บทที่ 16 : ความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขาม, จัดการผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ในดาบเดียว
บทที่ 16 : ความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขาม, จัดการผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ในดาบเดียว
ในขณะนี้, ผู้คนรอบๆต่างตกตะลึงกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ของตระกูลเย่
แม้แต่เย่เหว่ยหวู่และผู้อาวุโสคนอื่นๆของตระกูลเย่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าผู้นำตระกูลของพวกเขาจะกลายเป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์
ในยามนี้ พวกเขาทั้งหมดกำลังรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
เเต่ในไม่ช้า, เมื่อพวกเขานึกถึงทักษะการต่อสู้ที่เย่หวู่ชางมอบให้…..พวกเขาก็รู้สึกว่านี่ก็อาจจะเป็นไปได้
ท่าทาง,ผู้นำตระกูลผู้นี้จะมีความลับอีกมากมาย
…….
ในเวลาเดียวกัน
ผู้อาวุโสลำดับที่สองของนิกายดาบสังหารวารีก็ยืนหยัดพลางสังเกตเย่หวู่ชางอย่างระมัดระวัง
เเต่ทันใดนั้น, เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเย่หวู่ชางมีเพียงฝึกตนในขั้นแรกของอาณาจักรปราการสวรรค์เท่านั้น….เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากนั้นเขาก็ตะคอกอย่างเย็นชา
"น่าสนใจดีนี่, แค่ขั้นแรกของอาณาจักรปราการสวรรค์กลับทรงพลังขนาดนี้”
“เจ้าหนู….ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังปกปิดอะไรบางอย่างไว้สินะ!”
อย่างไรก็ตาม, เย่หวู่ชางกลับเพิกเฉยต่อการจ้องมองของเขาโดยสิ้นเชิง
สายตาของเย่หวู่ชางกวาดตาไปมองเหล่าผู้คนของตระกูลเย่…..เเละทันใดนั้นสายตาของเขาก็เผยให้เห็นร่องรอยของเจตนาฆ่า
เขาไม่คาดคิดเลยว่าในตอนที่เขาเริ่มเก็บตัวฝึกฝนทักษะการต่อสู้ในป่าสัตว์อสูร….ตระกูลเย่ของเขาจะเผชิญกับวิกฤติเช่นนี้
หากไม่ใช่เพราะค่ายกลรวบรวมวิญญาณระดับเก้าที่ทำให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ….ทุกอย่างก็คงจะสายเกินไปเเล้ว
ไม่กี่วินาทีถัดมา,สายตาของเขาก็กวาดไปทั่วผู้นำของทั้งสามตระกูลหลักรวมทั้งผู้อาวุโสลำดับที่สอง ถูเป่ยหงด้วย
เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในทันที…..ศัตรูทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องตาย
ยามมองไปที่เย่หวู่ชางที่เย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง, ผู้นำของทั้งสามตระกูลใหญ่ก็รู้สึกราวกับว่าหนังศีรษะของพวกเขาชาวาบแและหัวใจของพวกเขาก็กลายเป็นเถ้าถ่านที่ถูกป่นเป็นผุยผง
หัวใจของพวกเขาพังทลายลงแล้ว…..เเละมันเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างยิ่งยวด
ณ เวลานี้พวกเขาทำได้เเค่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ถูเป่ยหง ผู้อาวุโสจากนิกายดาบสังหารวารีแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
พวกเขาแอบสวดภาวนาขอให้ถูเป่ยหงจะสามารถสังหารเย่วู่ชางให้ได้
มิฉะนั้น ทั้งสามตระกูลหลักตั้งแต่บนลงล่างจะต้องถูกกวาดล้างและหายสาปสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างเเน่นอน
……
อีกด้าน
เมื่อถูเป่ยหงเห็นเย่หวู่ชางซึ่งอยู่ในขั้นเเรกของอาณาจักรปราการสวรรค์กล้าที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดของเขา
เขาก็รู้สึกโกรธเกรียวอย่างรุนแรงจนรู้สึกเหมือนปอดของเขากำลังจะระเบิด
เขาทนไม่ไหวแล้ว เเละได้ทำการยกดาบยาวเหวี่ยงมันขึ้นฟ้า, ตัดผ่านท้องนภา และโจมตีมาที่เย่หวู่ชาง
“เจ้ากล้าดูถูกผู้อาวุโสคนนี้งั้นรึ….ตายซะ!”
บูม~~!
ด้วยการฟันของดาบนี้, อากาศโดยรอบดูเหมือนจะถูกบีบอัดและส่งเสียงดังกึกก้องอยู่ตลอดเวลา
การฟันครั้งนี้บรรจุความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาเอาไว้, มันราวกับว่าเขาต้องการฆ่าเย่หวู่ชางทันทีเพื่อระบายความโกรธทั้งหมดที่อยู่ในใจของเขา
อย่างไรก็ตาม, ยามที่คมดาบอันน่าสะพรึงกลัวใกล้เข้ามา….เย่หวู่ชางก็ยังคงสงบนิ่ง
เขามองไปที่ถูเป่ยหงอย่างดูถูกเหยียดหยาม….และพูดอย่างเย็นชาว่า
"อย่างเจ้าคู่ควรชักดาบใส่ข้าอย่างนั้นรึ?"
หลังจากพูดแล้ว เขาก็ไม่สนใจที่จะชักดาบของตัวเองออกมาด้วยซ้ำ
มือของเขาข้างหนึ่งโอบเอวเรียวเล็กของเย่ว์รู่ชวง, ในขณะที่อีกมือหนึ่งยื่นไปข้างหน้า
โดยใช้มือของเขาเหมือนดาบ, เหวี่ยงมันไปในอากาศ
สวบ~!
ปราณดาบที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าครั้งใดๆก็ระเบิดออกมาจากมือของเขา, ปลดปล่อยเจตนาดาบอันไร้ขี้ดจำกัดเเละโจมตีไปเบื้องหน้าในแนวนอน
บูม~~!
เย่หวู่ชางเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว, ปล่อยการโจมตีสะเทือนเลืองลั่นทันทีที่เขาเคลื่อนไหว
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงฝ่ามือ แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ปะทุออกมานั้นเหนือกว่าถูเป่ยหงมาก
แน่นอนว่าท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงนับไม่ถ้วนจำนวนมาก, เย่หวู่ชางได้ทำลายล้างการโจมตีของถูเป่ยหงด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว
และพลังที่น่าสะพรึงกลัวนั้นยังผลักให้อีกฝ่ายถอยห่างออกไปหลายลี้
ณ ขณะนี้, ถูเป่ยหงได้ใช้มือปิดหน้าอกของเขาเพื่อปกปิดบาดเเผล…..เเต่อย่างไรเขาก็ไม่สามารถควบคุมเลือดที่ไหลจากมุมปากของเขาได้อยู่ดี
ยามนี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงเเละความหวาดกลัว….เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาได้พ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มอาณาจักรปราการสวรรค์ขั้นที่หนึ่งด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม เย่หวู่ชางไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยให้ศัตรูได้พักรักษาตัว
เขาจับเย่ว์รู่ชวงไว้ในอ้อมแขน ก้าวขึ้นไปในอากาศ และทำการเหวี่ยงดาบอีกครั้ง
“เจ้ามดปลวกไร้ค่า, ข้าผู้เป็นผู้นำตระกูลเย่จะแสดงให้เห็นเองว่าดาบที่แท้จริงเป็นเยี่ยงไร!”
บูม~!
ด้วยการฟาดฟันวาดดาบผ่าท้องนภา….ปลดปล่อยเจตนาดาบอันยิ่งใหญ่ซึ่งเหนือกว่าครั้งก่อนมาก
การฟันอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้ก่อให้เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าและทุกสิ่งในท้องฟ้าก็หายไปภายใต้คมดาบที่น่าหวาดหวั่น
"กล้าดียังไง!"
ยามนี้ถูเป่ยหง, ทั้งตกตะลึงและโกรธอย่างมาก
เขาตกใจกับความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวของเย่หวู่ชาง
เเละเขาก็โกรธอย่างมาก, เพราะตัวเขาผู้เป็นผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดของอาณาจักรปราการสวรรค์กลับมาถูกใครบางคนเรียกว่ามดปลวก
“สายฟ้าผ่าแดนสุขาวดี!”
เมื่อเผชิญกับความเป็นและความตาย…..ถูเป่ยหงก็ไม่รั้งรออีกต่อไป, เขาปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาโดยตรงเล็งไปที่เย่หวู่ชาง
บูมมมมม~!
ภายใต้สายตาที่จับตาจับจ้องของทุกคน
การโจมตีของทั้งสองปะทะกันจนทำให้เกิดความปั่นป่วนที่น่าตกตะลึง
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาถัดมา
ภายใต้การจ้องมองของผู้คนนับไม่ถ้วน….ถูเป่ยหงถูกซัดกระเด็นออกไปพร้อมพ่นเลือดกลางอากาศก่อนจะทรุดตัวลง
ยามเห็นสภาพที่น่าสังเวชของเขาเช่นนี้, ผู้คนนับไม่ถ้วนอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
ในขณะนี้ร่างกายของถูเป่ยหงปกคลุมไปด้วยรอยดาบที่น่าสะพรึงกลัวจำนวนนับไม่ถ้วน…..แสดงออกถึงเจตนาดาบที่ไม่อาจหยุดยั้งเเละเลือดก็ยังคงไหลไม่หยุด
ยามนี้ถูเป่ยหงไม่ใช่คนหยิ่งผยองเหมือนยามก่อนหน้านี้อีกต่อไป
“นี่มัน…..เจตนาดาบ, นี่เจ้าเข้าใจเจตนาดาบได้จริงๆงั้นหรือ!”
เขาจ้องมองไปที่เย่หวู่ชางด้วยความหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ณ ขณะนี้, เขาไม่สามารถซ่อนความหวาดกลัวในดวงตาของเขาได้อีกต่อไป
ตอนนี้, เขาเเล้วว่าเขาได้ไปกระตุกหนวดเสือที่ไม่ควรเข้าให้แล้ว
เขารู้สึกเสียใจอย่างที่สุด…ตอนเเรกเขาคิดว่ามันจะเป็นงานง่ายๆ, แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเตะแผ่นเหล็กเข้าอย่างจัง
ผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ต่างเข้าใจดี…..ว่าการเข้าใจเจตนาดาบนั่นหมายความว่าอย่างไร?
เเละเขาย่อมรู้แน่ชัดกว่าใครๆทั้งหมดในที่นี่
เจตนาดาบ…..สิ่งที่แม้แต่ผู้ฝึกตนขั้นอาณาจักรพระราชวังสีม่วงก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้โดยง่าย
อย่างไรก็ตาม, เย่หวู่ชางไม่สนใจกับท่าทีหวาดกลัวของอีกฝ่าย
เขาปล่อยมือจากเอวของเย่ว์รู่ชวง เเล้วเดินไปหาถูเป่ยหง
เมื่อเห็นสายตาของเย่หวู่ชาง, ถูเป่ยหงก็สัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่า….ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในทันที
“เจ้าจะทำอะไร?”
“ข้าเป็นผู้อาวุโสลำดับที่สองของนิกายดาบสังหารวารีนะ, หากเจ้ากล้าลงมือ……นิกายดาบสังหารวารีจะไม่มีวันปล่อยเจ้าเเละตระกูลของเจ้าไปอย่างเเน่นอน”
ในช่วงเวลาที่ความเป็นความตายคืบคลาน….เขาทำได้เพียงนำชื่อเสียงของนิกายดาบสังหารวารีขึ้นมาข่มขู่เท่านั้น, โดยหวังว่ามันจะทำให้เย่หวู่ชางลังเลได้บ้าง
เเต่อย่างไรก็ตาม, คำตอบที่เขาได้รับกลับเป็นประกายตาอันแสนเย็นเยือก
จากนั้น, เจตนาดาบก็ปรากฏต่อสายตาของผู้คนอีกครั้ง…..เเละก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบสนอง พวกเขาก็เห็นหัวของผู้อาวุโสถูเป่ยหง ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
นอกจากนี้, เจตนาดาบไร้ขอบเขตนี้ยังปิดกั้นบาดแผลที่ลำคอเพื้อป้องกันไม่ให้เลือดไหลกระเซ็นเปื้อนเย่หวู่ชาง
ณ บัดนี้
ปรมาจารย์ถูเป่ยหงแห่งนิกายดาบสังหารวารีเสียชีวิตลงแล้ว!
แม้ว่าจะเห็นด้วยตาตนเอง, เเต่ทุกคนก็ยังพบว่ามันยากที่จะเชื่อ
ปรมาจารผู้ทรงพลังเช่นนั้น….กลับต้องมาตายง่ายๆแบบนี้งั้นเหรอ?
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนได้หันมองไปทางเย่วู่ชาง….ผู้นำตระกูลคนใหม่ของตระกูลเย่ด้วยความตกตะลึงเเละความกลัว
………………