บทที่ 25: การช่วยเหลือ ของหมั้นของหนุ่มยาจก
บทที่ 25: การช่วยเหลือ ของหมั้นของหนุ่มยาจก
ในขณะนี้ ดูเหมือนสวรรค์และปฐพีจะเปลี่ยนเป็นเชือกเส้นเดียว และเงามือขนาดยักษ์ก็ค่อยๆ ตกลงมาบนเชือก
' ซิง~~~'
คลื่นเสียงอันทรงพลังได้พุ่งตกลงมาและสร้างแรงสั่นสะเทือนราวกับคลื่นทะเล
ไม่ว่าคลื่นเสียงจะผ่านไปที่ไหน ผึ้งกลืนวิญญาณทั้งหมดก็จะดูเหมือนกับสูญเสียวิญญาณและล้มลงกับพื้น
ซูฟ่านพยายามพยุงร่างกายของเขาในขณะที่พยายามดึงคนทั้งสองที่หมดสติไปแล้วมาไว้บนเรือเหาะหลิงเฟิงก่อนจะบินจากไปอย่างรวดเร็ว
ข้างหลังเขา ฝูงผึ้งกลืนวิญญาณที่ปกคลุมท้องฟ้าดูเหมือนกับสายไหมที่ถูกกัดแหว่งไปครึ่งหนึ่ง พวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและบินกลับไปที่รังของพวกมัน
...
บนหาดทรายริมทะเลสาบ ซูฟ่านที่มีใบหน้าซีดเซียวกำลังย่างไก่ป่าตัวอวบอ้วน โดยมีชายหญิงสองคนที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆ เขา
“ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่าผลข้างเคียงของการใช้วิชาลับจะร้ายแรงขนาดนี้ ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นตัว”
“ครั้งนี่ข้าทุ่มทุนไปมากจริงๆ”
ขณะที่ซูฟ่านพูด เขาก็เหลือบมองคู่รักที่มักจะแสดงความรักกันต่อหน้าเขา
ทันทีที่ซูฟ่านพูดจบ เขาก็รู้สึกว่าเลือดสดได้พุ่งมาถึงที่ลำคอของเขาแล้ว เขารีบกลืนยาระดับสูงเพื่อเริ่มการรักษา
ตอนนี้ร่างกายของซูฟ่านเต็มไปด้วยความผันผวนของพลังวิญญาณและพลังปราณ มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะฟื้นพลังกลับมาในเร็วๆ นี้
“ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถใช้วิชาที่ทรงพลังได้อีกไปหลายวันเลย” ซูฟ่านมองไปที่อสูรมังกรดินในระยะไกลซึ่งอยู่ที่ขอบเขตฝึกปราณขั้นสิบและได้รับการควบคุมโดยเขา
ด้วยการปกป้องของอสูรมังกรดิน พวกเขาจึงน่าจะสามารถผ่านพ้นสองสามวันนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
ในขณะนี้ หวังยู่หลุนค่อยๆ ตื่นขึ้นมา
“นี่คือนรกหรอ?” หวังยู่หลุนยังคงอยู่ในความงุนงง
“ใช่แล้ว เจ้าถูกส่งลงมาที่นรกชั้นสิบแปดเพราะพาพี่ชายของเจ้าไปหาเรื่องใส่ตัว”
ซูฟ่านพูดอย่างสบายๆ ขณะที่เขาหมุนไก่ย่างเสียบไม้โดยคิดว่าเด็กคนนี้โชคดีเป็นบ้าที่ได้พบเขา
ในตอนนั้นเองที่หวังยู่หลุนตระหนักได้โดยทันที
“ข้ายังไม่ตาย!”
“พี่ซู ท่านช่วยข้าและเฉียนเอ๋อไว้!”
หวังยู่หลุนพูด เขาบิดต้นขาเล็กน้อยและเริ่มหัวเราะคิกคักในขณะที่เขามองดูภรรยาของเขาที่อยู่ข้างๆ
ซูฟ่านเหลือบมองไปที่หวังยู่หลุน จากนั้นเขาก็หันกลับมาย่างไก่ต่อ
ขวดยาวิญญาณระดับสูงถูกโยนไปทางหวังยู่หลุน
“เจ้าและภรรยาได้รับบาดเจ็บจากวิชาของข้า ตอนนี้เจ้าจึงมีอาการจิตหลอนเล็กน้อย จงทานยาซะและอย่าให้ผลข้างเคียงมันเรื้อรังต่อไป” ซูฟ่านพูดอย่างเฉยเมย มันบ่งบอกถึงความโศกเศร้าในน้ำเสียงของเขา ยาชะล้างวิญญาณระดับสูงนี้มีราคาสูงถึง 600 หินวิญญาณ
หวังยู่หลุนหยิบขวดยาขึ้นมาและพูดอย่างซาบซึ้งใจว่า “พี่ซู นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ท่านช่วยข้า ขอบพระคุณท่านจริงๆ!”
น้ำเสียงของเขาดูจริงใจเป็นอย่างยิ่ง มันให้ความรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ซูฟ่านตัวสั่น เขาไม่สามารถรับมือกับอารมณ์เช่นนี้ได้
“เจ้าจะต้องจ่ายคืนทั้งหมดนี่ ค่าบริการของข้าคือ 20,000 หินวิญญาณและยาชะล้างวิญญาณขวดนี้คือ 2,000 หินวิญญาณ อย่าลืมมอบมันให้ข้าด้วยเมื่อเรากลับไปที่นิกาย”
ใบหน้าของหวังยู่หลุนตึงขึ้นเมื่อเขาตระหนักได้ว่าเขาไม่มีหินวิญญาณมากขนาดนั้น แต่ในไม่ช้า เขาก็ยิ้มและพูดอย่างหน้าด้านว่า “ข้าเป็นหนี้ท่านแล้วในตอนนี้ และข้าจะจ่ายคืนให้ท่านหนึ่งล้านหินวิญญาณเลยเมื่อข้ามีมัน”
ในเวลานี้ มู่หรงเฉียนเอ๋อก็ตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอมองภาพตรงหน้าเธอและจับไหล่หวังยู่หลุนไว้ตามสัญชาตญาณ
“สามี ท่านเจ็บไหม?” มู่หรงเฉียนเอ๋อกระซิบ เธอตระหนักได้ทันทีว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
“แน่นอน มันเจ็บมาก” หวังยู่หลุนพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“สามี เรายังไม่ตาย”
“ต้องขอบคุณพี่ซูสำหรับพระคุณของเขาที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้”
มู่หรงเฉียนเอ๋อพยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็พบว่าเธอไม่มีพลังเหลือพอและไม่สามารถระดมพลังวิญญาณของเธอได้ด้วย
หลังจากรับประทานยาวิญญาณที่หวังยู่หลุนมอบให้เข้าไปแล้ว ในที่สุดเธอก็ฟื้นเรี่ยวแรงกลับคืนมาอีกครั้ง
ในขณะนี้ การย่างไก่ของซูฟ่านก็เสร็จสิ้นแล้ว และเขาก็เริ่มแทะน่องไก่ร้อนๆ
“บอกข้ามาหน่อยสิว่าพวกเจ้าคนไหนกันที่เป็นโรคลิ่มเลือดอุดตันในสมองแล้วเลือดไม่ไปเลี้ยงสมองจนโง่แบบนี้กัน? ทำไมพวกเจ้าถึงได้เข้าไปยั่วยุฝูงผึ้งกลืนวิญญาณเช่นนั้น?”
ซูฟ่านพูดขณะแทะขาไก่และมองดูทั้งสองคน พวกเขาเก่งมากในการรนหาที่ตาย
หวังยู่หลุนเกาหัวอย่างเขินอายและพูดว่า “มันไม่ได้ผิดที่แผนของพวกเรา มันมีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้นตรงกลางทาง และผลก็คือฝูงผึ้งกลืนวิญญาณได้ค้นพบพวกเรา”
“แต่เดิมข้าคิดว่าด้วยวิชาลับที่พี่ซูสอน ข้าก็จะสามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย แต่ข้าก็ประเมินตัวเองสูงไป”
มุมปากของซูฟ่านกระตุก ไอ้เด็กเวรนี่มันกำลังจะบอกว่าวิชาของข้ามันกากเกินไปจนมันพึ่งพาไม่ได้อย่างงั้นหรอ?
“เอาล่ะ ข้าแค่อยากรู้ว่าอะไรกันที่ทำให้พวกเจ้าดิ้นรนทำเช่นนั้น”
ในเวลานี้มู่หรงเฉียนเอ๋อก้มหน้าลงด้วยความอับอาย
“น้ำผึ้งที่ผลิตโดยผึ้งกลืนวิญญาณมีคุณสมบัติเสริมความงาม ชะลอวัยและยืดอายุขัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการบาดภายใน มันสามารถใช้เพื่อกำจัดอาการบาดเจ็บเหล่านั้นได้”
“แม่ของเฉียนเอ๋อให้กำเนิดนางในตอนที่ครอบครัวของนางต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง แม่ของนางต้องออกไปต่อสู้กับศัตรูโดยทันทีหลังจากให้กำเนิดเฉียนเอ๋อเสร็จ และหลังจากนั้นแม่ของนางจึงล้มป่วยลง”
“ข้าได้ยินมาว่าน้ำผึ้งของผึ้งกลืนวิญญาณสามารถกำจัดอาการบาดเจ็บภายในได้ และที่สำคัญที่สุด ด้วยน้ำผึ้งนี้ ข้าก็จะสามารถใช้มันสู่ขอแต่งงานกับครอบครัวของเฉียนเอ๋อได้”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูฟ่านก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด ก็แค่ชายยากจนอีกคนที่หวังจะเอาของหมั้นชิ้นใหญ่ไปให้แม่ยายติดเตียง
“เมื่อพิจารณาถึงสถานะของเจ้าในฐานะศิษย์สำรองของห้องโถง A แล้ว แม่ยายในอนาคตของเจ้าจะยังคงดูถูกเจ้าอยู่อีกหรอ?” ซูฟ่านกล่าวอย่างสงสัย ใครก็ตามที่มีความเข้าใจอันลึกซึ้งจะเห็นว่าผู้ชายคนนี้มีศักยภาพ
“แม่ยายของข้าบอกว่าข้าเป็นชายหนุ่มที่ดี ดังนั้นของหมั้นจึงลดลงจากสองล้านหินวิญญาณเหลือเพียงหนึ่งล้านหินวิญญาณ” หวังยู่หลุนพูดอย่างเงียบๆ
“แม่ยายของเจ้าดีต่อเจ้ามากจริงๆ” ซูฟ่านพูดด้วยความปวดหัว หินวิญญาณหนึ่งล้านก้อน? แม้ว่าเขาจะเก็บเงินเป็นสิบปี แต่เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินได้มากขนาดนั้นไหม
“นั่นคือเหตุผลที่ข้ายอมเสี่ยงโดยต้องการจะใช้สิ่งนี้เป็นของหมั้นของข้า ครอบครัวของข้าและข้าสามารถรวบรวมเงินกันได้เพียง 500,000 หินวิญญาณเท่านั้น”
เมื่อมองดูการแสดงออกที่คาดหวังของหวังยู่หลุน ซูฟ่านก็นึกถึงตัวตนในอดีตของเขาที่พ่ายแพ้ให้กับของหมั้น ชั่วครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกสงสารและเห็นใจหวังยู่หลุน
“แล้วเจ้าเก็บมันมาได้รึยัง?” ซูฟ่านถามอีกครั้ง
“ข้าได้รับมันมาแล้ว แต่ข้าก็ได้มาเพียงครึ่งเดียวจากที่หวังเท่านั้น”
“ถึงอย่างนั้น ข้าก็คิดว่ามันน่าจะเพียงพอแล้ว” หวังยู่หลุนหยิบขวดเล็กออกมาแล้วพูด
ในขณะนี้ ร่องรอยของความกระตือรือร้นก็แวบขึ้นมาในดวงตาของซูฟ่าน น้ำผึ้งนี้เป็นของดี มันน่าจะตีเป็นเงินได้ราคาดี
“น้ำผึ้งพวกนี้มีราคาเท่าไหร่?” ซูฟ่านถาม
“ประมาณสองพันหินวิญญาณต่อปอนด์ พวกมันล้ำค่ามาก” มู่หรงเฉียนเอ๋อกล่าวอย่างอ่อนโยน
ดวงตาของซูฟ่านสว่างขึ้น และเขาก็พูดกับทั้งสองว่า “เอาล่ะ บอกข้ามาว่าพวกเจ้าได้น้ำผึ้งมาจากที่ไหน”
สามวันต่อมา ต้องขอบคุณยารักษาระดับสูง ซูฟ่านจึงฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ในขณะนี้ เขาขี่กวางดอกเมฆาผ่านทุ่งดอกไม้ และป่าไผ่ตรงหน้าก็คือรังของผึ้งกลืนวิญญาณ
ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้รังผึ้ง กวางดอกเมฆาก็หยุด ปฏิเสธที่จะไปต่อไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“นั่นคือรังของผึ้งกลืนวิญญาณสินะ”
ซูฟานตบหน้าผากกวางดอกเมฆาแล้วพูดว่า “ไปหาที่ซ่อนซะ”
กวางดอกเมฆาเป็นสัตว์มงคลขนาดเล็กที่มีรูปลักษณ์สวยงาม และที่สำคัญ มันสามารถนำความโชคดีมาสู่เจ้าของได้ เมื่อมันโตขึ้นก็สามารถเรียกเมฆมงคลออกมาได้ ซูฟ่านไม่อยากจะเชื่อว่าด้วยโชคของเขา เขาจะสามารถพบเจอกวางดอกเมฆาได้ที่นี่ เขากำลังคิดที่จะเลี้ยงมันเมื่อเขากลับไป
กวางดอกเมฆาส่งเสียง 'หยิง' และวิ่งกลับไปในทิศทางที่มันมา
“ผึ้งกลืนวิญญาณ ข้ามาแล้ว!”
ด้วยการใช้วิชาตัวเบา ซูฟ่านก็กลายเป็นลมกระโชกแรงและบินไปทางป่าไผ่..