Chapter 15: ฆ่า
ฉินหรานเกือบจะห้ามตัวเองไม่อยู่แล้ว ทันทีที่เขาเดินผ่านประตูทางเข้าพื้นที่เก็บของเข้ามา ประตูก็ถูกเปิดดังเอี๊ยด สีหน้าของฉินหรานเปลี่ยนไปเป็นกร่างและอวดดีเหมือนกับพวกโจรทุกคนที่ได้เจอ
"แล้วไง? ทุเรศว่ะ! ทำไมฉันต้องอยู่ที่นี่อีกแล้วในขณะที่คนอื่น ๆ ได้ดื่มเหล้าเล่นไพ่? นี่มันครั้งที่สามของอาทิตย์นี้แล้วนะเว้ย!" คำพูดของโจรคนหนึ่งลอดออกมาจากห้องไหนสักห้อง มันคงได้รับหน้าที่เฝ้าทางเข้าออกพื้นที่ห้องเก็บของนี่ และมันก็คงกำลังบ่นเรื่องนี้ ตอนที่มันเห็นคนหน้าไม่คุ้นอย่างฉินหราน มันก็เล็งปืนมาทางเขา
"แกเป็นใคร?" มันถาม
"เฮ้พวก เราอยู่ฝ่ายเดียวกัน! เดรย์แนะนำฉันมา ฉันได้รับการรับรองจากหูเค่อแล้ว!" ฉินหรานอธิบาย ชูมือทั้งสองขึ้น พอฉินหรานอ้างถึงชื่อของโจรที่เขาจับได้และชื่อหัวหน้ากลุ่มของพวกมัน โจรคนนี้ก็ดูโล่งใจขึ้นแต่ก็ยังไม่ลดปืนลง
"เดรย์? แล้วนี่มันอยู่ไหน?" มันถาม
"อ้าว งั้นนายก็ไม่รู้เรื่องภารกิจของเดรย์กับหูเค่อเหรอ?" ฉินหรานถามมันกลับด้วยสีหน้างุนงง
"ก็ต้องรู้สิวะ! พวกมันแม่งออกไปตามหาไอ้เด็กผู้ชายกับผู้หญิงที่เข้ามาวุ่นวายกับพวกเรา! ถ้าฉันไม่ต้องเฝ้าอยู่ที่นี่ก็คงได้ร่วมภารกิจนี้เหมือนกัน!" มันคิดว่าฉินหรานดูถูกมัน จึงโอ้อวดความตั้งใจเข้าร่วมภารกิจของมันอย่างเกินจริง ถึงแม้ว่าที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่ลูกกระจ๊อกระดับล่างคนหนึ่ง
"อ้อ จริงเหรอ?" ฉินหรานถามอย่างสงสัยแบบที่ทำให้โจรคนนี้โกรธมาก แต่ว่าความสนใจของมันก็ถูกดึงไปที่สิ่งที่ฉินหรานพูดต่อ
"ใช่ นายพูดถูกแล้ว เนี่ย ไอ้คนผู้ชายอ่ะตายแล้ว แล้วผู้หญิงก็ถูกพามาที่นี่ ตอนนี้ทุกคนไปต่อคิวกันอยู่นะ!" ฉินหรานเกทับ ทำเหมือนว่าเขารู้ทุกอย่าง
"จริงเหรอ?" ดวงตาของมันเป็นประกายเมื่อได้ยินว่าผู้หญิงถูกจับได้
"พนันกันไหมล่ะ หูเค่อบอกให้ฉันมาตามดาร์เต้" ฉินหรานหลอกมันอีกรอบ คำโกหกของเขาไร้สาระขึ้นเรื่อย ๆ และโจรก็ไม่เชื่อ ดาร์เต้คือคนสนิทของหูเค่อ ดังนั้นถ้าหูเค่อคิดว่าการจับตัวฉินหรานจะยาก อย่างนั้นดาร์เต้คงไปร่วมภารกิจด้วยแล้ว
"ให้ฉันไปตามดาร์เต้ได้หรือยัง?" ฉินหรานถามโจรที่ยังมีสีหนู้สงสัยอยู่ ฉินหรานเองรู้แล้วว่าคำตอบของมันจะเป็นอะไร
ตามที่รีดข้อมูลมาได้ แม้ว่าอีแร้งจะใช้ผู้หญิงเป็นเบี้ยต่อรองแลกเปลี่ยนกับพวกกบฏ แต่มันก็ให้ค่า "สินค้า" ของมันมาก คนอื่นนอกจากอีแร้งและหูเค่อก็มีคนเก่ง ๆ แค่ไม่กี่คนที่จะเก็บผู้หญิงไว้ให้ตัวเองได้ ลูกกระจ๊อกระดับล่างแบบโจรตรงหน้าฉินหรานนี่ไม่สามารถเข้าใกล้ "สินค้า" ได้เลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่ามีข้อยกเว้น เช่น ผู้หญิงที่ไม่สามารถใช้เป็น "สินค้า" ได้ เห็นได้ชัดว่าคอลลีนถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ เป็นเหตุให้ใจของโจรจดจ่ออยู่กับเธอ
"ไปซะ ไป!" ผู้ชายคนนั้นโบกมือบอกให้ฉินหรานเข้าไปได้ขณะที่ตัวมันเดินออกไปจากประตูเพื่อไปรับ "สินค้า" ส่วนของมัน ตัณหาบดบังการตัดสินใจของมัน และมันก็ไม่ทันรู้สึกสงสัยอะไรเลย อย่างน้อยที่สุดก็จนกระทั่งมีมือข้างหนึ่งปิดปากมันแน่นจากด้านหลัง จากนั้นสิ่งถัดมาที่มันรู้ก็คือใบมีดคมกรีดผ่านคอหอย มันสายเกินไปแล้วที่มันจะคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนั่นก็ช้าไปสำหรับมันแล้วที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันตายก่อนจะทันได้ดิ้นรน
[แทง: ก่อความเสียหาย 100 แต้มแก่เป้าหมาย (อาวุธมีคม (กริช) (พื้นฐาน) 50x2) เป้าหมายเสียชีวิต…]
ฉินหรานรีบลากศพกลับเข้าไปในห้องที่มันเดินออกมา ในนั้นมีเฟอร์นิเจอร์อยู่ชิ้นเดียวก็คือเก้าอี้ตัวหนึ่ง
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทั้งฐานที่มั่นพึ่งพาการป้องกันด่านสุดท้ายที่หละหลวมอย่างนี้
ฉินหรานวางศพลงบนเก้าอี้ ตรวจดูว่าเสื้อของเขาเปื้อนเลือดหรือเปล่าก่อนจะเดินลึกเข้าไปในพื้นที่เก็บของ เขาใช้ความเร็วกลาง ๆ ไม่สนใจห้องอื่น ๆ หรือเสียงเครื่องปั่นไฟ ทั้งหมดที่เขาเห็นก็คือห้องที่สุดปลายโถงทางเดิน ห้องของอีแร้ง นั่นคือจุดหมายของเขา
อย่างที่เขาว่ากัน ไม้ล้มลิงเตลิด พออีแร้งตาย คนของมันสุดท้ายก็จะกระจัดกระจายกันไปเพราะเสบียง ยิ่งมีกันเยอะกระบวนการก็มีแต่จะเร็วขึ้น
ส่วนเรื่องว่าจะมีใครเข้ามาแทนตำแหน่งอีแร้ง?
อีแร้งไม่เคยปล่อยให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานะหรือเรื่องส่วนตัวของมันหลุดไปถึงหูลูกน้องคนไหน ถ้าลูกน้องของมันรู้ว่าพวกมันสามารถแย่งตำแหน่งและสถานะของอีแร้งได้ ความโลภของพวกมันก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งภายใน ฉินหรานแน่ใจเรื่องนี้ เขาเข้าใจในความโง่เขลา ความโลภ และอัตตาของโจรกลุ่มนี้หลังจากที่ได้เผชิญหน้ากับพวกมันมาหลายคน
อีแร้งต้องตาย
ไม่เพียงแค่จะจบความทุกข์ทรมานของทุกคนในแถบนี้ แต่มันยังอาจส่งผลต่อระดับของเขาตอนที่ผ่านดันเจี้ยนนี้ไปได้
ฉินหรานมาถึงห้องที่ตรงสุดทางเดิน ประตูก็ดูเหมือนห้องอื่น ๆ แต่ข้างในนั้นกว้างขวาง มีขนาดสองถึงสามเท่าของห้องที่ฉินหรานวางศพเมื่อครู่เอาไว้ แม้ว่าอีแร้งจะใช้ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวแต่ก็ยังมีพื้นที่พอให้เก็บเสบียงที่สามารถดูแลแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของฐานที่มั่นได้เอาไว้ ก็ยังเป็นไปตามที่โจรผู้นั้นบอกไว้ อีแร้งเป็นคนขี้ระแวงที่ต้องการควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง
ห้องของอีแร้งไม่ได้มีแค่เสบียง แต่ยังมีอาวุธและ "สินค้า" พิเศษบางชิ้นของมันด้วย
ฉินหรานยืนอยู่หลังประตู พยายามแอบฟัง ประตูหนามาก เก็บเสียงทั้งหมดที่ด้านในเอาไว้ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่สามารถได้ข้อมูลใด ๆ จากอีกฝั่งของประตู ฉินหราน็ใช้มือซ้ายเคาะประตูขณะที่มือขวากำกริชไว้แน่น
"นั่นใคร?" เสียงหงุดหงิดชัดเจนดังออกมา
"เจ้านาย หูเค่อกลับมาแล้ว!" ฉินหรานพูด
แผนการของเขาคือพยายามหลอกมัน และอีแร้งก็ดูเหมือนจะเชื่อ มันมั่นใจในความสามารถของหูเค่อจริง ๆ ว่าจะทำภารกิจสำเร็จและมั่นใจในการป้องกันทั้งสามที่มันตั้งขึ้น มันยังคิดว่าชื่อเสียงฉาวโฉ่ของมันจะทำให้คนอื่นไม่กล้าบุกเข้ามาทำร้ายมันแน่ ๆ
อีแร้งเปิดประตู
ผู้ชายคนหนึ่งร่างผอมสูงใส่เสื้อและกางเกงขาแคบสั้นเหนือเข่ายืนอยู่ตรงหน้าฉินหราน ผู้ชายคนนี้มีใบหน้าผอมและเครื่องหน้ากระด้าง จมูกแหลม ผมบาง ดูเหมือนว่าฉินหรานจะกำลังเผชิญหน้ากับอีแร้งตัวจริง
มันมองไปรอบ ๆ และเห็นฉินหราน
"หูเค่ออยู่ไหน? แล้วไอ้เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงนั่นอยู่ที่ไหน?" มันถาม
"เด็กผู้ชายตายแล้ว ส่วนเด็กผู้หญิงถูกพากลับมาที่นี่ เธออยู่กับหูเค่อ..." ฉินหรานยิ้ม เขาลอบสังเกตอีแร้งคนชั่วช้า มันไม่ได้ร่างใหญ่ล่ำสันอย่างที่เขาคิดว่ามันจะเป็น
"ไอ้สารเลวหูเค่อ!" อีแร้งยิ้มเผยฟันดำ ๆ ของมันออกมา มันไม่สนใจว่าหูเค่อกำลังทำอะไร มันสนใจแค่ว่าหูเค่อทำภารกิจสำเร็จและรักษาชื่อเสียงให้มัน
"ทำได้ดีมาก ฉันจะเพิ่มรางวัลให้มัน!" หลังจากมันพูดจบประโยค มันก็เตรียมตัวจะปิดประตู
ส่วนฉินหราน?
อีแร้งเพิ่งรับคนใหม่เข้ากลุ่ม ดังนั้นมันจึงไม่ได้สงสัยอะไร อีกอย่าง มันยังไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าเหยียบเข้ามาในรังของมัน
ผลก็คือ ตอนที่ฉินหรานเงื้อมือขวาขึ้นและแทงกริชลงที่ลำคอของมัน อีแร้งจึงไม่มีเวลาตั้งตัว
"อึ้กกก!"
อีแร้งถอยกลับเข้าไปในห้อง กำด้ามกริชที่ยื่นออกมาจากลำคอของมัน มันปล่อยประตูเปิดกว้างไว้และฉินหรานก็เข้ามาให้องและปิดประตูเบา ๆ
อีแร้งล้มลงกับพื้น ดวงตาของมันเบิกกว้างอย่างประหลาดใจและสีหน้าดูสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งมันตาย อีแร้งก็ยังไม่รู้ว่าทำไมฉินหรานถึงฆ่ามัน มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉินหรานคือคนที่มันสั่งให้ลูกน้องฆ่าทิ้ง
[แทง: ก่อความเสียหาย 100 แต้มต่อเป้าหมาย (อาวุธมีคม (กริช) (พื้นฐาน) 50x2) เป้าหมายเสียชีวิต...]
ฉินหรานก้มลงและดึงกริชออกมาจากลำคอของอีแร้งพลางหลบเลือดที่พุ่งกระฉูดตามออกมา เขามองไปรอบ ๆ และเห็นเตียงหลังใหญ่หลังหนึ่ง บนเตียงมีผู้หญิงคนหนึ่ง มือและขาทั้งสองข้างของเธอถูกมัดไว้และปากของเธอก็ด้วย ผู้หญิงคนนั้นมองมาที่ฉินหรานด้วยสายตาตกตะลึง
"ไม่ต้องตกใจ ผมไม่ได้จะทำร้ายคุณ!" เขาบอกเธอ
ก่อนที่เขาจะได้อธิบายอะไรเพิ่ม เสียงโทรศัพท์ก็ดึงความสนใจของเขาไป ฉินหรานตามเสียงไปจนเจอโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าเครื่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เขาเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูรายชื่อผู้โทรเข้า
เป็นสายเรียกเข้าจากพันตรีของกลุ่มกบฏ