าต่างคอนโซนขนาดเล็กที่ปรากฏขึ้น เป็นภาพสามมิติ ที่ดูคล้ายกับเตาปรุงยา ด้านบนมีอักขระลอยอยู่ “เตารวมจิตวิญญาณ.”

นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างหลายช่องมากมายที่ลอยอยู่รอบ ๆ.

ยกตัวอย่าง กระบี่หานเฟิง โล่เหล็กกล้า หอกผู้พิชิต เกราะไหมอ่อนและกระบี่หานมั่งตลอดจนอุปกรณ์อีกมากมาย.

นี้หมายความว่าอย่างไร?

เจ้าสำนักจุนที่ลองกดเลือกระบี่หานเฟิง.

สินค้า : กระบี่หานเฟิงระดับต้น.

การรวบรวมจิตวิญญาณ : 0/1 ครั้ง.

โปรดเลือก : 【จิตวิญญาณโลหะ】【จิตวิญญาณไม้】

【จิตวิญญาณวารี】【จิตวิญญาณเพลิง】【จิตวิญญาณปฐพี】

หมายเหตุ : ยิ่งระดับสิ่งของมีระดับสูงขึ้น ก็จะผสานจิตวิญญาณได้มากขึ้น.

จุนซ่างเซียวที่งงงวย “หมายความว่าอย่างไรกัน?”

ระบบเอ่ย ”โฮสน์คาดเดาถูกครึ่งถึง หอรวมจิตวิญญาณนั้นความจริงเป็นฟังก์ชันบ่มเพาะ ทว่าไม่ได้บ่มเพาะวิญญาณ ทว่าบ่มเพาะจิตวิญญาณเทียม.

“รวมจิตวิญญาณเทียม?”

จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโตขึ้นมาในทันที.

ที่เรียกว่าจิตวิญญาณเทียม ก็หมายถึงสร้างอาวุธที่มีชีวิตขึ้นมานั่นเอง.

เหมือนกับดาบยาวมังกรเขียวที่มีพลังพิเศษ เพราะมันคืออาวุธที่มีจิตวิญญาณเทียมสิงอยู่นั่นเอง จนทำให้นิกายโม่ซาต้องการและหาเรื่องเขาในที่สุด.

ฟังก์ชันรวมจิตวิญญาณนั้น สามารถบ่มเพาะอาวุธและอุปกรณ์ต่าง ๆ  เพื่อให้มีจิตวิญญาณเทียมเกิดขึ้น.

ยกตัวอย่างกระบี่หานเฟิงระดับทั่วไป.

หากเลือกบ่มเพาะจิตวิญญาณเพลิง หลังจากผสานเสร็จสิ้น ก็จะทำให้อาวุธนี้มีเป็นอาวุธจิตวิญญาณเทียมธาตุเพลิง.

หลังจากได้ยินคำอธิบายของระบบแล้ว ดวงตาของจุนซ่างเซียวที่เป็นประกาย.

การบ่มเพาะจิตวิญญาณลงในอาวุธนั้น จะทำให้อาวุธมีพลังพิเศษไปด้วย!

“ลองดู!”

จุนซ่างเซียวที่กดปุ่ม【จิตวิญญาณเพลิง】 ก่อนที่จะปรากฏหน้าต่างคอนโซนเด้งขึ้นมาอีก.

จำนวนบ่มเพาะ 1 เริ่มการบ่มเพาะจิตวิญญาณแล้วงั้นรึ?

เอ๊ะ!

ไม่ต้องใช้อะไรเพิ่มเลยรึ?

เช่นนี้หากนำกระบี่หานเฟิงของศิษย์ทุกคนมายกระดับ ทำให้มันกลายเป็นอาวุธจิตวิญญาณเทียม มันจะไม่ต่อต้านสวรรค์ไปหน่อยรึ?!

งั้น เริ่มเลยก็แล้วกัน.

