Chapter 466 หนึ่งในระบบบ่มเพาะที่จะทำให้ก้าวสู่ขอบเขตบรรพชนยุทธ์
หอคอยเก็บประสบการณ์ในชั้นที่สาม สามารถที่จะดูดซับพลังวิญญาณ ฟื้นคืนพลังได้อย่างรวดเร็ว.
จุนซ่างเซียวที่คิดว่าหากต่อสู้ด้านนอกแล้วดูดซับพลังวิญญาณฟื้นคืนพลังได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ คงจะเป็นการดี.
“ก็ใช่.”
เป็นระบบที่สาดด้วยน้ำเย็นเข้าใส่ พลังวิญญาณที่ใช้ก็หมดเร็วเช่นกัน เขาที่ยักไหล่ ก่อนที่จะเริ่มผลาญพลังวิญญาณต่อทันที.
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ตูมม! ตูมม! ตูมม!
พลังวิญญาณครั้งที่สองก็หมดไป จุนซ่างเซียวดูดซับพลังวิญญาณ ทำให้ฟื้นคืนกลับมา.
จุนซ่างเซียวมีแกนวิญญาณสองแกน ทำให้เขามีพลังวิญญาณเป็นจำนวนมาก.
“ฟู่ ฟู่!”
เขาที่โคจรพลังวิญญาณอีกครั้ง พลังวิญญาณที่แผ่อาบไปทั่วร่างกาย.
หลังจากผลาญและเติมสองครั้ง ทำให้จุนซ่างเซียวตระหนักได้ว่า พลังวิญญาณก่อนหน้ากับตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย.
แม้นว่าจะไม่เห็นเด่นชัด ทว่าก็ถือว่ายกระดับ เป็นการพัฒนาที่ดี.
วิถียุทธ์ กายเนื้อที่เป็นรากฐานการฝึกฝน.
การจะแข็งแกร่งขึ้นนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับแกนวิญญาณด้วยเช่นกัน.
การที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นกว่าปรกติ ก็จะสามารถใช้ทักษะยุทธ์ได้มากมายหลากหลายรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
ต่อ ต่ออีก!
จุนซ่างเซียวที่ฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง.
ตูมม ตูมม ตูมม!
ฟู่ ฟู่ วูซซ วูซซ--
หลังจากผ่านไปสองสามชั่วยาม เจ้าสำนักจุนที่เหนื่อยเป็นหมาตายนอนโทรมอยู่บนพื้น.
แม้นว่าจะสามารถ ผลาญและดูดซับพลังวิญญาณกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ทว่ากายเนื้อก็ไม่ได้ฟื้นคืนหรือทำให้หายเหนื่อยได้เลย ดังนั้นถึงจะเป็นกษัตริย์สองวิถี ยุทธ์และกระบี่ ก็เหนื่อยล้าแทบขาดใจ.
“ชั้นที่สามสว่างล่ะ!”
“มีใครอยู่ด้านในอย่างงั้นรึ?”
“ไป ไป พวกเราไปดูกัน!”
ซูเซียวโม่และลี่เฟยที่ก้าวขึ้นไปยังชั้นสาม ขณะเห็นจุนซ่างเซียวนอนแผ่อยู่บนพื้น ก่อนที่จะตระหนักได้ “ที่จริงแล้วเป็นเจ้าสำนักนี่เองมาฝึกฝนอยู่ที่นี่!”
“ชั้นสามใช้ฝึกฝนอะไร?”
“ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย.”
ความเป็นจริงศิษย์หลากหลายคนที่คุ้นชินกับชั้นสอง และมาที่ชั้นสามบ้างแล้ว ทว่าเพราะพวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับคุณประโยชน์ของมัน ทำให้พวกเขาที่ได้แต่ยืนงง เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้าอยู่กับที่.
ก่อนที่จุนซ่างเซียวจะอธิบายความสามารถคุณประโยชน์ พวกเขาจึงเริ่มฝึกอย่างเป็นทางการ.
แต่กับกลายเป็นเรื่องที่เศร้าที่สุด.
บางคนที่สามารถผลาญและฟื้นฟูไม่กี่ครั้ง เพราะการผลาญพลังวิญญาณมหาศาล ท้ายที่สุดร่างกายก็ไม่สามารถทนได้ กายวิญญาณระเบิด คืนกลับร่างต้น ร่างกายที่สั่นกระตุกไปมา.
ในชั้นสามเองก็มีระบบลงโทษเช่นกัน คนที่ผลาญพลังวิญญาณจนทนไม่ไหว ต้องได้รับผลข้างเคียงที่รุนแรงไม่น้อย.
นับจากนั้นมา เหล่าศิษย์ที่กลายเป็นระวัง รู้ขีดจำกัดของตัวเอง จากนั้นทุก ๆ วันก็จะมีคนมาลองฝึกทีละครั้งสองครั้ง.
ทั้งสามชั้นมีการบันทึกสถิติด้วยเหมือนกัน.
หลาย ๆ คนที่มาทดสอบนั้น เห็นเจ้าสำนักที่อดทนได้สองสามชั่วโมง ทว่าพวกเขาก็ยังคงล้มเหลวอยู่หลายครั้ง.
“เย่ซิงเฉิน 12 ชั่วยาม บันทึกสถิติที่หนึ่งชั้นที่หนึ่งหอคอยเก็บประสบการณ์!”
เสียงที่ดูไร้อารมณ์ดังขึ้นมา.
หลายวันมานี้ อดีตราชันต์รัตติการที่ผสานพลังวิญญาณกับร่างกาย อดทนเพื่อที่จะทำลายสถิติชั้นที่หนึ่ง.
ชั้นที่หนึ่งฝึกฝนแบกรับแรงโน้มถ่วง คนที่ได้ที่หนึ่งคนแรกคือเซียวจุ้ยจื่อ จากนั้นก็เป็นลู่เชียนเชียน ก่อนที่จะมีคนมาทำลายสถิติได้ในที่สุด.
ส่วนชั้นที่สองฝึกฝนท่าเท้า ซูเซียวโม่ได้ที่หนึ่ง.
และชั้นที่สามฝึกฝนกลั่นพลังวิญญาณ ด้วยวิชาบ่มเพาะพระสูตรไท่ฉวนและวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น ทำให้ราชันย์รัตติการ สามารถทำสถิตการผลาญและฟื้นฟูมากที่สุด.
ในบรรดาศิษย์ทั้งหลาย พลังวิญญาณของเย่ซิงเฉินที่มากมายและน่าเกรงขาม ซึ่งเป็นผลมาจากวิชาพระสูตรไท่ฉวนนั่นเอง.
......
ตูมม!
ในห้องทดสอบ หมัดของจุนซ่างเซียวที่ต่อยไปยังเคลื่อนทดสอบ อากาศที่แผ่ซัดกระจายออกไปรอบ ๆ อย่างรุนแรง!
พลังสามล้านจินที่ปรากฏขึ้นที่เครื่องวัด.
“วิ้ง วิ้ง.”
ระบบเอ่ย “ในทวีปชิงหยุน กษัตริย์ยุทธ์ขั้นหนึ่งชั้นสูงพิเศษ มีพลัง 2.5 ล้านจิน โฮสน์มากกว่าพวกเขา500,000 จิน นับว่าทรงพลังน่าเกรงขามกว่า!”
จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้มพราย “เจ้าหมายความว่าข้าเหนือกว่าชั้นสูงพิเศษแล้วอย่างงั้นรึ?”
“ไม่.”
ระบบเอ่ย “การที่โฮสน์เป็นชั้นสูงพิเศษ เพราะว่าการปะทุของพลัง กษัตริย์ยุทธ์สองวิถี!”
“งั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวที่ทดสอบหมัดอีกสองสามครั้ง เขารู้สึกว่าการฝึกฝนในชั้นที่สาม ทำให้เขาสามารถกลั่นพลังวิญญาณให้หนาแน่นมั่นคงได้มากขึ้นเรื่อย ๆ.
ระบบเอ่ย “พลังวิญญาณที่มั่นคงหนาแน่น นั้นจะทำให้ทักษะยุทธ์ยกระดับ แนะนำไม่เพียงแค่บ่มเพาะ พร้อมกับกลั่นพลังวิญญาณไปด้วย ให้สำเร็จทั้งสองไม่ให้ยิ่งหย่อนกว่ากัน.”
“รับทราบ.”
จุนซ่างเซียวที่เริ่มฝึกฝน ช่วงเช้าบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณ ตอนบ่ายฝึกฝนในหอคอยเก็บประสบการณ์ชั้นสาม.
เหล่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ทุกคนต่างก็ฝึกฝนอย่างเคร่งครัดเช่นกัน.
พวกเขาที่ก้าวไปถึงระดับอาจารย์ยุทธ์ จากนั้นก็ตัดผ่านไปยังระดับต่อไปได้อย่างง่าย ๆ ยิ่งนับวันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน.
ที่ได้ประโยชน์มากสุดคงจะเป็นหลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อ พวกเขาที่อยู่ในระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายแล้ว ไม่กี่วันหลังจากนั้น พวกเขาก็ตัดผ่านระดับเป็นบรรพชนยุทธ์ได้.
เงื่อนไขการเป็นบรรพชนยุทธ์นั้น คือเข้าใจวิถียุทธ์ได้อย่างลึกล้ำ.
ความเข้าใจนี้ไม่ใช่เพียงแค่มีพลังวิญญาณที่ลึกล้ำ ทว่าจำเป็นต้องสามารถบังคับและเปลี่ยนรูปพลังวิญญาณได้ด้วย.
ด้วยการฝึกฝนที่ชั้นสาม ทำให้พวกเขาสามารถฝึกฝนการใช้พลังวิญญาณได้ดีขึ้น ดังนั้นความเร็วในการตัดผ่านระดับจึงเร็วกว่าปรกติ.
หลังจากที่จุนซ่างเซียวรู้เรื่องนี้ ก็ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นศิษย์ที่อยู่ในระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย ให้พวกเขาไปฝึกฝนในชั้นที่สามหอคอยเก็บประสบการณ์ ไม่ใช่ว่าจะทำให้พวกเขาตัดผ่านระดับดินแดนยุทธ์ได้เลยไม่ใช่รึ?”
“ไม่มีปัญหา.”
ระบบเอ่ย “เหล่าศิษย์ที่สำเร็จอาจารย์ยุทธ์นั้น พวกเขาสามารถที่จะกลั่นร่างกายและพลังวิญญาณฝึกฝนก่อนได้เลย และเมื่อพวกเขาอยู่ในระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย ก็จะทำให้ตัดผ่านระดับได้อย่างง่ายขึ้น.”
จุนซ่างเซียวที่ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก.
เม็ดยาผสานวิญยาณ เม็ดยาอาจารย์ยุทธ์ และยังมีหอคอยเก็บประสบการณ์ชั้นที่สาม นี่คือรูปแบบการบ่มเพาะ ที่จะทำให้สามารถก้าวไปถึงระดับบรรพชนยุทธ์ได้.
......
หลี่ชิงหยางและอีกหลายคนที่ตัดผ่านระดับ แม้นว่าจะมีระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นแรกแต่เพราะมีรากวิญญาณสุดยอด พลังต่อสู้ของพวกเขาเทียบได้กับบรรพชนยุทธ์ระดับหกหรือเจ็ดขั้นสูงได้เลย.
เจ้าสำนักที่เป็นกษัตริย์ยุทธ์สองวิถี เหล่าศิษย์ก็เป็นบรรพชนยุทธ์ที่มีชั้นสูงพิเศษเช่นกัน.
ความแข็งแกร่งของสำนักไท่กู่เจิ้งเวลานี้ ยกเว้นจำนวนคนที่ยังมีน้อย พวกเขาที่มีคุณสมบัติเกินกว่านิกายระดับห้าไปแล้ว
การไปยังนิกายเซิ่งชวนครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ชนะ 70 ครั้งแล้ว แม้แต่ท้าทายอาวุโส พวกเขาสามารถไล่ทุบอีกฝ่ายได้อย่างไม่ยากเย็นแน่นอน.
นอกจากนี้.
ไม่เพียงแค่เหล่าศิษย์ที่ยกระดับ อาวุโสเจียงก็ยกระดับเช่นกัน ท้ายที่สุดเขาก็กลายเป็นกษัตริย์ยุทธ์ชั้นที่สามได้.
การเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง ยกระดับได้หนึ่งขั้น ถือว่าช้าอยู่เล็กน้อย.
อย่างไรก็ตาม การที่สามารถตัดผ่านระดับได้ ก็ทำให้เจียงเซี่ยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
ก่อนหน้านี้เขาที่ยกระดับจากขั้นหนึ่งไปยังขั้นที่สอง ใช้เวลา 2-3 ปี ตอนนี้เพียงไม่กี่เดือนเขาก็ตัดผ่านระดับไปยังขั้นสามแล้ว อีกทั้งยังยกระดับชั้นสุดยอดไปยังชั้นสูงพิเศษอีกด้วย เรื่องนี้ไม่ต่างจากความฝันเลย!
นอกจากนี้ หลังจากที่ฝึกฝนที่หอประสบการชั้น 2-3 เจียงเซี่ยก็ตระหนักได้ว่า ขอเพียงมีเวลาฝึกฝน จะทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นจนน่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย.
ดังนั้น.
ไม่ว่าจะเป็นใครเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง ขอเพียงฝึกฝนเป็นระบบ ทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งก็ต้องก้าวมาถึงระดับเขาได้แน่.
มีข้อยกเว้นคนหนึ่ง.
ศิษย์ปิดประตู เหออู๋ตี้.
เขามีพรสวรรค์ที่ร้ายกาจจริง ๆ เจ็ดวันสามารถเชื่อมชีพจรได้เจ็ดเส้นแล้ว เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก.
“ด้วยความเร็วเช่นนี้ ห้าวัน ข้าคงจะตัดผ่านระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสองได้.”เหออู๋ตี้ที่ลอบคิดในใจ “เมื่อไหร่ที่ข้ากลายเป็นศิษย์ยุทธ์ ค่อยออกจากสำนักไท่กู่เจิ้ง ตระเวนท่องยุทธภพ.”
เขาที่เป็นปราชญ์ราชวงศ์เป็นยอดฝีมือในพิภพขั้นสูง เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมานับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นจึงไม่ชอบอยู่กับที่ ฝึกฝนซ้ำไปซ้ำมาอย่างราบเรียบ.
.
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งมีศิษย์มากกว่า 2000 คน เป็นเพียงสำนักระดับหกในทวีปชิงหยุน ตัวเขาจะทนอยู่ในสำนักเช่นนี้ได้อย่างไร.
เหออู๋ตี้ที่เป็นสุดยอดพรสวรรค์!
ดังนั้น หลังจากที่เขาเชื่อมชีพจรทั้ง 12 เส้น เขาก็ตัดผ่านไปยังระดับศิษย์ยุทธ์ ในคืนนั้น เขาที่เก็บของใส่กระเป่า เตรียมออกเดินทางไกล ไปฝึกฝนข้างนอก.
เหออู๋ตี้ที่ยืนอยู่หน้าทางเข้า ก่อนที่จะหันหน้ามองสำนักไท่กู่เจิ้ง กล่าวออกมาเบา ๆ “เจ้าหนู หากว่ามีวาสนาคงได้พบกันอีก ที่ไหนสักแห่ง.”
เขาคือสวรรค์.
จุนซ่างเซียวคือปฐพี.
“ฟิ้ว!”
เขาที่พุ่งออกไปด้านนอกสำนักทันที.
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาก้าวออกจากสำนัก ร่างกายของเขาก็สั่นไปมาทันที จิตสำนึกจิตใจของเขาที่ราวกับระเบิดออก ความทรงจำมากมายถูกลบไปในทันที สายตาของเขาที่เหลือกขาว หมดสติไปกับที่.