บทที่ 16: ผางฟู่
บทที่ 16: ผางฟู่
ซูฟ่านหยิบกระจกวิเศษอันเล็กออกมาและเริ่มเทพลังปราณลงไป
พื้นผิวกระจกสั่นไหว และใบหน้าของชายวัยกลางคนก็ปรากฏขึ้นในกระจก
“สหาย ช่วงนี้ท่านได้หลอมยาอะไรขึ้นมาบ้างไหม?” เสียงที่ตื่นเต้นของชายวัยกลางคนดังมาจากในกระจก
“ยาเสริมวิญญาณระดับกลาง 50 ขวด ยาหลอมกายาระดับกลาง 50 ขวด ยาแก้พิษระดับกลาง 50 ขวด ยาชะล้างจิตใจระดับกลาง 20 ขวด ยาเร่งวิญญาณระดับกลาง 20 ขวด”
“นอกจากนี้ ยังมียาวิญญาณวารีและยาวิญญาณพฤกษ์อย่างละ 10 ขวด”
ขณะที่ซูฟ่านพูด การแสดงออกของชายวัยกลางคนในกระจกก็ตกตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้ว่าซูฟ่านได้ซื้อส่วนผสมไปเยอะมาก แต่กระนั้นอัตราความก้าวหน้านี้ก็ยังค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ
“เถ้าแก่หลี่ โปรดคำนวณยอดรวมให้ข้าด้วย” ซูฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม ด้วยเงินจำนวนนี้ เขาก็จะสามารถเริ่มแผนการสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้
“ยาเสริมวิญญาณ 50 ขวด, หินวิญญาณ 11,500 ก้อน, ยาหลอมกายา, หินวิญญาณ 15,000 ก้อน, ยาแก้พิษ, หินวิญญาณ 10,000 ก้อน, ยาชะล้างจิตใจ, หินวิญญาณ 8,000 ก้อน, ยาเร่งวิญญาณ, หินวิญญาณ 12,000 ก้อน”
“ยาวิญญาณวารีและยาวิญญาณพฤกษ์นับเป็น 40,000 หินวิญญาณรวมทั้งหมดเป็น 96,500 หินวิญญาณ ปัดเศษทั้งหมดแล้วก็เป็น 97,000 หินวิญญาณ”
“สหาย ตอนนี้เจ้าสามารถพัฒนากระจกเป็นขั้นสองได้แล้ว ซึ่งนั่นจะให้คุณสมบัติใหม่บางอย่างแก่เจ้า ไว้เจ้าลองตรวจสอบมันดูอีกทีนะ”
“”อืม”
“เอาล่ะ เรามาเริ่มการทำธุรกรรมกันเลยดีกว่า”
“ตกลง”
ซูฟ่านหยิบขวดยาวิญญาณออกมาและจ่อมันตรงหน้ากระจก พลังมิติได้ดูดเอาขวดยาทั้งหมดหายไปในทันที และถุงหินวิญญาณใหม่ก็ปรากฏขึ้นที่ตำแหน่งเดิม
ทุกครั้งที่ซูฟ่านเห็นฉากนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ
สิ่งนี้สะดวกกว่าการช้อปปิ้งออนไลน์มาก น่าเสียดายที่มันสามารถใช้ได้เฉพาะภายในนิกายเท่านั้น
ในตอนแรก เขาก็ตกตะลึงกับการเคลื่อนย้ายมิตินี้มาก แต่ต่อมาเขาก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้โดยใช้พลังของค่ายกลอันยิ่งใหญ่ของนิกายที่ครอบคลุมทั้งนิกายเอาไว้
หลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น เถ้าแก่หลี่ก็ยังไม่ได้วางสาย
“สหาย ข้ามีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้านิดหน่อย” เถ้าแก่หลี่ในกระจกวิเศษกล่าวโดยดูเขินอายเล็กน้อย
“ว่ามาเลย” ซูฟ่านตอบกลับทันที แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับเถ้าแก่หลี่จะเป็นการทำธุรกรรมเพียงอย่างเดียว แต่เขาก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลืออีกฝ่ายในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เนื่องจากเถ้าแก่หลี่มักจะให้ส่วนลดแก่เขาเป็นครั้งคราวหรือปัดเศษยอดขายให้เขาขึ้นในปีที่ผ่านมา
“หลานชายข้าที่อยู่ในขอบเขตฝึกปราณกำลังจะไปที่ดินแดนลับเพื่อฝึกฝน ดังนั้นข้าจึงหวังอยากจะซื้อยาคุณภาพสูงจากเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถช่วยข้าได้” เถ้าแก่หลี่กล่าว เมื่อพิจารณาจากยาที่ซื้อขายกันในปีที่ผ่านมา ซูฟ่านก็สามารถหลอมยาคุณภาพสูงได้ตั้งนานแล้ว
“ข้ามียาเสริมวิญญาณระดับสูง 5 เม็ด ยาแก้พิษ 4 เม็ด ยาหลอมกายา 6 เม็ด และยาเร่งวิญญาณ 3 เม็ด ดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ของเราแล้ว ข้าจะยอมขายมันให้ท่านก็ได้ ตราบใดที่ข้าเห็นว่าราคานั้นเหมาะสม” หลังจากการไตร่ตรองแล้ว ซูฟ่านก็กล่าว ยาเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับเขานอกเหนือจากการทำเงิน ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงไม่ได้ตระหนี่ที่จะขายพวกมัน
“ยาเร่งวิญญาณ? สหาย เจ้าซ่อนทักษะของเจ้าเอาไว้ได้ดีจริงๆ” เถ้าแก่หลี่กล่าวด้วยความดีใจ ยาเร่งวิญญาณระดับสูงสามารถฟื้นฟูพลังวิญญาณครึ่งหนึ่งของผู้ฝึกตนขอบเขตฝึกปราณขั้นสูงสุดได้เลยทันที มันเป็นไพ่ตายที่ดีมาสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตฝึกปราณที่จะออกไปต่อสู้
“หินวิญญาณ 20,000 ก้อน เจ้าคิดว่ายังไง?”
“โอ้ ท่านแน่ใจหรอ? หากใช้เวลาอีกสักหน่อย ท่านก็น่าจะสามารถหาซื้อยาเต็มขวดได้เลยนะ?” ซูฟ่านทำการคำนวณและกล่าว
“ไม่เลย เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่กะทันหันแล้ว เงินเท่านี้ก็ไม่สำคัญเลย ยิ่งไปกว่านั้น ราคาก็น่าจะทำให้เจ้าพึงพอใจด้วยถูกไหม?”
“แน่นอน ถ้าท่านพูดอย่างนั้น เราก็มาแลกเปลี่ยนกันเลยเถอะ” ซูฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ตกลง!”
ความผันผวนของมิติปรากฏขึ้นอีกครั้ง
หลังจากทำธุรกรรมเสร็จสิ้น ซูฟ่านก็มองไปที่ถุงหินวิญญาณสองถุงแล้วยิ้ม
“ ในที่สุด ข้าก็หลุดพ้นจากความยากจนได้สักที!
ในขณะนั้นเอง จู่ๆ พลังวิญญาณภายในตัวซูฟ่านก็เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งบอกว่าเขากำลังจะทะลวงผ่านขอบเขตการฝึกตนในปัจจุบันของเขา
ซูฟ่านรีบกลับมาที่ห้องของเขาอย่างรวดเร็วเพื่อนั่งสมาธิและระงับความก้าวหน้า
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ซูฟ่านก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
“ข้าจะยังไม่ทะลวงจนกว่าข้าจะไปถึงขอบเขตฝึกปราณขั้นสี่โดยสมบูรณ์แล้ว”
“ท้ายที่สุดแล้ว การปรับปรุงวิชาบัญญัติห้าธาตุของข้าก็กำลังจะประสบความสำเร็จแล้ว และเมื่อข้าปรับปรุงมันและเริ่มฝึกมันใหม่เมื่อไหร่ ข้าก็อาจจะสามารถบรรลุผลลัพธ์สองเท่าได้โดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งหนึ่ง” ซูฟ่านคิดในใจ
ซูฟ่านยังคงศึกษาวิชาบัญญัติห้าธาตุต่อไป
...
ในขณะเดียวกัน ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันห่างไกล จางเว่ยหยุนเพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกฝน และกำลังวางแผนที่จะออกไปเล่นข้างนอก แต่แล้วเธอก็ถูกหยุดโดยผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับ
“เพิ่งจะผ่านไปเพียงสามเดือน แต่เจ้าก็ทนการเข้าสันโดษไม่ได้แล้วหรอ?”
“เจ้ายังไม่เข้าใจพื้นฐานของวิชาโชคสวรรค์เร้นลับ และพลังของเจ้าก็ยังไม่ตื่นขึ้นมาเลย เพราะงั้นข้าจึงไม่สามารถปล่อยเจ้าออกไปข้างนอกตอนนี้ได้” ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับกล่าวอย่างอ่อนโยน เธอมีความคาดหวังสูงต่อลูกศิษย์หญิงคนนี้
ตัวเธอเองก็มีกายาชะตาสวรรค์เช่นกัน และด้วยความโชคดีหลายๆ ครั้ง มันจึงทำให้เธอค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมา แต่เดิมที เธอก็ไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก
จนกระทั่งในระหว่างหยุดพัก เธอได้เผลอหลับไปและฝันร้าย ในความฝัน เธอถูกกลุ่มสัตว์อสูรไล่ล่าในพันโลกอันยิ่งใหญ่ และเสียชีวิตลงอย่างน่าสยดสยองภายใต้การทรมานของพวกมัน
เมื่อตื่นขึ้นมา ผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับก็รู้ได้ทันทีว่ากายาชะตาสวรรค์ของเธอกำลังเตือนเธอ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เริ่มค้นหาวิธีที่จะเอาชนะความทุกข์ยากของเธอ
ฉากในความฝันนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวและยังคงหลอกหลอนเธอจนถึงทุกวันนี้
จากนั้นไม่นาน เธอก็ได้รับคำใบ้ที่บอกให้เธอต้องรับศิษย์ที่มีกายาชะตาสวรรค์เหมือนกันและสอนอีกฝ่ายเพื่อขจัดความทุกข์ยากของเธอเอง
และนั่นก็คือเหตุผลที่เธอรับจางเว่ยหยุนเข้ามาเป็นศิษย์ของเธอ
“มันยากเกินไปที่จะเรียนรู้ ข้าอยากจะออกไปเดินเล่นสักหน่อยเผื่อว่าข้าจะได้รับอะไรใหม่ๆ”
“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าข้าได้เจอหน้าสามีของข้าสักหน่อย มันก็คงจะดีกว่านี้” จางเว่ยหยุนกอดแขนของผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับและแสดงท่าทีออดอ้อน
เมื่อได้ยินลูกศิษย์ของเธอพูดคุยเกี่ยวกับสามีในอนาคต ดวงตาของผู้อาวุโสชุดเขียวลึกลับก็เปล่งประกาย
ใครก็ตามที่สามารถกลายเป็นคู่รักกับผู้ที่มีกายาชะตาสวรรค์ได้นั้นจะต้องมีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงสงสัยว่าสามีในอนาคตของลูกศิษย์ของเธอจะประสบความสำเร็จเช่นไรในอนาคต
“งั้นเจ้าจะออกไปเดินเล่นก็ได้ แต่ถ้าเจ้าต้องการจะไปพบสามีของเจ้า เจ้าก็จะต้องเข้าใจหลักการเบื้องต้นของวิชาชะตาสวรรค์เร้นลับก่อน”
“เอาล่ะ ข้าจะตั้งใจฝึกฝนให้หนักขึ้น!”
หลังจากพูดอย่างนั้น จางเว่ยหยุนก็ขึ้นขี่นกศักดิ์สิทธิ์ของเธออย่างมีความสุขและบินจากไป
...
นิกายเทียนฉัว เทือกเขาส่วนนอก ยอดเขาสิ่งประดิษฐ์
ซูฟ่านจ่ายหินวิญญาณ 10,000 ก้อนอย่างเจ็บปวดใจเพื่อซื้อชุดวัสดุและข้อมูลการหลอมสิ่งประดิษฐ์ขั้นต้น
“ความยากในการสร้างสิ่งประดิษฐ์นั้นสูงกว่าการปรุงยามาก และแม้แต่ค่าเล่าเรียนของมันก็ยังแพงกว่าด้วย” ซูฟานบ่น เขาได้ “สำเร็จการศึกษา” จากหลักสูตรการปรุงยาแล้ว และคิดว่าการสร้างสิ่งประดิษฐ์ก็คงจะคล้ายๆ กัน แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึง
เมื่อเขากลับมายังยอดเขาเล็กๆ ของตัวเอง ซูฟ่านเห็นศิษย์ที่ไม่คุ้นหน้ากำลังยืนอยู่ที่ด้านนอกลานบ้าน
“นี่มันศิษย์พี่ผางฟู่นี่? ท่านมาทำอะไรหน้าบ้านข้ากัน?” ซูฟ่านมองไปที่พี่ชายร่างอ้วนของเขาแล้วถาม
มีคนไม่มากนักที่ซูฟ่านจำได้ และชายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ข้าได้ยินมาว่าน้องซูประสบความสำเร็จในการเรียนปรุงยาแล้ว ดังนั้นข้าจึงมาแสดงความยินดีด้วย” ผางฟู่ส่งยิ้มให้กับซูฟ่าน เขายังนำหินวิญญาณ 50 ก้อนออกมาจากถุงเก็บของเพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดี
“โอ้ ขอบคุณมากศิษย์พี่ผางฟู่ ข้าซาบซึ้งในความยินดีของท่านจริงๆ แต่ท่านเก็บหินวิญญาณเหล่านี้ไว้เถอะ”
“ในนิกายชั้นนอก เราทุกคนก็ล้วนเป็นผู้ฝึกตนตัวเล็กตัวน้อย หากไม่มีหินวิญญาณ พวกเราก็แทบจะไม่ต่างไปจากเซียนยาจก ดังนั้นเจ้ารับมันไว้เถอะ”
ดวงตาของซูฟ่านเปล่งประกาย และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้พูดมีเหตุผล...