Chapter 482 สงครามกำลังจะมา.
“เจ้าสำนัก.”
เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ยอุทานออกมา “ทหารเหล่านี้ยังกับขุนพลสวรรค์!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากมีทหารมากกว่านี้ กับทัพของมนทลเจิ้นหยาง เจ้าคิดว่าพอจะรับมือได้หรือไม่?”
“หากมีทหารระดับนี้ สักหนึ่งแสนคน สามารถรับมือกับทหารมนทลเจิ้นหยางได้อย่างแน่นอน และยังสามารถปกป้องเมืองชิงหยางได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนอีกด้วย.”เสวี๋ยเหรินกุยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
“งั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม.
ทหารถั่ววิญญาณนั้น เขาที่ควบคุมได้ดั่งใจนึก แม้แต่ใช้ทักษะวิญญาณที่เขามีใช้ออกมาได้อีกด้วย นี่คือกองกำลังชั้นยอด ทำให้พลังรบของมนทลชิงหยางเพิ่มพูน ทัพของมนทลเจิ้นหยางเกรงว่าคงไม่ง่ายแล้วที่จะบุกมา.
“ฝึกฝนหอขี่หมาป่าต่อไป อย่าได้เกียจคร้าน.”
“รับทราบ.”
ภายในใจของเถาหยวนนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย เขาจำไม่ได้เลยว่าตัวเองถูกจับ และเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง ไม่แม้แต่คิดถึงเกี่ยวกับมนทลเจิ้นหยางอีกด้วย?
เขาคงไม่รู้ว่า นี่เป็นเพราะผลของธวัชสงบศึก.
หลังจากที่กลับห้องฝึกฝน เจ้าสำนักจุนที่บ่มเพาะพลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะตัดผ่านระดับเป็นกษัตริย์สองวิถี ยุทธ์และกระบี่ขั้นที่สองให้ได้!
เวลานี้เขาที่ไม่มีความกังวลอีกต่อไปแล้ว.
แม้แต่คาดหวังที่จะให้ทัพมนทลเจิ้นหยางบุกมา จะได้เผยพลังของนักรบที่แท้จริงให้พวกเขาได้เห็น!
......
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.
ผลของธวัชสงบศึกหมดลง ทุกอย่างที่ถูกสะกดคืนกลับ.
“แปลก.”
ภายในห้องลับของนิกายหลิงหยวน จักรพรรดิยุทธ์ได้กลับมาแล้ว เขาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ข้ามาอยู่ในนิกายได้อย่างไร?”
ความทรงจำของเขาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน.
เขาจำได้ว่า เขากำลังเดินทางไปยังมนทลชิงหยาง เพื่อที่จะสังหารฆาตรกรที่สังหารจวงหยง!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาสร้างฝ่ามือพลังวิญญาณขึ้นมา ขณะจะโจมตีศัตรู บนท้องฟ้าก็ปรากฏริ้วแสงเกิดขึ้น แม้แต่พุ่งชนเขา....
จักรพรรดิยุทธ์ที่นึกขึ้นมาได้ เขาก็รู้สึกขนลุกตื่นตะหนกขึ้นมากับเหตุการณ์ในครั้งนั้นทันที.
เขาจำได้ว่า.
พลังที่พุ่งชนเขานั้น ยิ่งใหญ่จนเขารู้สึกราวกับตัวเองเป็นมดปลวก.
แน่นอนเป็นเหออู๋ตี้ที่ฉีกมิติ หนีออกมาจากพิภพอื่น พลังบ่มเพาะที่มากล้นของเขาสลายหายไป ไม่เช่นนั้นแล้วเพียงแค่ยอดฝีมือของทวีปชิงหยุน หาได้อยู่ในสายตาของเขา.
ยอดฝีมือนิกายหลิงหยวนที่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่รอดมาได้ พลังชนในครั้งนั้นเพียงพอที่จะสังหารเขาให้ตกตายได้อย่างแน่นอน!
“ดูเหมือนว่าจะเป็นคน ๆ หนึ่ง.”
“หรือว่าจะเป็นกำลังเสริมที่เจ้าคนนั้นเชิญมา?”
“เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งของมนทลชิงหยางอย่างงั้นรึ?”
จักรพรรดิยุทธ์ที่แววตาสั่นส่ายไปมา เผยความหวั่นเกรง!
“ไท่จางเหล่า!”
ในเวลานั้น เจ้านิกายหลิงหยวนที่ส่งเสียงผ่านวิญญาณ “โปรดมายังห้องโถงใหญ่.”
เดิมที จักรพรรดิยุทธ์คนดังกล่าว ก็คือไท่จางเหล่าของนิกายหลิงหยวนนั่นเอง ไม่สงสัยเลยว่ามีพลังบ่มเพาะที่ร้ายกาจ!
......
ภายในห้องโถง.
เจ้านิกายหลิงหยวนนั้นมีอายุ 70 ปีแล้วนั่งอยู่บนบัลลังก์ ท่าทางของเขากำลังโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
และรอบ ๆ มีอาวุโสหลายคนที่นั่งลดหลั่นกันไป เหมือนกับระดับชั้นคล้ายกับวังเมี่ยวฮัว.
“เจ้านิกาย!”
อาวุโสคนหนึ่งเผยใบหน้าเย็นชาเอ่ยออกมาว่า “อาวุโสสุ่ยและอาวุโสจวงตายที่มนทลชิงหยาง โปรดสั่งการด้วย!”
อาวุโสอีกคนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม้นว่าจะไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร ทว่าในเมื่อตายที่มนทลชิงหยาง ทุกคนในดินแดนดังกล่าวจะต้องตายไปพร้อมกับอาวุโสของพวกเรา!”
สองกษัตริย์ยุทธ์ที่ตกตายไปพร้อมกัน ทำให้เหล่าคนระดับสูงนิกายของหลิงหยวนโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
ขณะที่ทุกคนเต็มไปด้วยความฮึกเหิมต้องการจะแก้แค้น ไท่จางเหล่าก็ก้าวเดินเข้ามา ทุกคนที่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับโค้งเคารพ.
“เจ้านิกาย.”
ไท่จางเหล่าที่นั่งลง พร้อมกับเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง “บางทีมนทลชิงหยางนั้นมียอดฝีมือที่ร้ายกาจเกินจะหยั่งได้คงอยู่.”
ทุกคนที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
เจ้านิกายหลิงหยวนเอ่ยออกมา “ท่านรู้อะไรมาอย่างงั้นรึ?”
ไท่จางเหล่าที่รีบเล่าเรื่องราวที่ตัวเองประสบที่มนทลชิงหยางทันที.
เจ้านิกายและเหล่าอาวุโสกลายเป็นเงียบงัน.
ถูกลอบโจมตี แม้แต่จักรพรรดิยุทธ์ยังไม่สามารถหลบได้ ต้องมีพลังน่าเกรงขามขนาดใหนกัน!
“หรือว่าเป็นปราชญ์ยุทธ์?”เจ้านิกายหลิงหยวนขมวดคิ้วไปมา.
ไท่จางเหล่าส่ายหน้าไปมา “บอกไม่ได้เหมือนกัน.”
เจ้านิกายหลิงหยวนขณะจะกล่าวอะไรบางอย่างออกไป ศิษย์คนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา “เจ้านิกาย ผู้พิทักษ์มนทลส่งสารมา!”
“หืม?”
เขาที่รับสารมา หลังจากเปิดออกดูแล้ว ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ผู้พิทักษ์มนทลต้องการโจมตีมนทลชิงหยาง ร้องขอให้พวกเรานิกายหลิงหยวนส่งคนเข้าร่วม.”
ไม่ต้องบอกเลยว่าพวกเขาที่ได้ยินเรื่องที่ไท่จางเหล่าเล่ามาเมื่อครู่นี้.
ทำให้พวกเขาคาดเดาว่ามียอดฝีมือระดับปราชญ์ยุทธ์ซ่อนตัวอยู่ในมนทลชิงหยาง ทำให้ทุกคนกลายเป็นลังเลไปในทันที.
“เฮ้อ”
เจ้านิกายหลิงหยวนถอนหายใจทันที กล่าวออกมาว่า “ในเมื่อนิกายหลิงหยวนเข้าร่วมกับมนทลเจิ้นหยางแล้ว แน่นอนว่าคงต้องร่วมมือกันไปให้ถึงที่สุด.”
เขาเอ่ย “อาวุสาม อาวุโสสี่ เจ้านำศิษย์สองสามร้อยคนไปก็แล้วกัน.”
“รับทราบ!”
อาวุสามและอาวุโสสี่ที่รับคำสั่ง ก่อนที่จะนำศิษย์ลงเขาไป.
ส่วนไท่จางเหล่า เพราะว่าหวั่นเกรงจะถูกยอดฝีมือลอบโจมตีอีก ดังนั้นจึงเลือกที่จะปิดด่าน.
ด้วยการที่เหออู๋ตี้ข้ามห้วงมิติมา ไม่เพียงแค่ช่วยเจ้าสำนักจุน ทว่าเขายังทำให้จักรพรรดิยุทธ์ไม่กล้าเคลื่อนไหวอีกด้วย!
......
หลังจากธวัชสงบศึกหมดลง แน่นอนเรื่องที่ทัพของมนทลเจิ้นหยางและเถาหยวนถูกจับก็ฟื้นคืนมา.
มนทลฮวยหยางและมนทลเหออยางที่พวกเขายึดครองได้แล้ว ทว่ากับมาเสียท่าให้กับมนทลชิงหยาง ทำให้เหล่าทหารระดับสูง ยากจะยอมรับได้.
หลังจากนั้นผู้พิทักษ์มนทลเจิ้นหยางได้สั่งการเคลื่อนทัพสามแสนบุกมนทลชิงหยางทันที.
ไม่เพียงแค่แจ้งไปยังนิกายหลิงหยวน ทว่ายังแจ้งไปยังวังต้วนสุ่ย พวกเขาที่ส่งสองกษัตริย์ยุทธ์และศิษย์อีกหลายร้อยคนมา.
สองวันหลังจากนั้น.
กองกำลังทั้งหมดที่รวมตัวกันที่มนทลเหอหยาง กองทัพ 300,000 คน พร้อมกับยอดฝีมืออีกมากมายพร้อมที่จะโจมตี.
“เจ้าสำนัก.”
สำนักไท่กู่เจิ้ง ลี่ลั่วฉิวที่ได้รับข้อความ ต้องขมวดคิ้วไปมา “ทัพของมนทลเจิ้นหยางสามวันหลังจากนี้จะเคลื่อนทัพบุกเมืองชิงหยาง.”
“ท้ายที่สุดก็มา.”
จุนซ่างเซียวที่สั่งการศิษย์หอขี่หมาป่าและศิษย์คนอื่น ทันที ให้พวกเขาเร่งรีบเดินทางไปยังเมืองชิงหยางด้วยความเร็วสูงสุด.
ส่วนเถาหยวนเวลานี้ เขาที่ขังตัวอยู่ในห้อง แววตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน.
ข้าถูกจับ.
แล้วข้ากลายเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง.
ใครบอกข้าที นี่มันเกิดอะไรขึ้น.
จุนซ่างเซียวที่รู้เรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเขาต้องการเวลาในการคิด ดังนั้นจึงไม่ได้รบกวน เขาที่สั่งการลี่ลั่วฉิวจัดการเรื่องในสำนัก จากนั้นก็เดินทางไปยังเมืองชิงหยางทันทีเช่นกัน.
“เจ้าสำนักจุน.”
บนป้อมปราการของกำแพงเมือง ซีจิงเสวียนที่เผยความประหลาดใจออกมา ”กลิ่นอายของท่านดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้.
หนึ่งเดือนมานี้ จุนซ่างเซียวที่ปิดด่านบ่มเพาะ ไม่เพียงแค่ศิลาวิญญาณธรรมชาติมากมาย ยังมีเม็ดยารวมวิญญาณนับไม่ถ้วน ท้ายที่สุดเขาก็ก้าวไปถึงระดับกษัตริย์ยุทธ์ขั้นที่สองได้สำเร็จ!
ก่อนที่จะมาถึงเมืองชิงหยาง เขาได้ทดสอบพลังที่เครื่องวัดมาแล้ว พลังหมัดของเขา โดยไม่ใช้ทักษะมีพลังถึง 4 ล้านจิน.
กษัตริย์ยุทธ์ชั้นสูงพิเศษสำเร็จแต่ละขั้น พลังจะเพิ่มขึ้น 500,000 จิน ทว่าเขากลับเพิ่มขึ้น 1 ล้านจิน เป็นเรื่องที่ร้ายกาจเกินจะเข้าใจได้!
ระบบเอ่ย “โฮสน์น่าจะมีพลังพอที่จะรับมือกับกษัตริย์ยุทธ์ขั้นปลายชั้นสูงได้แล้ว.”
แม้นว่าเขาจะมีระดับต่ำกว่า ทว่าด้วยระดับชั้นสูงพิเศษสามารถรับมือคนที่มีระดับสูงได้แล้ว.
ทว่าคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีพลังพอที่จะรับมือกับกษัตริย์ยุทธ์ขั้นปลายได้ นี่เป็นเรื่องที่น่าเกรงขามอย่างแน่นอน!
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาเป็นกษัตริย์สองวิถี ยุทธ์และกระบี่นั่นเอง.
เขามีแกนวิญญาณสองแกน.
ทำให้พลังวิญญาณทั้งหนาแน่นและเข้มข้นกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป ถึงแม้นว่าจะเพิ่มระดับเพียงแค่ขั้นเดียว ทว่าก็ยกระดับพลังขึ้นอีกหลายเท่า.
“เอิ่ม.”
จุนซ่างเซียวที่เกาศีรษะไปมา “เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้าเข้าใจวิถียุทธ์ได้ลึกซึ้งกว่าเดิม ทำให้พลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย.”
“เล็กน้อยอย่างงั้นรึ?”ซีจิงเสวียนที่เผยความสงสัย.
แม้นว่าจะมองไม่เห็น ทว่าสัมผัสของนางกับแหลมคมยิ่งนัก.
“เจ้าวังซี.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วเพิ่งได้รับข้อความ มนทลเจิ้นหยางได้ส่งทัพ 300,000 และยอดฝีมือของสองนิกายมา.”
เขาที่เปลี่ยนหัวข้อทันที เพราะเขาเพิ่งสำเร็จกษัตริย์ยุทธ์สองวิถีเพียงไม่กี่เดือนก่อน ตอนนี้ยกระดับได้อีกขั้น เกรงว่าจะทำให้นางสงสัยมากยิ่งกว่าเดิม.
“ทัพใหญ่เพียงนี้เลยรึ?”
ซีจิงเสวียนที่ดูลังเลเอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนักจุน คนของสองนิกาย วังเมี่ยวฮัวอาจจะช่วยท่านรับมือได้ ทว่าคงไม่สามารถช่วยรับมือทัพ 300,000ได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาทันที “เจ้าวังซีจับตาเพียงคนของสองนิกายก็พอ ส่วนที่เหลือข้าและศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งจะจัดการเอง.”
“มนทลเจิ้นหยางเป็นดินแดนขนาดใหญ่ เจ้าสำนักจุนมั่นใจจะรับมือพวกเขาได้อย่างงั้นรึ?”ซีจิงเสวียนเผยความสงสัยออกมา.
จุนซ่างเซียวที่ยืนมือขัดหลัง จ้องมองไปยังสนามรบด้านหน้า แววตาเย็นชาที่แผ่ออกมา “เปิ่นจั้วไม่เพียงแค่มั่นใจ ยังบอกได้ว่าคนที่บุกเมืองชิงหยางของข้าจะต้องจ่ายไปด้วยราคามหาศาล!”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา จิตสังหารที่คละคลุ้งอบอวลไปทั่ว.
เห็นชัดเจนว่า อีกไม่นานนั้นจะมีการไล่ล่าสังหารหมู่ที่น่าพรั่นพรึงเกิดขึ้น!