บทที่ 14 : อาณาจักรปราการสวรรค์อันทรงลัง
บทที่ 14 : อาณาจักรปราการสวรรค์อันทรงลัง
มีคนได้รับบาดเจ็บ?
ใครกัน?.....เป็นเย่ว์รู่ชวงใช่ไหม?
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิด
เเต่ทันใดนั้น, เสียงเลือดและเสียงถ่มน้ำลายก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้น ก็มีร่างหนึ่งบินออกจากสนามรบและล้มลง
ขณะที่ทุกคนมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า พวกเขาต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจและหวาดกลัวไปพร้อมๆกัน
บนพื้น, กลุ่มผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่นำโดยชูเหรินซิกำลังนอนอยู่….กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรงราวกับว่าชีวิตของพวกเขากำลังอยู่บนเส้นด้าย
บนหน้าอกของพวกเขา, มีบาดแผลมากมาย โดยมีพลังปราณดาบแแผ่ออกมา
“……..”
ฉากนี้ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนตกตะลึงถึงขีดสุด
จากนั้นดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ทั้งความตกตะลึง, ความกลัว, ความสับสน, ผสมปนเปกันนับไม่ถ้วน
ทุกสายตาจ้องไปหาเย่ว์รู่ชวงด้วยความตกตะลึง
เพียงดาบเล่มเดียว, นางทำให้ผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์มากกว่าหนึ่งโหลบาดเจ็บสาหัส….แม้กระทั่งผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดก็ไม่รอด
นี่นางยังเป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิขั้นสูงสุดเหมือนคนอื่นจริงๆหรือ?
พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง
แต่ในขณะนี้พลังที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเย่ว์รู่ชวง แสดงให้เห็นว่าเธออยู่เพียงจุดสูงสุดของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
สิ่งนี้มหัศจรรย์มาก!
ในขณะนี้ คำว่า "อัจฉริยะ" ได้ผุดขึ้นมาในใจของทุกคน
ใช่แล้ว มีเพียงอัจฉริยะเท่านั้นที่จะมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้
เมื่อมองดูรูปร่างอันน่าภาคภูมิใจและสง่างามของเย่ว์รู่ชวง….ในขณะนี้ ไม่มีใครกล้าที่จะมีความคิดที่ไม่เคารพใดๆต่อเธอ
เเละพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ….ตระกูลเย่ได้รับห่านทองคำอย่างแท้จริงในครั้งนี้
เเละแม้แต่ผู้อาวุโสและคนอื่นๆของตระกูลเย่ก็ยังตกตะลึงไม่เเพ้คนนอก…..เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเย่ว์รู่ชวงจะน่ากลัวถึงเพียงนี้
ด้วยดาบเพียงเล่มเดียว…ปรมาจารย์อาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์หลายคนล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส
…….
ณ ขณะนี้
ชูเหรินซินนอนอยู่บนพื้นด้วยความกลัว
เเละผู้นำตระกูลหวังและผู้นำตระกูลเจียงก็มีสีหน้าเต็มไปด้วยความกลัวเช่นกัน
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง, เจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน!” ชูเหรินซินตัวสั่นชี้ไปที่เย่ว์รู่ชวง
เขาถามด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
น่าเสียดายที่เย่ว์รู่ชวงไม่แสดงความเมตตาต่อใครเลย
เธอไม่ตอบคำถามของเขา, แต่ยกดาบยาวในมือขึ้น
ปลดปล่อยปราณดาบไร้เทียมทานออกมาจากอาวุธศักดิ์สิทธิ์เเละเผยให้เห็นเจตนาฆ่า
เเละฉากนี้ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนตกตะลึง
สามตระกูลใหญ่จบสิ้นแล้ว!
นี่คือความคิดในใจของทุกคน
การมีผู้ฝึกตนขั้นสูงสุดของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าอย่างไร?
แค่เพียงนึกดูก็สามารถจินตนาการได้ไม่ยาก…..ในมณฆลเมฆาอัศนี เธอเกือบจะเรียกได้ว่าอยู่ยงคงกระพันเเล้ว
เมื่อมองดูเย่ว์รู่ชวงที่กำลังเดินมาทีละก้าว, รับรู้ถึงปราณดาบที่อยู่รอบตัว ของเธอ….หัวใจของชูเหรินซินก็เต็มไปด้วยความกลัวอย่างยิ่ง
เเละเมื่อเห็นเย่ว์หรู่ชวงยกดาบขึ้น, เขาก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปและตะโกนออกมา
“ผู้อาวุโสลำดับที่สอง….ช่วยข้าด้วย!”
ด้วยเสียงคำรามอันโกรธเกรี้ยวนี้, เย่ว์รู่ชวงก็รีบโจมตีด้วยดาบของเธอทันที
ครืนนนนน~~~
อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ในบ้านพักของตระกูลชูในมณฆลเมฆาอัศนี
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวได้ปะทุขึ้นและพลังนั้นได้มุ่งหน้ามายังคฤหาสน์ตระกูลเย่ในชั่วพริบตา
ลงมาพร้อมกับรัศมีดาบอันน่าสะพรึงกลัว
คว้ากกกก~~~!
ปราณดาบที่ไม่มีใครเทียบได้ ได้ฉีกทะลุท้องฟ้า เเละโจมตีมาที่เย่ว์รู่ชวงโดยตรง
ปราณดาบสายนี้, ทำให้หัวใจของผู้คนรอบๆหยุดนิ่งทันที
ผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์หลายคนขณะที่เห็นดาบเล่มนี้….พวกเขาก็รู้สึกว่าเลือดในกายของพวกเขาจับตัวเป็นน้ำแข็งเเละเต็มไปด้วยความกลัวในทุกอณู
เเละในชั่วระยะเวลานั้น, มันก็มีความคิดหนึ่งผุดออกมาในใจของพวกเขาทุกคน
อาณาจักรปราการสวรรค์!
พลังระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนขั้นอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
และเมื่อเผชิญหน้ากับปราณดาบอันทรงพลังนี้….เย่ว์รู่ชวงก็สัมผัสได้ถึงอันตรายเช่นกัน
เธอไม่กล้าที่จะลังเล, และทำการปลดปล่อยวิชาดาบระดับปฐพีขั้นสูงสุดโดยไม่ลังเลใจ
ครืนนน~!
ปราณดาบไร้เทียมทานของเธอปะทุขึ้นและรับการโจมตีจากผู้มาใหม่นี้
บูม~!
เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง, เสียงระเบิดดังกึดกก้องเเละสั่นสะท้านใบหูของทุกคน
หลังจากการปะทะ….เย่ว์รู่ชวงซึ่งท้ายที่สุดยังไม่ใช่ผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ก็ต้องถอยออกไปหลายสิบก้าวก่อนที่จะหยุดลง
เเละฉากนี้ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนเริ่มสงสัยในชีวิต
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคาดหวังว่าเย่ว์รู่ชวงจะสามารถต้านทานการโจมตีจากผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
นี่คือพลังของอัจฉริยะ?
นี่เป็นความคิดเดียวที่ปรากฏในใจของทุกคนในขณะนี้
ในเวลาเดียวกัน, พวกเขาก็สงสัยอย่างมากว่าผู้มาใหม่คือใคร…..และทำไมเขาถึงช่วยสามตระกูลหลัก
……
ทันใดนั้นเอง, มันก็มีมีเสียงแก่ๆดังขึ้นมา
"แข็งแกร่งจริงๆ, ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า…..ผู้ฝึกตนขั้นอาณาจักรปราการสวรรค์ที่ต่ำกว่าขั้นที่สามคงจะไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้เป็นแน่!"
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนก็ได้เข้าใจเกี่ยวกับพลังการต่อสู้ของเย่ว์หรู่วงทันที
ชายชราหยุดไปครู่หนึ่ง, จากนั้นเสียงนั้นก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสคนนี้ไม่ใช่ผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ที่ต่ำกว่าขั้นที่สาม….ชะตากรรมของเจ้าไม่อาจหนีพ้น!”
เขาเอ่ยยังเด็ดขาด, เเละมีเจตนาสังหารอันท่วมท้นอยู่ในคำพูดนั้น
เพราะถ้าหากอัจฉริยะอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้รอดไป….มันจะมีอนาคตสำหรับนิกายดาบสังหารวารีเหลืออยู่หรือ?
เเละเมื่อคำพูดจบลง ทุกคนก็ได้เห็นชายชราคนหนึ่งในวัยห้าสิบปี…..ผอมแห้งเเละมีหลังค่อมเล็กน้อย
“นั่นคือถูเป่ยหง ผู้อาวุโสลำดับที่สองของนิกายดาบสังหารวารี….พระเจ้า!”
“ตระกูลเย่กล้ายั่วยุนิกายดาบสังหารวารีได้อย่างไร, พวกเขาไม่กลัวตระกูลถูกทำลายรึไงกัน!”
“ผู้อาวุโสลำดับที่สองเป็นผู้ฝึกตนชั้นนำที่ประสบความสำเร็จในการทะลวงผ่านอาณาจักรปราการสวรรค์เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน ว่ากันว่าตอนนี้เขาได้มาถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรปราการสวรรค์ชั้นที่หกเเล้ว….ห่างจากอาณาจักรปราการสวรรค์ชั้นเจ็ดเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น, การดำรงอยู่ของเขานั้นน่าสะพรึงกลัวมาก!”
“ตระกูลเย่จบลงแล้วจริงๆ ในครั้งนี้ พวกเขาได้ไปยั่วยุนิกายดาบสังหารวารี…..พวกเขาไม่มีทางรอดเเล้ว แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!”
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้, ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเย่ก็ดูตกใจเป็นอย่างมากและรีบถามถูเป่ยหงทันที
"ผู้อาวุโส, ตระกูลเย่ไม่เคยรุกรานนิกายดาบสังหารวารีของท่าน…..ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านถึงต้องการกำจัดตระกูลเย่ของเรา"
เมื่อได้ยินคำถามของเขา, ถูเป่ยหงก็ส่งสายตาเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยาม
ในสายตาของเขา….คำพูดของมดไม่คุ้มที่จะตอบ
โชคยังดีที่ชูเหรินซิน ที่อยู่ด้านข้างเป็นคนตอบคำถามของเขา
“เย่เหว่ยหวู่, เจ้าไม่สงสัยเลยหรอว่าผู้นำคนก่อนของตระกูลเย่และปรมาจารย์อาณาจักรปราการสวรรค์หลายคนของพวกเจ้าเสียชีวิตได้อย่างไร”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา…..ความเข้าใจก็แวบเข้ามาในจิตใจของเย่เหว่ยหวู่ทันที
…..หรือว่า!
ชูเหรินซินสัมผัสได้ถึงความคิดของเย่เหว่ยหวู่…..เขาจึงเริ่มเยาะเย้ยต่อในทันที
“ถูกต้อง, ตระกูลเย่ไม่รู้จริงๆว่าอะไรดีสำหรับพวกเขา พวกเจ้าโลภดอกบัวบุษรานพเก้าที่ตกเป็นเป้าหมายของนิกายดาบสังหารวารีในอาณาจักรลับมาอย่างยาวนาน ช่างไม่รู้คุณค่าชีวิตและถามหาความตาย!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นโดยไม่ต้องคิด
ชั่วขณะหนึ่ง, สมาชิกนับไม่ถ้วนของตระกูลเย่ต่างจ้องมองผู้อาวุโสลำดับที่สองของนิกายดาบสังหารวารีด้วยความโกรธ….ทั้งเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองในดวงตา
น่าเสียดายที่ในสายตาของผู้อาวุโสลำดับที่สอง การจ้องมองของมดเหล่านี้ไม่คุ้มกับความสนใจของเขา
เขายืนอยู่ที่นั่นราวกับควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้เเล้ว….และพูดอย่างใจเย็นว่า
"เอาล่ะ ถึงเวลาตายของพวกเจ้าแล้ว!"
……………..