บทที่ 20: การซ้อมมือ
บทที่ 20: การซ้อมมือ
“ยาเร่งวิญญาณระดับกลางสองขวด และยาหลอมกายระดับสูงหนึ่งขวด”
ซูฟ่านวางขวดยาวิญญาณสามขวดไว้บนเคาน์เตอร์ธุรกรรม เขาเพลิดเพลินไปกับสีหน้าอิจฉาของผู้อื่นในขณะที่เขาทำภารกิจในกลุ่มพันธมิตรให้สำเร็จเป็นครั้งคราว
ในขณะนี้ พนักงานที่เคาน์เตอร์ก็ได้มอบรางวัลให้กับซูฟ่านสำหรับการทำภารกิจสำเร็จ พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบยาวิญญาณเนื่องจากไม่มีใครในกลุ่มพันธมิตรนี้กล้าที่จะปลอมแปลงการทำธุรกรรม
หลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น ซูฟ่านก็พูดกับผางฟู่ที่อยู่ข้างๆ ว่า “พี่ชาย ช่วยข้าประกาศภารกิจรวบรวมตำรารูนต่างๆ ที โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูนเทวะ ราคาของพวกมันทั้งหมดจะถูกกำหนดตามมูลค่าของพวกมัน”
“ยังไงก็ตาม แนบไว้ด้วยว่าข้าไม่ต้องการรูนที่สามารถหาได้จากยอดเขาสร้างสิ่งประดิษฐ์” ซูฟ่านกล่าวเสริม
“เอาล่ะ ขึ้นไปชั้นบนเพื่อดื่มชาและพูดคุยกันสักหน่อยเถิดศิษย์น้องซู” ผางฟู่พูดด้วยรอยยิ้ม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เขาสงสัยว่าตอนนี้น้องชายคนนี้กำลังเรียนรู้การสร้างสิ่งประดิษฐ์อยู่หรือไม่
ภายในห้องรับรองแขก ซูฟ่านมองไปที่ฝูงชนที่พลุกพล่านทั่วชั้นล่างและชมเชยว่า “พี่ผาง ที่นี่ไม่เลวเลย ในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ กลุ่มพันธมิตรของเราก็ได้แผ่อิทธิพลออกไปค่อนข้างมากแล้ว”
“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคนที่มีความสามารถอย่างศิษย์น้องซูที่ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในกลุ่มพันธมิตรของเรา เจ้าช่วยข้ารวบรวมพี่น้องของเราเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างรวดเร็วขึ้นมาก”
แม้จะเป็นผู้ฝึกตน แต่เขาก็ยังเปล่งกลิ่นอายของนักธุรกิจออกมา
“แล้วกลุ่มพันธมิตรของเราจะก้าวต่อไปในทิศทางไหน? ดังที่ท่านทราบ นิกายของเราค่อนข้างต่อต้านการสร้างกลุ่มพันธมิตร และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ต่อต้าน แต่พวกเขาก็จะไม่ทำเพียงแค่นั่งดูเราเติบโตอยู่เฉยๆ แน่เช่นกัน” ซูฟ่านกล่าว ในขณะที่เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับทัศนคติของคนในนิกาย
หลังจากที่ซูฟ่านอยู่ในนิกายชั้นนอกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เขาก็รู้สึกประหลาดใจกับระบบการฝึกของนิกาย
ศิษย์ชั้นนอกทั้งหมดรวมถึงอัจฉริยะจะต้องอยู่ในพื้นที่นิกายชั้นนอกตราบใดที่ยังไม่หลุดพ้นขอบเขตฝึกปราณ แม้แต่ผู้ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์จากผู้อาวุโสในนิกายก็ต้องอาศัยอยู่ในนิกายชั้นนอก การแสดงของพวกเขาจะเป็นตัวตัดสินใจว่าพวกเขาจะสามารถเข้าสู่นิกายชั้นในได้หรือไม่
นิกายเทียนฉัวให้ความสำคัญกับอุปนิสัยและลักษณะของลูกศิษย์เป็นอย่างมาก
ซูฟานรู้สึกว่ามีดวงตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาที่ศิษย์ทุกคนในนิกายชั้นนอกจากบนฟากฟ้า
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ผางฟู่ก็กล่าวว่า “เมื่อกลุ่มพันธมิตรของเราเติบโตขึ้น ข้าก็จะก่อตั้งหอการค้าเพื่อตั้งหลักในนิกายชั้นนอก”
“การสร้างกลุ่มพันธมิตรนี้แต่เดิมเป็นหนทางสำหรับข้าในการสะสมความสัมพันธ์ และในอนาคต กลุ่มพันธมิตรของเราก็จะตั้งอยู่ในรูปแบบของหอการค้า”
ผางฟู่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา พวกเขาทั้งคู่เป็นคนฉลาด และการปกปิดมากเกินไปก็เท่ากับการดูถูกอีกฝ่ายว่าโง่
“ในอนาคต ท่านจะเป็นผู้ฝึกตนที่ร่ำรวยซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างแน่นอน” ซูฟ่านกล่าวชื่นชม ผู้ที่สามารถจัดการงานดังกล่าวได้อย่างง่ายดายนั้นจะต้องมีทั้งความรอบรู้และความสามารถ
ในมุมมองของซูฟ่าน มันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่คนเหล่านี้จะมีชื่อเสียงในโลกแห่งการฝึกตน
“ ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องซู เจ้าชมข้าเกินไปแล้ว
“ยังไงก็ตาม ศิษย์น้องซู ตอนนี้เจ้ากำลังเรียนรู้การสร้างสิ่งประดิษฐ์อยู่รึเปล่า?” ผางฟู่ถาม
“ใช่แล้ว ทำไมหรอ? ท่านคงไม่ได้จะพยายามชักชวนให้ข้ามุ่งความสนใจไปที่การปรุงยาเพียงอย่างเดียวหรอกใช่ไหม?” ซูฟ่านหัวเราะ หวังยู่หลุนเองก็พยายามโน้มน้าวเขาในการสนทนาครั้งก่อน
“ศิษย์น้องซู ข้าไม่ได้พยายามจะโน้มน้าวเจ้า แต่ข้าอยากจะบอกความลับบางอย่างแก่เจ้า”
“โอ้? ความลับอะไร?” ซูฟ่านถามด้วยความสนใจ
“ข้าบังเอิญได้ยินเกี่ยวกับการฝึกปรุงยาและสร้างสิ่งประดิษฐ์พร้อมๆ กันมา”
“ไม่ว่าจะเป็นการปรุงยาหรือการสร้างสิ่งประดิษฐ์ การไปถึงจุดสูงสุดก็จะส่งผลให้แสงศักดิ์สิทธิ์ตกลงมายังโลกนี้เพื่อนำทางพวกเขาไปสู่โลกเซียน”
“อย่างไรก็ตาม ถ้าใครก็ตามฝึกฝนทั้งสองสิ่งนี้พร้อมๆ กัน พวกเขาก็จะเท่ากับละทิ้งแสงศักดิ์สิทธิ์และสามารถบุกทะลวงเข้าสู่โลกเซียนได้ผ่านการฝึกตนเท่านั้น” ผางฟู่กล่าวอย่างจริงจัง
“ฮ่าฮ่า พี่ผาง ท่านกังวลเกินไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอบคุณนะ”
ซูฟ่านหยิบขวดยาระดับสูงออกมาจากถุงเก็บของของเขา
“นี่คือคำขอบคุณสำหรับความลับของท่าน พี่ผาง” ซูฟ่านกล่าว เขาไม่เห็นอันตรายใดๆ จากการใกล้ชิดกับคนที่มีศักยภาพอย่างผางฟู่
“ขอบคุณน้องซู”
ผางฟู่รับขวดยามาโดยไม่พูดอะไรที่ไม่จำเป็น สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของซูฟานฉายแววชื่นชม
ด้วยการอำลากับผางฟู่ ซูฟ่านก็มุ่งหน้าไปยังยอดเขาขัดเกลาสิ่งประดิษฐ์ ก่อนที่จะเข้าสู่ดินแดนลับ เขาก็ต้องการจะสร้างสิ่งประดิษฐ์เพิ่มเติมอีกสักสองสามอย่าง
ยอดเขาขัดเกลาสิ่งประดิษฐ์คือที่ตั้งของโถงการสร้างสิ่งประดิษฐ์ภายในนิกายเทียนฉัว ยอดเขานี้เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าได้รับการเลี้ยงดูโดยปรมาจารย์นักสร้างสิ่งประดิษฐ์ชั้นยอด
หลังจากส่งมอบหินวิญญาณเป็นค่าเข้าแล้ว ซูฟ่านก็ได้รับตราห้องเดี่ยวมาและมุ่งหน้าตรงไปที่จัตุรัสดวงใจปฐพี
“โอ้สวรรค์ พวกเขาเจาะภูเขาทั้งลูกเลยหรอ?”
“แถมที่นี่ยังมีปราณวิญญาณไฟมากมายอีกด้วย!”
ทันทีที่ซูฟ่านเข้าสู่จัตุรัสดวงใจปฐพี เขาก็เห็นลาวาที่ไหลอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะถูกควบคุมโดยพลังที่มองไม่เห็น มันไหลเหมือนลำธารไปยังทุกๆ ห้อง
ตามลำดับ ซูฟ่านพบห้องที่ทำเครื่องหมายไว้บนตราและวางไว้บนกลไกโดยตรง
ห้องนี้มีพื้นที่มากกว่า 40 ตารางเมตร มันเป็นห้องระดับต่ำสุดในจัตุรัสดวงใจปฐพี ซึ่งเหมาะสำหรับการสร้างสิ่งประดิษฐ์ขั้นพื้นฐาน
“ที่นี่จะต้องมีอุณหภูมิอย่างน้อย 60 องศาเซลเซียสแน่ๆ มันเหมาะสำหรับการซาวน่าไม่น้อยเลย”
ขณะที่ซูฟ่านพูด เขาก็โบกมือและชั้นเกราะน้ำแข็งบางๆ ก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา มันทำให้เขาเย็นลงทันที
“แร่เหล็กดำ, เหล็กพันเมฆา, ใยแมงมุมร้อยบุปผา, ทองแดงพันเพลิง, เส้นใยเถาวัลย์ไม้เพลิง……” ซูฟ่านจัดวางวัสดุทั้งหมดที่เขาต้องการ
“มาซ้อมมือกันก่อนดีกว่า” ซูฟ่านกล่าว เขาโยนแร่เหล็กดำและเหล็กพันเมฆาลงไปในสระลาวาโดยตรงและรอให้พวกมันอ่อนตัวลง
การอัญเชิญเพลิงวิญญาณออกมาตอนนี้จะเป็นการสิ้นเปลืองพลังวิญญาณไปซะเปล่าๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูฟ่านดึงแร่เหล็กทั้งสองที่อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วออกมา เขาควบคุมพวกมันด้วยพลังวิญญาณของเขาให้พวกมันลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะค่อยๆ วางมันลงไปบนแท่นดับร้อนที่เตรียมไว้ในห้อง
ในเวลาเดียวกัน ค้อนสองอันที่ทำมาจากพลังวิญญาณก็ปรากฏขึ้นในอากาศ มันฟาดกระแทกแร่วิญญาณทั้งสองอย่างเป็นจังหวะ
“นี่แตกต่างจากสิ่งที่ข้าจินตนาการไว้โดยสิ้งเชิงเลย”
ขณะที่ซูฟ่านพูด เขาก็ควบคุมค้อนวิญญาณเพื่อทุบตีแร่วิญญาณทั้งสองโดยพลิกด้านโลหะเป็นครั้งคราว
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ขณะที่แร่เหล็กดำและเหล็กพันเมฆาเริ่มแข็งตัว ซูฟ่านก็ดับพวกมันลงตามระดับที่ต้องการ
“นี่ทำให้พลังวิญญาณของข้าหมดไปเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะรากฐานที่แข็งแกร่งของข้า ผู้ฝึกตนขอบเขตฝึกปราณขั้นสี่ธรรมดาๆ ก็คงจะไม่สามารถทนทานได้แน่”
ซูฟ่านควบคุมโลหะทั้งสองทันทีให้ลอยอยู่กลางอากาศ และเขาก็ใส่ยาเร่งวิญญาณระดับสูงเข้าไปในปากของเขาเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาโดยทันที
'วิชาขึ้นรูป'
โลหะทั้งสองที่อยู่กลางอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปร่าง มันกลายเป็นกระบี่ยาวธรรมดาในที่สุด ในขณะที่แร่เหล็กดำกลายเป็นของเหลวที่ค่อยๆ ไหลแนบไปกับพื้นผิวของกระบี่
กระบี่ยาวสีดำสนิทปรากฏขึ้น!
ในขณะนี้ ดวงตาของซูฟ่านก็เริ่มจริงจัง งานที่เหลือคือการผสานรูน
ซูฟ่านใช้นิ้วของเขาเป็นปากกา วาดอักษรรูนในอากาศและรวมมันเข้ากับสิ่งประดิษฐ์
' การควบคุมวิญญาณ, เจาะเกราะ, ขนนกแกร่ง, น้ำหนักเบา, ความเงียบและ...'
เช่นเดียวกับที่ซูฟ่านกำลังจะผสานรูนตัวที่หก
' บู้มมม!'
การระเบิดของพลังวิญญาณได้ทำลายสิ่งประดิษฐ์ลงโดยทันที
'โล่วิญญาณดิน'
'โล่วิญญาณน้ำ'
เมื่อเกิดการระเบิด เกราะป้องกันสองชั้นก็เกิดขึ้นบนพื้นผิวของซูฟ่าน
เมื่อมองดูฉากความล้มเหลวและการทำลายล้าง ซูฟ่านก็รู้สึกราวกับว่าเขาอยากจะร้องไห้ แต่กระนั้นมันก็ไม่มีน้ำตา
“วัสดุมูลค่ากว่า 400 หินวิญญาณหายลับไปแล้ว...”