ฟู่ ฟู่-

เตารวบรวมจิตวิญญาณ ที่มีพลังธาตุเปลวเพลิงที่ไหลมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเวลานี้จิตวิญญาณได้มารวมตัวขึ้นที่ด้านในแล้ว.

ขณะที่เขากำลังรอคอย เขาได้ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.

เขาจะรับทหารกองกำลังเหนือพยัคฆ์ต่อไป หรือว่าเสาะหาผู้เยาว์มากพรสวรรค์เพิ่มดี?

ตราบเท่าที่จุนซ่างเซียวต้องการ เขาสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้ง่าย ๆ และสามารถยกระดับสำนักขึ้นได้ในทันที.

อย่างไรก็ตาม ทหารเหล่านี้แม้นว่าจะมีพลังบ่มเพาะไม่เลว ทว่ารากวิญญาณน่าผิดหวังมาก ขีดจำกัดในการเติบโตค่อนข้างจำกัด.

หากต้องการศิษย์เช่นนี้ อย่าว่าแต่หนึ่งหมื่นเลย ต่อให้หนึ่งแสนก็ไม่มีปัญหา เพราะว่าอย่างไรในเมืองชิงหยางก็มีทหารมากมายที่ถูกคุมตัวอยู่.

ทว่าประชากรที่ไร้คุณภาพ การจะเติบโตในภายหลังนั้นก็ลำบากยิ่งกว่าเดิมอีก.

ก่อนหน้านี้ไม่กี่ร้อยคน จุนซ่างเซียวคิดว่ามันง่ายมาก ทว่าหลังจากศิษย์เกินสองพันคนแล้ว ทรัพยากรที่ต้องการนั้นกับมากมายมหาศาล.

ศิษย์หนึ่งแสนคนที่มีรากวิญญาณทั่วไป ต้องใช้ทรัพยากรมากมายมหาศาลเท่าใดในการยกระดับ ไม่ต้องบอกเลยว่ามันจะเป็นตัวถ่วงเขาภายหลัง การพัฒนาสำนักเกรงว่าจะช้าเกินไป.

“ไม่รับทหารแล้ว ต้องเฟ้นหาศิษย์ที่มีพรสวรรค์ที่ไม่เลว อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดทรัพยากร และทำให้สำนักเติบโตเร็วขึ้น”จุนซ่างเซียวที่ตัดสินใจในทันที.

ด้วยขีดจำกัดเวลา 100 ปี หากเขารับศิษย์ที่มีพรสวรรค์ย่ำแย่มากเกินไป เกรงว่าเขาคงตายก่อนพอดี.

แล้วจะหาศิษย์จากที่ใหน?

คงต้องเฟ้นหาคนเหล่านี้นอกมนทล.

แน่นอนเจ้าสำนักจุนก็หาได้ใช่คนตรงไปตรงมา เขาที่ปัญญาหลักแหลม ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้กลลวงมา!

ว่าแต่เขาจะใช้แผนอะไรดี!

......

เช้าวันถัดมา กระบี่หานเฟิงระดับต้นที่บ่มเพาะเสร็จ จุนซ่างเซียวเร่งรีบออกไปทดสอบทันที.

ดูจากภายนอกแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ทว่ากลิ่นอายความเย็นเวลานี้ถูกแทนที่ด้วยความร้อนแผ่ออกมาแล้ว.

“วึ้ง วิ้ง.”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ “อาวุธที่หลอมขึ้นจากเหล็กเย็น หลังจากบ่มเพาะแล้ว กับกลายเป็นมีคุณสบัติเปลวเพลิงได้ เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อจริง ๆ.”

เขาที่ส่งจิตสัมผัส ตรวจสอบตัวกระบี่.

ดูเหมือนว่าด้านในนั้นจะมีช่องว่างบางอย่าง ที่ดูเหมือนว่ามีจิตวิญญาณสิงอยู่จริง ๆ.

ดูเหมือนว่านี่คือจิตวิญญาณเพลิงสินะ.

แม้นว่ามันจะมีขนาดเล็กนิดเดียว ทว่าก็บอกได้ว่ามันมีพลังธาตุเพลิงอย่างไม่ต้องสงสัย.

ระบบเอ่ย “จิตวิญญาณเทียมอยู่ในสภาพทั่วไป โฮสน์จำเป็นต้องทำพันธะสัญญาก่อน ถึงจะครอบครองได้.”

จุนซ่างเซียวที่ส่งจิตเข้าไป พบว่าเจ้าตัวเล็กนี้แสดงการต่อต้านเล็ก ๆ ทว่ามันก็เผยความเกรงกลัวเช่นกัน จากนั้นจึงได้ยอมจำนนไปในที่สุด.

การทำพันธะสัญญากับจิตวิญญาณเทียม ดูเหมือนว่าจะง่ายกว่าสัตว์ร้ายมาก เพียงแค่ครึ่งชั่วยามก็เสร็จสิ้น.

หลังจากทำพันธะสัญญากับจิตวิญญาณเทียมธาตุเพลิงเสร็จสิ้น จุนซ่างเซียวที่รู้สึกว่าเขาได้รับการยอมรับจากอาวุธโดยสมบูรณ์.

อาวุธที่มีจิตวิญญาณเทียม ที่เหมือนว่าจะแบ่งปันพลังกันและกัน ทำให้ปะทุพลังได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม!

“ฟู่ ฟู่-”

จุนซ่างเซียวที่กุมด้ามกระบี่ สื่อสารกับจิตวิญญาณเทียมภายใน กระบี่เวลานี้ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชน หากแต่เขาไม่ได้รู้สึกร้อนเลยแม้แต่น้อย.

“ร้ายกาจ!”

แววตาของเจ้าสำนักจุนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ในเวลานั้นความร้อนที่แผ่อบอวลไปทั่วลานยุทธ์ด้านใน.

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ริ้วแสงกระบี่ที่เป็นเปลวเพลิงพุ่งออกไป ตัดไปมาสานกันเป็นร่างแหบนอากาศ แผ่ความร้อนออกไปรอบ ๆ!

“เฮ้ย!”

ซูเซียวโม่ที่ก้าวออกมาจากตึก จ้องมองปราณเปลวเพลิงบนลานยุทธ์ แววตาของเขาที่เบิกกว้างกลมโต.

ลี่เฟยและเถียนซี และศิษย์หลายคนที่อุทานอกมาเสียงดัง เผยแววตาชื่นชมฝีมือกระบี่ของเจ้าสำนักเป็นอย่างมาก!

ขณะที่เขาทดสอบกระบวนท่าต่าง ๆ หลายท่า.

จุนซ่างเซียวก็เก็บกระบี่กลับไป เปลวเพลิงที่สลายหายไปช้า ๆ ขณะที่เขาเอ่ยออกมาว่า “งดงามหรือไม่?”

“งดงามมาก!”

เหล่าศิษย์ทุกคนที่รอคอยอยู่ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียว.

ซูเซียวโม่ที่เผยความชื่นชม“หากข้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิงเหมือนกับเจ้าสำนักก็คงจะดี!”

เขาที่คิดว่าจุนซ่างเซียวทีเผยปราณเพลิงออกมานั้น ย่อมเกี่ยวข้องกับผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิงนั่นเอง.

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาอย่างง่าย ๆ สบาย ๆ “นำกระบี่หานเฟิงของเจ้าออกมา เปิ่นจั้วจะทำให้เจ้ากลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิง.”

แค่ส่งกระบี่ออกไป ก็จะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิงแล้วอย่างงั้นรึ?

ซูเซียวโม่ที่เต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าก็ส่งกระบี่หานเฟิงออกไป.

“เจ้ามั่นใจใช่ใหม่ว่าต้องการธาตุเพลิง?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“มั่นใจ!”

