Chapter 146 : ผ่านสะพานสายลม - บททดสอบที่สอง
หลินเซวียนเดินต่อไปอีกหลายก้าวแล้วก็พลันได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากทางด้านหลัง
นักสู้ผู้หนึ่งเลือดออกมากเกินควรและลื่นตกลงไปที่ขอบสะพาน
กระแสลมโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงจนเกือบจะทำให้นักสู้ผู้นี้พลัดตกจากสะพานไป
เนื่องจากเขาเสียเลือดมากเกินควรทำให้เหนื่อยล้าทั้งกายและไม่อาจคว้าสิ่งใดเอาไว้ได้
“จับฉันเอาไว้!”
หนึ่งในนักสู้ที่อยู่ข้างๆเขาตะโกนบอกและฝืนคว้าตัวของเขาเอาไว้
ผลลัพธ์นั้นเห็นได้ชัดเจน
คนทั้งสองเหนื่อยล้าจนแทบจะคว้าจับอะไรไม่ได้แล้วทั้งคู่ คนอื่นๆทำได้เพียงมองดูพวกเขาพลัดตกลงไปจากสะพานเท่านั้น
คนทั้งสองถูกพัดปลิวตกจากสะพานและล่วงลงสู่ธารน้ำที่ดูสงบเบื้องล่าง
พริบตาต่อมาผิวน้ำที่ดูสงบก็พลันเดือดพล่านราวกับน้ำร้อน
“อ๊า!”
เสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังขึ้นมาอีกครั้ง หลินเซวียนมองลงไปยังธารน้ำอย่างไม่ได้ตั้งใจและก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นปลาปิรันย่าที่มาพร้อมกับฟันคมกริบกำลังกัดกินนักสู้ทั้งสองคนอย่างบ้าคลั่ง
ฟันอันแหลมคมของปิรันย่านั้นคมราวกับใบมีดโกน แม้ว่าพวกมันจะกัดได้ทีละน้อยหากแต่จำนวนของพวกมันนั้นมีเป็นจำนวนมากและพริบตาเดียวก็กินนักสู้ทั้งสองคนจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ
เลือดอาบย้อมธารน้ำ!
ทั้งสองคนนี้คือสองคนแรกที่เสียชีวิตลงในบททดสอบสะพานสายลม!
นักสู้ทุกคนต่างได้เป็นประจักษ์พยานเห็นภาพนี้กันทุกคน
ดูแล้วถ้าหากไม่มีความสามารถมากพอก็อย่าได้คิดจะช่วยคนอื่นจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นแล้วคนผู้นั้นก็อาจจะเสียชีวิตด้วยเช่นกัน
หลินเซวียนส่ายหัวเล็กน้อย
นักสู้ที่ยื่นมือไปช่วยคนที่กำลังจะล่วงลงไปนั้นเห็นได้ชัดว่าปรารถนาดี โชคไม่ดีนักที่เขาประเมินความสามารถของตัวเองสูงไป
บนสะพานที่สาม
เซี่ยงเทียนซิววิ่งเอื่อยๆมาจนถึงกลางสะพาน
หลังจากนั้นก็เป็นระเบิดเพลิงและโคลด์โดเมนที่ตามมาติดๆ
และถัดจากทั้งคู่ก็คือหมาป่าเงินกับคนอื่นๆ
“ไม่มีทางน่า สะพานสายลมมันง่ายขนาดนี้เลยหรอ? ไม่ใช่ว่านี่หมายความว่าใครก็ตามที่มีขาก็สามารถข้ามไปได้ง่ายๆรึไง?”
เซี่ยงเทียนซิวส่ายหัวซ้ำไปซ้ำมา
ก่อนจะเข้ามานั้นเขาคิดว่าบททดสอบทั้งเก้าของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนจะยากเย็นแสนเข็ญเสียอีก
อาจารย์หลี่เหว่ยกั๋วเองก็บอกกับเขาว่าอย่าได้ประมาทบททดสอบเหล่านี้
เขาไม่คิดเลยว่ามันจะง่ายดายจนน่าประหลาดใจเช่นนี้
ในเวลานี้เองเซี่ยงเทียนซิวพลันสังเกตเห็นปิรันย่าที่พยายามกระโดดขึ้นมาจากธารน้ำเบื้องล่าง
“หยุดกระโดดกันซักที ไม่ว่าพวกแกจะโดดยังไงก็โดดขึ้นมาไม่ถึงหรอก” เซี่ยงเทียนซิวแค่นเสียงเยาะ
ในเวลานั้นเองปิรันย่าก็เริ่มกระโดดสูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายก็กระโดดขึ้นมาบนสะพานได้ในที่สุด!
“ไอ้เวร” เซี่ยงเทียนซิวรวดเร็วยิ่งและสามารถหลบได้อย่างไม่ยากเย็น
ปิรันย่าตกลงบนสะพานและแกว่งหางไปมาอย่างอ่อนแรง
ไม่นานนักมันก็ตายเพราะขาดน้ำ
ระเบิดเพลิงและโคลด์โดเมนต่างพากันจ้องมองซากของปิรันย่าตัวนั้น
เป็นดังคาด ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีศพของปิรันย่าก็ระเหยและสลายหายไป
“ถ้าปิรันย่าพวกนี้ทำได้แค่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวถ้างั้นก็คงน่าเบื่อเกินไปหน่อย”เซี่ยงเทียนซิวยักไหล่และมองกลับไปที่ระเบิดเพลิงกับโคลด์โดเมน “สุภาพบุรุษทั้งหลายพวกนายไม่คิดอย่างนั้นรึ?”
ทันทีที่เซี่ยงเทียนซิวกล่าวจบ
ปิรันย่าจำนวนมหาศาลก็เริ่มกระโดดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังกระโดดสูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ
ท้ายที่สุดก็มีบางตัวที่สามารถกระโดดสูงขึ้นมาได้กว่าห้าเมตรและกระโดดขึ้นมาบนสะพานได้สำเร็จ!
“อ๊า!”
บนสะพานที่สอง นักสู้คนหนึ่งถูกฝุ่นทรายเกาะเต็มร่างจนทำให้ร่างกายของเขาบวมป่องและความเร็วลดลงอย่างมหาศาล
เขาพยายามทำลายฝุ่นทรายและเศษหินบนร่างออกหากแต่กลับไม่ได้รู้เลยว่ามีปิรันย่ากระโดดขึ้นมาอยู่บนหัวแล้ว
พร้อมกับเสียง ‘แกร๊ก’
หนังศีรษะและเส้นผมส่วนใหญ่ของนักสู้ผู้นี้พลันถูกขากรรไกรฉีกกระชากหลุดทั้งยวงและเลือดเองก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุด
นักสู้ผู้นี้กรีดร้องลั่นและเหยียบปิรันย่าตนนั้นจนตาย
หากแต่กว่าเขาจะรู้ตัวเขาก็มาอยู่ที่ขอบสะพานแล้ว
นอกจากนี้เบื้องหน้ายังมีฝุ่นทรายที่กำลังพัดมาทางเข้าอีกด้วย
ร่างกายของเขาเสียสมดุลและล่วงลงไปในธารน้ำ
ปิรันย่าพากันว่ายเข้ามาและกลุ้มรุมเขาจนกลายเป็นโครงกระดูกสีขาวในชั่วพริบตา
บนสะพานที่สี่เสียงกรีดร้องยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักสู้หลายคนถูกฝูงปิรันย่าจู่โจม เลือดและเนื้อจำนวนมากถูกกัดกระชากออกจากร่างของพวกเขา
การลอบโจมตีของปิรันย่าพวกนี้เข้ากันได้ดียิ่งกับกระแสลมต่างขั้วของสะพานสายลมสะพานที่สี่ส่งผลให้มีนักสู้คนแล้วคนเล่าล่วงตกจากสะพาน
ทุกครานั้นก็จะทำให้ธารน้ำถูกย้อมด้วยสีแดง!
เหล่านักสู้ทุกคนต่างตกอยู่ในอันตรายและไม่กล้าดูถูกบททดสอบนี้อีกต่อไป
สีหน้าของหลินเซวียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ระดับความยากของสะพานสายลมเพิ่มขึ้น200%จริงๆด้วย
เซี่ยงเทียนซิวในเวลานี้เองก็ระมัดระวังตัวมากขึ้นแล้วเช่นกัน ขณะที่เขาเดินไปต่อนั้นเขาก็มักจะคอยเฝ้าระวังปิรันย่าเหนือหัวบ้าง ซ้ายบ้างและขวาบ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังพบอีกด้วยว่ายิ่งเขาเดินไปได้ไกลมากเท่าไหร่ กระแสลมรุนแรงก็ยิ่งกรัดกร่อนจิตใจของเขาและทะลวงเข้ามาในเส้นประสาทของเขาทีละน้อย
ในสถานการณ์นี้เขายังต้องแบ่งความคิดอีกด้วย เขาต้องคอยระวังการลอบโจมตีของพวกปิรันย่าอีกทอดหนึ่ง
แน่นอนว่าการแบ่งความคิดเช่นนี้นั้นเป็นเรื่องธรรมดาของหลินเซวียน
“นอกจากทดสอบค่าสถานะว่าสูงพอรึเปล่าแล้ว บททดสอบนี้ยังทดสอบความสามารถในการแบ่งความคิดอีกด้วย บททดสอบนี้นับว่าไม่ยากสำหรับเราจริงๆ”
หลินเซวียนหัวเราะ
การแบ่งความคิดนั้นเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
นักสู้กลุ่มแรกของสะพานทั้งสี่ได้ไปถึงอีกฝากหนึ่งกันหมดแล้ว
หลินเซซียนจงใจไปให้ถึงอีกฝั่งล่าช้าไปหลายนาทีทำให้เขามาถึงอีกฝั่งล่าช้ากว่าเย่อู่ชิว
อีกด้านหนึ่งของสะพานนั้นเป็นพื้นหินปูนแบนราบ นอกจากนี้ตรงกึ่งกลางยังมีม่านแสงตั้งอยู่อีกด้วย ม่านแสงนั้นชัดเจนเลยว่าจะส่งพวกเขาออกไปจากวัดมังกรสวรรค์นิกายเซน
ในเวลานี้เองจู่ๆหลินเซวียนพลันพบว่าคนอื่นๆรอบตัวของเขาหายไปและตัวเขาเองก็ถูกหมอกล้อมรอบจนมิด
หลินเซวียนไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด
ทั้งนี้ก็เพราะเขาอ่านบันทึกของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนเมื่อห้าปีก่อนมาแล้ว
ทุกครั้งที่ผ่านบททดสอบได้เขาจะถูกหมอกโอบล้อมรอบกายเอาไว้ จากนั้นสมบัติก็จะสุ่มปรากฏออกมา
หมอกเบื้องหน้าของเขาสลายหายไปดังคาดจนเผยให้เห็นหีบสมบัติที่เปล่งประกายแสงสีทอง
หลินเซวียนเดินตรงเข้าไปและเคาะหีบสมบัติเบาๆ หีบสมบัตินั้นเปิดออกพร้อมกับแสงสีทองนวลตาที่สาดส่องออกมา
สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเขาคือลูกบอลประหลาดสีเขียวซึ่งมีขนาดราวกำปั้น
รอบๆตัวลูกบอลนั้นมีเสียงกระแสลมพัดอยู่ตลอดเวลาราวกับว่ามีสายลมลอยวนเวียนอยู่รอบๆมัน
หลินเซวียนใช้สกิลตรวจสอบขั้นสูงเพื่อตรวจสอบแล้วก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร
แกนวายุ! ไอเทมเกรดสีทอง! เมื่อใช้สร้างอุปกรณ์สวมใส่จะเพิ่มความเร็วให้ถึง10% อย่างไรก็ตามไอเทมนี้จะสามารถใช้สร้างได้เพียงไอเทมประเภทรองเท้าเท่านั้น
เขามองไปร่างแยกและพบว่าสิ่งของที่พวกเขาได้นั้นค่อนข้างประหลาดมาก
มีตั้งแต่หนังสือสกิลที่เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ มีดสั้นที่มีความสามารถเลือดออกรุนแรงจนน่าตะลึงและรูนที่เพิ่มความเร็วในการโจมตี
“ดูเหมือนจะสุ่มจริงๆแฮะ”
หลินเซวียนคิดหนัก
ในเวลานี้เองหมอกรอบกายของเขาก็ได้จางหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาพบว่าตัวเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยที่ข้างกายของเขานั้นมีเซี่ยงเทียนซิว เย่อู่ชิวและร่างแยกร่างอื่น
“พวกนายได้อะไรมาบ้าง? ฉันได้แกนอัสนีมานับว่าโชคดีจริงๆ!” เซี่ยงเทียนซิวหัวเราะ “ถ้าใช้เจ้านี่สร้างคทาขึ้นมาจะเพิ่มความเสียหายธาตุสายฟ้าได้ถึง10% หลังจากออกไปจากที่นี่ฉันวางแผนว่าจะสร้างคทาด้ามใหม่ในทันทีเลยแหละ”
“ยังไงก็เถอะ ของรางวัลของวัดมังกรสวรรค์นิกายเซนนี่ดีมากจริงๆ!”
เย่อู่ชิวเอ่ย “ฉันได้แหวนซึ่งเพิ่มค่าความแข็งแกร่งได้5แต้ม ถือว่าไม่ดีแต่ก็ไม่เลว”
ขณะที่พวกเขาคุยกันอยู่นั้นก็มีนักสู้บางคนผ่านมาถึงจุดพักได้แล้ว
นักสู้บางคนทั่วร่างเกลื่อนไปด้วยบาดแผล หลังจากตัดสินใจดูดีๆแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจออกจากวัดมังกรสวรรค์ผ่านทางม่านแสง
ยังไงซะพวกเขาที่ผ่านบททดสอบแรกมาได้ก็นับว่ากำไรแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดเพียงแค่นี้
ยังไงก็ตาม นักสู้จำนวนมากยิ่งกว่ากลับเลือกที่จะไปต่อยังบททดสอบที่สอง
ถ้าไม่พยายามสุดตัวมนุษย์เราจะต่างอะไรจากปลาเค็มกันล่ะ!
ในเวลานี้เอง หมอกได้สลายหายไปด้วยตัวมันเองจนเผยให้เห็นภูเขาสูงโปร่งสองลูกและทางเดินแคบๆทอดยาวออกไปเบื้องหน้าของพวกเขา
เมื่อผ่านไปซักพักหนึ่งก้อนหินจำนวนมากจะกลิ้งลงมาจากภูเขาสูง บางก่อนก็ใหญ่และบางก้อนก็เล็กแต่ทุกก้อนนั้นจะบังเกิดเสียงดังในทันทีที่ตกกระทบพื้น
นี่คือบททดสอบที่สอง – นภาหนึ่งบรรทัด
ไม่ว่านักสู้จะใช้วิธีใดก็ตามหากผ่านนภาหนึ่งบรรทัดไปได้ก็คือจบ
จากบันทึกของเมื่อห้าปีก่อน เส้นทางนี้ไม่ได้ยากนัก
เขาสามารถใช้สุดยอดความเร็วในการเคลื่อนไหวและปฏิกริยาตอบสนองวิ่งผ่านไปได้เลย วิธีนี้จัดได้ว่าเร็วที่สุดอีกด้วย
หรือจะระเบิดภูเขาเผากระท่อมโดยการระเบิดหินทุกลูกที่ตกลงมาก็ย่อมได้
แน่นอนว่าจะบุกฝ่าไปตรงๆก็ได้เช่นกัน
ตราบใดที่ค่าความอดทนสูงพอการถูกหินไม่กี่ก้อนกระแทกใส่ก็ไม่นับว่าเป็นอะไร พวกเขาสามารถใช้โล่ต้านทานก็ย่อมได้
“ลุย!”
เซี่ยงเทียนซิวดูกระตือรือร้นยิ่งนัก
เขามุ่งหน้าขึ้นสู่ท้องนภาซึ่งทันทีที่เขาเหยียบย่างเข้าไปก็พลันบังเกิดหินขนาดเท่าศีรษะกลิ้งลงมาใส่เขา
เซี่ยงเทียนซิวยกมือขึ้นมาและปาบอลสายฟ้าออกไป
ตูม!
หินก้อนนั้นระเบิดเป็นจุล
“ไม่เท่าไหร่เลย ง่ายมาก!”
เซี่ยงเทียนซิวเดินหน้าต่อ
หลินเซวียนและคนอื่นๆเองก็ตามมาติดๆ
ทุกคนล้วนแสดงความสามารถของตนเองออกมา
เย่อู่ชิวใช้ลำแสงดาบของเธอตัดผ่าก้อนหินออกเป็นชิ้นๆ
ระเบิดเพลิงและโคลด์โดเมนเองก็ใช้เวทย์ของพวกเขาทำลายพวกมัน
หลินเซวียนหยิบหอกยักษ์อัสนีออกมาและเหวี่ยงมันออกไป เงามายาหอกอัสนีแต่ละด้ามนั้นทำให้ก้อนหินระเบิดกลายเป็นจุล
ดาบพิษหลบก้อนหินด้วยความเร็วสูง
ส่วนพี่นมนั้น ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคนเขากลับเลือกที่จะหยิบโล่ออกมา
ดาบพิษเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ “นายใช้โล่ได้ด้วยหรอ?”
พี่นมเอ่ยด้วยท่าทีเขินดาย “ฉันเป็นฮีลเลอร์เลยไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองซักเท่าไหร่ ดังนั้นการที่ฉันมาถือโล่แบบนี้คงเดาได้ไม่ยากหรอกมั้งว่าเพราะอะไร?”
คนอื่นๆคิดตามและก็ดูเหมือนเหตุผลนี้มันจะฟังขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงพยักหน้ารับ
บททดสอบนั้นดูเหมือนจะเรียบง่ายมาก
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วที่พวกเขาจะผ่านนภาหนึ่งบรรทัดไปได้
หากแต่หลินเซวียนรู้ดีว่ามันไม่มีทางเรียบง่ายเช่นนั้น
ยังไงซะระดับความยากของมันก็เพิ่มขึ้นมาถึง200% พวกเขาคิดจริงๆหรอว่ามันจะเรียบง่ายปานนี้?
แล้วก็เป็นดังคาด
พวกเขามาได้เพียงหนึ่งในสามเท่านั้นก็ต้องพบว่าจำนวนของหินที่ล่วงลงมานั้นจู่ๆก็เพิ่มมากขึ้น
ตูม! ตูม! ตูม!
ก้อนหินล่วงลงมาอย่างบ้าคลั่ง
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาให้ได้ยินจากทางด้านหลัง
เจ้าของเสียงคือเหล่านักสู้ที่พึ่งจะเข้ามายังนภาหนึ่งบรรทัด พวกเขาถูกหินกระแทกใส่เรียบร้อยแล้ว
หลินเซวียนและคนอื่นๆมาถึงครึ่งทางของนภาหนึ่งบรรทัดแล้ว
ก้อนหินที่อยู่ด้านบนเกิดความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
หินจำนวนมากนั้นกลับมีหินเหล็กปะปนมาด้วยไม่น้อย!
เมื่อเห็นว่าบอลสายฟ้าไม่อาจทำลายมันได้อีกต่อไป เซี่ยงเทียนซิวก็กรีดร้องออกมาและรีบหลบในทันที
ตูม!
หินเหล็กกระแทกลงบนพื้นจนเกิดเป็นหลุมลึก
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหลบได้ทันเวลาคงจะกลายเป็นเนื้อบดไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากแรงกระแทกจากการตกของหินเหล็กนั้นรุนแรงมาก พื้นดินจึงกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ความเร็วของทุกคนลดลงอย่างมหาศาล
ความเร็วของคนที่อยู่หน้าสุดลดลงเช่นเดียวกับคนด้านหลัง
หลินเซวียนกระทั่งได้ยินเสียงก่นด่าของหมาป่าเงินดังมาจากทางด้านหลัง
“เชี่ยเอ๊ยแล้วฉันจะผ่านไปได้ยังไงวะเนี่ย?!”
หลินเซวียนและคนอื่นๆยังคงมุ่งหน้าต่อและไม่นานนักก็ผ่านมาได้สองในสามของเส้นทาง
ถึงจุดนี้หินที่ล่วงลงมาก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
หินธรรมดาไม่มีอีกต่อไปและถูกแทนที่ด้วยหินเหล็กทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีหินธาตุปะปนมากับหินเหล็กด้วย
หินอัสนี หินพิษ หินเพลิง หินน้ำแข็ง
หินที่ล่วงลงมาเหล่านี้จะส่งผลให้พื้นที่วงกว้างบนพื้นดินเกิดการเปลี่ยนแปลง
ถ้าหากนักสู้พยายามจะฝ่าไปตรงๆให้ได้ยังไงก็ต้องได้รับบาดเจ็บ
ถ้าพวกเขาอ้อมหินไปก็จะเสียเวลาเพิ่มและอาจจะถูกหินจำนวนมากกว่านี้กระแทกใส่
เป็นอีกครั้งที่ระดับความยากในการผ่านบททดสอบเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล