Chapter 485 สำนักไท่กู่เจิ้ง อยู่ในเมืองชิงหยาง.
สามกษัตริย์ยุทธ์ร่วมมือกัน ทรงพลังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.
ทว่าเกราะพลังวิญญาณที่จุนซ่างเซียวสร้างขึ้นมานั้น กับทรงพลังกว่า สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงได้อย่างง่ายดาย.
เพราะอารมณ์ล้วน ๆ เขาที่สร้างเกราะพลังวิญญาณสีแดงชาดขึ้นมา ทำให้ดูเปล่งประกายไม่ธรรมดา!
สามกษัตริย์ยุทธ์จากสองนิกายที่ขมวดคิ้วแน่น.
พวกเขารู้ดีว่าอีกฝ่าย แสดงท่าทางเช่นนั้นคงจะมีไพ่ตายในมือ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แม้นว่าพวกเขาจะลงมือเต็มที่แล้วก็ตาม ทำให้พวกเขาสูญเสียความมั่นใจไปเหมือนกัน.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้น เผยยิ้มออกมา “เช่นนั้นคงถึงตาของเปิ่นจั้วแล้ว.”
ฟู่ ฟู่-
พลังวิญญาณพิเศษที่ราวมาจากสวรรค์และปฐพี ก่อรูปเป็นก้อนแสงสีแดงชาดในฝ่ามือ.
เหมือนกับเกราะสีแดงชาดก่อนหน้านี้.
นั่นก็เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่เขารวมได้จากอากาศนั่นเอง.
ในเวลานั้น เจ้าสำนักจุนที่ราวกับสร้างดวงอาทิตย์ขนาดย่อม ๆ ขึ้นมา.
สามกษัตริย์ยุทธ์ที่ใบหน้าเปลี่ยนสีไปในทันที!
อาวุโสหวัง ก่อนหน้านี้ ถูกพลังดังกล่าวทะลวงอกนี่เอง!
“นี่คือทักษะแสงเจ็ดสีทำลายล้างอย่างงั้นรึ?”
เหออู๋ตี้ยืนอยู่บนกำแพงเมือง ลอบครุ่นคิดในใจ “พลังวิญญาณนั่น ผลาญพลังวิญญาณมากมาย ไม่กลัวว่าจะหมดแรงก่อนรึ?”
ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว.
ด้วยแกนวิญญาณคู่ พลังวิญญาณนั้นเหลือเฟือ!
อาวุโสวังต้วนสุ่ยที่มองเห็นพลังบนมือจุนซ่างเซียว หน้าผากของเขาที่หลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมา.
สังหารกษัตริย์ยุทธ์ขั้นที่สองได้ในทันที ถึงจะเป็นกษัตริย์ยุทธ์ขั้นที่สาม เกรงว่าคงจะไม่สามารถต้านได้อย่างแน่นอน!
แก๊ก!
อาวุโสสามนิกายหลิงหยวนที่ก้าวไปด้านหน้า มือทั้งสองข้างที่วาดไปมาบนอากาศ ตะโกนออกมาเสียงดัง “ทั้งสองช่วยถ่วงเวลาให้กับข้าด้วย!”
“ตกลง!”
อาวุโสซุนเองเริ่มวาดผนึกในอากาศอย่างรวดเร็วทันที.
ฟู่ ฟู่!
ส่วนอีกฝ่ายเวลานี้พลังวิญญาณของอาวุโสจางที่ผสานรวมกันกับพลังของอาวุโสเจา ก่อร่างสร้างม่านพลังขึ้นมาด้านหน้าของพวกเขาในทันที.
“ผนึกปมแฝด!”จางซุนฟางฮัวเอ่ย.
เหลิงซิงเยว่เอ่ย “ดูเหมือนว่านี่คือทักษะพลังป้องกันที่มีระดับสุดยอดขั้นกลางเลยทีเดียว.”
“อืม.”
จางซุนฟางฮัวเอ่ย “เกรงว่าม่านพลังนั่นคงไม่สามารถสร้างได้แม้แต่รอยข่วน.”
“ทะลวง.”
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน.
ฟิ้ว---
ลำแสงสีชาดที่พุ่งออกไปจากฝ่ามือ ด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าปะทะม่านพลังป้องกันเสียงดังกึกก้อง!
ตูมมมม!
พริบตาเดียว ม่านพลังป้องกันที่สองกษัตริย์ยุทธ์ขั้นที่สาม สองคนรวมพลังกันบางเบาราวกับกระดาษที่ถูกทะลวงเข้าไปอย่างง่ายดาย!
“พรึด ซี่!
“พรึด ซี่!
ลำแสงสีชาดนั้นทรงพลังน่าเกรงขาม ม่านพลังดังกล่าวไม่แม้แต่สามารถลดทอนพลังของมันลงได้เลย พุ่งไปยังไหล่ซ้ายของอาวุโสเจาและไหล่ซ้ายของอาวุโสจาง!
ม่านพลังที่พังทลาย ทะลุทะลวงแม้แต่ร่างของทั้งสอง.
พลังแสงเจ็ดสีทำลายล้าง นับว่าทรงพลังน่าพรั่นพรึงอย่างแท้จริง !
จางซุนฟางฮัวและเหลิ่งซิงเยว่ที่จ้องเขม็งดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
ทั้งสองที่มาช่วยสำนักไท่กู่เจิ้งปกป้องเมืองชิงหยาง พวกนางที่ดูแคลนอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ทว่าเวลานี้อีกฝ่ายกลับสร้างความตื่นตะลึงให้กับพวกนางครั้งแล้วครั้งเล่า หักหน้าพวกนางหลายครั้ง จนอยู่ในสภาพเสียหลักไปเหมือนกัน.
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานี้ บนท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยปราณวิญญาณที่พลุ่งพล่าน.
จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าขึ้นมอง เห็นพลังวิญญาณที่มารวมตัวกัน ก่อร่างกลายเป็นเมฆสีดำขึ้นมา!
อาวุโสสามนิกายหลิงชวนที่ยืนอยู่บนพื้นที่ไกลออกไป ฝ่ามือของเขาที่วาดไปบนอากาศ พลังวิญญาณของเขาที่ไหล่บ่าล้นออกไปไม่หยุด ก่อรูปสร้างฝ่ามือที่ใหญ่ยักษ์บนท้องฟ้าขึ้นมา “ฝ่ามือโพธิสัตว์ปิดสวรรค์!”
“ฟู่ ฟู่!
พลังวิญญาณที่มากล้นสร้างฝ่ามือใหญ่ยักษ์ขึ้นมา ก่อนที่จะล่วงหล่นลงมา อากาศที่แหวกพัดออกด้านข้างอย่างหนักหน่วงรุนแรง.
กลิ่นอายที่ทรงพลังนี้ ทำให้ทุกคนหายใจติดขัด.
ฝ่ามือที่ใหญ่ยักษ์ราวกับว่าจะทำลายทั้งเมืองชิงหยางไปก็ไม่ปาน!
จุนซ่างเซียวเอ่ย “บังแสงข้านะเนี่ย.”
“กึก!”
เขาที่ก้าวไปด้านหน้า หมัดของเขาที่กำแน่น ขณะที่ฝ่ามือใหญ่ยักษ์ล่วงหล่นลงมา ก็เกิดเสียงดังกึกก้องดังสนั่นหวั่นไหว.
ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม!
หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดติดต่อกัน ฝ่ามือยังคงกดลงมายังด้านล่างจู่ ๆกับแตกสลายหายไปในทันที.
“พรึด!”
อาวุโสสามนิกายหลิงหยวนที่พ่นโลหิต แววตาเผยความประหลาดใจออกมา.
ฝ่ามือโพธิสัตว์ปิดสวรรค์คือไม้ตายก้นหีบของเขา ซึ่งเขาให้สองกษัตริย์ยุทธ์วังต้วนสุ่ยถ่วงเวลาให้ จนเขามีเวลารวมพลังขั้นสุด แต่แล้วกับพังทลายลงอย่างง่าย ๆ!
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ใช้ท่าเท้าเหยียบเมฆา ไปโผล่ด้านหน้าของเขา เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าขัดขืน.”
ฟู่ ฟู่!
หมัดถล่มปฐพีที่ใช้ออกมา พลังวิญญาณมากมายรวมตัวกันในอากาศ ราวกับเกิดพายุก่อนระเบิดออกมา.
ทุกการกระทำ ที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า.
ภาพที่เกิดขึ้นดูเหมือนมีเพียงแค่จางซุนฟางฮัวและเหลิ่งซิงเยว่เท่านั้น ที่สามารถมองทันการเคลื่อนไหวของจุนซ่างเซียวที่ปล่อยหมัดออกมา.
ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม! ตูมมม!
ครืนนนน ครืนนนน!
พลังระเบิดที่บ้าคลั่ง อาวุโสสามนิกายหลิงหยวนที่ถอยครูดออกไปหลายก้าว ใบหน้าที่เปลี่ยนสี แม้แต่เผยความเจ็บปวดออกมา.
จนกระทั่งจุนซ่างเซียวดึงหมัดกลับมา อีกฝ่ายที่ถอยหลังไปอีกหลายสิบเก้า ขณะยั้งเท้าค่ำร่างตัวเองให้ยืนมั่นคง ทว่ากับพ่นโลหิตมากมายออกมาแล้วล้มลงไปกับพื้น.
จางซุนฟางฮัวและเหลิ่งซิงเยว่ที่มุมปากกระตุก.
สามกษัตริย์ยุทธ์ สองบาดเจ็บ หนึ่งเจ็บหนัก เจ้าคน ๆ นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.
หากทั้งสองรู้ว่า จุนซ่างเซียวที่ยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา เกรงว่าคงจะตะลึงยิ่งกว่านี้แน่.
กล่าวได้ว่า.
ด้วยพลังของเขาเวลานี้ อย่าว่าแต่กษัตริย์ยุทธ์ขั้นห้า ถึงจะเป็นขั้นเจ็ดหรือแปด เกรงว่าคงจะถูกทุบอย่างอนาถเช่นกัน.
“โอ้วสวรรค์!”
เจ้าเมืองเซี่ยถึงกับอุทานในใจ ”เจ้าสำนักจุน ทรงพลังน่าเกรงขามขนาดนี้เลยรึ?!
เหล่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งทุกคนที่ยืดอกอย่างภาคภูมิ พลังที่เหลือร้าย ทักษะที่เจ้าสำนักแสดงออกมา ทำให้พวกเขาได้ยืดไปด้วย!
“ไร้ประโยชน์จริง ๆ .”
จุนซ่างเซียวที่จ้องมองไป๋รุ่ยหู่ที่กำลังตื่นตะลึง “รีบ ๆ สั่งกองทัพบุกเมืองซะ.”
เขาที่สะบัดแขนเสื้อ ก่อนที่จะกระโดดไต่อากาศกลับขึ้นไปบนกำแพงเมือง.
สามกษัตริย์ยุทธ์นิกายหลิงหยวนและวังต้วนสุ่ย ที่ได้รับบาดเจ็บหนักถอยกลับไปด้วยสภาพอนาถ.
จุนซ่างเซียวไม่มีแผนจะเอาชีวิตพวกเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงกลายเป็นศพไปแล้ว.
“เจ้าสำนักจุน.”
ไป่รุ่ยหู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “สำนักไท่กู่เจิ้งของเจ้าต้องการเข้าร่วมสงครามป้องกันเมืองชิงหยางจริง ๆ รึ?”
แม้นว่าเขาจะตื่นตะลึงพลังของจุนซ่างเซียว ทว่าเขาก็เข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ดี กษัตริย์ยุทธ์นั้นไม่สามารถเข้าร่วมสงครามฆราวาสได้.
ทำไม?
เพราะพลังระดับกษัตริย์ยุทธ์ ความแข็งแกร่งที่น่าพรั่นพรึง สามารถสังหารทหารนับหมื่นภายในพริบตา.
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่บนป้อมปราการ “สำนักไท่กู่เจิ้ง เป็นของเมืองชิงหยาง.”
เสียงของเขาที่ดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า.
ประชาชนหลายล้านคนที่ซ่อนตัวอยู่ได้ยินคำพูดดังกล่าว จิตใจของพวกเขาที่สั่นไปมาในทันที.
“เจ้าสำนักจุน!”
เซี่ยกวนคุนที่ยืนอยู่ น้ำตาคลอเบ้า ยกมือประสานไปด้านหน้า “บุญคุณในครั้งนี้ ประชาชนเมืองชิงหยางจะสลักเอาไว้ในหัวใจไม่รู้ลืม!”
“ชิ.”
ไป๋รุ่ยหู่แค่นเสียง “เพียงแค่สำนักกระจอก ๆ คิดว่าจะต้านทานพลังของทัพมนทลเจิ้นหยางของข้าได้อย่างงั้นรึ?!”
ฟิ้ว!
ธวัชสงครามที่โบกสะบัด.
ทหารหลายพันคนที่กำลังเข็นรถโจมตีกำแพงเมืองปรากฏขึ้น.
เห็นชัดเจนว่า พวกเขาเตรียมที่จะบุกเมืองแล้ว!
“ถางจู่เสวี๋ย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “คงต้องมอบหน้าที่ให้กับเจ้าแล้ว.”
“รับทราบ.”
เสวี๋ยเหรินกุยที่ก้าวไปด้านหน้า ก่อนที่จะโบกธง เปิดประตูเมืองทันที สมาชิกกองกำลังขี่หมาป่าที่กำลังเคลื่อนพลออกมา.
“ขี่หมาป่า?”
ไป่รุ่ยหู่ที่เผยความประหลาดใจออกมา.
“คนแค่นี้นะรึ?”แม่ทัพคนหนึ่งที่เผยยิ้มหยัน.
กองทัพของมนทลเจิ้นหยาง 300,000 คน สำนักไท่กู่เจิ้งส่งกองกำลังขี่หมาป่าหนึ่งพันออกมาปะทะ นี่มันห่างกันราวกับฟ้ากับเหว!
“ถึงเวลาบดขยี้ศัตรูแล้ว อย่าให้เหลือ!”
จงอี้ที่ชี้หอกผู้พิชิตไปด้านหน้า ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง“บุก----”
“บุก!”
“บุก!”
หมาป่าเฮอริเคนพร้อมสมาชิกหอขี่หม่าป่าที่กำลังเคลื่อนกันออกไปเป็นทิวแถว.
หากมองจากบนท้องฟ้า จะเห็นทัพของมนทลเจิ้นหยางเป็นเหมือนกับทะเล โดยมีกองกำลังขี่หมาป่าที่เป็นดั่งเรือกำลังลอยไปในทะเล.
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจำนวนจะน้อยมาก ทว่าสมาชิกหอขี่หมาป่าที่แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงเปี่ยมด้วยความกล้าหาญออกมา!
“เพียงแค่ตั๊กแตนต้านล้อรถ ไม่รู้จักประเมินตัวเอง.”
ไป๋รุ่ยหู่ที่แค่นเสียงเย็นชา ก่อนที่จะโบกสะบัดธวัชอีกครั้ง.
“ตึก ตึก ตึก!”
กองกำลังทหารม้าเหล็ก 50,000 คน ที่จัดขบวนทันที.
แม้นว่ากองกำลังหมาป่าพันคนจะน้อยนิด แม่ทัพไป๋ก็ไม่ประมาทเหมือนกัน.
“ฆ่า!”
แม่ทัพทหารม้าที่ตะโกนเสียงดังกึกก้อง.
กึก! กึก! กึก!
เสียงของทหารม้าเหล็ก 50,000 เวลานี้พุ่งออกไปพร้อมกัน จนทำให้พื้นดินกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง ฝุ่นควันที่ลอยคละคลุ้งไปทั่ว ปกปิดไปทั่วท้องฟ้า!
“ฟิ้ว!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ซุ่มยิงอยู่ ถือสไนเปอร์รูปแบบ 88 ก่อนที่จะใช้แว่นขยายแปดเท่าเล็ง ก่อนเหนี่ยวไกยิงทันที.
ปัง! ปัง! ปัง!
กระสุน 20 นัดที่ถูกปล่อยออกไป เห็นเป็นริ้วแสง พุ่งข้ามหอขี่หมาป่า ทะลวงไปยังเหล่าทหารม้าเหล็กด้านหน้าอย่างแม่นยำ.
ฆ่า!
ในเวลานั้น จงอี้ที่นำสมาชิกพุ่งเข้าไปยังทิศทางของกองกำลังม้าเหล็ก พร้อมเข้าปะทะกันในทันที!