แน่นอนยิ่งพบเห็นแรงระเบิดจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เขาที่ยิ่งมั่นใจว่าธาตุเพลิงนี้ล่ะร้ายกาจสุด.

จุนซ่างเซียวจ้องมองลี่เฟยและเถียนซี่ตลอดจนศิษย์คนอื่น ๆ “ส่งกระบี่ของเจ้ามา เปิ่นจั้วจะทำให้พวกเจ้ากลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิงทั้งหมด.”

“อ๋า?”

ศิษย์ทุกคนถึงกับหวาดผวา.

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เชื่อใจเจ้าสำนัก ส่งอาวุธของพวกเขาออกไป.

“เจ้าสำนัก.”

หยางยูหัวเกาศีรษะไปมา “ข้าชอบธาตุปฐพี.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ธาตุทั้งห้า พวกเจ้าชอบธาตุใหนเลือกได้เลย.”

ซ่งเสวียนโจวที่เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนัก ข้าชอบธาตุโลหะ!”

หลงจื่อหยางยื่นหอกผู้พิชิตออกไป เอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนัก ข้าเองก็ชอบธาตุโลหะเช่นกัน.”

“เจ้าสำนัก ข้าชอบธาตุไม้!”

“เจ้าสำนัก ข้าชอบธาตุวารี!”

แม้นว่าศิษย์ทุกคนจะไม่รู้ว่า มันหมายความว่าอย่างไร ขอเพียงว่า ทำได้เหมือนกับอาวุธเจ้าสำนัก พวกขาเองต่างก็เลือกธาตุที่ชอบกันในทันที.

“ซิงเฉิน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าล่ะ?”

เย่ซิงเฉินที่กล่าวในใจ “เปิ่นตึ้ชอบใช้หมัดต่างหากเล่า.” อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเจ้าสำนักถาม เขาจึงตอบออกมาว่า “อะไรก็ได้”

หลังจากที่รับอาวุธของทุกคนมา จุนซ่างเซียวก็เปิดฟังก์ชันรวมจิตวิญญาณ ก่อนเริ่มผสานคุณสมบัติลงไปในอาวุธทันที.

แม้นว่าการผสานจิตวิญญาณจะช้า ทว่าสามารถผสานได้คราวล่ะมาก ๆ ในครั้งเดียว ดังนั้นเช้าวันถัดมากระบี่หานเฟิงที่มีจิตวิญญาณก็เสร็จสิ้น.

“ภายในกระบี่นั้นมีจิตวิญญาณเทียม พวกเจ้าต้องทำพันธะสัญญากับมันก่อน ถึงจะสามารถใช้พลังธาตุออกมาได้.”

หลังจากแจกจ่ายอาวุธกลับคืน จุนซ่างเซียวที่ไม่ลืมจะเตือนพวกเขา.

“จิตวิญญาณเทียม?”

ศิษย์ของเขาที่ดวงตาเบิกกว้างไปตาม ๆ กัน.

อดีตราชันย์รัตติกาลที่ชื่นชอบหมัด แววตายังเผยความประหลาดใจ ขณะรับกระบี่หานเฟิงกลับมา เขาที่สัมผัสได้ว่ามันมีจิตวิญญาณเทียม เขาที่อ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึงออกมาทีเดียว.

นี่มัน.....อาวุธจิตวิญญาณเทียม!

เดี๋ยวก่อนนะ!

เย่ซิงเฉินที่รู้สึกราวกับจะล้มทั้งยืน “เจ้าสำนัก...นี่มันจิตวิญญาณธาตุวารี!”

“เจ้าไม่ได้บอกว่าอะไรก็ได้ไม่ใช่รึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ในเวลานั้น อดีตราชันย์รัตติกาลที่แทบพ่นโลหิตออกมา.

อะไรก็ได้ เป็นธาตุเพลิงหรือโลหะก็ได้ แต่นี้มอบธาตุวารีให้ข้า เห็นข้าเป็นสตรีอย่างงั้นรึ?!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด