บทที่ 24: สร้างเรือเหาะหลิงเฟิง
บทที่ 24: สร้างเรือเหาะหลิงเฟิง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว ซูฟ่านก็แยกทางกับเย่เสี่ยวเหยา
ในขณะนี้ ซูฟ่านเห็นต้นหลิงเฟิงในป่าซึ่งใหญ่เป็นสองเท่าของต้นไม้วิญญาณที่อยู่รอบๆ
ดวงตาของซูฟ่านสว่างขึ้น ในที่สุดเขาก็พบมันแล้ว เมื่อเขามาถึงที่นี่ครั้งแรก เขาก็ต้องการหาต้นหลิงเฟิงที่เหมาะสมสำหรับการใช้สร้างเรือลมวิญญาณ แต่ต้นไม้ในป่าต้นหลิงเฟิงก็ไม่ตรงตามข้อกำหนดของซูฟ่านเลย
และในที่สุดเมื่อเขาพบมันแล้ว ซูฟ่านจึงเรียกกระบี่บินออกมาและตัดต้นหลิงเฟิงหนาโดยทันที
ในเวลานี้ เสียงคำรามของหมีอันโกรธเกรี้ยวก็ดังมาจากระยะไกล
พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน แต่ซูฟ่านก็ยังคงสงบและมองไปในทิศทางของเสียง กระบี่ถงหยูและเข็มไร้คมสามสิบหกเล่มซ่อนอยู่กลางอากาศ
อสูรหมียักษ์สูงห้าเมตรพุ่งเข้ามาราวกับรถบรรทุกหนัก
“อสูรขอบเขตฝึกปราณขั้นแปด? ข้าขอใช้เจ้าเป็นหนูทดลองสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ของข้าหน่อยก็แล้วกัน” ซูฟ่านกล่าวอย่างมั่นใจ
กระบี่บินถงหยูกลายเป็นภาพติดตาโดยทันที จากนั้นก็ตามมาด้วยเข็มไร้คม พวกมันพุ่งเข้าหาหมียักษ์พร้อมๆ กัน
หมียักษ์มองไปที่กระบี่บินสีดำและเข็มไร้คมซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าไม้จิ้มฟันด้วยแววตาที่ดูถูกเหยียดหยาม
'โฮกกกก!'
พร้อมกับเสียงคำรามอันดังก้อง ชุดเกราะหินหนาก็ปรากฏขึ้นบนตัวของหมี มันเปลี่ยนจากรถบรรทุกเป็นรถถังหุ้มเกราะ
“โอ้ ดูท่าข้าจะต้องลงแรงเพิ่มอีกนิดแล้วสินะ” ซูฟ่านกล่าวในขณะที่เขาควบคุมดาบและเข็มบิน เขาเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศโดยเล็งไปที่ดวงตาของหมี
พรึ่บ!
กระบี่บินถงหยูถูกหมียักษ์ตบออกไป ดวงตาของมันใหญ่เท่ากับระฆังทองสัมฤทธิ์ มันจ้องมองไปที่ซูฟ่านด้วยสายตาเยาะเย้ย
' เจ้าคิดว่าของเล็กๆ น้อยๆ อย่างไม้จิ้มฟันชิ้นนี้จะทำร้ายข้าได้จริงๆ หรอ?'
ในขณะนี้ ซูฟ่านก็จ้องมองมันกลับอย่างเยาะเย้ย
'ฉึก!'
ทันใดนั้น ดวงตาของหมียักษ์ก็มืดบอด และก่อนที่มันจะมีโอกาสได้คำราม มันก็ทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาที่บอดของมันมีเข็มไร้คมสามสิบหกเล่มพุ่งออกมาก่อนจะบินกลับมาหาซูฟ่าน
“ง่ายเกิ้น!” ซูฟานกล่าวขณะที่เขาเริ่มรวบรวมวัสดุที่มีประโยชน์ในตัวหมียักษ์
“น้ำดีหมี หนังหมี อุ้งเท้าหมี หัวใจหมีและกระดูกหมี ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของมีค่า”
ตอนนี้ ซูฟ่านรู้สึกเสียใจที่ถุงเก็บของของเขาไม่ใหญ่พอ ในนิกายเทียนฉัว ถุงเก็บของขั้นพื้นฐานที่มีพื้นที่สิบตารางฟุตก็มีราคา 300 หินวิญญาณแล้ว
หลังจากจัดการกับหมียักษ์แล้ว ซูฟ่านก็อุ้มไม้หลิงเฟิงขนาดใหญ่และบินไปในระยะไกลโดยวางแผนที่จะปรับแต่งเรือลมวิญญาณที่นี่
แผ่นหยกที่ได้รับมาจากยอดเขาขัดเกลาสิ่งประดิษฐ์มีสิ่งประดิษฐ์มากกว่าร้อยชิ้นที่สามารถขัดเกลาได้ในระหว่างขอบเขตฝึกปราณ นั่นรวมถึงเรือเหาะหลิงเฟิงด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ยานพาหนะไม่กี่ชิ้นที่มีอยู่
หลังจากพบพื้นที่ราบแล้ว ซูฟ่านก็สร้างวงเวทย์ป้องกันเพื่อปกปิดพื้นที่
“โชคดีที่ข้านำวัสดุอื่นๆ ติดตัวมาด้วย ข้าจึงสามารถสร้างเรือเหาะหลินเฟิงได้เลย”
เรือเหาะหลิงเฟิงที่สร้างเสร็จจะมีความยาวมากกว่า 10 เมตร ซึ่งใหญ่เกินกว่าจะใส่ลงในถุงเก็บของของซูฟ่านได้ ดังนั้นหากต้องการนำติดตัวไปด้วย เขาจึงจะต้องปรับแต่งมันให้เป็นสิ่งประดิษฐ์ก่อน
ลำต้นหลักของต้นหลิงเฟิงที่เขานำมานั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตรและยาวมากกว่า 20 เมตร หากไม่ใช่เพราะพลังวิญญาณของซูฟ่านนั้นสูงกว่าคนรอบข้างมาก การแบกต้นไม้ใหญ่นี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย
ซูฟ่านมองไปที่ลำต้นของต้นหลิงเฟิงด้วยความพึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆ
“การใช้มันสร้างเรือเหาะหลิงเฟิงเพียงอย่างเดียวอาจจะเสียเปล่าไปสักหน่อย”
ในขณะนี้ ซูฟ่านก็มีความคิดที่ยอดเยี่ยม เขาวางแผนที่จะปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์สองชิ้น เรือเหาะหลิงเฟิงธรรมดาหนึ่งลำที่มีลำตัวมีหาง และอีกชิ้นที่มีรูปร่างเหมือนปีกเครื่องบิน ซึ่งจะสามารถติดกับเรือหลิงเฟิงและเป็นอุปกรณ์เสริมในภายหลัง
ด้วยวิธีนี้ การออกแบบเครื่องบินหลิงเฟิงจึงได้ถือกำเนิดขึ้น
จากนั้น ซูฟ่านก็เรียกกระบี่บินของเขาออกมาและเริ่มแปรรูปลำต้นของต้นหลิงเฟิง
สามชั่วโมงต่อมา ซูฟ่านหยิบหินวิญญาณไฟออกมาสามก้อนและจัดเรียงไว้ในวงเวทย์รวมเพลิง เขาเรียกเพลิงวิญญาณออกมาปรับแต่งเรือเหาะหลิงเฟิงต่อ
สองวันต่อมา ซูฟ่านมองไปที่สิ่งประดิษฐ์เสริมของเขาและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ถ้าสวรรค์ไม่สร้างข้าซูฟ่านขึ้นมา เส้นทางแห่งสิ่งประดิษฐ์ก็คงจะติดอยู่ในยุคมืดตลอดไป” ซูฟ่านพูดกับตัวเองอย่างหลงระเริง
ในขณะนั้น แรงสั่นสะเทือนความถี่สูงก็ส่งมาถึงเขา
การแสดงออกของซูฟ่านเคร่งขรึมขึ้น นี่คือสัญญาณขอความช่วยเหลือที่เขามอบให้กับหวังยู่หลุน
“ไม่คิดเลยว่ามันจะมีประโยชน์เร็วขนาดนี้” ซูฟ่านพึมพำ
โดยไม่รอทาสีเรือเหาะหลิงเฟิง มันถูกบังคับให้ลงมือปฏิบัติหน้าที่พร้อมกับปีกเสริมและกลายร่างเป็นลำแสงที่บินตรงไปยังที่มาสัญญาณ
ในขณะเดียวกัน หวังยู่หลุนและมู่หรงเฉียนเอ๋อก็กำลังวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ฝูงผึ้งขนาดมหึมากำลังไล่ตามพวกเขามาอย่างเกรี้ยวกราดราวกับว่าพวกมันถูกทำให้ขุ่นเคือง
“สามี ท่านแน่ใจหรอว่าพี่ซูจะสามารถช่วยเราได้?”
มู่หรงเฉียนเอ๋อเหลือบมองย้อนกลับไปที่ฝูงผึ้งที่ท่วมท้น น้ำเสียงของเธอเจือด้วยความกังวล
“หากสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ข้าก็จะใช้วิชาลับเพื่อเผาแก่นแท้โลหิตของข้าเพื่อพาเจ้าออกไป” มู่หรงเฉียนเอ๋อกัดฟัน
ในขณะนั้นเอง ฝูงผึ้งก็กำลังจะตามทั้งคู่ทันแล้ว
หวังยู่หลุนกอดมู่หรงเฉียนเอ๋อไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง และทำผนึกมือโดยอีกข้างหนึ่ง ระยะห่างระหว่างพวกเขากับฝูงผึ้งได้ขยายออกโดยทันที
นี่เป็นหนึ่งในวิชาการหลบหนีที่ซูฟ่านสอนหวังยู่หลุนเอาไว้ แม้ว่าจะมีการกินพลังวิญญาณสูงก็ตาม
หวังยู่หลุนกลืนยาเร่งวิญญาณสูงอย่างรวดเร็ว และใบหน้าที่ซีดเซียวของเขาก็ค่อยๆ กลับมามีสีสันอีกครั้ง
“สามี เราไม่สามารถพึ่งพายาเร่งวิญญาณเพียงอย่างเดียวได้ ให้ข้าเป็นคนใช้วิชาลับเผาแก่นแท้โลหิตแทนท่านเถอะ!” มู่หรงเฉียนเอ๋อกล่าวอย่างกังวล หวังยู่หลุนได้ใช้วิชาลับนี้มาแล้วสามครั้งติดต่อกันก่อนหน้านี้
“รออีกสี่ชั่วโมง จากนั้นเราจะใช้วิชาลับเผาแก่นแท้โลหิตหากจำเป็น”
“ข้าหวังว่าพี่ซูจะมาถึงทันเวลานะ”
ทั้งสองวิ่งต่อไปเพื่อเอาชีวิตรอด
ในเวลานี้ ซูฟ่านก็กำลังนั่งเรือเหาะหลิงเฟิงซึ่งแล่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“นี่มันเหนือความเร็วเสียงรึยังนะ?”
ทันทีที่เขาเร่งความเร็วจนเต็มกำลัง โซนิคบูมอันทรงพลังก็เกิดขึ้น
หลังจากเพลิดเพลินกับความตื่นเต้นของความเร็วได้ชั่วครู่ ซูฟ่านก็เริ่มเร่งความเร็วให้เร็วจนถึงขีดสุดและมุ่งตรงไปยังแหล่งที่มาของสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ไม่นานหลังจากนั้น ซูฟ่านซึ่งบินมาอย่างรวดเร็วก็มองเห็นฝูงผึ้งมากมายมหาศาลในระยะไกล
'วิชาตาอินทรี'
ซูฟ่านมองเห็นคู่ชายหญิงกำลังหลบหนีพวกมันได้อย่างชัดเจนและมีฝูงผึ้งอยู่ด้านหลังพวกเขา เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
สัตว์อสูรเหล่านี้คือฝูงผึ้งกลืนวิญญาณขอบเขตฝึกปราณขั้นสูงสุด เมื่อเจอเช่นนี้ แม้แต่ผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ทองคำก็ยังต้องวิ่งหนีหางจุกตูด
“นั่นพี่ซู! เรารอดแล้ว!”
เมื่อเห็นซูฟ่านเข้ามาใกล้ หวังยู่หลุนก็อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
แต่ทันใดนั้น ฝูงผึ้งขนาดมหึมาก็เร่งความเร็วขึ้นและล้อมรอบทั้งคู่เอาไว้ในทันที
จากความหวังไปสู่ความสิ้นหวัง พวกเขาสบตากันและโอบกอดกัน พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะตายไปด้วยกัน!
“ข้าขอโทษด้วยพี่ซูที่ลากท่านเข้ามามีเกี่ยวในเรื่องนี้” หวังยู่หลุนคิด ในตอนแรกพวกเขาหวังว่าความเร็วของวิชาที่ซูฟ่านให้มาจะสามารถช่วยพาพวกเขาหลบหนีได้ แต่ตอนนี้ เขาก็หมดหวังแล้ว
ทว่าในขณะนั้นเอง จู่ๆ เสียงคำรามก็ดังขึ้น
ซูฟ่านบนเรือเหาะหลิงเฟิงแสดงสีหน้าโมโหและเทขวดยาเร่งวิญญาณกรอกปากของเขาเองโดยตรง เขาสร้างผนึกมืออย่างรวดเร็ว และพลังวิญญาณอันมหาศาลและน่าอัศจรรย์ก็ไหลแล่นผ่านทั่วร่างกายของเขา
“วิธีลับ: เสียงสังหารมิติ!”
นี่เป็นวิชาการโจมตีกลุ่มที่ทรงพลังที่สุดที่ซูฟ่านสามารถปล่อยออกมาได้ในขณะนี้...