Chapter 429 ป่าปิศาจทมิฬ
จุนซ่างเซียวที่ลั่นกระสุนออกไป ทว่าไม่ได้ยิงไปที่ศีรษะของอีกฝ่าย เขาเล็งไปยังที่หว่างขาของอีกฝ่าย กระสุนที่สร้างรอยหลุมลึกเท่าหลุมตะปูขึ้นมา.
“สหาย.”
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงมืดครึ้มเย็นชา “ข้ากำลังอารมณ์ไม่ดี อย่าได้ล้อข้าเล่น.”
กล่าวจบ เขาได้เลื่อนปากกระบอกปืนขึ้นไปอีก ทว่าไม่ใช่ที่ศีรษะแต่เป็นตรงหว่างขาของฝ่ายตรงข้าม พร้อมจะเหนี่ยวไกออกไปทันที!
“อึก อึก!”
ชายที่มีบาดแผลกลืนน้ำลายคำโต เขาที่หนังหัวชาหนึบขนลุกทั่วร่าง รู้สึกเสียวไข่ขึ้นมาทันที เสียงที่กล่าวสั่นระริก ๆ “สหาย...สหาย ศิลาวิญญาณของข้าเป็นศิลาวิญญาณธรรมชาติ....ข้าสามารถหาได้อีก!”
“ศิลาวิญญาณธรรมชาติ?”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ เอ่ยออกมาว่า “เอามาให้ข้าดู.”
ชายที่บาดเจ็บมีโลหิตไหลซึม นำศิลาวิญญาณออกมาจากแหวนมิติทันที.
จุนซ่างเซียวรับมา ก่อนที่จะใช้จิตตรวจสอบ พบว่าพลังวิญญาณด้านในนั้นมีพลังวิญญาณที่บริสุทธ์มาก.
ไม่ผิด.
นี่คือศิลาวิญญาณธรรมชาติ.
จุนซ่างเซียวที่จ้องมองเขาด้วยความสงสัย “มีเพียงก้อนเดียวอย่างงั้นรึ?”
ชายที่บาดเจ็บเผยใบหน้าข่มขืนออกมา “สหาย..ข้า ข้าจะกล้าโกหกได้อย่างไร?”
“พรึด ซี่!”
ในเวลานั้น มีดสั้นเล่มหนึ่งที่ปักที่ขาของเขาทันที.
เขาที่จ้องมองด้วยความตกใจ ก่อนที่ความเจ็บปวดจะแล่นไปทั่วร่าง อ๊ากๆๆๆ เขาตะโกนออกมาเสียงดัง.
“ฟรึบ!”
จุนซ่างเซียวที่ถอนมีดกลับมา.
“ซี่!”
โลหิตของเขาที่พ่นปุด ๆ ชายที่เต็มไปด้วยบาดแผล ใบหน้าบิดเบี้ยวเจ็บปวดเป็นอย่างมาก.
ก่อนหน้านี้เขาเต็มไปด้วยบาดแผล ตอนนี้ยังโชคร้ายถูกเสียบอีก!
จุนซ่างเซียวที่นำผ้าขึ้นมาเช็ดโลหิตจากมีด เอ่ยออกมาว่า “ข้ารู้สึกว่าเจ้าไม่ซื่อสัตย์แม้แต่น้อย ข้าจะทรมานเจ้า จนกว่าเจ้าจะส่งศิลาวิญญาณอีก 999 ก้อนออกมา.”
ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ราวกับปิศาจที่หลุดมาจากขุมนรก.
เป็นภาพที่แตกต่างกันเมื่ออยู่ต่อหน้าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง.
“ข้า...ข้าไม่มีจริง ๆ...”
“พรึดซี่!”
จุนซ่างเซียวไม่ลังเล เสียบไปที่ต้นขาของเขาอีกครั้ง.
“อ๊าก---”
บาดแผลที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดต้องร้องโหยหวน.
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ถอนมีดกลับออกมา แขนของเขาที่ยี่นออกไป ดาบสั้นที่วางไว้ลำคออีกฝ่าย กล่าวออกมาว่า “ในเมื่อไม่มี ก็ใช้ชีวิตทดแทนกับของรางวัลที่ข้าต้องได้รับแล้วกัน.”
ดาบที่กินเข้าไปในเนื้อ โลหิตที่ไหลซิบ ๆ.
เพียงแค่กดลงไปอีกครั้ง โลหิตต้องสาดกระจายออกมาอย่างแน่นอน.
ชายที่บาดเจ็บ หัวใจเต้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง ความตายที่กำลังรุกล้ำจิตใจของเขา ทำให้เขาไม่กล้าโกหกอีกครั้ง “ข้า..ข้ามี ...ข้ามี!”
จุนซ่างเซียวที่ดึงมีดกลับมา “ส่งมา.”
“ฟู่...ฮือ ฮือ....”
ชายที่เต็มไปด้วยบาดแผลหายใจยาวเข้าออกทันที.
เขาที่เร่งรีบกล่าวออกมาว่า “ข้า...ข้าเข้าไปในป่าลึก พบกับเหมืองแร่ศิลาวิญญาณ...ที่นั่นมีศิลาวิญญาณมากมาย ข้า...ข้าพาเจ้าไปดูได้!”
“งั้นรึ?”
ดวงตาของจุนซ่างเซียวเป็นประกาย.
เขาที่ส่งศิลาวิญญาณธรรมชาติออกมา ก็ทำให้เขาสงสัยแล้ว จึงทำให้เขาข่มขู่ออกไปอีก ท้ายที่สุดก็สารภาพออกมาจริง ๆ.
“หากข้าเดาไม่ผิด.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “คนของหอเชื่อมปิศาจที่ไล่ล่าเจ้า คงต้องการรู้ตำแหน่งศิลาวิญญาณอย่างงั้นรึ?”
ชายที่บาดเจ็บ กล่าวออกมาว่า “ไม่ผิด.”
“ชิงหยาง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ทำแผลให้เขา อย่าให้เขาตาย.”
“ครับ.”
หลี่ชิงหยาง ที่นำยาผงและผ้าพันแผลออกมา ก่อนที่จะใส่ยาและพันแผลของชายที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้.
ในชั่วระยะเวลานี้ จุนซ่างเซียวที่นำศพมารวมกัน และใช้เพลิงประณีตเผาไป.
ต้องไม่ลืมว่านี่คือนิกายปิศาจระดับห้า หากรู้ว่าคนตัวเองถูกสังหาร ย่อมต้องมาสร้างปัญหาแน่ ดังนั้นการทำลายศพและหลักฐานจึงเป็นเรื่องสำคัญ.
......
ภายในป่าที่มืดครึ้ม ที่จุนซ่างเซียวเข้ามานี้เรียกว่าป่าปิศาจทมิฬ.
กล่าวตามตรง.
ป่าปิศาจทมิฬนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาปิศาจทมิฬ.
เทือกเขาปิศาจทมิฬนั้นเป็นเทือกเขาที่ใหญ่มากกินพื้นที่หลากหลายมนทล เทียบกับเทือกเขาหมื่นสัตว์ของมนทลฮวยหยางมีขนาดเท่ากับ 1/10 เท่านั้น.
แต่กระนั้นแม้นว่าเทือกเขาปิศาจทมิฬจะมีสัตว์ร้ายมากมายครอบครอง ทว่าก็แบ่งแยกออกเป็นหลายพื้นที่เป็นสัดส่วน ทำให้พื้นที่ส่วนมากแล้วไม่มีภัยอันตรายมากนัก.
หนึ่งพื้นที่ในนั้น ก็คือป่าปิศาจทมิฬ ที่จุนซ่างเซียวกำลังเขาไปนั่นเอง.
กล่าวได้ว่าในพื้นที่ป่าลึกนั้นมีสัตว์ร้ายที่เทียบได้กับระดับบรรพชนยุทธ์มากมาย พื้นที่ยังซับซ้อน ถึงจะเป็นกษัตริย์ยุทธ์เข้าไป ก็สามารถหลงทางได้ง่าย ๆ.
ชายที่เต็มไปด้วยบาดแผลนั้นมีนามว่าเหรินซาน.
เป็นผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัด มีพลังบ่มเพาะอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หก เขาและเพื่อนร่วมทีมเข้าไปในป่าปิศาจทมิฬ เข้าไปด้านในป่าลึกพบกับเหมืองแร่ศิลาวิญญาณโดยบังเอิญหากแต่ไม่กล้าที่จะเก็บเกี่ยวมากมายนักในเวลานั้นจึงได้ออกมาก่อน ไว้ค่อยไปเก็บทีหลัง.
กล่าวได้ว่าการเก็บเกี่ยวดังกล่าวทำให้พวกเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตาม ขณะที่จะไปเก็บศิลาวิญญาณครั้งที่สอง ไม่รู้ว่าพวกเขาถูกคนของหอเชื่อมปิศาจจับตามองอยู่.
พวกเขาที่หนีเข้าไปในพื้นที่ไม่รู้จัก จนพบเข้ากับสัตว์ร้ายระดับบรรพชนยุทธ์เข้า.
มีเพียงแค่เหรินซานหนีมาได้ เพื่อนร่วมทีมกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้ายไป.
ขณะที่ดีใจหนีรอดมาได้ กับมาพบกับคนของหอเชื่อมปิศาจอีก ถูกไล่ล่าจนได้รับบาดแผลไปทั่วร่าง และมาพบกับกลุ่มของจุนซ่างเซียว.
เจียงเซี่ยที่ส่ายหน้าไปมา “นับว่าเป็นคนที่โชคร้ายจริง ๆ.”
เหรินซานที่นั่งอยู่ด้านหลังเซียวจุ้ยจื่อ ทั่วร่างที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผล ใบหน้าขมขื่นเอ่ยออกมาว่า “ข้ารู้ดี คนไม่ผิด ผิดที่มีหยก.”
หากไม่บังเอิญพบเข้ากับเหมืองศิลาวิญญาณ เขาและเพื่อนร่วมทีมคงไม่พบกับอันตราย และคงไม่ต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้.
“ไม่ใช่เวลาถอนหายใจ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “นำทางเร็ว.”
เขาที่ไม่สนใจจะฟังเรื่องราวน่ารันทดของคนอื่น เขาสนเพียงแค่เหมืองศิลาวิญญาณในป่าลึกเท่านั้น.
อย่างไรก็ตาม.
ภายในใจของจุนซ่างเซียวก็เผยท่าทางสงสัยด้วยเช่นกัน.
การที่จะปรากฏเหมืองศิลาวิญญาณได้ จะต้องปรากฏพลังวิญญาณฟื้นคืนด้วย.
แล้วทำไมไม่มีคนอื่น ไปพบล่ะ?
แต่กระนั้นเมื่อเข้ามาในป่าจริง ๆ เขาก็พบว่าด้านในป่านั้นมืดทึบไปหมด ไม่ใช่ว่าใครจะพบได้ง่าย ๆ เกรงว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวนั้นถูกความหนาแน่นของป่าปกปิดเอาไว้.
“สหายน้อย!”
ขณะที่เข้ามาในป่าแล้ว เหรินซานที่กล่าวออกมาเล็กน้อย “ในป่าลึกนั้นมีสัตว์ร้ายระดับแปดและเก้า แม้แต่สัตว์ร้ายระดับสูงขั้นที่สองด้วย พวกเราควรจะต้องระมัดระวัง.”
“วางใจได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “มีพวกเราอยู่ ถึงแม้ว่าจะเจอกับสัตว์วิญญาณก็สามารถจัดการได้.”
เพราะในกลุ่มของพวกเขา มีเจียงเซี่ยด้วยนั่นเอง.
เหรินซานจำได้ว่าในคนกลุ่มนี้ ได้นำอาวุธลับแปลก ๆออกมา สังหารผู้ฝึกยุทธ์สายมารหอเชื่อมปิศาจได้อย่างง่ายดาย ทำให้เขาค่อย ๆ วางใจ จากนั้นก็เริ่มนำทาง ไปยังเหมืองศิลาวิญญาณ.
......
“โฮกกก---”
ตูมมมม!
ในป่าปิศาจทมิฬที่ลึกเข้าไป มีสัตว์ร้ายอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หกที่คอยซุ่มอยู่ ถูกเซียวจุ้ยจื่อสังหารด้วยหมัดเดียว และเก็บเกี่ยวแกนผลึกได้อย่างง่ายดาย.
เหรินซานที่ตกใจลอบกล่าวในใจ “แท้จริงแล้วคนกลุ่มนี้ไม่เพียงแค่อาวุธลับพิเศษ แต่มีความแข็งแกร่งมากอีกด้วย!”
เขาที่ลอบวางแผนในใจ.
ขอเพียงมีโอกาส จะต้องหนีไปอย่างไม่ต้องสงสัย.
หลังจากผ่านมาหนึ่งชั่วยาม.
เหรินซานที่นำจุนซ่างเซียวมาหยุดอยู่ที่ภูเขาลูกใหญ่ที่พังทลาย มีรูอุโมงลึกมากมายนำทางเข้าไปด้านใน.
“เจ้าสำนัก.”
เจียงเซี่ยเอ่ยเสียงผ่านวิญญาณ “มีไอทมิฬหนาแน่น จิตสัมผัสของข้าค่อนข้างจำกัด.”
จุนซ่างเซียวที่ตระหนักได้ว่า ทำไมถึงไม่มีใครพบเข้ากับศิลาวิญญาณ.
อย่างแรกจิตสัมผัสถูกจำกัด อย่างที่สอง พื้นที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก ยากจะเข้าไปถึงที่หมายได้ นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์ที่มีเส้นทางมากมายราวกับเขาวงกต.
“สหายน้อย.”
เหรินซานที่ชี้ไปยังถ้ำด้านหน้า “ในถ้ำนั้นมีเหมืองศิลาวิญญาณซ่อนอยู่.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าเข้าไปก่อน.”
.“......”
เหรินซานที่สะบัดแขน ลากร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลหายเข้าไปในอุโมงค์ทันที.
คนผู้นี้หาโอกาสอยู่นานแล้ว ก่อนจะหายไปในอุโมงค์ที่มีเส้นทางมากมายซับซ้อน พื้นที่รอบ ๆ ที่มีทัศนวิสัยแย่มาก ยากที่จะมองเห็นตามเขาไปได้ว่าเขาเลือกช่องทางใหนของอุโมงค์.
“เจ้าสำนัก!”
หลี่ชิงหยางเอ่ย “เขาหนีไปแล้ว!”
“ชิ.”
จุนซ่างเซียวแค่นเสียง “เปิ่นจั้วรู้มานานแล้ว ว่าคนผู้นี้มีแผนการร้าย.”
ระบบเอ่ย “ดังนั้น เจ้าเลยปล่อยให้เขาหนีอย่างงั้นรึ?”