ตอนที่แล้วตอนที่ 49: ดูดซับกระดูกวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 51 ผู้ยิ่งใหญ่ปรากฎตัว?

ตอนที่ 50 ทักษะของกระดูกวิญญาณ


ในตอนที่เสี่ยวหงหยู่กําลังยุ่งอยู่กับการคิดนอกเรื่องอยู่นั้น และไม่ได้ให้ความสนใจในช่วงระยะหนึ่งนั้น

เมื่อการรับรู้ได้เปิดขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง เสี่ยวหงหยู่ก็ต้องตกตะลึงในทันที

"ประสบความสําเร็จแล้วงั้นเหรอ!"

แค่ 5 นาทีเนี่ยนะ? ! มันง่ายขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ

เธอตกใจกับความแข็งแกร่งทางกายภาพของเย่เฉิน ริมฝีปากอันแดงระเรื่อของเธอเผยออ้าออกเล็กน้อย

จากนั้นเสี่ยวหงหยู่ก็หัวเราะและพูดว่า: "เด็กคนนี้ เขาช่างคาดไม่ถึงจริงๆ"

"อย่างไรก็ตาม กระดูกวิญญาณชิ้นนี้ช่างเข้ากับเขาได้เป็นอย่างดีซะด้วย ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้กันนะ"

มีคํากล่าวในโลกของวิญญาจารย์ว่า "การเข้ากับสมรรถภาพทางกายที่สูงนั้น ดีกว่าจํานวนปีที่สูงมากซะอีก"

ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าจะเป็นวงแหวนวิญญาณหรือกระดูกวิญญาณก็ตาม ยิ่งระดับความเข้ากันได้สูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้น

ยิ่งระดับความเข้ากันได้สูงเท่าไร พลังก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และจะได้รับประโยชน์มากขึ้นเมื่อใช้กายแท้วิญญาณยุทธ์ในในอนาคตได้

สําหรับจํานวนอายุของมันนั้น แม้ว่าจํานวนปีที่สูงก็มีประโยชน์บางอย่างเช่นกัน แต่ผลของพลังการต่อสู้ที่เกิดจากการดูดซับจริงนั้นไม่ดีเท่ากับความเข้ากันได้ดีเลย

ยิ่งไปกว่านั้น กระดูกวิญญาณและวงแหวนวิญญาณที่มีขีดจํากัดในเรื่องที่ยิ่งมีอายุยิ่งสูงมากยิ่งดูน่าดึงดูดมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลังจากที่ดูดซับแล้ว ความเข้ากันได้ระหว่างวิญญาณยุทธ์และวิญญาจารย์นั้นจะลดลงเนื่องจากปัญหาต่างๆ เช่น ความเข้ากันได้และความพอดี และมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีความแตกต่างในการนำไปใช้งานจริง

ในมุมมองของเสี่ยวหงหยู่แล้ว เย่เฉินไม่เพียงแต่มีความเข้ากันได้ดีและเหมาะสมกับกระดูกวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีความเหมาะสมกันในระดับสูงเลยอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นโชคที่ดีจริงๆ

แน่นอนว่าโชคนั้นมีความสําคัญต่ออัจฉริยะไม่แพ้กัน

ท้ายที่สุดผู้ที่โชคร้ายนั้นอาจตายก่อนกําหนดได้

คนที่จะเติบโตและมีอนาคตอีกไกลได้นั้น ใครที่จะไม่มีโชคบ้าง?

ห้องพัก 609

"ยอดมากเลยล่ะ!"

หลังจากดูดซับกระดูกขาซ้ายของพยัคฆ์เงาทมิฬแล้ว พลังวิญญาณของเย่เฉินก็เพิ่มขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

ในเวลานี้เย่เฉินอยู่ห่างจากระดับ 29 เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น

แน่นอนว่าพลังวิญญาณนั้นเป็นเรื่องรอง

หลังจากดูดซับกระดูกขาซ้ายแล้ว ขาซ้ายของเย่เฉินก็รู้สึกได้ชัดว่าแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก

เย่เฉินประเมินว่าผลของการโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยขาซ้ายของเขานั้น แข็งแกร่งกว่าส่วนอื่น ๆ ของการโจมตีปกติถึง 30% หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ

และสิ่งที่สําคัญที่สุดคือในที่สุดเย่เฉินก็ได้รับทักษะของพยัคฆ์เงาทมิฬ "เงาพริบตา!"

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเย่เฉินเขาสามารถเคลื่อนที่ได้ในระยะทาง 30 เมตรทันทีเมื่อใช้งานและยังสามารถใช้ได้หลายครั้งติดต่อกันอีกด้วย

ด้วยทักษะนี้ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเย่เฉินจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ลองนึกภาพ เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคู่ต่อสู้ในการต่อสู้นั้น เย่เฉินจะกลายเป็นยมทูตที่สามารถเทเลพอร์ตได้

ทุกครั้งที่มีการโจมตีหนึ่งครั้ง ก็จะมีคนหนึ่งที่สามารถถูกฆ่าไปได้เลย และความรู้สึกของการข่มพลังของคู่ต่อสู้นั้นก็เพียงพอที่จะทําให้คู่ต่อสู้นั้นคลั่งไคล้ได้เลย

และถ้าเขานั้นต้องเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเกินไป เย่เฉินเองก็สามารถพึ่งพาทักษะนี้ เพื่อหลบหนีไปได้

"มันเป็นทักษะที่เยี่ยมมากเลยล่ะ!"

เย่เฉินพูดด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

แม้ว่าทักษะเงาพริบตานี้ จะไม่ใช่ทักษะประเภทการโจมตีที่แข็งแกร่ง แต่จริงๆ แล้วทักษะประเภทนี้มีประโยชน์ที่ทัดเทียมกันได้เลย และมีประโยชน์มากกว่าอีกหากมองในอีกมุมมองหนึ่ง

โฮสต์:เย่เฉิน

 

วิญญาณยุทธ์: หอกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลก

 

ระดับ: ระดับ 28

 

อาณาจักร: มหาวิญญาจารย์

 

กระดูกวิญญาณ:พยัคฆ์เงาทมิฬ(570 ปี);

 

ทักษะกระดูกวิญญาณ: เงาพริบตา;

วงแหวนวิญญาณ: หมาป่าโลกันตร์ (1400),อสรพิษกลืนวิญญาณ (4300)

 

ทักษะวิญญาณ: ทะลวงโลกันตร์, คลื่นกลืนกินวิญญาณ;

 

อายุวงแหวนวิญญาณ: 11,500 ปี (สกัดได้)

หลังจากที่เย่เฉินดูดซับกระดูกวิญญาณชิ้นแรกในชีวิตของเขาได้สําเร็จ คุณสมบัติของเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปด้วยเช่นกัน

"ดูเหมือนว่าการคาดเดาของข้านั้นคงจะถูกต้องแล้วสินะ และอายุของกระดูกวิญญาณก็ควรจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตนี้ด้วย!"

เย่เฉินรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากเมื่อเห็นคำว่าอายุในบรรทัดสุดท้ายนั้นได้เปลี่ยนไป กลายเป็นอายุของวงแหวนวิญญาณ

ทำให้เขานั้นรู้สึกยิ่งมีแรงจูงใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

มันต้องมีมากขึ้นอีกในอนาคตอย่างแน่นอน!

...

สนามบินซูเฉิง อาคารผู้โดยสาร 1

ชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งเดินผ่านไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางท่ามกลางความสนใจและความประหลาดใจของเหล่าผู้คนที่เดินตามทาง

ชายหนุ่มนั้นตัวสูงและผอมเพรียว สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายและดูสะอาด และสวมกางเกงวอร์มสีดําที่หลวมและใส่สบายคู่กัน

มีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนแก้มที่สะอาด หล่อเหลา ขาว และดูเป็นผู้ชายสุภาพบุรุษมาก ฉากนี้เหมือนดั่งกับหนุ่มหล่อที่มีอยู่ในการ์ตูนแล้วได้กลายมาอยู่ในชีวิตในความเป็นจริงเลยทีเดียว

และเด็กผู้หญิงที่เดินคู่ไปกับชายหนุ่มนั้นก็หน้าตาดีมากด้วยเช่นกัน

เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแบบเดียวกับชายหนุ่ม และกระโปรงลายสก๊อตสีดํายาวเอาไว้ด้วย

ผมของเธอนั้นเปรียบเหมือนน้ำหมึกที่กระเด็นออกมา และบนใบหน้าที่สวยงามของเธอนั้นมีดวงตาที่กลมโตและดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก

"พวกเขาคือคนดังหรือเปล่าน่ะ? ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลยล่ะ"

"เมื่อดูจากอายุแล้ว พวกเขาควรที่จะเป็นแค่นักเรียนนะ"

"ทั้งชายหนุ่มและเด็กสาวนั้นต่างก็หน้าตาดีทั้งสองเลยล่ะ"

มีคนสัญจรไปมาพูดด้วยเสียงที่เบา และพวกเขายังคงประหลาดใจมิหายเมื่อทั้งคู่นั้นได้เดินจากไปแล้วก็ตาม

และผู้ชายและผู้หญิงที่ดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากนั้นก็คือ เย่เฉินและโจวไคเอ๋ออย่างแน่นอน

ชุดนี้โจวไคเอ๋อนั้นเธอตั้งใจที่จะใส่มันมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ โดยหวังว่ามันจะเข้าคู่กันและจะเหมือนกับของเย่เฉิน

"เย่เฉิน เจ้ามีแผนอะไรหลังจากกลับถึงที่หยางเฉิงแล้วกันล่ะ"

"เคาดว่าจะกลับไปที่บ้านก่อนน่ะ แล้วค่อยไปโรงเรียนเพื่อรายงานตัวอีกทีน่ะ" เย่เฉินกล่าว

พ่อแม่ของเขาในชีวิตนี้ได้เสียชีชิตมาหลายปีแล้ว และเนื่องจากบ้านของเขานั้นได้อยู่ไกลจากโรงเรียนมากเกินไป เย่เฉินจึงอาศัยอยู่ภายในหอพักภายในมหาวิทยาลัย

เมื่อนึกย้อนกลับไปแล้ว เย่เฉินก็ตระหนักว่าเขาไม่ได้กลับบ้านมานานถึงครึ่งปีแล้ว

แม้ว่าเขาจะเป็นคนเดียวในบ้านนั้นก็ตาม แต่มันก็ถูกทิ้งร้างไว้ทั้งอย่างนั้น แต่นานๆ ทีเย่เฉินก็จะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นสักพัก

"ข้าก็เหมือนกัน แต่... ข้ายังไม่ได้บอกพ่อแม่เลยว่าข้านั้นกําลังมี  ความรักน่ะ"

โจวไคเอ๋อแล่บลิ้นสีชมพูของเธอยื่นออกมา

อันที่จริงโจวไคเอ๋อนั้น เธอรู้ว่าพ่อแม่ของเธอจะไม่คัดค้าน หลังจากที่แฟนของเธอเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างเย่เฉินคนนี้

อย่างไรก็ตามโจวไคเอ๋อซึ่งอายุเพียง 18 ปีนั้น เธอไม่ได้มีความตั้งใจที่จะบอกพ่อแม่ของเธอ ท้ายที่สุดเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าอาย

"ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอกน่า"

หลังจากที่เย่เฉินพูดจบ เขาก็มองไปที่ประตูห้องพักรอ: "มันคงจะเป็นตรงนี้ล่ะมั้ง"

เดิมทีหลิงเหว่ยนั้นได้วางแผนที่จะพาทั้งสองคนกลับโดยเครื่องบินรบทหารธรรมดา แต่เถิงชิงหู่และเหลียนชางเจิ้งได้จัดเตรียมเครื่องบินรบทหารพิเศษไว้สําหรับเย่เฉินให้โดยเฉพาะ

สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว แต่ยังปลอดภัยมากกว่าอีกด้วย

ในเวลานี้หลิงเหว่ยนั้นกำลังไปในขั้นตอนของการยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง

เมื่อทั้งสองเห็นที่นั่งแล้วจึงนั่งลง

"เฮ้ สุดหล่อ เจ้าสนใจทางด้านแฟชั่นบ้างไหมล่ะ"

เสียงนั้นดังมาจากทางด้านหลังของพวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด