ตอนที่แล้วChapter 444 สนับสนุนเมืองชิงหยาง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 446 ของขวัญแรกพบ

Chapter 445 ข้าไม่ควรให้เจ้าสำนักจุนรับบทเช่นนี้เลย


หลายวันมานี้ เจ้าเมืองเซี่ยที่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง เฝ้ามองความเป็นไปตลอดเวลา.

ทว่าเขาไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย ฝ่ายตรงข้ามที่มีหน้าไม้ระเบิดปิศาจ สามารถที่จะทำลายกำแพงและประตูเมืองได้อย่างง่ายดาย.

ภายในเมือง บนลานกว้าง.

ทหารเมืองชิงหยางจำนวน 50,000 คน แม้นว่าจะดูพร้อมเพรียงเป็นอย่างมาก ทว่ากับมีระดับเพียงศิษย์ยุทธ์ขั้นสามและสี่เท่านั้น.

กองกำลังเหนือพยัคฆ์นั้น มีพลังที่เหนือกว่ากองกำลังเคลื่อนที่เร็วของเหมี่ยวก้วยมาก ด้วยระดับทหารเหล่านี้ ยากจะต้านทานได้.

“เจ้าสำนักจุน.”

เซี่ยกวนคุนที่ก้าวขึ้นมาบนเวที “นี่คือทัพของเมืองชิงหยาง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย ”เจ้าเมืองเซี่ยคงจะลงทุนไปมาก.

เซี่ยกวนคุนที่ได้ยิน รู้สึกน้ำตาแทบไหลอาบแก้ม.

ทหารห้าหมื่น ในการฝึกฝนทุก ๆ วันนั้นจำเป็นต้องจ่ายค่าจ้าง อุปกรณ์ อาวุธ แม้แต่ค่ารักษาจากอาการบาดเจ็บ เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นอย่างมาก.

เสวี๋ยเหรินกุยที่ส่งเสียงผ่านวิญญาณ “เจ้าสำนัก ทหารที่เจ้าเมืองเซี่ยฝึกฝนขึ้นมานั้น ยากจะต้านกำลังเหนือพยัคฆ์ของเถาหยวนได้ ข้าคิดว่าควรให้ศิษย์ของพวกเราปกป้องเมืองดีกว่า.”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดเหมือนกัน.

เขาไม่สามารถไว้วางใจทหารของเซี่ยกวนคุนได้ ด้วยการปกป้องเมืองชิงหยางนั้น เกี่ยวพันถึงภารกิจ จึงทำให้เขาต้องใส่ใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก.

“เจ้าเมืองเซี่ย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากเชื่อใจเปิ่นจั้ว ให้สำนักไท่กู่เจิ้งเป็นคนเฝ้ากำแพงเมืองเอง.”

“คงต้องรบกวนเจ้าสำนักจุนแล้ว.”

เซี่ยกวนคุนเองก็ไม่มีความมั่นใจเช่นกัน ดังนั้นจึงมอบหน้าที่สำคัญให้กับจุนซ่างเซียว.

สำนักไท่กู่เจิ้งที่ใช้เวลาเพียงหนึ่งปีก็กลายมาแข็งแกร่ง บางทีการป้องกันเมือง คงจะสามารถทำได้เช่นกัน.

“ทหาร 50,000 นี้มอบให้อยู่ในการควบคุมของเจ้าสำนักจุนก็แล้วกัน.”

เซี่ยกวนคุนที่ส่งกำลังทหารทั้งหมดออกมา เห็นชัดเจนว่า เขานั้นต้องการเดิมพันกับจุนซ่างเซียวทั้งหมด.

“ไม่จำเป็น.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ให้ทหารของท่านพักอยู่ในเมือง รอคอยเสริมกำลัง ตอนนี้มอบหน้าที่ทั้งหมดให้สำนักไท่กู่เจิ้งก็พอ.”

เจ้าเมืองเซี่ยถึงกับมุมปากกระตุก.

แม้นว่าทหารทั้ง 50,000 นั้น จะไม่ใช่ทหารชั้นยอด จะดีจะร้ายก็นับว่ามีพลังอยู่ เจ้าสำนักจุนกับไม่ใช้ ทำให้เขารู้สึกขาดความมั่นใจไปเหมือนกัน!

ฟิ้ว!ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ในเวลานั้น ศิษย์ทั้งพันของศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่เข้าประจำกำแพงเมือง ติดตั้งค่ายกลรอบ ๆ กำแพงเมือง.

เมืองชิงหยางนั้นมีขนาดใหญ่ และกำแพงเมืองเองก็มีขนาดใหญ่เช่นกัน.

คนทั้งหนึ่งพันคน ที่ยืนประจำบนกำแพงเมืองนั้น ทำให้เกิดช่องว่างเป็นอย่างมาก.

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ประจำตำแหน่ง ยืนยืดอกอย่างอหังการ กวาดตามองลงไปยังด้านล่าง แผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงออกมา.

เหล่าประชาชนคนธรรมดา ที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายดังกล่าว ก็รู้สึกปลอดภัยอย่างไร้เหตุผล!

ก่อนหน้านี้เจ้าเมืองเซี่ยที่ยังกังวลและสงสัยเล็กน้อย ทว่าในเวลานี้กับรู้สึกเคารพอีกฝ่ายอย่างล้ำลึก!”

“เจ้าสำนักจุน!”

เขาที่ตะโกนออกมาเสียงดัง “ประชาชนเมืองชิงหยาง 3.6 ล้านคน หวังว่าจะร่วมเป็นร่วมตายพร้อมกับท่าน!”

“หวังว่าจะร่วมเป็นร่วมตายพร้อมกับท่าน!”ทหารห้าหมื่นที่ตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงเช่นกัน.

“หวังว่าจะร่วมเป็นร่วมตายพร้อมกับท่าน!” ประชาชนหนึ่งล้านในเมือง ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง.

ในเวลานั้น เสียงที่น่าพรั่นพรึงที่กู่ก้องราวกับจะไปถึงสวรรค์ตลบอบอ่วนด้วยอารมณ์ที่หนักแน่น ผ่านไปยาวนานยากจะหยุดลง.

บรรยากาศที่เคร่งขรึมนี้ ทำให้โลหิตของทุกคนสูบฉีดแทบทะลักล้นออกมา!

จุนซ่างเซียวที่อยู่บนป้องปราการ สีคางไปมา แววตาของเขาที่เป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบา “มีสำนักไท่กู่เจิ้งอยู่ จะไม่มีใครทะลวงเมืองชิงหยางได้.”

“ฟรุบ!”

เซียวจุ้ยจื่อที่ประจำที่ลอบสังเกตการณ์จากพื้นที่สูง มีทั้งสไนเปิลไรเฟิลรูปแบบ 88 และ ไรเฟิล AWM  ที่เวลานี้ถูกโหลดกระสุนเต็มแมกกาซีน.

ทันทีที่ทัพของมนทลเจิ้นหยางบุกเข้ามา ก็พร้อมที่จะยิงออกไปได้อย่างต่อเนื่อง.

ด้วยการเตรียมตัวที่พร้อมเพรียงจะทำให้ไม่เสียเวลาสักนิดในการยิงติดต่อกัน.

บนป้อมอีกสองจุด สมาชิกของหอฝนพรำที่ประจำที่ซุ่มยิงด้วยเช่นกัน.

สามจุดซุ่มยิง ที่มีเทวะเปลี่ยนรูป ไรเฟิล AWM ที่พร้อมจะปลดปล่อย.

นอกจากจุดของเซียวจุ้ยจื่อที่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง อีกสองจุดนั้นมีคนคอยเปลี่ยนการซุ่มยิงด้วยเช่นกัน เพราะแรงดีดของปืนนั้นยากจะยิงติดต่อกันเป็นเวลานานได้.

ในจุดซุ่มยิงไม่ไกล ก็มีศิษย์ที่ถือโล่เหล็กกล้าคอยปกป้องด้วยเช่นกัน.

นอกจากนี้พวกเขายังมีหน้าไม้ระเบิดปิศาจที่ได้มากจากทัพของเหมี่ยวก้วยด้วย ตอนนี้พวกเขามีลูกศรคนล่ะห้าลูก.

ภายในเมือง หอขี่หมาป่าที่นำโดยจงอี้ ก็เตรียมพร้อม สมาชิกหมาป่าเฮอริเคนทั้งพัน แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา!

“รู้สึกคันไม้คันมือแล้ว.”

“จะบุกก็รีบบุกมา!”

ซูเซียวโม่และลี่เฟยที่อยู่บนกำแพงเมือง พวกเขาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชน.

ลู่เชียนเชียน หลี่ชิงหยาง เถียนซี เย่ซิงเฉิน หลงจื่อหยางและศิษย์สายใน พวกเขาที่ประจำอยู่บนกำแพงเมืองเช่นกัน.

เจียงเซี่ยที่นั่งบัญชาการอยู่ทางทิศเหนือ ที่มุมปากเผยยิ้มปริ่มออกมา.

การเตรียมพร้อมทำสงคราม ทำให้สำนักไท่กู่เจิ้งไม่ต่างจากนักรบระดับสูง!

“เจ้าสำนัก.”

เสวี๋ยเหรินกุยที่ก้าวเข้ามาบนป้อมปราการ เอ่ยออกมาว่า “ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวที่พยักหน้ารับ.

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ในเวลาเดียวกัน เสียงสายลมที่หวีดหวิวดังมาจากทางทิศเหนือ จากพื้นที่ไกลออกไปฝุ่นควันที่ลอยคละคลุ้ง ราวกับพายุทรายกำลังหมุนกวาดสาดซัดกำลังเคลื่อนที่มาด้วยความเร็ว.

กุบ กุบ กุบ!

เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เห็นชัดเจนว่ากำลังเคลื่อนที่เข้าหาพวกเขาด้วยความเร็ว!

“มาแล้ว!”

หัวใจของเจ้าเมืองเซี่ยที่เต้นไปมาทันที.

ประชาชนในเมืองเองก็ใจเต้นแรงเช่นกัน ต้องไม่ลืมว่านี้คือการบุกเข้าโจมตีของทัพมนทลเจิ้นหยาง ดินแดนระดับหก!

จุนซ่างเซียวที่ยืนบนกำแพงเมือง มุมปากกระตุก เผยยิ้มบาง เอ่ยออกมาว่า “หากสำเร็จภารกิจวันนี้ ข้าก็จะกลายเป็นกษัตริย์สองวิถี ยุทธ์และกระบี่ได้.”

“ฮี่ ฮี่ ฮี่!”

เพียงไม่นาน ที่ด้านนอกเมืองห่างออกไปพันจั้ง ควันที่ตลบอบอวลค่อย ๆ สลายหายไป กองกำลังทหารม้าที่ประจำแถวนับ 20,000 คน สวมชุดเกราะรบจัดแถวเป็นระเบียบ ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

กึก! กึก! กึก!

อีกหนึ่งหมื่น ทหารราบที่สวมชุดเกราะหนัก ถือหอกก้าวเดินอยู่ข้าง ๆ ทหารม้า.

กลิ่นอายที่พวกเขาแผ่ออกมานั้น ดูทรงพลังมากกว่าทหารเคลื่อนที่เร็วของเหมี่ยวก้วยก่อนหน้านี้มาก.

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

ทหารข้าศึกปรากฏ กระจายออกไปรอบทิศ บนกำแพงเมืองมีศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ที่ยืนประจำอยู่กำแพงทิศเหนือ.

พวกเขาที่จดจ้องมองมายังด้านล่าง.

ทัพสามหมื่นคนของมนทลเจิ้นหยาง เต็มไปด้วยความฮึกเหิม.

บนกำแพงเมือง ที่มีคนเพียงพันคนเท่านั้นที่เฝ้าป้องกันกำแพงเมือง!

นี่...ดูเบาบางเป็นอย่างมาก.

ในวันนี้ เพลิงสงครามที่มาถึงมนทลชิงหยางแล้ว ทว่ากับมีคนเพียงพันกว่าคนบนกำแพงที่ปกป้องเมืองที่มีประชากร 3.6 ล้านคน.

หากจะกล่าวตรง ๆ ล่ะก็ เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก.

“แม่ทัพ.”

ทัพของมนทลเจิ้นหยาง 30,000 คน ที่หยุดอยู่กับที่ รองแม่ทัพที่ชี้ไปยังป้อมปราการเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ “มีใครบางคนที่นั่งอยู่ด้านบน!”

เถาหยวนที่จ้องมองขึ้นไปเห็นผู้เยาว์ที่ดูเหมือนมีอายุเพียงสิบห้าสิบหกปี ที่กำลังนั่งมองลงมายังทัพที่ยิ่งใหญ่ของตน.

“พวกเราที่บุกมา น่าจะได้รับข่าวแล้ว ทว่าทำไมถึงได้เตรียมทหารเพียงเท่านี้ป้องกันกำแพงเมืองกัน?”รองแม่ทัพที่เผยความสงสัยออกมา.

“หรือว่าพวกเขาคิดว่าไม่สามารถต้านทานกองกำลังเหนือพยัคฆ์ได้ จึงได้ส่งคนมาเพียงคนเดียว เพื่อที่จะเจรจากับพวกเราหรือไม่?”แม่ทัพเถาเอ่ย.

เถาหยวนที่กระชับม้า ออกไป ตะโกนขึ้นไปยังเมืองชิงหยาง “ที่นั่งอยู่บนป้อมนั้น คือเจ้าเมืองชิงหยางหรือไม่?”

เซี่ยกวนคนที่ได้ยินเสียงดังกล่าวในเมือง มุมปากกระตุกไปมา ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า “ข้าไม่ควรให้เจ้าสำนักจุนรับบทเช่นนี้เลย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด