ตอนที่ 38 รถเข็นไงล่ะ!
[“ทำไมก่อนหน้านี้ไม่แจ้งเตือนแต่แรกล่ะ!?”] ชายหนุ่มกล่าวถามออกมาพลางวิ่งหลบการโจมตีไปด้วย
[“...ลืม”] ระบบตอบกลับมาสั้นๆแต่ได้ใจความ ทำให้คนใจเย็นแบบเย่ซีถึงกับคิ้วกระตุกไปเลย ถ้าไม่ติดว่าต้องตั้งสมาธิหลบการโจมตีของไอ้ตัวประหลาดบินได้คงก่นด่าระบบยกใหญ่แล้ว
“เจ้าจะวิ่งหนีอีกนานไหม? ยอมไปกับข้าซะดีๆ หรือไม่ก็ตายซะ!” หวังปาจื่อที่ตอนนี้ถูกวิญญาณของหนังสือแห่งมรณาครอบงำไปแล้วกล่าวออกมา
ซัดปราณออกไปก็ตั้งมากมาย จนในตอนนี้มันอดสงสัยไม่ได้ว่า มันเป็นหนังสือเซียนในตำนานจริง ๆใช่ไหม? ถึงตอนนี้จะตกต่ำลงมาเยอะ แต่การจะฆ่าผู้ฝึกตนระดับสี่สักคนมันยากเย็นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“เฮอะ! พวกมันใกล้เข้ามาแล้ว จมูกไวจริง ๆ” มันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังใกล้เข้ามา น่าจะห่างออกไปราวๆแปดร้อยลี้
ต้องเป็นผู้ฝึกตนของทางราชวงศ์หรือพวกตาแก่ยุคโบราณแน่ๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนพลังยังมีสักหนึ่งส่วนสิบมันจะไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้ที่เหลือพลังแค่เสี้ยวเดียว มันเลือกที่จะถอยไปก่อนดีกว่า
“ไอ้เขตแดนนี่น่ารำคาญเสียจริง เปิด!” มันหันไปหาเขตแดนที่ปลาปากเสียกางเอาไว้ก่อนที่จะสำแดงเคล็ดวิชาประหลาดบางอย่าง มีเงามืดมิดของสิ่งที่ตายไปแล้วโผล่ออกมานับร้อยนับพัน พวกมันพากันพุ่งเข้าชนเขตแดนไม่หยุดหย่อน จนทำให้เขตแดนบริเวณนั้นหายสาบสูญไปทันที!
“ไม่น่าเชื่อว่าแค่การโจมตีครั้งเดียวก็ถึงกับทำลายเขตแดนของสัตว์เลี้ยงท่านเย่ซีได้” หานจุนหมิงกล่าวออกมา
ผู้ฝึกตนที่เหลือโดยรอบต่างก็อึ้งกันไปหมด การต่อสู้ครั้งนี้มันอยู่เหนือขอบเขตความเข้าใจของพวกเขาไปแล้ว แต่เมื่อเขตแดนสลายไปแล้วแบบนี้พวกเขาควรจะอยู่ต่อดีหรือไม่?
“พวกเจ้ารีบหนีออกไปก่อน ข้าจะได้ไม่ต้องแบ่งพลังมาคอยคุ้มกัน” เหมือนจะรับรู้ความคิดของกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เย่ซีกล่าวออกมาทันที
ตลอดการต่อสู้เพื่อป้องกันกลุ่มคนของโรงเตี๊ยมพลบค่ำจากการได้รับลูกหลง ชายหนุ่มและปลาปากเสียต้องแบ่งพลังบางส่วนมาสร้างม่านพลังป้องกันเอาไว้ให้
“ข้าเข้าใจแล้ว พวกข้าจะถอยออกไปสักหน่อยแต่จะคอยยิงพลังก่อกวนเจ้าปีศาจนั่นช่วยเหลือท่าน” หานจุนหมิงกล่าวรับคำ ก่อนจะพาผู้คนถอยห่างออกไปราวหนึ่งลี้ ผู้ที่ใช้ธนูหรือปราณโจมตีระยะไกลได้ต่างส่งการโจมตีเข้าใส่ปีศาจสีแดงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“อั้ก บัดซบ! พลังของมันเพิ่มขึ้นมากเกินไปแล้ว!” ปลาปากเสียกระอักเลือดออกมาคำโต เมื่อเขตแดนถูกทำลายไปพลังปราณก็สะท้อนกลับมาที่ตัวมัน
“กินน้ำแดงกับลาล่าซะ! แล้วตามข้ามา” ชายหนุ่มตะโกนสั่งการพลางโยนของที่กล่าวมาให้ปลาปากเสียไป เขาใช้ท่าร่างดาราจักรเคลื่อนตัวไปยังด้านล่างของตัวประหลาดนั่นก่อนที่จะโยนเศษหินตามพื้นขึ้นไปด้วยแรงที่ต่างกัน
“แค่เศษหินจะทำอันใดข้าได้!” หวังปาจื่อตะโกนออกมาแล้วซัดพลังปราณศพส่วนกลับไปทำให้เศษหินส่วนใหญ่ถูกทำลายจนหมด แต่กลับมีก้อนหินกลม ๆ คุ้มตาอยู่สองก้อนที่พุ่งเข้ามาหามันด้วยความเร็วสูง!
“บัดซบ!” มันจำได้ทันทีว่าไอ้ก้อนหินสองก้อนนี้แหละที่โจมตีใส่ร่างของมันจนกระดูกแขนหักไปก่อนหน้านี้ ถึงตอนนี้ตัวมันจะแข็งแกร่งขึ้นมากก็ไม่ประหลาด มันสบถก่อนที่จะเคลื่อนร่างหลบ
“เจ้าโง่! ขว้างออกมาแบบนี้ข้าขอเก็บไว้เองก็แล้วกัน!!” มันหันหลังกลับไปเพื่อจะคว้าหินทั้งสองก้อนนั้นไว้
“แกนั่นแหละที่โง่ ทั้งโคตรแกโง่หมดเลย!!” เสียงอันยียวนดังลั่นออกมาจากด้านล่าง เมื่อมองลงไปก็เห็นเป็นปลาตีนขนาดเกือบสามเมตรพุ่งตัวขึ้นมาหาด้วยความเร็วสูง!
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ที่เป็นตัวหวังปาจื่อเองคงหลบการโจมตีครั้งนี้ไม่พ้น แต่ตอนนี้ร่างกายนี้มีวิญญาณของหนังสือมรณาครองงำอยู่ ประสาทสัมผัสนับว่าเฉียบคมขึ้นมาก แม้ปลาตีนยักษ์จะพุ่งเข้าชนด้วยความเร็วจนตาเปล่ามองไม่ทัน มันก็สามารถหลบได้อยู่ดี
“ข้าหมดความอดทนกับเจ้าแล้ว ตายเสียเถอะ!!” เมื่อหลบการโจมตีของปลาปากเสียพ้นแล้วมันก็คว้าหางของปลาปากเสียอย่างแรง หมุนรอบตัวสิบรอบก่อนที่จะเหวี่ยงร่างปลาตีนยักษ์กลับไปทิศทางเดิมด้วยความเร็วมากกว่าตอนพุ่งมาสามเท่า
ตู้มมมม
เกิดเสียงดังสนั่นมาจากพื้นดินบริเวณที่ฟิชถูกเหวี่ยงลงไป ยามนี้มันได้รับบาดเจ็บสาหัสของจริง! แม้แต่แรงจะหยิบสินค้าของเท่าแก่มากินยังไม่มีเหลือ
“ยังรอดเรอะ? ไม่เป็นไร ข้าจะดูดกลืนเจ้าเข้ามาเอง คงช่วยเสริมพลังให้กับร่างนี้ได้ไม่น้อย! อะไรกัน?!” หวังปาจื่อกล่าวออกมาหลังเห็นร่างของปลายักษ์ยังไม่ตาย แต่ในตอนที่มันกำลังจะพุ่งตัวลงไปหาร่างนั้น ก็พบว่าที่ด้านหลังของมันมีร่างหนึ่งโผล่ขึ้นมาอย่างไร้สุ่มเสียง!
มันประมาทเกินไป ไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ใดในที่นี้สามารถบินขึ้นมาบนฟ้าอย่างไร้สุ่มเสียงแบบนี้ได้ เหมือนอย่างเจ้าปลายักษ์นั่น มันยังต้องใช้แรงพุ่งจากพื้นจนเสียงดังสนั่น แล้วทำไมผู้ที่อยู่ด้านหลังของมันในยามนี้ถึงเข้าหามันแบบไร้สุ่มเสียงได้กัน?!
“เจ้า! บังอาจทำร้ายสัตว์เลี้ยงของข้า!!” เสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้น พร้อมด้วยร่างของชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของปลาปากเสีย แต่ยามนี้ร่างกายของเขาดูมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้จากร่างคุณชายเจ้าสำอาง กลายเป็นร่างของคุณชายนักกล้ามแทน
ชายหนุ่มตอนนี้มีอารมณ์โกรธปะทุขึ้นมาหลายส่วน แม้ยามปกติปลาตัวนั้นจะปากเสีย นิสัยแย่ ไม่ค่อยมีข้อดีเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นเพื่อน สัตว์เลี้ยง ที่อยู่ใกล้ชิดเขาเพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้ ทำให้ยามที่เขาใช้ท่าร่างดาราจักรเคลื่อนตัวผ่านเศษหินต่างๆขึ้นมาจนถึงด้านหลังของสัตว์ประหลาดตัวนี้แล้ว เขาจึงกินถั่วเหลืองอบกรอบเข้าไปทันที!
“ตายซะ!!” หมัดขวาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและเส้นเลือดปูดโปน ถูกส่งเข้าหาใบหน้าดีแดงเต็มไปด้วยรอยสักประหลาดด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว พร้อมกันนั้นมือซ้ายก็เรียกบอลพลังปราณธาตุแสงอัดซ้ำไปพร้อมๆกัน
ด้วยความที่ตัวชายหนุ่มไม่มีเคล็ดวิชาใดให้ฝึกฝนมากนัก ยามว่างเขาเลยมักจะฝึกทักษะจ้าวแห่งธาตุอยู่เสมอ จนตอนนี้มันเลื่อนมาอยู่ระดับกึ่งจักรพรรดิแล้ว!
เปรี้ยง! อ๊ากกกก ตู้มม!!
ร่างสัตว์ประหลาดสีแดงฉานที่มีปีกค้างคาวอยู่ด้านหลัง ยามนี้ทั่วทั้งร่างนั้นเรืองแสงสว่างออกมา บ่งบอกได้ถึงพลังปราณธาตุแสงที่โจมตีเข้าใส่ช่างรุนแรงยิ่ง ความเร็วของการพุ่งตัวลงสู่พื้นจากแรงโจมตีช่างมากล้นเกินจินตนาการ เพราะร่างนั้นถึงพื้นก่อนที่เสียงโจมตีจะดังขึ้นเสียอีก!
อั้ก พรวดดด!
หวังปาจื่อยามนี้สภาพอนาจยิ่งนัก กระดูกทั่วร่างแตกละเอียด กระโหลดศีรษะแตกร้าว อวัยวะภายในเสียหายอย่างหนัก ถ้าเป็นผู้ฝึกตนทั่วไปคงเสียชีวิตไปแล้ว แต่รากเหง้าของมันคือหนังสือแห่งมรณา! ต่อให้ร่างนี้ตายไปมันก็ไม่ตายไปด้วยหรอก!!
“ถึงเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่ข้ายังไม่ตาย เคล็ดกลับวิญญาณ!”
เคล็ดวิชาลับถูกเรียกใช้ทันที เพียงมันสังเวยวิญญาณของสิ่งที่มันดูดกลืนมา มันก็สามารถฟื้นฟูร่างต้นที่ครอบงำอยู่ได้ในระดับหนึ่ง แถมเคล็ดวิชานี้ยังไม่มีข้อจำกัดในการเรียกใช้นอกจากสังเวยวิญญาณอีกด้วย นับว่าเป็นเคล็ดวิชาที่หาใครเทียบได้ยาก
“เจ้าจะมั่นใจมากไปแล้ว! ข้ายังมีไพ่ตายอยู่อีก!!” ขณะที่มันกำลังฟื้นฟูร่างกายจากเคล็ดกลับวิญญาณ ก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาจากบนท้องฟ้า เหนือขึ้นไปยังจุดที่มันนอนกองอยู่
เพราะฝุ่นควันที่มากเกินไป ประกอบกับร่างกายที่แทบจะไม่ไหวแล้วทำให้มันไม่อาจสัมผัสถึงสิ่งรอบข้างได้มากนัก
“เหอะ! ข้ายังมีเคล็ดกลับวิญญาณอยู่ ขอแค่ร่างนี้ไม่ตายในทันที ข้าก็ฟื้นสภาพได้ในพริบตา!! ต่อให้เจ้าจะมีร่างกายแข็งแกร่งกว่านี้ก็ฆ่าข้าไม่ได้ แล้วเจ้าจะอาศัยอะไรมาฆ่าข้ากัน!!!” มันตะโกนออกไปเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย ยามนี้ร่างของมันเกือบจะฟื้นฟูกลับมาสู่สภาพที่สมบูรณ์พร้อมแล้ว เป็นเคล็ดวิชาที่น่าสะพรึงนัก!
“ข้าก็จะฆ่าเจ้า.... ด้วยรถเข็นยังไงล่ะ!!!” พลันสิ้นเสียง กลุ่มควันก็ถูกแหวกออกด้วยความเร็วสูง สิ่งที่กำลังฝ่ากลุ่มควันเข้ามากลับเป็นรถเข็นสีชมพูพาสเทลคันหนึ่ง! มันถูกเหวี่ยงลงมาพร้อมกับร่างของชายหนุ่มซึ่งเป็นเจ้าของมันอย่างแรง
“บ้าน่า ข้าไม่ยอมตายง่าย ๆหรอก!!” มันอึ้งไปไม่น้อยกับสิ่งที่เห็น แต่ร่างกายก็ยังคงส่งพลังออกไปโจมตีรถเข็นนั่นไม่หยุด
แต่น่าเสียดาย!
มันเป็นรถเข็นเซียน!!