ตอนที่ 50 ช่วยเหลือเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย
“ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”
ซูเหวิน ขมวดคิ้ว และถามทันที
“อยู่ตรงห้องน้ำ ฉันจะพาพวกคุณไป..” จี้หยวี่ ตอบอย่างลนลาน
พูดจบ เธอก็พาทุกคนออกจากห้อง…
ขณะเดียวกัน ..ในอีกด้านหนึ่ง
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย กําลังยืนอยู่ที่ทางเดินด้านนอกห้องน้ำ
และตรงหน้าเธอ ตอนนี้ก็มีคนรายล้อมรอบอยู่เจ็ดหรือแปดคนเห็นจะได้
คนเหล่านี้มีทั้งผู้ชาย และผู้หญิง
ผู้ชายใส่ทอง และเงิน(1) ส่วนผู้หญิงก็แต่งตัวได้งดงามฉูดฉานหรูหรามาก..
“เป็นอย่างไร? คุณคิดได้.. อย่างชัดเจนแล้วหรือยัง?”
“เหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้ทุกคนไม่พอใจมาก ดังนั้นคุณต้องขอโทษทางน้องชายฉัน และต้องมานั่งดื่มเป็นเพื่อนเราด้วย”
ทันใดนั้นชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าก็พูดขึ้น..
ผู้ชายคนนี้.. อายุประมาณ 30 ปี มีรูปร่างใหญ่กำยำ
เขามองตรงไปที่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ในสายตาของเขาเผยให้เห็นถึงความเผด็จการ และความเย่อหยิ่ง
แต่เมื่อเผชิญกับภัยคุกคาม เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย กลับไม่ได้ตกใจ หรือรู้สึกหวาดกลัวในทันที แต่เธอเลือกมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ตรงข้าม แล้วกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาชวนหนาวสะท้านไปว่า : “คุณหมายถึงอะไร?”
“เพื่อนคุณมาก่อกวนฉัน กลับต้องการขอให้ฉันขอโทษเขา?”
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ขมวดคิ้ว และพูดด้วยความโกรธ
ปรากฎว่าเมื่อกี้ เมื่อเธอ กับจี้หยวี่ มาเข้าห้องน้ำกันก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินสวนมา
เมื่อผู้ชายคนนั้นเดินผ่านไป จู่ๆ ก็เอื้อมมือมาจะสัมผัสใบหน้าของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย
ยังดีที่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มีปฏิกิริยาไว เลยหลบเลี่ยงอีกฝ่ายมาได้
โดยไม่คาดคิดเมื่ออีกฝ่ายพบว่าแผนตัวเองไม่สำเร็จ จึงทำทีเข้าขวางเธอ ทั้งขอเบอร์โทรศัพท์ และหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายคลิป
แถมยังพูดอีกว่าจะถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอะไรนั้น โดยไม่สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะยินยอมหรือไม่
จี้หยวี่ ที่อยู่ข้างๆ ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอจึงด่าคนตรงหน้าไปหลายประโยคว่าเป็นไอ้พวกกุ๊ยอันธพาล
โดยไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะโกรธมากจนแอบส่งข้อความไปหาเพื่อนเพื่อขอความช่วยเหลือ จนเกิดเป็นสถานการณ์ในปัจจุบันขึ้นมา
โชคดีที่ จี้หยวี่ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีทันทีก็รีบหลีกหนีออกมาเพื่อเรียกหาใครสักคนมาช่วย
ไม่เช่นนั้นพวกเธอทั้งสองคนอาจจะติดพันกันหมด
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
คนกลุ่มนี้ทำผิดอย่างเห็นๆ ตั้งแต่แรก แต่แล้วโจรกลับร้องตะโกนเพื่อจับขโมย(2)
และอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะมองเด็กสาวตัวเล็กๆ อย่าง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ว่า รังแกได้ง่ายๆ ดังนั้นพวกเขาเลยจงใจจองหอง เพื่อครอบงำเธอ
จากนั้น.. ชายคนนั้นก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า : “สาวน้อย คุณบอกว่าน้องชายของฉันก่อกวนคุณ และไหนคือหลักฐานในสิ่งคุณพูด”
“การใส่ร้ายน้องชายฉัน นั่นก็เท่ากับการใส่ร้ายฉัน เช่นนี้คุณก็ต้องไปดื่มเหล้ากับพวกเรา”
“อย่างไร คุณคิดได้หรือยัง? คุณจะไปที่ห้องของเราเพื่อดื่ม และขอโทษ หรือ.. อยากที่จะให้เราเชิญคุณไปด้วยตัวเอง?”
ชายคนนั้นยิ้ม และหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
ตั้งแต่แรกเห็น.. ไม่ว่าจะการข่มขู่ ล่อลวง กดขี่ ทั้งคำพูด และพฤติกรรมมองแล้ว เขาดูมีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินชีวิตใน ‘สังคม (社会)’ มากจริงๆ
[เป็นคำเปรียบเทียบ หากกล่าวตรงๆ เลยคือ กากเดนสังคม]
ผู้หญิงที่สวยงามเช่นนี้
อย่าว่าแต่น้องเขาเลย เพราะแม้แต่พี่ใหญ่อย่างเขาก็เกือบจะคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว…
แน่นอนว่าเขาต้องคิดหาวิธีในการทำให้ผู้หญิงคนนี้มากับพวกเขาให้ได้
และเดี๋ยวถ้าอีกฝ่ายขอโทษด้วยการดื่มเหล้า ถึงเวลานั้นก็แค่รอให้เธอเมา แล้วจากนั้น นั่นไม่ใช่ว่า เธอ.. ตกอยู่ภายใต้ความเมตตาของเขาแล้ว?
“เชี้ยไรวะ! เมื่อกี้ฉันขอหมายเลขโทรศัพท์ คุณไม่เต็มใจ แล้วมาตอนนี้ รู้แล้วใช่ไหมว่าพี่ใหญ่ฉันเจ๋งแค่ไหน ใช่มั้ย?”
ทันใดนั้น ผู้ชายที่เพิ่งขอเบอร์จาก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็พูดขึ้น
น้ำเสียงช่างหยิ่งผยอง และครอบงำ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
แม้แต่ผู้หญิงในกลุ่มคนพวกนี้ยังหัวเราะตามขึ้นมา
“ชิ! แกล้งทำเป็นอะไร ..แต่ดูแต่งตัวสวยขนาดนี้ ไม่ใช่เพื่อดึงดูดผู้ชายหรอกเหรอไง?”
“ก็คือ ฉันแค่อยากจะแนะนําให้เธอรู้ตัวเอง ..จะดีกว่านะ ไปห้องส่วนตัวกับพวกเรา ไม่เช่นนั้นเธอจะทําให้ พี่หาน โกรธ เพราะเดี๋ยว.. มันจะไม่เป็นผลดีอะไรสำหรับเธอ ตามไปกับเราดีกว่านะ”
“ฮ่าฮ่า ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะว่าเคยเห็นหนูน้อยแบบเธอเนี่ยมาเท่าไรแล้ว ตอนแรกก็ทำทีเป็นแข็งกร้าวมาก แต่หลังจากเจอ พี่หาน เข้าแล้ว ยังจะไม่เชื่อฟังได้อยู่อีกเหรอ?”
พวกเธอพากันมองไปที่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย คำพูดเต็มไปด้วยความดูถูก และความอิจฉาริษยา
ไม่มีทาง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มีหน้าตาสวยมากขนาดนี้
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน พวกเธอเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้อยู่ในโลกได้
ดังนั้น หากมีใครสามารถทําลายผู้หญิงสวยคนนี้ได้ แน่นอนว่าพวกเธอย่อมยินดีที่จะได้เห็นมันอย่างแน่นอน
“เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย คุณ..โอเคนะ?”
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ความปลอดภัยในชีวิตของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย กำลังตกอยู่ในอันตราย..
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ดึงดูดความสนใจของผู้คน
ทุกคนมองย้อนไป ก็เห็น จี้หยวี่ ที่ได้นำพา ซูเหวิน และคนอื่นๆ โดยพวกเขาพากันรีบวิ่งมาถึงห้องน้ำ
พอเมื่อ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เห็น ซูเหวิน มาแล้ว เธอเองก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาในใจอย่างอธิบายไม่ถูก
สีหน้าที่ออกจะหนักหน่วงแต่เดิมก็ผ่อนคลายลง
ทั้งหมดนี้.. แม้แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่า ทำไม
เพราะทันทีที่ มี เพื่อนร่วมชั้น ซู อยู่ด้วย เธอจะรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยเอามากๆ
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของ ซูเหวิน ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นกลับดูน่าเกลียดมาก…
เขาเห็นคนมากมายอยู่ตรงหน้าเขา ล้อมรอบ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ไว้ ในใจก็เกิดความโกรธขึ้นมาทันที
“ปล่อยคนออกมา..”
ซูเหวิน พูดด้วยเสียงทุ้ม เสียงของเขานั้นฟังดูหนาวเย็นจนถึงกระดูก
และถ้าเมื่อใดอีกฝ่ายบอกว่าไม่เต็มใจหลุดออกมาแม้แต่คําเดียว เขาดูเหมือนคิดจะลงมือทันที
อย่างใดก็ตาม บางคนถูกกำหนดให้เป็นคนโง่เขลา ที่ไม่รู้จักเกรงกลัวสิ่งใด
พี่น้องของ หานเชา เหล่านั้น เมื่อเห็นว่า ซูเหวิน กําลังจะก้าวขึ้นมาข้างหน้า ทีละคนก็พากันหันหลังกลับไป นั่นก็เพื่อปิดกั้น และผลักดันให้ ซูเหวิน ถอนตัวออกไปในทันที
“ดูเหมือนนายจะตาบอดมากนะ กล้าก้าวมาที่นี่ อยากมีปัญหาหรือไง?”
“ไป ไปไป ออกไปซะ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับแก ไสหัวไปให้พ้นไป!”
อีกฝ่ายหนึ่งกล่าวคุกคามพวกเขาออกมาทีละคน
พูดไปก็ผลัก ซูเหวิน ให้ถอยออกไป
ในเวลานี้เองก็ได้ยินเสียง ‘กร๊อบ’ ดังขึ้น…
ทั้นใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นตามมาทันที
ก่อนที่ใครจะทันได้ตอบสนอง ก็เห็นแต่ชายคนหนึ่งที่เพิ่งผลัก ซูเหวิน ไปเมื่อกี้นี้ ข้อมือของเขาที่เดิมทีดีๆ อยู่ก็กลับหักไปเสียแล้ว
แล้วจากนั้นเขาได้ทรุดตัวลงกับพื้น และดิ้นรนไปมาด้วยความเจ็บปวด
“ฉันไม่อยากพูดอีกครั้ง..”
“ปล่อยคนมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพวกคุณจะเผชิญกับชะตากรรมเช่นเดียวกัน ..กับเขา”
ซูเหวิน ขี้เกียจที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงทำการเชือดไก่ให้ลิงดูโดยตรง
แต่วิธีนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
พี่ใหญ่หานคนนี้ที่ปกติเย่อหยิ่งจนเคยชินแล้ว และพอเห็นพี่น้องตัวเองถูกทุบตี แทนที่เขาจะกลัว มันกลับทําให้เขารู้สึกโกรธมากขึ้น
“ดี.. ดีมาก ฉัน หานเชา อาศัยอยู่ที่นี่ในเขตฮุ่ยหนิงมากว่าสิบปีแล้ว เพื่อนที่รู้จักไม่ได้เป็นพันก็เป็นร้อย…”
“และการที่กล้าทำร้ายพี่น้องฉัน ฉันคิดว่าแกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?”
“ไอ้สึส ไปเล่นแมร่งให้พิการ”
หานเชา ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ
พี่น้องของเขาหลายคนเมื่อเห็นว่าคนหนึ่งถูกทุบตี ก็พากันโกรธทีละคนนานแล้ว
ตอนนี้พี่ใหญ่ออกคำสั่ง แล้วใครจะทนได้อยู่อีก?
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดก็พากันกำหมัดแน่นทีละคน แล้วก็พุ่งเข้าไปหา ซูเหวิน
ซูเหวิน ไม่พอใจคนกลุ่มนี้มานานแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่แสดงความเมตตาใดๆ และเริ่มลงมือต่อสู้กับอีกฝ่ายทันทีโดยไม่ลังเล
เพียงแต่ว่าก่อนที่เขาจะซัดหมัดออกไปใส่คนสองคนที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา ซูเหวิน ก็พบว่าตรงหน้าเขาไม่มีคู่ต่อสู้เหลืออีกแล้ว
ปรากฎว่าในขณะที่อีกฝ่ายรีบวิ่งเข้ามาเมื่อกี้
เฉินหมิง, จูเหยี่ยน และเหอ เหวินเฟิง ก็รีบเร่งก้าวขึ้นมาข้างหน้าทันที เพื่อช่วย ซูเหวิน
เหอ เหวินเฟิง เป็นนักศึกษาภาควิชาพลศึกษา และวิทยาศาสตร์การกีฬาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาที่จะจัดการกับคนคนหนึ่ง แต่ เฉินหมิง, จูเหยี่ยน ก็กลับเอาชนะคนหนึ่งได้เช่นกัน
ดังนั้น หลังจากที่ ซูเหวิน จัดการอีกสองคนลงได้แล้ว
คนเดียวที่เหลืออยู่ฝั่งตรงข้าม ก็คือ หานเชา และผู้หญิงอีกสองสามคน
ซูเหวิน หันศีรษะมองมา และเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย
“แก...แกคิดจะทำอะไร?”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินมาหาเขา หานเชา ก็ดูตื่นตระหนกทันที
ตุบ..
ในขณะนี้ พี่ใหญ่ผู้มากประสบการณ์ทางสังคม กลับตื่นตระหนกขึ้นมาจริงๆ เขาทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้น
ตอนแรกเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นแค่วัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่อยู่ในสายตาเขาเลย
แต่ใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายจะต่อสู้ได้เก่ง ขนาดนี้กัน..
และเมื่อเผชิญกับการคุกเข่าเพื่อร้องขอความเมตตาของ หานเชา ซูเหวิน กลับไม่ได้วางแผนที่จะหยุดอยู่แค่นี้
“ข่มขู่เพื่อนฉัน แถมยังอยากดึงเธอไปดื่มเป็นเพื่อนด้วย ตอนนี้คุณบอกฉันว่านี่เป็นความเข้าใจผิดหรือ?”
“ฮ่าฮ่า คุณไม่คิดว่ามันสายเกินไปเหรอไง?”
ซูเหวิน กล่าวเยาะเย้ย พลางเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย
พอนึกถึงเมื่อกี้ที่มีคนมากมายรุมรังแก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่มีเพียงตัวคนเดียว ความโกรธในใจของเขายิ่งมาก็ยิ่งมีมากขึ้น
“เฮ้ เฮ้ พี่ชาย ใจเย็นๆ อย่าลงมือ อย่าลงมือ”
“ที่นี่คือ KTV ไม่ใช่สถานที่ให้ต่อสู้กัน มีอะไรก็ช่วยพูดคุยกันดีๆ ไม่ได้หรือ?”
ในจังหวะที่ ซู เหวิน เพิ่งก้าวขึ้นมาพร้อมที่ลงมือสั่งสอน หานเชา
ทันใดนั้น ชายหนุ่มในชุดสูทคนหนึ่งก็รีบเข้ามาหยุดเขาไว้…
(1)[สวมทอง และเงิน (穿金戴银)] - หมายถึง การสวมเสื้อผ้าราคาแพง และงดงาม หากเป็นเสื้อผ้าก็เรียกได้ว่า ..งดงามมาก
(2)[โจรกลับตะโกนเพื่อจับขโมย (却贼喊捉贼)] - อุปมา เพื่อเบี่ยงเบนเป้าหมาย สร้างความสับสนให้ประชาชนเพื่อหลบหนีความผิด